หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 636 ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร
ความโหดเหี้ยมของอันเดรวิช ไม่ว่าจะเป็นคนที่พนันให้เขาชนะหรือว่าแพ้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ส่วนมหาเศรษฐีที่แพ้พนันกว่าพันล้านดอลล่าร์ แม้แต่สายตาของอันเดรวิชที่จ้องเขม่นพวกเขาอยู่ ก็ไม่มีใครกล้าด่าเลยสักคน เหมือนกับกลัวว่าอันเดรวิชจะหมายหัว
“คุณอันเดรวิช ขอเชิญคุณลงมาก่อน!”
ครากุลล้มลงไปและลุกขึ้นไม่ได้อีกแล้ว ผู้ชมเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ายังมีกรรมการอยู่ด้วยก็ตอนที่กรรมการลุกขึ้นยืน
แต่ดูเหมือนว่าอันเดรวิชยังหมกหมุ่นอยู่กับการฆ่านองเลือด ตอนที่ได้ยินคำพูดของกรรมการ ความสนใจของเขาเปลี่ยนไปทันที ดวงตาที่เยือกเย็นไร้ความเป็นมนุษย์คู่นั้นกำลังจ้องไปที่กรรมการ สภาพเหมือนดั่งสัตว์ร้ายกินคนในป่า
“คุณ……คุณจะทำอะไร?”
ตอนที่กรรมการสบตากับอันเดรวิช กรรมการเหมือนคนถูกโยนเข้าห้องเย็นในฤดูหนาวเก้าวันสามรอบ ตั้งแต่หัวจรดเท้าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เยือกเย็น จึงรีบถอยหลังไปสามก้าวและพูดกับการ์ดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า “ถ้าเขาไม่เชื่อฟังคำสั่ง ฆ่าให้ตายทันที!”
คำพูดของกรรมการทำให้เยี่ยเทียนตกใจมาก กว่าเขาจะรักษาชีวิตของอันเดรวิชไว้ได้มันไม่ง่ายเลย จะเซ็งมากถ้าต้องมาตายด้วยปืน
อันเดรวิชที่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ต่อคำพูดของกรรมการ เยี่ยเทียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมลมปราณจนเป็นเส้น และเป่าออกไปให้อันเดรวิชที่ห่างออกไประยะ 20 เมตร “อันเดรวิช กลับไปห้องเก็บตัว!”
อันเดรวิชที่หมกหมุ่นอยู่กับการฆ่านองเลือด จู่ ๆ เหมือนได้ยินเสียงระฆังดังขึ้นที่ข้างหู เสียงที่ดังขึ้นพร้อมการสั่นจนสติของเขาค่อย ๆ กลับมา และเริ่มรู้สึกตัวตามเสียงของเยี่ยเทียน
สองมือของตัวเองเต็มไปด้วยเลือดและยังมีศพของครากุลอยู่ตรงหน้า อันเดรวิชมีสีหน้าสับสนและงุนงงกับทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ภายในใจรู้สึกเสียใจและรู้สึกไม่เชื่อ แต่สิ่งที่มีมากกว่าคือการได้ปลดปล่อย
ตั้งแต่มีกำเนิดมวยปล้ำ น้อยคนมากที่สามารถออกจากเวทีมวยปล้ำด้วยคะแนนที่สมบูรณ์เช่นนี้ นักชกที่ยิ่งใหญ่ส่วนมากสุดท้ายก็จบชีวิตลงที่เวทีแห่งนี้ ส่วนคะแนนของพวกเขา ที่จริงแพ้เพียงครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวที่แพ้นั่นแหละเป็นครั้งที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาจบลงไปด้วย
ตั้งแต่เริ่มชกครั้งแรก อันเดรวิชก็ทำตัวเป็นคนตายอยู่แล้ว เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะออกจากวงการนี้ได้จริง ๆ เวลานี้ความฝันของเขาเป็นจริงแล้ว มันทำให้อันเดรวิชยังรู้สึกงุนงงเล็กน้อย จนถึงตอนที่กรรมการเรียกเขาลงจากเวที เวลานั้นเขาเพิ่งจะรู้สึกตัวอย่างเต็มที่
“ขอบคุณ!”
อันเดรวิชหันไปทางเยี่ยเทียนและอ้าปากเบา ๆ จากนั้นหันตัวกลับและลงจากเวทีไป นี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตของเขา ในเวลาเดียวกันก็เป็นวันสิ้นสุดเส้นทางการชกของอันเดรวิชเช่นกัน
สปอร์ทไลท์หนึ่งดวงส่องไปตามจังหวะการก้าวของอันเดรวิช เงาร่างที่ใหญ่และหนักแน่นของเขา ถูกตราตึงและฝังอยู่ในใจของผู้ชมไปแล้ว
“ล้มคู่ต่อสู้ด้วยเวลา 3:28 วินาที อันเดรวิชชนะ!”
บนเวทีจะเหลือไว้เพียงชื่อของผู้ชนะเท่านั้น แม้ครากุลจะมีอันดับสองของโลก แต่ในเวลานี้เขาเป็นเพียงผู้แพ้เท่านั้น แม้แต่ชื่อก็จะไม่ถูกกล่าวถึง หลักการชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจรได้ถูกยืนยันอีกครั้งบนเวที
ต่อจากนี้ การแข่งขันในรอบนี้จะถูกพูดถึงไปอีกนาน และผู้คนจะนำอันเดรวิชไปเปรียบเทียบกับผู้ชนะคนต่อไป แต่ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าอันเดรวิชชนะเพราะคนหนุ่มคนนั้นเป็นผู้ให้
“ชนะ……ชนะแล้วจริง ๆ เหรอ?!”
หลังจากที่กรรมการประกาศผลแพ้และชนะแล้ว จู้เหวยเฟิงไม่เชื่อสายตาตัวเอง แม้เขาจะพนันอันเดรวิชไป 100 ล้านดอลล่าร์ แต่สิ่งที่ทำลงไปเป็นเพียงการระบายเท่านั้น ถ้าพูดตามความจริง เขาไม่คาดหวังในตัวอันเดรวิชเท่าไหร่
แต่ความจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว จู้เหวยเฟิงจะไม่เชื่อก็คงไม่ได้ และเงิน 100 ล้านดอลล่าร์ของเขากำลังจะกลายเป็น 1800 ล้าน ยังไม่พูดถึงรอบนี้เอาชนะมวยปล้ำประเทศไทยและญี่ปุ่นยังไง แต่จู้เหวยเฟิงได้กำไรมา 1800 ล้านดอลล่าร์
“นี่เรื่องจริงเหรอ?” จู้เหวยเฟิงหยิกขาตัวเองหนึ่งที ใบหน้ามีอาการผิดหวังออกมา “บ้าเอ้ย คิดอยู่แล้วต้องเป็นแค่ฝัน การหยิกในฝันไม่มีวันเจ็บหรอก”
“นี่ น้องจู้ ขาที่หยิกหน่ะ ขาฉันรึเปล่า?”
ต่งเซิงไห่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จู้เหวยเฟิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉาไอ้หนุ่มโชคดีคนนี้ เพราะผลสุดท้ายเกินความคาดหมายของเขาเช่นกัน ต่งเซิงไห่ไม่คิดเลยว่าครากุลที่มีอันดับสองของโลก จะไม่มีแรงสู้กลับอันเดรวิชเลยแม้แต่น้อย
พอคิดถึงตรงนี้ ต่งเซิงไห่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบดูเยี่ยเทียน ภายในใจรู้สึกเกรงกลัวคน ๆ นี้ขึ้นมาเล็กน้อย เขาเข้าใจเป็นอย่างดี การเปลี่ยนแปลงของอันเดรวิชต้องเกี่ยวข้องกับเยี่ยเทียนเป็นแน่
“แฮะๆ เจ็บจริงด้วย เมื่อสักครู่เป็นเรื่องจริง จริง ๆ เหรอ?”
ครั้งนี้จู้เหวยเฟิงจับขาของตัวเองแล้ว และลองหยิกลงไปแรง ๆ หนึ่งทีจนต้องร้องออกมา แต่ครั้งนี้ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะชัยชนะในรอบนี้ทำให้บุคคลธรรมดาคนหนึ่งอย่างเขาก้าวกระโดดกลายเป็นเศรษฐีมวยปล้ำไปในพริบตา
เนื่องจากระบบเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วของญี่ปุ่น ในส่วนของตลาดมวยปล้ำนั้นเป็นระบบที่สามารถดึงดูดนักพนันจำนวนมากรวมถึงประเทศไทยด้วย นักมวยผู้รุ่งโรจน์ทั้งสองคนในแถบเอเชียอยู่ในกำมือของจู้เหวยเฟิงพร้อมกัน เท่ากับว่ากระดานของตลาดมวยปล้ำในแถบเอเชียกำลังจะเปลี่ยนโฉมใหม่
เนื่องจากว่าคู่ของอันเดรวิชและครากุลเป็นคู่สุดท้ายของวันนี้ ถ้าการแข่งขันจบลง และอันเดรวิชเดินกลับไปยังห้องพักผ่อนเสร็จ ไฟทั้งสนามจะถูกเปิดทั้งหมดและแน่นอนว่ามหาเศรษฐีหลายคนไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยใบหน้าออกสู่สาธารณะ พวกเขาจึงออกจากสนามอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่แรกแล้ว
“บัดซบ! คนจีนอย่างพวกคุณ เล่นไม่ซื่อ การแข่งขันรอบนี้ไม่นับ!” จู่ ๆ สำเนียงที่ผสมระหว่างญี่ปุ่นกับอังกฤษก็ดังขึ้น จนทำให้ผู้คนหันไปมองตามเสียง
“ฮิราโนะ อิจิโร่ แพ้ไม่เป็นเหรอ? ”
คนญี่ปุ่นหนึ่งคนหน้านิ่ง จู้เหวยเฟิงหัวเราะขึ้นมา เขารู้ว่าเยี่ยเทียนทำบางอย่างกับอันเดรวิชก่อนจะขึ้นเวที และทำให้เขาชนะในการแข่งขันครั้งนี้
แต่เป็นเช่นนั้นแล้วยังไง? มวยปล้ำไม่มีกฎตายตัวอยู่แล้ว ผู้ชมยอมรับเพียงผลของการแพ้และชนะเท่านั้น เรื่องอื่น ๆ พวกเขาไม่สนใจอยู่แล้ว แม้แต่นักชกที่ฉีดยากระตุ้นก่อนขึ้นแข่ง พวกเขาก็มองว่าเป็นเรื่องทั่วไป
ฉะนั้นคำพูดของฮิราโนะ อิจิโร่ มีแต่จะทำให้จู้เหวยเฟิงรู้สึกว่าเขาระบายอารมณ์ คนญี่ปุ่นที่หยิ่งยโสโอหังสุดท้ายก็จะกลืนน้ำขมที่ตัวเองหมักเอาไว้เท่านั้น และมันสะใจกว่าจู้เหวยเฟิงที่ได้เงินมา 1800 ล้านดอลล่าร์เสียอีก
“พวกคุณใช้ยากระตุ้น มันไม่ยุติธรรม!”
ฮิราโนะ อิจิโร่กำลังจะเสียสติแล้ว เขาไม่คิดว่านักแข่งที่เขาแลกมาด้วยสมบัติที่บ้าน และขึ้นชกเป็นตัวแทนจะถูกล้มตั้งแต่ครั้งแรก แม้แต่ธุรกิจมวยใต้ดินของเขาก็กำลังจะกลายเป็นธุรกิจของคนอื่น
สิ่งที่เปลี่ยนไปกะทันหันเช่นนี้ ทำให้ฮิราโนะ อิจิโร่เหมือนตกนรกทั้งเป็น ถึงกับทำให้เขาสูญเสียสติและการตัดสินไปทีเดียว เพราะเขานำกฎทั่วไปของโลกนี้มาใช้ในมวยปล้ำ
คำพูดของฮิราโนะ อิจิโร่ทำให้เจ้านายเหล่านั้นมีสีหน้าเหยียดหยามออกมา การแข่งมวยปล้ำนอกจากปืนที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้แล้ว เคยมีกฎเกณฑ์ที่ไหนกัน? การไม่มีกฎคือกฎเกณฑ์ของมวยปล้ำนั่นเอง
“ฮิราโนะ อิจิโร่ หรือคุณอยากฉีกสัญญาทิ้ง?”
จู้เหวยเฟิงหน้านิ่ง และพูดกับคลีเมตสันที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานว่า “คุณคลีเมตสัน ผมอยากทราบว่าสัญญาที่ผมเซ็นเกี่ยวกับบุคคลที่สาม จะเป็นไปตามนั้นมั้ย? คุณฮิราโนะ อิจิโร่ดูเหมือนไม่อยากทำตามสัญญานะ?”
“คุณจู้ สัญญาที่เซ็นบนเรือสำราญควีนอลิซาเบธ จะถูกดำเนินการตามนั้น ใครก็ห้ามผิดสัญญา”
คลีเมตสันส่งสายตาเป็นการแจ้งเตือนและพูดกับฮิราโนะ อิจิโร่ว่า “คุณฮิราโนะ อิจิโร่ ภายใน 1 เดือน ผมหวังว่าคุณจะนำข้อมูลของนักมวยญี่ปุ่นและลูกค้าส่งมอบให้กับคุณจู้จากประเทศจีน ผมจะส่งคนที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ”
สำหรับคลีเมตสัน การที่อันเดรวิชชนะทำให้เรือสำราญควีนอลิวาเบธได้รับเงินกว่าหมื่นล้านดอลล่าร์ ช่วยบรรเทาความกดดันของเขาไปได้เยอะมาก ฉะนั้นคลีเมตสันไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ และยินยอมที่จะช่วยจู้เหวยเฟิงสักครั้ง เขาก็เอื้ออาทรผู้อื่นอย่างมีจุดประสงค์
“ผม…..ผมจะทำตามสัญญา!”
การปรากฏตัวของคลีเมตสัน ทำให้ฮิราโนะ อิจิโร่รู้สึกตัว แม้เขาจะเป็นบุคลลสำคัญของประเทศญี่ปุ่น แต่ด้วยพื้นหลังของเรือสำราญควีนอลิซาเบธที่ยิ่งใหญ่นั้น เขาทำได้เพียงตีฟันให้หลุดและกลืนเลือดลงไปเท่านั้น จึงกลืนความโกรธนี้เข้าไปอย่างไม่เต็มใจ
“คุณฮิราโนะ อิจิโร่ ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่มั้ยว่าประเทศจีนหรือประเทศญี่ปุ่นใครอ่อนแอและแข็งแกร่ง?”
เสียงของจู้เหวยเฟิงดังขึ้นอย่างภาคภูมิใจ เขาเก็บความโกรธนี้ไว้ตั้งแต่ที่ฮิราโนะ อิจโร่ขอท้า แม้จะต้องแสดงออกมาเหมือนคนใจแคบ แต่ความอัดอั้นที่อยู่ในใจของจู้เหวยเฟิงยังไงก็จะระเบิดออกมาให้ได้ เขาจึงฟาดไปที่หน้าของฮิราโนะ อิจิโร่อย่างแรง
แม้ตัวแทนจากประเทศจีนจะเป็นอันเดรวิชชาวรัสเซีย แต่ตัวแทนจากญี่ปุ่นคือครากุลซึ่งมาจากอินเดียเช่นกัน ทั้งสองคนเป็นคู่ต่อสู้ที่ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ไม่มองว่าใครเป็นใคร แต่ตัดสินจากการแพ้และชนะก็พอ
“บัดซบ คุณ…คุณทำเกินไป!”
เดิมทีฮิราโนะ อิจิโร่กระหืดกระหอบอยู่แล้ว พอถูกจู้เหวยเฟิงกระตุ้นอีก ใบหน้าก็แดงระรื่ออย่างไม่ปกติ ต่อจากนั้นเลือดก็พุ่งออกมาและล้มลงไปกับพื้นสลบไป
“คุณภาพจิตใจแย่เกินไปมั้ง?”
จู้เหวยเฟิงส่ายหัวอย่างไร้เดียงสา หันหน้าไปสบตากับคุณฟรุสที่แสดงความสะใจผ่านสายตาคู่นั้น และพูดว่า “คุณฟรุส ไม่ทราบว่าสนามมวยของคุณจะส่งต่อให้ผมได้เมื่อไหร่?”
…………………………………………………………