หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 626 โหดร้าย (1)
“สุภาพบุรุษ สุภาพสตรีทุกท่านครับ การแข่งขันรอบที่หนึ่งของวันนี้ เป็นคู่ของเคมสตันจากกาน่าเจอกับเหงียนเซียงเกินจากเวียดนาม ประวัติของพวกเขาอยู่ในมือทุกท่านแล้วครับ การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในอีก 15 นาทีหลังจากนี้ ขอให้ทุกท่านวางเดิมพันครับ!”
การแข่งขันมวยใต้ดินไม่ใช่คอนเสิร์ต คนรวยที่มารวมตัวกันตรงนี้ ล้วนอยากสัมผัสความรู้สึกตื่นเต้น ความโหดร้ายนองเลือดที่เกิดขึ้นจากสงครามแห่งความเป็นและความตาย ฉะนั้นคลีเมตสันรู้ดีและจะไม่ได้พูดเยอะ หลังจากประกาศเวลาแข่งขันของรอบที่หนึ่งเสร็จ เขาก็ลงจากเวทีเลย
สนามมวยใต้ดินบนเรือสำราญควีนอลิซาเบธหรูหรากว่าสนามมวยของจู้เหวยเฟิงเยอะมาก สนามมวยแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่หลายพันตารางเมตรทุกห้องปูด้วยพรมหนา ๆ และที่นั่งทั้งหมดเป็นโซฟา มีโต๊ะซึ่งถูกวางไว้ด้วยเครื่องดื่มและไวน์แดงราคาแพงวางอยู่ด้านหน้า
เนื่องจากคนรวยพวกนี้มีนิสัยแปลก ๆ ความเป็นส่วนตัวของพวกเขาจึงถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากห้องวีไอพีที่มีอยู่ไม่มากแล้ว แม้แต่โซฟาที่จัดอยู่ทั้งสี่ทิศของเวทีก็ยังถูกเว้นระยะห่างเอาไว้ เวลาปิดไฟโซฟาที่ปิดล้อมเป็นครึ่งวงกลมก็จะสามารถกั้นสายตาของคนอื่นได้
“บ้าเอ้ย คนที่มาที่นี่ ทำไมมีแต่พวกหื่นกาม?”
เยี่ยเทียนได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นจากโซฟาฝั่งขวามือ ก็เลยมองตามเสียง ตอนที่เห็นถึงกับอึ้งไปทีเดียว ตรงนั้นมีเจ้าอ้วนน้ำหนักน่าจะ 150 กิโลนั่งอยู่ ส่วนด้านหน้าเขามีผู้หญิงต่างชาติตัวเล็กไม่กี่นิ้วนั่งอยู่ กำลังทำท่าเข้าออกอยู่หว่างขา
“เยี่ยเทียน ให้ฉันช่วยเรียกคนมาช่วยผ่อนคลายหน่อยดีมั้ย?”
จู้เหวยเฟิงเริ่มขำเยี่ยเทียนอยู่ข้าง ๆ เขาได้รับคำสัญญาจากต่งเซิงไห่ว่า ถ้าอันเดรวิชไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ก็จะช่วยจ่ายเงินเดิมพัน 800 ล้านดอลล่าร์แทนเขา และจะมอบสนามมวยที่ตุรกีให้ด้วย จู้เหวยเฟิงก็เลยอารมณ์ดีและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
แน่นอนว่าต่งเซิงไห่ไม่ได้มาทำงานบุญ ถ้าอันเดรวิชเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ ส่วนเยี่ยเทียนถ้าแพ้ให้กับแอนโทนี มาร์คัสละก็ จู้เหวยเฟิงก็ต้องเอาสนามมวยในประเทศจีนให้กับต่งเซิงไห่โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ เช่นกัน เพื่อให้ต่งเซิงไห่ที่สูญเสียพื้นที่ยังพอมีที่พักพิง
เมื่อเทียบกับการพ่ายแพ้ให้กับฮิราโน อิจิโร่จากญี่ปุ่นหรือฟรุสจากอินเดีย จู้เหวยเฟิงรับเงื่อนไขนี้ได้มากกว่า เพราะต่งเซิงไห่ก็เป็นคนจีน อย่างน้อยน้ำปุ๋ยอันอุดมก็ไม่ไหลเข้านาคนอื่น
“เจ้าหนุ่ม อย่าหาเรื่องท่านเยี่ยให้มาก การแข่งขันจะเริ่มขึ้นอีกไม่นาน จะวอกแวกได้ยังไง?”
ต่งเซิงไห่ที่นั่งข้าง ๆ เยี่ยเทียนตำหนิจู้เหวยเฟิงไป ตอนแรกเขาไม่อยากให้เยี่ยเทียนมาดูการแข่งขันของวันนี้ เพราะความโหดร้ายและการนองเลือดในสนามจริง อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของคน และมันไม่ดีต่อการแข่งขันข้างหลัง
ผู้ชมร้อยกว่าคนที่ล้อมรอบสนามมวย นอกจากเยี่ยเทียนแล้ว ไม่มีผู้ชมคนไหนมีสถานะเป็นนักมวย ทุกคนกำลังปรับสภาพร่างกายของตัวเองอยู่ในห้องฝึกซ้อมเหมือนกับอันเดรวิช
แต่เยี่ยเทียนยืนยันอยากมาดูมวยระดับโลกให้ได้ ต่งเซิงไห่จึงทำอะไรไม่ถูก เพราะเยี่ยเทียนไม่ได้เป็นนักมวยของเขา เขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“เหล่าต่ง สองคนนั้นคุณมองใครมากกว่า?”
เยี่ยเทียนไม่ได้สนใจจู้เหวยเฟิงเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูหน้าจอคริสตัลที่อยู่ตรงหน้าอย่างตั้งใจ
สิ่งอำนวยความสะดวกของสนามมวยเรือสำราญควีนอลิซาเบธ มีมากกว่าสนามของจู้เหวยเฟิงมาก ที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษในการลงเดิมพัน ทุก ๆ อย่างมีความทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างแม้แต่ในตลาดก็ยังไม่มี
ก็เหมือนกับโซนโซฟาทุกโซน จะมีจอแสดงผลคริสตัลใหม่ล่าสุดของโลกวางอยู่หนึ่งอัน ในนั้นไม่เพียงแต่มีข้อมูลของนักมวยอย่างละเอียด แต่ยังสามารถเดิมพันผ่านหน้าจอนั้นได้เลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งสะดวกและเป็นส่วนตัวมาก
ในเวลานี้บนหน้าจอแสดงข้อมูลนักมวยทั้งหมดสองคน ซึ่งก็คือผู้เข้าแข่งขันที่กำลังจะขึ้นชกทั้งสองคน คนนึงชื่อเคมสตัน เป็นคนผิวดำมาจากกาน่า ส่วนสูง 1.96 เมตร น้ำหนัก 152 กิโลกรัม ยกน้ำหนักในท่านอนได้ 125 กิโลกรัมและในท่า สควอทได้มากถึง 530 กิโลกรัม
เคมสตันเป็นคนที่ฝึกมวยปล้ำมาก่อน เขาเคยเป็นนักมวยปล้ำระดับโลก เพิ่งเข้ามาวงการมวยใต้ดินเมื่อปีที่แล้ว
เคมสตันใช้เทคนิคของมวยปล้ำชั้นเลิศ ชนะการแข่งขันมาแล้ว 40 ครั้งติดต่อกัน จากคนที่ไม่มีชื่อเสียงใด ๆ ค่อย ๆ ไต่ขึ้นจนถึงอันดับสามสิบของโลก และเป็นเงื่อนไขขั้นต่ำที่สุดของเรือสำราญควีนอลิซาเบธสำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน
ส่วนคู่ต่อสู้ของเคมสตันที่ชื่อเหงียนเซียงเกิน ส่วนสูงเพียง 1.72 เมตร น้ำหนักแค่ 70 กิโลกรัม ถ้าเอาสองคนนี้มาเปรียบเทียบกัน เหงียนเซียงเกินเหมือนเป็นเด็กทารกที่กำลังหัดเดิน
แต่สิ่งที่ทำให้เยี่ยเทียนถึงกับมองใหม่ก็คือ แม้เหงียนเซียงเกินจะหนักน้อยกว่าเคมสตัน แต่เขาสามารถยกน้ำหนักท่านอนได้สูงถึง 130 กิโลกรัมและท่าสควอทได้มากถึง 510 กิโลกรัม ถ้าดูจากสองตัวเลขนี้พละกำลังของเขามีมากกว่าเคมสตันอีก
ยิ่งไปกว่านั้นคือ อันดับนักมวยใต้ดินของโลกเหงียนเซียงเกินอยู่อันดับที่สิบเอ็ด บันทึกการชกของเขาน่าทึ่งมากที่สุด ชนะ 137 ครั้ง มี 68 ครั้งสังหารคู่ต่อสู้ได้ เห็นได้ชัดเจนว่าส่วนสูงกับน้ำหนักไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในมวยใต้ดิน
“ผมว่าเหงียนเซียงเกินนะ” ครุ่นคิดกับสิ่งที่แสดงอยู่บนหน้าจอไปสักครู่ ต่งเซิงไห่พูดว่า “ปีที่แล้วผมเคยดูการแข่งขันของเหงียนเซียงเกิน ฝีเท้าของเขาเร็วมาก ท่าฟาดขาโหดมาก โอกาสชนะสูงสุด ๆ ”
“คุณไห่ เคมสตันก็ไม่แย่นะ ดูจากน้ำหนักและส่วนสูงแล้ว เหงียนเซียงเกินอยากชนะคงยากไปมั้ง?”
จู้เหวยเฟิงไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่ต่งเซิงไห่พูดเท่าไหร่ แม้จะพูดว่าน้ำหนักและส่วนสูงไม่สามารถตัดสินการแพ้ชนะได้ แต่มันก็ได้เปรียบกว่าอยู่ดี ที่สำคัญตั้งแต่เข้าวงการมวยใต้ดินมาเคมสตันมีแต่ชนะ
และอัตราต่อรองที่โชว์อยู่บนหน้าจอ เคมสตันก็สูงกว่าเหงียนเซียงเกิน แสดงว่าทางผู้จัดก็มองออกว่าเคมสตันจะชนะคู่ต่อสู้
“ท่านประธานจู้ คุณดูมวยใต้ดินน้อยเกินไป เวลาที่อยู่ที่นี่ เราใช้กำลังคุยกัน ไม่ใช่รูปร่างหรอกนะ”
ต่งเซิงไห่เบ้ปาก พูดต่อว่า “ท่านประธานจู้จะลองพนันดูสักหน่อยมั้ย แล้วมาดูว่าสิ่งที่ผมพิจารณาไปมันถูกหรือเปล่า?”
“ได้ ผมจะลองดู ผมเดิมพันเคมสตันชนะหนึ่งล้าน!” จู้เหวยเฟิงตอบรับ และกรอกจำนวนเงิน 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเข้าไป จากนั้นไม่นานข้อมูลการเดิมพันก็ถูกยืนยันและปรากฏขึ้นบนหน้าจออย่างรวดเร็ว
“ผมเดิมพันเหงียนเซียงเกิน 3 ล้านละกัน”
ต่งเซิงไห่หัวเราะ และกรอกจำนวนเงินที่ตัวเองเดิมพันลงไปเหมือนกัน ตอนนี้การเดิมพันไม่ต้องโอนเงินใด ๆ พวกเขาจะมีหมายเลขประจำตัวอยู่แล้ว หลังจากที่การแข่งขันจบลง พนักงานจะเรียกเก็บเงินจากพวกเขาตามข้อมูลในคอมพิวเตอร์
“คุณเยี่ย คุณไม่เล่นสักหน่อยเหรอ?” เมื่อเห็นว่าเยี่ยเทียนไม่ทำการใด ๆ กับหน้าจอ ต่งเซิงไห่จึงพูดว่า “คุณเยี่ย จำนวนเงินภายในหลักสิบล้าน คุณเดิมพันได้ตามความต้องการ ถ้าชนะคุณก็เอาไปเลย ถ้าแพ้นับเป็นเงินผม”
“หึหึ พวกคุณเล่นเถอะ ผมไม่ค่อยสนใจการพนันเท่าไหร่”
เยี่ยเทียนส่ายหัวปฏิเสธ ที่จริงเขาไม่ได้ไม่สนใจเรื่องการพนัน และการพนันด้วยวิธีแบบนี้ เขารู้สึกรับไม่ได้อย่างมาก
บนโลกนี้มีวิธีการพนันมากมาย แต่การพนันชีวิตคนมีแค่มวยใต้ดินเท่านั้น มันทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกว่าเป็นการไม่เคารพชีวิตคน และเมื่อคิดถึงว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตัวเขาเองก็จะกลายเป็นสิ่งที่ให้คนอื่นมาพนัน เยี่ยเทียนก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบ
ต่งเซิงไห่เป็นคนที่มากประสบการณ์ เขาจึงเข้าใจอารมณ์ของเยี่ยเทียนดี หัวเราะเสร็จเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ สถานะแบบเยี่ยเทียนมาเข้าร่วมการแข่งขันมวยใต้ดิน ที่จริงก็ค่อนข้างไม่เหมาะสมเท่าไหร่
“ขอให้ทุกคนปรบมือต้อนรับยักษ์เคมสตัน!”
15 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว สปอร์ทไลท์แสงจ้าส่องไปยังทางเดินด้านขวาของเวที ชายรูปร่างสูงใหญ่มีเสื้อคลุมสีเทาห่อหุ้มตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นเพียงข้อมือสองข้างที่อยู่นอกผ้า มองออกได้ทันทีว่าเป็นชายที่มีผิวสีดำ
นักมวยทุกคนจะรักษากำลังของตัวเองเอาไว้ ก่อนเริ่มการแข่งขัน พวกเขาจะไม่ยอมเสียกำลังของตัวเองแน่นอน และจะห่อตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้กำลังภายในร่างกายสูญเสียไป
เคมสตันเดินมาถึงมุมนึงของเวทีมวยและถูกใครบางคนดึงไว้ เพราะก่อนขึ้นเวทีนักมวยทุกคนจะต้องถูกตรวจสอบผ้าที่พันมือเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาแอบพกอาวุธไว้ข้างใน
“คนที่จะขึ้นเวทีคนต่อไปคือเหงียนเซียงเกินจากเวียดนาม เชื่อว่างูพิษเหงียนจะมอบการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ให้กับพวกเราอีกครั้ง!”
ตอนที่เสียงของพิธีกรดังขึ้น แสงจากหลอดไฟก็ส่องยังไปทางเดินที่ทะลุห้องพัก เงาของชายรูปร่างค่อนข้างเตี้ยวิ่งออกมาจากตรงนั้น
การแข่งขันมวยใต้ดินระดับโลกที่จัดขึ้นเพียงปีละครั้ง ทางผู้จัดลงทุนไปกับงานนี้ค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้สร้างลูกเล่นมากมายเช่นกัน มันถึงจะกระตุ้นให้คนพวกนี้ลงเดิมพันได้
ก็เหมือนกับเคมสตันกับเหงียนเซียงเกินสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นคนที่สูงที่สุดในสามสิบอันดับของโลก น้ำหนักก็มากที่สุด ส่วนอีกคนนึงกลับเป็นคนที่เตี้ยที่สุดในสามสิบอันดับของโลก น้ำหนักก็น้อยที่สุดด้วย สำหรับมหาเศรษฐีพวกนี้ นี่เป็นจุดที่ทำให้การแข่งขันน่าดูมากขึ้น
“ห้ามใช้อาวุธ นอกจากนี้ไม่มีข้อจำกัด จนกว่าอีกฝั่งนึงจะล้มจนลุกไม่ขึ้น อีกฝั่งถือว่าชนะ!”
สองมุมที่อยู่ตรงข้ามกัน มีกรรมการสองคนกำลังอธิบายกฎเกณฑ์ให้กับเหงียนเซียงเกินกับเคมสตันอยู่ ในฐานะที่เป็นกรรมการ นี่ก็เป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทำ หลังจากสองคนนั้นขึ้นเวทีแล้วพวกเขาก็ไม่ต้องอยู่บนเวทีอีก
“แก๊ง!”
เสียงระฆังฟังชัดดังขึ้น สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่กลางเวที ชายสองคนปรากฏตัวบนเวทีพร้อมกัน คนนึงสูง อีกคนนึงเตี้ย ให้ความรู้สึกขัดตามากที่สุด
“จัดการมัน จัดการไอ้คนสูงนั่น!”
“ฆ่ามัน เตะลูกอัณฑะของมันให้แตกไปเลย!”
“ไอ้ยักษ์ ฉีกมันออกเป็นชิ้น ๆ !”
ภายในสนามเกิดเสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นเป็นพัก ๆ เวลานี้ทุกคนที่เป็นนักพนันตาลุกเป็นไฟ ตอนที่อะดรีนาลีนกำลังพลุ่งพล่าน มหาเศรษฐีพวกนี้กับคนธรรมดาก็ไม่ได้แตกต่างกัน พวกเขากำลังรอการปะลองที่ดุเดือดที่สุด
…………………………………………………….