หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 343 มือหัก
“นี่…นี่คือที่ไหน? พี่ใหญ่ ผมอาฮุยไม่สามารถมาที่บ้านคุณได้อีกใช่ไหมครับ?”
คนนั้นหน้าแดงก่ำ เห็นไดัชัดว่าดื่มเหล้าไปแล้ว พร้อมกับมือขวาที่ดึงมือของหญิงสาวเอาไว้แน่น พลางพูดเสียงดัง “ตอนฉันมีเงิน ทำไมพวกเธอแต่ละคนถึงไม่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาหา?
“ตอนนี้ผมอาฮุยตกที่นั่งลำบาก ใครๆก็หลบหนีไปไกลกันหมด ผมจะบอกพวกคุณให้นะ อาฮุยยังสามารถ กลับมายิ่งใหญ่ได้อีก!”
“อาฮุย อย่าทำแบบนี้เลย ทุกคนจะช่วยสนับสนุนนาย แต่ตัวนายก็ต้องใจสู้!”
หลังจากได้ยินคำพูดของคนนั้นแล้ว เหวินหลนสงจึงมีสีหน้าจนใจ จะว่าไปแล้วก่อนที่คนนี้ทำให้ครอบครัวล่มจม ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเองเหมือนกัน
“ผมใจไม่สู้ตรงไหน ก็แค่เล่นกับผู้หญิงสองสามคนไม่ใช่เหรอ? พี่ใหญ่ พี่ยังเล่นได้ แล้วผมอาฮุยจะเล่นไม่ได้?”
คนนั้นทำเสียงเยาะเย้ยขึ้นจมูก นิ้วชี้ซ้ายชี้ไปที่ดาราหญิงที่แต่งตัวทันสมัย แล้วพูด “เธอแม่สาวอกห่าง เห็นว่าฉันอาฮุยไม่มีเงินแล้ว ถึงไม่อยากทักทายกันสักนิดใช่ไหม?”
เมื่อถูกอาฮุยพูดถึงตัวเองอย่างคาดไม่ถึง ใบหน้าของดาราหญิงคนนั้นที่กำลังดูฉากสนุกอยู่จึงกลายเป็นขาวซีดทันที แล้วพูดเสียงดัง “คุณ…คุณ ฉันไม่รู้จักคุณ!”
“ไม่รู้จักผม? ฮิๆ ผู้หญิงใจง่าย ตอนอยู่บนเตียงไม่เห็นเธอพูดอย่างนี้?”
เวลานี้อาฮุยเหมือนบ้าไปแล้ว มือขวาจับหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเอาไว้แน่น และมือซ้ายก็ลูบไปบนตัว ของหญิงสาวคนอย่างฉับพลัน แล้วยิ้มพูดอย่างประหลาด “พี่ใหญ่ ผมชอบผู้หญิงคนนี้ คืนนี้ให้เธอไปอยู่เป็นเพื่อนผม เดี๋ยวกลับไปจะเขียนเช็คให้เธอนะ!”
“มา ผมจะเขียนเช็คให้คุณ!”
ขณะที่มือซ้ายของอาฮุยกำลังจะสัมผัสหน้าอกของหญิงสาวคนนั้น จู่ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บปวดมาก เหมือนกับ ถูกคีมปากเสือหนีบเอาไว้ขยับไม่ได้เลยสักนิด
“แก…แกเป็นใคร?”
ความเจ็บปวดทำให้ศีรษะของอาฮุยที่ร้อนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ได้เย็นลงเล็กน้อย แต่หลังจากที่เห็นหน้าตา ของเยี่ยเทียนชัดเจนแล้ว อาฮุยจึงสบถด่า “ไอ้หนุ่ม ถอยไปอยู่ข้างๆ โน่น ฉันอยากจะเล่นกับแม่สาวใจง่าย เกี่ยวอะไรกับแกด้วย?”
เมื่ออาฮุยพูดคำนี้ออกไป ทำให้ดาราหญิงมากมายต่างทำปากบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ และมีบางคนที่มี ความเกี่ยวข้องกับคนนี้ ต่างก็แอบกัดฟันกรอด เพราะเพิ่งจะรู้ว่าแต่ก่อนฐานะของตัวเองเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขาคนนี้ เป็นเพียงโสเภณีเท่านั้น
“กลับไปเล่นกับแม่แกไป!”
สายตาของเยี่ยเทียนหลอมรวมเป็นความเย็นชา แล้วจึงปล่อยมือที่จับอาฮุย จากนั้นตบหน้าของเขาดัง “เพี๊ยะ” เสียงกังวานสดใส ทำให้ร่างกายของอาฮุยทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
“เยี่ย…เยี่ยเทียน คือ…คือนายใช่ไหม?”
จนกระทั่งถึงตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นที่ถูกอาฮุยลวนลามเพิ่งจะได้สติกลับมา แล้วจึงมองเยี่ยเทียน ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ
“พี่จิ้งหลันครับ ไม่เจอกันสองปี ตอนนี้พี่เป็นดาราดังแล้วเหรอครับ?”
เมื่อมองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของเยี่ยเทียนจึงปรากฏรอยยิ้มออกมา เหมือนตอนนั้นที่เขาเห็น เฉิงจิ้งหลันตอนอยู่บนรถไฟครั้งแรก เหมือนกับนักเรียนที่ขวยอายยามที่เข้าไปเรียนรู้สังคมช่วงแรก
เมื่อสองสามปีก่อนหลังจากเจอกันในงานเลี้ยงครั้งนั้น เยี่ยเทียนก็ไม่ได้เจอเฉินจิ้งหลันอีกเลย แต่กลับเห็นเงาของเธอ อยู่ในจอภาพยนตร์อยู่หลายครั้ง และก็เป็นเหมือนที่เยี่ยเทียนพูดไว้ เส้นทางในวงการบันเทิงของเฉินจิ้งหลันนั้นราบรื่นมาก
เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น ตอนที่เธอยังเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบ เฉินจิ้งหลันได้รับความโปรดปราน จากผู้กำกับใหญ่คนหนึ่ง และได้เป็นนักแสดงนำของภาพยนตร์ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม หลังจากเธอเรียนจบแล้ว ก็ยังได้ร่วมงานกับนักแสดงฮ่องกงมากมาย และได้ยินแว่วๆ ว่าเธอยังเป็นซุปเปอร์สตาร์ของประเทศจีนอีกด้วย
เยี่ยเทียนไม่คิดว่า จะได้เจอเฉินจิ้งหลันที่นี่ เขาจึงอดถามอย่างสงสัยไม่ได้ “พี่จิ้งหลันครับ พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ?”
เยี่ยเทียนรู้ว่าเฉินจิ้งหลันเป็นคนค่อนข้างสังวรณ์ในการพูดและการกระทำของตัวเอง และดูจากหน้าตาของเธอเมื่อครู่ เธอน่าจะยังเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงปรากฏอยู่ในงานเลี้ยงของเศรษฐีพวกนี้?
“พี่กำลังถ่ายละครที่ฮ่องกง คือ…คือผู้กำกับจางเชิญพี่มาค่ะ”
เฉินจิ้งหลันไม่มีคนรู้จักในฮ่องกงมากนัก เวลานี้ผู้กำกับจางคนนั้นก็ไม่รู้ว่าไปมุดหัวหลบอยู่ซอกไหน เดิมทีเธอรู้สึกขาดความช่วยเหลือมาก แต่หลังจากที่เห็นเยี่ยเทียนแล้ว ดวงตาของเธอจึงแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“พี่จิ้งหลันครับ ไม่เป็นไรแล้ว” สายตาของเยี่ยเทียนเย็นชาแล้วจึงตะโกนพูด “ติงติง ไปพักผ่อนเป็นเพื่อนเธอตรงนั้น”
ถึงแม้เยี่ยเทียนกับเฉินจิ้งหลันจะไม่สนิทกันมาก แต่เขาก็รู้สึกเคารพผู้หญิงคนนี้มาตลอด ที่อยู่ในวงการบันเทิง แบบนี้แต่ก็ไม่เคยแปดเปื้อนโคลนตม และตอนนี้เห็นเธอถูกคนอื่นรังแก เยี่ยเทียนจึงไม่ยอมยุติเรื่องราวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“ค่ะ หนูรู้แล้วค่ะ คุณอาต้องสั่งสอนไอ้คนนั้นให้เด็ดขาดไปเลยนะคะ!”
หลิวติงติงขานรับหนึ่งที แล้วจึงไปประคองเฉินจิ้งหลัน ถ้าหากเมื่อครู่เยี่ยเทียนไม่ได้ลงมือก่อน เธอก็คิดว่าจะต้องเข้าไปสั่งสอนไอ้คนที่พูดจาไม่มีมารยาทคนนั้นแน่นอน
และคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มีคนที่รู้จักหลิวติงติงไม่น้อย เมื่อได้ยินเธอเรียกเยี่ยเทียนว่า “คุณอา” จึงทำให้หลายคนตกใจ แล้วจึงมองไปที่เยี่ยเทียนกันยกใหญ่
หลานสาวของจั่วเจียจวิ้น ไม่ใช่คนที่นิสัยดีเท่าไร และคนที่สามารถถูกเธอเรียกว่า “คุณอา” ได้นั้นจะต้องมีลำดับศักดิ์เดียวกันเหมือนจั่วเจียจวิ้นอีกด้วย
แต่เยี่ยเทียนที่หน้าตายังหนุ่ม ดูยังไม่ก็ไม่เหมือนคนมีเงินมีฐานะอะไร จึงทำให้ทุกคนมอง เยี่ยเทียน ด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
“ไอ้เด็กน้อย แก..แกกล้าตบฉัน?”
เวลานี้อาฮุยคนที่นอนอยู่บนพื้น ได้หายเมาเป็นปลิดทิ้งเพราะการตบของเยี่ยเทียน แต่ตอนที่เขาอ้าปากพูด ฟันสองซี่ของขากลับพุ่งออกมาพร้อมกับเลือดอีกด้วย
“ตบแก? ฉันกำลังสั่งสอนคนเลวต่างหาก แกคู่ควรให้ฉันต้องลงมือเหรอ?”
เยี่ยเทียนพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เมื่อครู่ถ้าเขาไม่จับเฉินจิ้งหลันเอาไว้แน่นๆ เยี่ยเทียนก็ไม่อยากให้มือ ของตัวเองต้องสกปรกจริงๆ
เดิมทีเยี่ยเทียนก็ไม่สนใจอาฮุยอยู่แล้ว และสายตาของเขากลับมองไปที่เหวินหลนสงแล้วพูดเบาๆ “คุณเหวินครับ นี่คือบ้านของคุณ เขาสบประมาทเพื่อนของผม คุณคิดว่าควรจะทำยังไงดีครับ?”
ก่อนหน้านี้เยี่ยเทียนจะเรียกเหวินหลนสงว่าพี่เหวินตลอด แต่ตอนนี้กลับเรียกเขาว่าคุณเหวิน จึงเห็นได้ชัดว่า ไม่ค่อยพอใจเขาแล้ว
เยี่ยเทียนไม่ได้พูดเสียงดังมาก และก็ไม่ได้ซักถามอะไร แต่กลับนำความกดดันที่มองไม่เห็นมาให้เหวินหลนสง ทำให้หน้าอกของเขาหายใจติดขัด
“น้องเยี่ย นี่…นี่คือการเข้าใจผิด อาฮุยดื่มมากไปเท่านั้น พี่…พี่จะให้เขาไปขอโทษคุณเฉิน คุณคิดว่าเป็นยังไงครับ?”
เยี่ยเทียนคนที่เหวินหลนสงรู้จักนั้น เป็นคนที่ยิ้มแย้มตลอดเวลาไม่มีพิษมีภัย แต่เยี่ยเทียนในเวลานี้ กลับทำให้หัวใจของเขาหนาวสะท้าน และแอบด่าอาฮุยอยู่ในใจ
เยี่ยเทียนยังไม่พูดอะไร อาฮุยที่เพิ่งลุกคลานขึ้นมาจากพื้นจึงบ่นเสียงดังด้วยความไม่พอใจ “พี่ใหญ่ พี่พูดอะไรนะ?ให้ผมอาฮุยไปขอโทษเขา?”
“ไอ้เลว ถ้านายยังคิดว่าฉันคือพี่ใหญ่ ก็รีบขอโทษคุณเยี่ยเสีย!” ถ้าในตอนนี้เหวินหลนสงมีปืนอยู่ในมือ เขาจะต้องเล็งปืนและยิงไอ้คนโง่เขลาคนนี้แน่นอน
เยี่ยเทียนเป็นใคร? ซินแสฮวงจุ้ยที่สามารถฆ่าคนได้อย่างไร้ร่องรอย ถึงแม้เหวินหลนสงจะไม่ใช่คนที่ฝึกวิชาฉีเหมิน แต่เมื่ออยู่ในฐานะระดับเขาแล้ว จึงพอรู้จักซินแสที่มีความสามารถเหนือคนธรรมดาอยู่บ้าง
เดิมทีเยี่ยเทียนก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายขอโทษ ดังนั้นจึงตะโกนพูด “อาติง หักแขนของเขา แล้วโยนออกไป!”
“ครับ นายน้อย!”
หลังจากอาติงที่กำลังพูดกระซิบกับหวาเซิ่งได้ยินคำพูดของเทียนนั้น เขาจึงตกตะลึงก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นจึงเดินไปหาอาฮุย ถึงแม้เขาจะรู้จักคนนี้ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลย
เมื่อเห็นอาติงเดินออกมา เหวินหลนสงจึงรู้ว่าเรื่องนี้ไม่จบแค่นี้ง่ายๆ เขาจึงมีน้ำใจอันเป็นสัจจะต่อมิตรสหาย แล้วจึงอ้อนวอนขอร้องเยี่ยเทียน “ปร…ปรมาจารย์เยี่ย ช่วย…ช่วยเห็นแก่หน้าผม ไว้ชีวิตเขาสักครั้งเถอะครับ?”
“ปรมาจารย์? เด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นปรมาจารย์อะไร?”
“แปลกจัง ทำไมคุณเหวินถึงปฏิบัติกับเด็กหนุ่มแบบนี้?”
การแสดงออกของเหวินหลนสง ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นอกจากคนที่รู้จักเยี่ยเทียนสองสามคนแล้ว ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง และต้องรู้ก่อนว่าด้วยฐานะของเหวินหลนสงในฮ่องกงนั้น แม้ว่าตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับ หลี่เชาเหริน เขาก็ยังไม่ทำตัวให้ต่ำต้อยถึงขนาดนี้เลย
เหล่าดาราหญิงที่อยู่ในเหตุการณ์จึงปล่อยสายตาแววาวจ้องมองเยี่ยเทียนตาไม่กระพริบ เพราะหนุ่มคนนี้มีความสัมพัทธ์กับเหวินหลนสงขนาดนี้ ถ้าหากสามารถตีสนิทกับเขาได้ เช่นนั้นเรื่องของการมีหน้ามีตาก็กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้?
“คุณเหวินครับ ผมยอมเขามากแล้ว หรือค่าตอบแทนเพียงมือข้างเดียวคุณยังไม่พอใจ?”
เยี่ยเทียนทนดูไม่ได้ก็คือผู้ชายทุบตีผู้หญิง หนำซ้ำคนที่อาฮุยตียังเป็นคนรู้จักของตัวเอง และอย่าว่าแต่เหวินหลนสงเลย ต่อให้เป็นศิษย์พี่ขอร้อง เขาก็ยังจะหักมือข้างนั้นของอาฮุยที่จับเฉินจิ้งหลันเอาไว้
ความเด็ดขาดของเยี่ยเทียนทำให้ทุกคนหายใจกระตุกเพราะความเย็น พวกเขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่ไว้หน้า เหวินหลนสงเลยสักนิด และเถ้าแก่เหวินที่เป็นคนดังมากในฮ่องกง แม้แต่โกรธก็ยังไม่กล้า
“อาติง ยังยืนบื้อทำอะไรอยู่?”
เยี่ยเทียนเห็นอาติงชักช้าไม่ลงมือ จึงอดถลึงตามองเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้อยู่รอดูผลลัพธ์ จากนั้นจึงหมุนตัว แล้วเดินเข้าไปที่ห้องรับแขกของคฤหาสน์
“โอ๊ย!” ยังเดินไม่ถึงห้าก้าว เยี่ยเทียนก็ได้ยินเสียงร้องอย่างเวทนาของอาฮุยดังมาจากข้างหลัง เพราะข้อมือขวาของอาฮุยที่ถูกหักอย่างจัง
เสียงร้องอย่างน่าอนาถของอาฮุยทำให้หัวใจของทุกคนหนาวสั่น เพราะเป็นเพียงแค่การลูบคลำผู้หญิงคนนั้น นิดหน่อย แต่กลับถูกหักมือทั้งเป็นแบบนี้ และวิธีที่คลาสสิคแบบนี้บางทีอาจจะปรากฏแค่ในภาพยนตร์เท่านั้น
“คน…คนนี้เหี้ยมโหดขนาดนี้เชียว?”
หวาเซิ่งที่ใช้ชีวิตในฮ่องกงมาสิบกว่าปีหลังจากเห็นพลังอำนาจของเยี่ยเทียนจึงตกใจมาก เพราะการกระทำของเขา ยังกำเริบเสิบสานมากกว่าตัวเอง สรุปแล้วใครคือมาเฟียกันแน่?
ท่ามกลางความตื่นตระหนกตกใจนั้น หวาเซิ่งก็แอบดีใจเช่นกัน โชคดีที่เมื่อครู่ตัวเองเพิ่งจะลองหยั่งเชิงอีกฝ่าย ถ้าหากไปหาเรื่องเขาจริงๆ แม้ว่าตัวเองจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากในฮ่องกงก็ตาม ก็ต้องรู้สึกขาดทุนกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแน่นอน
“เหล่าหวัง คุณพาอาฮุยไปโรงพยาบาล เฮ้อ นี่…นี่มันคนดวงซวยชัดๆ!”
ขณะที่มองดูอาฮุยถูกโยนทิ้งไปที่ลานบ้าน เหวินหลนสงจึงโกรธจนกระทืบเท้าติดต่อกัน จากนั้นจึงยื่นมือเรียกคนใช้ เข้ามา หลังจากกำชับแล้ว จึงถอนหายใจโล่งออกยาวๆ แล้วจึงหมุนตัววิ่งไล่ตามเยี่ยเทียน
ฉากที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวในงานเลี้ยงวันเกิด ทำให้ทุกคนเปิดหูเปิดตาเป็นอย่างมาก และกลุ่มนักแสดงสาม ถึงห้าคน ต่างก็เริ่มคาดเดาถึงฐานะของเยี่ยเทียนขึ้นมา
แต่คนที่ชื่อคุณไช่กลับโกรธเล็กน้อย ที่งานเลี้ยงวันเกิดของตัวเองอยู่ดีๆ ก็ถูกเยี่ยเทียนกับอาฮุย ทำลายจนพัง และวุ่นวายขนาดนี้
แน่นอนว่า เวลานี้เหวินหลนสงไม่มีกะจิตกะใจไปโอ๋เธอ เพราะมัวแต่วิ่งไล่ตามเข้าไปในห้องรับแขก มองดูเยี่ยเทียนที่ทำหน้าสีหน้านิ่งเหมือนสายน้ำแล้วพูด “น้องเยี่ย คุณอย่าโกรธไปเลยนะครับ อาฮุย อาฮุยเขาก็เป็นคนน่าสงสารเหมือนกัน!”
……….