หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 753 ทรมานจนตาย (3)
ตอนที่ 753 ทรมานจนตาย (3)
“ช่วยเขาเลือกวิธีตายเหรอครับ?”
ต่งต้าจ้วงถามย้ำคำพูดของเยี่ยเทียน ไม่กล้าเชื่อหูตัวเองไปชั่วขณะ
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ เขายังนึกว่าตัวเองจะต้องตายอยู่ที่นี่ แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเรื่องราวดันกลับตาลปัตร เยี่ยเทียนราวกับนายทัพสวรรค์ ฉับพลันก็ปรากฏตัว มารบราสังหาร
ถึงแม้ต่งต้าจ้วง จะเกลียดชังอิโต ซากิเข้าใส้ แต่เขาก็แตกต่างจากคนในสมาคมหงเหมิน หากว่ากันอย่างจริงจัง เขาไม่นับเป็นคนในสมาคมหงเหมินด้วยซ้ำ
เนื่องจากต่งเซิงไห่ไม่อยากให้หลานชายหนึ่งเดียวคนนี้เข้าร่วมสมาคมหงเหมิน กระทั่งวิชาประจำตระกูลจึงไม่ได้ถ่ายทอดให้แก่เขา หากว่ากันตามทฤษฎีแล้ว ต่งต้าจ้วงนับว่าเป็นนักศึกษาเปี่ยมคุณธรรมฉลาดหลักแหลมคนหนึ่ง
ดังนั้นเมื่อเยี่ยเทียนให้เขาเลือกวิธีตายสำหรับอิโต ซากิ ต่งต้าจ้วงจึงงงเป็นไก่ตาแตกไปชั่วขณะ ชั่วชีวิตนี้เขาเคยบันดาลโทสะร้ายแรงที่สุด ก็แค่ต่อยเพื่อนร่วมชั้นจนเลือดกำเดาไหลเมื่อตอนประถมเท่านั้นเอง
“สับร่าง เฉือนมันทั้งเป็น!”
ขณะที่ต่งต้าจ้วงยังคงตกตะลึงอยู่นั้น ชายวัยกลางคนข้างตัวก็ดิ้นรนลุกขึ้นนั่ง ร้องตะโกนเสียงดัง “พี่น้องของผมตายด้วยน้ำมือของมันทั้งหมด จะปล่อยให้มันตายดีไม่ได้!”
“คุณคือ?” เยี่ยเทียนได้ยินแล้วชะงักไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของคนผู้นั้นละม้ายคล้ายเคียงกับต่งต้าจ้วงสี่ถึงห้าส่วน หรือว่าจะเป็นลูกชายของต่งเซิงไห่?
“ผมชื่อต่งเทียนอี้ เป็นลุงของต้าจ้วง”
ต่งเทียนอี้มีสีหน้าโศกสลด โน้มตัวคุกเข่าลงบนพื้น โขกศีรษะไปทางเยี่ยเทียนอย่างหนักหน่วง พูดว่า “ตระกูลต่งทั้งหมดสามสิบแปดคน เหลือแค่ผมกับต้าจ้วงเท่านั้น ท่านผู้นี้ต้องช่วยล้างแค้นให้พวกผมนะครับ!”
“ทั้งตระกูลมีสามสิบแปดคน เหลือรอดเพียงแค่สองคน คิดฆ่าล้างตระกูลกันจริงๆ ใช่ไหม?!” ดวงตาของเยี่ยเทียนฉายแววสังหาร พยักหน้าน้อยๆ แล้วบอกว่า “ได้ตามที่คุณปรารถนา มันจะถูกสับร่าง!”
“บ้าไปแล้ว ไอ้คนจีน…ไอ้คนป่าเถื่อน!”
ชาวญี่ปุ่นอายุกว่าเจ็ดสิบปี น้อยคนนักที่ไม่รู้ภาษาจีน โดยเฉพาะตระกูลญี่ปุ่นอันโด่งดัง มักใช้ภาษาจีนเป็นภาษาภาคบังคับ ดังนั้นคำพูดที่ต่งเทียนอี้พูดกับเยี่ยเทียน อิโต ซากิจึงฟังเข้าใจทั้งหมด
แม้ว่าประกาศิตของเยี่ยเทียนจะทำให้อิโต ซากิรู้สึกเย็นเยียบจับใจ แต่สายเลือดโหดเหี้ยมภายในกายชาวญี่ปุ่น กลับทำให้รู้สึกละอายเพราะนึกหวาดกลัว
“ฆ่า!”
อิโต ซากิถีบขารัวเร็วราวสายฟ้ามาทางเยี่ยเทียน พูดงึมงำขณะที่อยู่ห่างจากเยี่ยเทียนไปสี่ห้าเมตร ทันใดนั้นก็กระโดดตัวสูง สองมือจับดาบชูขึ้นเหนือหัวอย่างน่าเกรงขาม
ขณะที่อิโต ซากิลงมือ ชาวญี่ปุ่นที่เดิมทีกระจายตัวรอบทุกทิศ ก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาพร้อมกัน ต่างดึงดาบซามูไรออกจากเอวของตัวเอง ห้อมล้อมเยี่ยเทียนเอาไว้
“ไอ้ระยำ ตายซะเถอะ!”
วิถีแห่งดาบของชาวญี่ปุ่นแกร่งกล้าอย่างที่สุด ภายใต้การกดดันอันไร้รูปร่างจากเยี่ยเทียน อิโต ซากิสัมผัสได้ว่า ดาบนี้มีพลังโจมตีระดับสุดยอดในชีวิตเขาแล้ว ใครๆ ก็ตามในโลกล้วนไม่อาจต้านทานได้
“เจ้าตัวตลก!” เยี่ยเทียนพ่นเสียงหัวเราะออกมาจากจมูก แค่ก่อร่างวิถีแห่งดาบยังทำไม่ได้ กลับยังกล้ามาโอ้อวดต่อหน้าเขาอีก?
เยี่ยเทียนไม่ได้ขัดขวางความมาดมั่นของอิโต ซากิแต่ต้น จนกระทั่งดาบซึ่งเปี่ยมด้วยจิตสังหารมาอยู่ตรงหน้า เยี่ยเทียนจึงได้ยื่นสองนิ้วจากมือขวาออกไป
ไม่ผิด เยี่ยเทียนหนีบนิ้วชี้และนิ้วกลางสองข้างเข้าด้วยกันเหมือนตะเกียบคีบอาหาร ดาบเวหาถึงกับหยุดนิ่ง กระทั่งร่างของอิโต ซากิที่กระโจนขึ้นฟ้า ยังถูกเยี่ยเทียนยันค้างเอาไว้
ปลายคมดาบซามูไร อยู่ห่างจากหัวคิ้วของเยี่ยเทียนเพียงหนึ่งนิ้วเท่านั้น แต่ไม่ว่าอิโต ซากิจะออกแรงเท่าไหร่ ดาบก็เหมือนถูกหลอมละลายเข้ากับนิ้วของเยี่ยเทียน ไม่สามารถขยับได้แม้เพียงมิลลิเมตร
ในเวลานั้นเอง ดาบซามูไรอีกหกถึงเจ็ดเล่มก็พุ่งตรงลงมาฟาดฟันเยี่ยเทียน
ชาวญี่ปุ่นที่อิโต ซากิพามาครั้งนี้ ล้วนเป็นมือดีในตระกูลทั้งหมด จิตใจแข็งแกร่งหนักแน่น การสังหารหมู่ของเยี่ยเทียนเมื่อครู่ สร้างแรงกระเทือนต่อจิตใจของพวกเขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“หนึ่งสู่เซียน หลากหลายเส้นทาง!”
สัมผัสได้ถึงจิตสังหารจากเหนือหัว เยี่ยเทียนส่ายหน้าเล็กน้อย หากเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อน เยี่ยเทียนคงได้แต่ต้องปล่อยมือถอยหนีไป แต่ว่าตอนนี้ยากนักที่ศาสตราวุธเหล่านี้จะทำอันตรายต่อเยี่ยเทียนได้
“เคร้ง…เคร้ง!”
สองนิ้วมือขวายังคงคีบดาบซามูไรของอิโต ซากิ มือซ้ายของเยี่ยเทียนยกขึ้น ลำแขนส่องประกายแสงสีขาวออกมาจากด้านบน เกิดเสียงโลหะกระทบกันดังกึกก้อง
คนที่จับดาบเพียงรู้สึกถึงแรงมหาศาลที่ปล่อยออกมา สั่นสะเทือนจนสองแขนร้าวชา จนไม่อาจประคองเอาไว้ได้อีกต่อไป ดาบทั้งหกเจ็ดเล่มสั่นสะเทือนอยู่เบื้องสูงในอากาศ
แต่แขนข้างซ้ายของเยี่ยเทียนปราศจากร่องรอยบาดแผล กระทั่งแขนเสื้อยังไม่มีรอยฉีกขาด ราวกับว่าท่วงท่าเหล่านั้นเพียงขับไล่แมลงหวี่แมลงวันเล็กจ้อยไร้ค่า
“แกเองก็ปล่อยมือเถอะ!”
ข้อมือขวาของเยี่ยเทียนที่จับคมดาบเอาไว้ สั่นสะเทือนเล็กน้อย พลังลมปราณแฝงส่งผ่านจากตัวดาบตรงไปยังด้าม ดาบซามูไรซึ่งหลอมขึ้นจากเหล็กกล้า ดาบก็หงิกงอราวกับร่างสั่นเทาของอสรพิษในทันใด
ภายในมืออิโต ซากิรู้สึกเหมือนจับถ่านแดงร้อนลวกก้อนหนึ่ง จึงรีบปล่อยมือทั้งสองข้างตามคำพูดของเยี่ยเทียน เมื่อก้มหน้ามอง พบว่าง่ามมือแตกออก และข้อต่อนิ้วโป้งก็หักออกจากกันไปแล้ว
หลังจากหยุดดาบซามูไรไว้ได้แล้ว มือขวาของเยี่ยเทียนก็สั่นขึ้นอีกครั้ง ดาบนั้นโค้งงอเข้ามาราวกับมีจิตวิญญาณ และด้ามดาบก็เคลื่อนเข้าหามือซ้ายของเยี่ยเทียน
“สังหาร”
เยี่ยเทียนตะโกนออกมา ฝั่งมือซ้ายมีลำแสงสีขาวส่องสว่างวาบไกลระยะสามเมตร ปรากฎขึ้นที่ปลายหน้าคมดาบซามูไร
“อุ๊บ อึก…”
เสียงหลายเสียงดังตามหลังมา ผู้คนเจ็ดแปดคนที่เคยล้อมร่างเยี่ยเทียนอยู่ ล้วนรู้สึกเยียบเย็นในลำคอ จากนั้นสติสัมปชัญญะกลับกลายเป็นเลือนราง
ด้วยการออกดาบของเยี่ยเทียนมีความไวสูง ลำคอของคนเหล่านั้นจึงปรากฎเพียงเลือดพุ่งออกเป็นสาย หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ศรีษะเหล่านั้นก็ร่วงลงมาจากลำคอ พร้อมกับกระแสเลือดพุ่งขึ้นสู่ฟ้าราวกับลูกธนู
“ระยำ!”
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า เฒ่าญี่ปุ่นอิโต ซากิก็โกรธจัด ชาวญี่ปุนที่ติดตามเขามาในครั้งนี้ ล้วนเป็นหัวกะทิของตระกูล และท่ามกลางกลุ่มพวกนั้นยังมีกระทั่งหลานแท้ๆ ของตัวเขาเอง
ขณะที่เยี่ยเทียนโบกมือ อิโต ซากิกลับต้องจากพวกเขาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เลือดซึ่งพุ่งออกมาจากร่างกายที่ทรงตัวไว้ไม่อยู่นั้น กลบสายตาของอิโต ซากิจนพร่าเลือน
“ถึงตาแกแล้ว แต่แกจะไม่ได้ตายอย่างไม่ทรมานแบบนั้นหรอก!”
เยี่ยเทียนหันไปทางอิโต ซากิ ถึงแม้รอบตัวเขาจะกลายเป็นทะเลเลือด แต่บนร่างของเยี่ยเทียนกลับไม่เปรอะเปื้อนแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากถูกปราณแท้สกัดกั้นเอาไว้ทั้งหมด
“ไม่… ไม่ แกจะฆ่าฉันไม่ได้!”
อาจเป็นเพราะถูกการสังหารหมู่ตรงหน้าทำลายความเชื่อมั่นในใจจนสูญสิ้น อิโต ซากิจึงลนลานถอยกรูด ใต้ฝ่าเท้ากลับเหยียบถูกอะไรบางอย่าง จนซวนเซล้มลงไปบนพื้น
“บนโลกไม่มีสิ่งใดสังหารไม่ได้ อย่างแกนับว่าเป็นใครกัน?”
เยี่ยเทียนแกว่งดาบ อิโต ซากิที่นั่งอยู่กับพื้นเพียงรู้สึกใบหูทั้งสองข้างเย็นเยียบ พอใช้มือสองข้างคลำดู ใบหูทั้งสองข้างก็อันตรธานไปแล้ว เลือดไหลรินออกมาจากรูหู
“ไม่!” เห็นเยี่ยเทียนฟาดดาบลงอีกครั้ง อิโต ซากิก็คว้าเอาร่างคนที่ทำให้เขาสะดุดเมื่อครู่ชูไว้เหนือหัว
“คนอย่างแกมีค่าอะไรกัน ตายไปซะเถอะ!”
เยี่ยเทียนเพ่งมองแวบหนึ่ง พบว่าร่างที่อิโต ซากิใช้ป้องกันตัวเอง ก็คือนายพลรัสเซียก่อนหน้านี้ ดาบซามูไรที่อยู่ในมือยังคงฟาดฟันลงไป โดยไม่มีความลังเลแม้เพียงชั่วขณะ
จะอย่างไรก่อนหน้านี้ก็ได้สังหารกองกำลังพิเศษจนสิ้นซากไปแล้ว ต่อให้ฆ่าชาวรัสเซียเพิ่มอีกสักคน เยี่ยเทียนจึงไม่รู้สึกหนักอกหนักใจใดๆ
ตอนที่เยี่ยเทียนเข้ามายังค่ายฝึกแห่งนี้ ก็ได้ตัดสินใจชะโลมสถานที่นี่ด้วยเลือดแล้ว นอกจากต่งต้าจ้วง จะไม่เหลือชีวิตไว้แม้เพียงคนเดียว เพื่อที่ทางกองทัพรัสเซียจะได้ไม่สามารถสืบสาวตามตัวเขาได้
คมดาบพาดผ่านช่วงเอวของลอฟสกี้โดยไร้ซึ่งสิ่งสกัดกั้นอย่างสิ้นเชิง ราวกับหั่นเต้าหู้ อวัยวะภายในชุ่มไปด้วยเลือด พลันละเลงลงบนใบหน้าของอิโต ซากิ
ข้อมือของเยี่ยเทียนพลิกว่องไวราวสายฟ้าฟาด อิโต ซากิส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาจากปาก สิบนิ้วบนมือทั้งคู่ของเขา ก็ถูกเยี่ยเทียนเฉือนขาดพร้อมกับร่างของลอฟสกี้
“เห็นหรือยัง หนี้แค้นของตระกูลต่ง ผมช่วยพวกคุณสะสางแล้ว!”
เยี่ยเทียนถือดาบซามูไรยาวประมาณหนึ่งเมตรยี่สิบเซนติเมตร เคลื่อนไหวคล่องแคล่วเชี่ยวชาญราวกับพ่อค้าเนื้อสัตว์ เนื้อสดขนาดประมาณนิ้วโป้งปลิวกระเด็นว่อนในอากาศ ที่ตรงกลางมีอิโต ซากิกรีดร้องอย่างโหยหวน
ขณะดาบในมือเยี่ยเทียนฝานเนื้อของอิโต ซากิออกในแต่ละชิ้น ล้วนปล่อยปราณแท้ออกมาเพื่อปกป้องชีพจรของเขาไว้
ดังนั้นถึงแม้ร่างกายของอิโต ซากิจะมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด แต่เขากลับยังมีสติสัมปชัญญะ เขาสามารถสัมผัสความเจ็บปวดที่ส่งผ่านในร่างกายได้อย่างแจ่มแจ้งในทุกขณะ ความทรมานอันไร้ขอบเขตเช่นนี้ ทำให้เขาอยากตายไปเสียตรงนั้น
ไม่กี่นาทีต่อมา นอกจากใบหน้าที่ไร้รอยขีดข่วน อิโต ซากิก็กลายเป็นมนุษย์โลหิตไปทั้งเนื้อตัว ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยบาดแผลรูปตาข่าย ไม่เหลือเนื้อดีแม้เพียงชิ้นเดียว
ต่งเทียนอี้และหลานชายที่เฝ้ามองดูอยู่ตลอดเวลา แม้จะมีความเคียดแค้นแสนสาหัส แต่วิธีการสังหารอย่างทุกข์ทรมานของเยี่ยเทียน กลับทำให้ทั้งสองสะอิดสะเอียนจนทนไม่ไหว ในช่องท้องมีน้ำรสเปรี้ยวผลักดันขึ้นมา
อีกทั้งฟรุสที่นอนอยู่ห่างไปเมตรกว่า สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กระดูกแขนและขาที่แตกหักยังไม่อาจระงับความหวาดกลัวในใจได้ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า บนโลกจะมีวิธีการตายที่โหดเหี้ยมถึงปานนี้?
“หือ? เหมือนมีบางอย่างผิดปกติ!”
สัญญาณเตือนบางอย่างผุดขึ้นในใจเยี่ยเทียน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเข้าใจอะไรผิดบางอย่าง จึงรีบคลายประสาทสัมผัส กลับพบว่าภายในค่ายทหารแห่งนี้ นอกจากลานที่เขาอยู่ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลืออยู่อีกแล้ว
“รีบไปจากที่นี่กันดีกว่า…” เยี่ยเทียนหยุดมือขวา ในความคิดบังเกิดลางสังหรณ์บางอย่าง รู้สึกว่าภายใต้การคาดคะเน จะเกิดอันตรายใหญ่หลวง
ในขณะเดียวกันนั้น นอกค่ายทหารห่างออกไปสามสี่ร้อยเมตร ก็เกิดมีเสียงเอะอะดังมา กองทหารที่ล้อมค่ายฝึกไว้เมื่อครู่กรูกันเข้ามาล้อมไว้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะเสียงปืนอันดุเดือดไปกระตุ้นพวกเขา
“หัวนี้พวกคุณเก็บไว้ซะ เอาไว้บูชาบรรพบุรุษ!”
ลำแสงเยียบเย็นหนึ่งพาดผ่าน ปากของอิโต ซากิก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นแล้วหยุดลง หัวที่เต็มไปด้วยผมขาวโพลนนั้นหล่นลงข้างเท้าของต่งต้าจ้วง