หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 524 ฮวงจุ้ย
“นายเป็นคนหาทองคำนี้กลับมา มันไม่เกี่ยวข้องกับฉันเลย ศิษย์น้องเล็ก เงินส่วนนี้นายจะใช้ยังไงก็ใช้ไปเถอะ ไม่ต้องมาถามความเห็นจากฉันหรอก!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียน โก่วซินเจียก็ยิ้มออกมา เขารู้ว่าศิษย์น้องเล็กไม่อยากเอาเปรียบตัวเอง ก็เลยจะเอาเงินที่ขายได้จากทองคำมาเข้าเป็นเงินทุนของสำนักเสื้อป่าน
แต่โก่วซินเจียอายุใกล้จะเก้าสิบแล้ว เขาไม่มีเรื่องที่ต้องพะวงหลังอีกต่อไป ส่วนเงินทองและชื่อเสียงยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่คิดจะจับต้องอีก ไม่ว่าเยี่ยเทียนจะเอาเงินไปทำอะไร เขาก็จะไม่เข้าไปยุ่ง
“ศิษย์พี่ งั้นก็ตามนี้นะครับ”
เยี่ยเทียนยิ้มใหญ่ พูดต่อว่า “สองร้อยล้านนั้นผมจะใช้ซ่อมแซมบ้านที่ฮ่องกงกับตั้งค่ายกล ถ้าสามารถตั้งค่ายกลรวมพลังลมปราณหลิงที่นี่สำเร็จ ในอนาคตก็สามารถใช้บ้านหลังนี้เป็นที่อยู่ของสำนักเสื้อป่านของพวกเรา และพลังชี่ฟ้าดินก็จะไม่ขาดแคลนอีกต่อไป…”
“อืม เยี่ยเทียน นี่เป็นสาเหตุที่นายเรียกฉันกับเจียจวิ้นมาที่ฮ่องกงใช่ไหม?”
โก่วซินเจียได้ยินดังนั้น ก็ตาสว่างทันที คนที่มีพลังถึงระดับนี้อย่างเขา ถึงจะสัมผัสได้ถึงข้อดีของพลังจักรวาลที่มีต่อร่างกายของคน
คนโบราณค้นหาแม่น้ำสายใหญ่ซ่อนตัวป่าลึก เข้าป่าจำศีล ก็เพื่อเสาะหาสถานที่ที่อุดมไปด้วยพลังลมปราณเพื่อฝึกฝนวรยุทธให้เพิ่มขึ้น ถึงแม้จะไม่สามารถอยู่ยงคงกระพัน แต่มันก็ดีต่อสุขภาพร่างกายของคนมากๆ สามารถมีอายุยืนถึงร้อยปีก็ไม่ใช่ปัญหา
ก็เหมือนกับพรตเฒ่าหลี่ซั่นหยวน ตอนที่มีชีวิตอยู่ไม่ถูกเปรอะเปื้อนจากอุตสาหกรรมใดๆ พลังชี่ดั้งเดิมทั้งหมดจึงบริสุทธ์เป็นที่สุด พอถึงบั้นปลายชีวิตก็เก็บตัวจำศีลอยู่ที่ภูเขาเหมาซาน อายุของเขาจึงยืนยาวถึงหนึ่งร้อยยี่สิบปี นี่แหละคือข้อดีของพลังจักรวาลที่หล่อเลี้ยงร่างกายของคนเรา
“เอ้อ ศิษย์พี่ใหญ่ ผมได้ศึกษาเกี่ยวกับการตั้งค่ายกลมาบ้าง พลังลมปราณบนทะเลถึงแม้จะเพียงพอก็ตาม แต่ยากที่จะนำมาที่นี่ พวกเราสามพี่น้องร่วมมือกันตั้งค่ายกลด้วยกัน ผมคิดว่าจะทำให้ค่ายกลสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นครับ”
ค่ายกลรวมพลังวิญญาณที่เยี่ยเทียนตั้งไว้ในเรือนสี่ประสานที่ปักกิ่ง ที่จริงก็ใช้เทคนิคนิดหน่อย โดยใช้ตำแหน่งประตูผีของที่นั่นดึงดูดพลังพิฆาตสะสมร้อยปีของพระราชวังต้องห้ามออกมา ในเวลาเดียวกันก็กระตุ้นพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของเส้นเลือดมังกร เมื่อสองสิ่งรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงทำให้ค่ายกลนั่นเริ่มทำงานขึ้นมา
แต่การตั้งค่ายกลที่เมืองหลินไฮ่ จะต้องใช้เวลาเตรียมงานล่วงหน้าเป็นระยะเวลาที่นาน เพราะทะเลคือน้ำ ความมั่นคงของพลังวิญญาณในทะเลไม่เท่าภูเขา นี่จึงเป็นสาเหตุหลักว่าทำไมคนสมัยโบราณถึงเร้นกายแถวทะเลน้อยกว่า
อยากจะตั้งค่ายกลที่นี่ อันดับแรกเยี่ยเทียนจะต้องสร้างสิ่งปลูกสร้างบางอย่างกั้นระหว่างคฤหาสน์กับทะเล เพื่อไม่ให้พลังวิญญาณบ้าคลั่งในทะเลพุ่งตรงมายังตัวบ้านจนทำให้คนที่อาศัยไม่สามารถยอมรับได้ นอกจากนี้ยังต้องตั้งค่ายกลการหมุนเปลี่ยน ให้พลังวิญญาณเหล่านั้นหมุนเปลี่ยนเป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถนำมาเพื่อฝึกฝนได้ ความยากของที่นี่มากกว่าค่ายกลรวมพลังวิญญาณที่ปักกิ่งหลายเท่า
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่หลังจากเยี่ยเทียนรับคฤหาสน์กงเสี่ยวเสี่ยวมาแล้วไม่ติดตั้งค่ายกล นอกจากความซับซ้อนของค่ายกลแล้ว ยังต้องใช้เงินทุนที่มหาศาล ถ้าไม่ใช่เพราะได้เงินจากทองคำ เยี่ยเทียนก็คงไม่สามารถปรับแก้คฤหาสน์หลังนี้ได้เลย
“ฮ่าๆ ศิษย์น้องเล็ก ครั้งนี้น้องเป็นคนตัดสินใจ ฉันกับศิษย์น้องรองจะช่วยงานแรงงานให้นายเอง!”
โก่วซินเจียใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตศึกษาการตั้งค่ายกล ตอนนี้สามารถตั้งค่ายกลพร้อมกับศิษย์น้องทั้งสองคน เขาจึงรู้สึกร้อนวิชาอยู่บ้าง จึงเอ่ยปากพูดว่า “พวกเราจะเริ่มตั้งค่ายกลเมื่อไรดี? ศิษย์น้องเล็กจะใช้วัสดุอะไรบ้าง รีบให้เจียจวิ้นไปจัดเตรียมสิ!”
“นั่นสิเยี่ยเทียน ต้องใช้อะไรบ้าง เดี๋ยวฉันให้คนรีบไปจัดการ” จั่วเจียจวิ้นพยักหน้า เดิมทีเขาไม่มีความหวังการฝึกให้ถึงขั้นหลอมปราณสู่จิต แต่ตั้งแต่ที่รู้จักเยี่ยเทียน กำลังภายในของเขากลับพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว มองเห็นโลกที่ตอนแรกไม่อาจะเอื้อมถึงเลยแม้แต่นิดเดียว
“ศิษย์พี่ ตอนนี้ไม่คิดถึงหยกแดงแล้วเหรอ?”
เยี่ยเทียนได้ยินก็หัวเราะขึ้นมา การอ่านหนังสือคือการฝึกใจ การฝึกกำลังคือการฝึกกาย ทั้งสองสิ่งมีความลึกลับของมันเอง แต่ขอแค่ชำนาญด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะหลุดเข้าไปอย่างไม่อาจขึ้นมาได้อีก จั่วเจียจวิ้นแอบดูหลอมปราณสู่จิตช่วงแรก เขามีความรีบร้อนมากกว่าคนอื่นนิดหน่อย
“หยกแดง? นั่นสิเยี่ยเทียน นายจะเอาของเหล่านั้นใช้ในค่ายกลใช่มั้ย?”
เมื่อได้ยินเยี่ยเทียนพูดถึงเรื่องนี้ จั่วเจียจวิ้นเพิ่งรู้สึกตัว เขารู้ว่าการตั้งค่ายกลจะต้องใช้หินหยกจำนวนมาก แต่ไม่เคยคิดว่าหยกสามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน
“ฮ่าๆ ศิษย์พี่รอง ถ้าไม่ใช่เพราะหยกแดงเหล่านั้นใช้ตั้งค่ายกลได้ละก็ ฉันจะไม่ไว้หน้าพี่ได้ยังล่ะ?”
เยี่ยเทียนหัวเราะขึ้นมา ยื่นมือหยิบกระสอบที่อยู่ในห้องรับแขกมา พูดว่า “ศิษย์พี่รอง ในนี้มีหยกทั้งหมดหนึ่งร้อยสามสิบแปดกิโลกรัม เมื่อคืนผมวาดแบบออกมาแล้ว พี่รองช่วยหาอาจารย์เจียระไนหยกที่ชำนาญหน่อยทำตามแบบที่ผมวาด และขนาดจะต้องตรงตามนี้นะ”
ระหว่างที่พูด เยี่ยเทียนยื่นแบบเจ็ดแปดใบที่วาดไว้ให้กับจั่วเจียจวิ้น ในกระดาษเขียนขนาด สัดส่วนของจี้หยก แหวนหยก เสาหยกและเครื่องประดับอีกมายมากเอาไว้ แต่ลายเส้นค่อนข้างเรียบง่าย เชื่อว่าอาจารย์หยกทั่วไปก็สามารถรับงานนี้ได้อย่างแน่นอน
ที่จริงแล้วยังมีเครื่องประดับหยกที่ซับซ้อนกว่านี้ เยี่ยเทียนคิดจะเจียระไนเอง เพราะว่าหยกเหล่านั้นจะต้องใช้ในตำแหน่งของดวงตาค่ายกล ก่อนทำจะต้องป้อนพลังชี่ดั้งเดิมเข้าไปด้วย เพื่อใช้เป็นตัวกระตุ้นการทำงานของค่ายกลอันใหญ่ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อาจารย์หยกทำไม่ได้
จั่วเจียจวิ้นมีความสามารถเรื่องการเจียระไนหยกอยู่บ้าง พอมองดูแบบในกระดาษเสร็จ จึงพูดว่า “ไม่มีปัญหา แบบไม่ซับซ้อนมาก เดี๋ยวฉันหาช่างคนอื่นมาทำ ภายในห้าวันก็คงจะเสร็จแล้ว”
จั่วเจียจวิ้นมีโรงงานเจียระไนหยกอยู่แล้ว บวกกับมีคนรู้จักกว้างขวาง บริษัทเครื่องประดับมากมายหรือโรงงานยังต้องให้หน้าเขาอยู่บ้าง เวลาห้าวันเป็นเพียงเวลาโดยประมาณที่ปลอดภัย ถ้าเร็วจริงๆ สามวันก็สามารถทำให้เสร็จได้
“นั่นสิ ศิษย์น้องเล็ก ครั้งนี้นายไปพนันหิน สิ่งที่ได้รับคงไม่ได้มีแค่หยกเหล่านี้หรอกมั้ง?”
จั่วเจียจวิ้นค้นวัสดุหยกแดงในกระสอบไปสักพัก มองเยี่ยเทียนเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มและพูดว่า “ยังมีหยกแดงคุณภาพดีเยี่ยมอีกหนึ่งชิ้น? นายคงไม่ได้เอาหยกนั่นมาใช้เป็นตัวนำทางค่ายกลหรอกมั้ง? มันจะรุนแรงต่อสิ่งล้ำค่าไปหรือเปล่า ”
อย่าว่าแต่เครื่องประดับคุณภาพสูงเลย เพียงแค่ชิ้นเดียว ก็สามารถเพิ่มระดับและชื่อเสียงให้กับร้านขายเครื่องประดับเพชรพลอยได้เลย ดังนั้นจั่วเจียจวิ้นไม่ได้นำความสนใจไปไว้ที่หยกแดงเหล่านั้น กลับเปลี่ยนสายตาไปที่วัสดุดุจแก้วพวกนั้นแทน
แต่จั่วเจียจวิ้นไม่พบของชิ้นนั้นในถุงกระสอบ เยี่ยเทียนน่าจะเก็บเอาไว้แล้ว
“ศิษย์พี่รอง พี่สนใจของชิ้นนั้นของผมอีกแล้วเหรอ?”
เยี่ยเทียนหัวเราะขมขื่น พูดว่า “น้องเล็กของพี่จะแต่งงานปีหน้าแล้ว ของชิ้นนั้นตอนแรกอยากจะทำเป็นกำไลคู่ ถึงเวลานั้นจะให้ภรรยาครับ พี่คงไม่คิดจะแย่งแม้แต่ของของน้องสะใภ้หรอกมั้ง?”
ตอนนี้ในมือของเยี่ยเทียนตอนนี้ มีกำไลหยกเขียวทรงฮ่องเต้กับตุ้มหูหยกสีอ่อนและเครื่องประดับอื่นๆ แต่ปกติอวี๋ชิงหย่าจะชอบสีแดงมากกว่า ดังนั้นตอนที่เพิ่งเห็นหยกแดงชิ้นนั้น เยี่ยเทียนคิดแล้วว่าจะทำเครื่องประดับออกมาและมอบให้กับอวี๋ชิงหย่า
“นายนี่มันคิดรอบคอบจริงๆ…”
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเยี่ยเทียนแล้ว จั่วเจียจวิ้นคิดไปคิดมาพูดว่า “อย่างนี้ละกัน กำไลฉันขัดให้ กฎเหมือนเดิม ของฉันไม่เอา แต่ต้องโชว์ที่ร้านฉันครึ่งปี รอนายใกล้แต่งงานแล้วฉันจะส่งไปให้ ถือซะว่าช่วยศิษย์พี่หน่อยละกันนะ!”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ”
ได้ยินจั่วเจียจวิ้นพูดดังนั้น เยี่ยเทียนก็รีบตอบตกลงทันที การเจียระไนกำไลกับอย่างอื่นไม่เหมือนกัน จะต้องใช้เครื่องมือพิเศษบางอย่าง และการเสนอแนะของจั่วเจียจวิ้นก็เป็นสิ่งที่เยี่ยเทียนต้องการอยู่แล้ว
“โอเค ศิษย์น้องรอง อายุของนายก็ไม่น้อยแล้ว วันหลังไม่ต้องไปวิ่งเรื่องแบบนี้แล้ว…”
โก่วซินเจียที่ฟังจนเบื่อแล้ว มองเห็นทั้งสองคนตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย จึงลุกขึ้นและพูดว่า “ไปกัน พวกเราไปดูบ้านของเยี่ยเทียนกันหน่อย ไปดูกันให้เรียบร้อยก่อนค่อยว่ากันอีกที! ”
“โอเคครับ ถึงยังไงก็ไม่ไกลจากที่นี่ พวกเราไปกันเลยดีกว่า”
เยี่ยเทียนก็อยากตั้งค่ายกลให้เสร็จเร็วๆ รอพลังลมปราณวิญญาณที่เรือนสี่ประสานปักกิ่งอ่อนแอลง ทุกคนก็จะสามารถย้ายจากบ้านเก่าเข้าไปอยู่ได้แล้ว ส่วนที่นี่ก็ถือซะว่าเป็นสถานที่ฝึกตนของศิษย์พี่ทั้งสองแทน และเยี่ยเทียนก็สามารถวิ่งไปมาทั้งสองที่ได้
ทั้งสามคนไม่มีใครเรียกคนขับรถ จั่วเจียจวิ้นเป็นคนขับเอง จากนั้นก็ขับไปยังทิศทางของแหล่งฮวงจุ้ยในเกาะฮ่องกงแห่งนั้น ตอนที่ผ่านสถานที่มากมายจะสามารถมองเห็นคฤหาสน์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบไม้ที่หนาแน่น และที่แห่งนั้นกลับเป็นที่อยู่อาศัยของคนใหญ่คนโตของฮ่องกง
รถของจั่วเจียจวิ้นสามารถผ่านทางระหว่างภูเขากับย่านคฤหาสน์หรูหราได้ หลังจากผ่านยามที่เฝ้ารักษาการณ์สองสามที่แล้ว เขาก็ขับรถไปยังเส้นทางที่มีต้นไม้เรียงรายอยู่ ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นอู๋ถง ส่วนผนังทั้งสองข้างสร้างจากหินเขาที่มีขนาดเท่ากัน ข้างบนปกคลุมด้วยไปด้วยมอส ทำให้ผู้คนรู้สึกความสงบและสง่างาม
“ถึงแล้ว เยี่ยเทียน ที่นี่แหละ!” รถยนต์ขับเข้าไปข้างในกว่าสามร้อยเมตร จอดทิ้งไว้หน้าประตูเหล็กอันหนึ่ง จั่วเจียจวิ้นถือกุญแจไฟฟ้าหนึ่งอันและเดินไปเปิดประตูเหล็กนั้นออก แล้วคฤหาสน์ทั้งหลังก็ปรากฏตรงหน้าทุกคน
คฤหาสน์หลังนี้เป็นสไตล์ยุโรปสี่ชั้น กำแพงด้านนอกเนื่องจากไม่ได้ซ่อมแซมเป็นเวลานาน ผนังกำแพงเริ่มหลุดหลอก แต่ดอกไม้ที่อยู่ในสวนและอื่นๆ กลับถูกตัดแต่งไว้อย่างสวยงาม แม้แต่ประตูก็ถูกเช็ดจนไม่มีแม้แต่ฝุ่นเกาะ น่าจะมีคนมาทำความสะอาดเป็นประจำ
ที่จริงถ้าเป็นไปตามความหมายของกงเสี่ยวเสี่ยว เธออยากเชิญบริษัทติดตั้งและซ่อมแซมระดับโลกมารีโนเวทคฤหาสน์หลังนี้ใหม่ทั้งหมด แล้วค่อยส่งมอบให้เยี่ยเทียน แต่เยี่ยเทียนมีความคิดของตัวเอง เขาจึงไม่ได้ตอบตกลง ดังนั้นคฤหาสน์นี้จึงทิ้งไว้ที่นี่ตลอดเรื่อยมา
“โอเค ฮวงจุ้ยของคฤหาสน์หลังนี้ดีกว่าของเหล่าถังหลังนั้น ระยะห่างจากทะเลก็ใกล้กว่านิดนึง!”
หลังจากที่เข้าไปยังสวนดอกไม้ เยี่ยเทียนตรงไปยังด้านหลังของคฤหาสน์ มองไปยังจุดไกลสุดของทะเล ดวงตาก็สว่างขึ้นอย่างไม่ทันตั้งใจ สถานที่ที่หันหลังให้กับทะเลนี้ ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว
เมื่อจับนิ้วขึ้นนับ เยี่ยเทียนเริ่มเดินตามตำแหน่งเจ็ดดาวแปดรูปลักษณ์ ตอนที่เขามาถึงด้านขวาของคฤหาสน์ ก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ศิษย์พี่รอง ช่วยหาคนให้ช่วยหน่อยได้ไหม ปากทางตรงนั้นแปดร้อยเมตร สร้างเสา ฮวงจุ้ยข้างในวงกลมข้างนอกเหลี่ยมหนึ่งอัน?”
……………….