หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 792 กองกำลังแม่ม่ายดำ
“คุณจ้าว นี่คือพี่หลิว การเดินทางของเราครั้งนี้มีพี่หลิวเป็นคนรับผิดชอบ!” ขึ้นบนรถตะลุยป่าแล้วหวาจวินแนะนำคนขับรถให้เยี่ยเทียนรู้จัก
โดยทั่วไปแล้วคณะท่องเที่ยวน้อยมากที่จะมีลูกทัวร์เพียงคนเดียว ต้องรอคณะอื่นรวมตัวให้ได้คนเยอะๆจึงจะออกเดินทาง ถ้าไม่ใช่เพราะค่าตอบแทนที่ดี เยี่ยเทียนคงไม่ได้ไปเที่ยวเป็นลูกทัวร์คนเดียวพร้อมกับไกด์และคนขับรถส่วนตัวแบบนี้
“พี่หลิว ลำบากคุณด้วย”
เยี่ยเทียนทักทายกับคนขับรถอายุประมาณสามสิบปี แล้วถามว่า “จุดหมายแรกของเราไปที่ไหนหรือครับ?”
“ไปบ่อทองทรายแมงกานีสครับ!” พี่หลิวไม่พูดมาก พอบอกชื่อสถานที่จบก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรอีก ขับรถออกจากโรงแรมไป
“คุณจ้าวครับ ความจริงแล้วเดิมทีเคปทาวน์เป็นเมืองที่ทำเหมืองทองเป็นแห่งแรก แต่เป็นเพราะว่าอยู่ติดทะเล จึงค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นเมืองท่องเที่ยว”
หวาจวินเริ่มทำหน้าที่ไกด์อย่างไม่รีรอ เขาเล่าอธิบายให้เยี่ยเทียนฟัง “รอบๆเคปทาวน์มีเหมืองทองเล็กใหญ่รวมกันหลายสิบแห่ง เหมืองทองทรายแมงกานีสนั้นเป็นเหมืองที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีคนเชื้อสายจีนทำงานอยู่เยอะ”
“ครับ ผมจะทำตามแผนของคุณ”
เยี่ยเทียนพยักหน้า เขานั่งอยู่แถวหลังแล้วหลับตาลง หวาจวินเห็นว่าเยี่ยเทียนต้องการพักผ่อนจึงไม่ได้อธิบายต่อ
แต่หวาจวินไม่รู้อะไรเลย เยี่ยเทียนไม่ได้พักผ่อน แต่กำลังทำนายการเดินทางครั้งนี้
การทำนายกับการผูกกว้านั้นไม่เหมือนกัน การผูกกว้านั้นจะรับรู้ได้ในเรื่องที่มีความจำเพาะในเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง แต่การทำนายนั้น ด้วยขั้นวิชาของเยี่ยเทียนเขาสามารถรู้ได้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องดีหรือร้าย หรือไม่ก็ช่วงไหนที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝัน
แน่นอนว่าวิธีการทำนายนั้นจะต้องใช้พลังมากกว่า ต่อให้เยี่ยเทียนใช้จิตดั้งเดิมก็สามารถทำนายอนาคตได้มากสุดสองสามวันเท่านั้นเอง หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป สีหน้าของเยี่ยเทียนก็ดูอ่อนล้ามาก
“หรือว่าการผูกกว้าของเราจะมีปัญหา?”
เยี่ยเทียนนึกสงสัย เมื่อครู่เขาสูญเสียพลังไปแปดส่วนไปกับการทำนายอนาคตที่จะเกิดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า สถานการณที่เขาจะถูกล้อมและถูกลอบทำร้ายยังไม่เกิดขึ้น
อีกทั้งในสองวันนี้ เขาจะไม่ได้พบอะไรเป็นพิเศษ ทำให้เยี่ยเทียนผิดหวังมาก ถ้าไม่ใช่เพราะทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว เขาแทบอยากจะเปลี่ยนไปท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวอื่นแทน จะว่าไปเถ้าแก่เยี่ยอย่างเขาที่วันๆหนึ่งมีเงินถูกโอนเข้าบัญชีหลายแสน จะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ทำไม
“หวังว่าพวกคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวังนะครับ!”
เพิ่งผ่านเหตุการณ์ลอบสังหารที่ไซบีเรียมา เยี่ยเทียนจู่ๆก็รู้สึกว่าชีวิตที่สุขสงบนั้นไม่ค่อยคุ้นชิน ในใจอยากจะให้ซ่งเสี่ยวหลงมาหาเรื่องเขาเร็วๆ ซึ่งจะทำให้ชีวิตที่น่าเบื่อของเขามีความบันเทิงขึ้น และจะได้กำจัดเสี้ยนหนามที่ทิ่มแทงเขามานานด้วย
…………-
“พี่เหมียวครับ จัดการไปถึงไหนแล้ว?”
ในคฤหาสถ์หรูกลางเมืองเคปทาวน์ ซ่งเสี่ยวหลงถือแก้วไวน์แดงคุยกับเหมียวจื่อหลงด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ แต่แววตาดูตึงเครียด
จากทหารรับจ้างที่มาจากไต้หวันที่เป็นลูกศิษย์ของราชครูแห่งประเทศไทย แม้กระทั่งนักฆ่าอันดับสามของโลก ยังมีผู้อาวุโสในสมาคมหงเหมินที่เขายุให้กำจัดเยี่ยเทียน แต่สุดท้ายผลลัพธ์คือเยี่ยเทียนยังมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย เป็นซ่งเสี่ยวหลงเองที่ถูกจับโยนออกมา ให้มาอยู่ในที่สุดแสนกันดารอย่างแอฟริกาใต้นี่
ผ่านเรื่องราวมามากมาย เขาก็เหมือนกับเหลยหู่ ที่ถูกเยี่ยเทียนฝังความเจ็บช้ำลึกอยู่ในใจ เขากลัวว่าถ้าครั้งนี้เยี่ยเทียนไม่ตาย อาหญิงที่รักเอ็นดูเขาจะทอดทิ้งเขาไป
“เสี่ยวหลง วางใจเถอะ ครั้งนี้การเดินทางของเขาอยู่ในกำมือของเราหมดแล้ว คนแซ่เยี่ยต่อให้มีสามหัวหกแขนก็ต้องตาย”
เหมียวจื่อหลงยิ้มเย็น เอ่ยต่อว่า “กองทหารรับจ้างแบ่งออกเป็นหกสาย ทั้งหมดสี่สิบสองคน กำลังเตรียมตัวอยู่แล้ว สถานที่ๆใช้เลือกโจมตีก็เลือกเอาไว้หมดแล้ว!”
“เอ๋? มีแค่สี่สิบสองคนเองหรือ?”
ซ่งเสี่ยวหลงขมวดคิ้ว ถามต่อว่า “พี่เหมียว ผมจ่ายเงินไปตั้งหลายสิบล้านดอลลาร์นะ ทำไมถึงมีคนแค่สี่สิบกว่าคนแค่นั้น พวกเขาจะจัดการกับเยี่ยเทียนไหวหรือ?”
ตอนที่เทียนหลงนำทัพทหารรับจ้างมืออาชีพจากสายเอเชียทั้งหมดยี่สิบกว่าคนในใต้หวัน แต่สุดท้ายเหล่าทหารก็เสียชีวิตทั้งหมด ตอนนี้ทหารรับจ้างของเหมียวจื่อหลงมีแค่สี่สิบสองคน ซ่งเสี่ยวหลงจึงไม่พึงพอใจ
เห็นว่าซ่งเสี่ยวหลงเริ่มชักสีหน้า เหมียวจื่อหลงจึงรีบยิ้มอธิบายต่อ อย่างมั่นอกมั่นใจว่า “เสี่ยวหลง คนเยอะไม่สำคัญ สำคัญที่คนเก่ง ทหารรับจ้างของฉันแบ่งเป็นหกสาย แม้จำนวนคนไม่มาก แต่ต่างก็เป็นทหารระดับมืออาชีพของโลก เมื่อก่อนพวกเขาเคยร่วมมือกับกองกำลังแม่ม่ายดำด้วย
“อ๋อ คุณเชิญพวกเขามาด้วย? นึกว่าพวกเขาสลายกลุ่มไปแล้ว?” ซ่งเสี่ยวหลงมีสีหน้าตกตะลึง แล้วก็รวบรวมสติกลับมา ถ้าตอนนี้พวกมาลาไกย์ได้ยินสิ่งที่เหมียวจื่อหลงพูด คงจะมีสีหน้าแบบเดียวกัน
คนนอกแวดวงทหารรับจ้างเมื่อได้ยินชื่อกองกำลังแม่ม่ายดำ คงจะเข้าใจว่าเป็นกลุ่มหญิงหม้ายที่มาเป็นทหาร แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงกลุ่มทหารรับจ้างแค่หกคนเท่านั้น และทั้งหมดเป็นผู้ชาย
แต่ที่ตั้งชื่อว่ากองกำลังแม่ม่ายดำนั้น เพราะพวกเขาได้สังหารชายหนุ่มไปไม่รู้เท่าไหร่ แล้วทำให้ภรรยาของชายเหล่านั้นกลายเป็นแม่หม้าย ไม่ว่าจะเป็นการลอบฆ่าหรือฆ่าในสนามรบ หรือได้รับมอบภารกิจโจมตี พวกเขาไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง
ในกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้ มีทั้งคนที่เป็นทหารที่เชี่ยวชาญด้านยุทธศาตร์และการกลยุทธที่มีฝีมือที่สุดในโลก ยังมีแฮกเกอร์ที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดกับนักเคลื่อนไหวด้วย ความสามารถและมันสมองของพวกเขาเป็นจุดแข็ง ทำให้กองกำลังแม่ม่ายดำครองแชมป์อันดับหนึ่งในการจัดอันดับทหารรับจ้างมาอย่างยาวนาน
แม้แต่รัฐบาลของแต่ละประเทศ ก็มีเบื้องหลังเคยร่วมมือกับกองกำลังแม่ม่ายดำทั้งนั้น พวกเขาช่วยสะสางในเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ และก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง กฎของพวกเขามีอยู่ว่า : ขอแค่ราคาสมน้ำสมเนื้อ พวกเขาก็จะช่วยให้ท่านบรรลุจุดประสงค์
ตอนที่ซ่งเสี่ยวหลงเริ่มทำงานเต็มตัว เขาเคยคิดวางแผนควบรวมกิจการต่างๆเพื่อให้ซ่งเวยหลันเห็นว่าตนมีพรสวรรค์ด้านธุรกิจ ซ่งเสี่ยวหลงได้เคยจ่ายเงินค่าจ้างอย่างหนักให้แก่นักฆ่ากลุ่มนี้
ในขณะที่แผนควบรวมกิจการกำลังจะบรรลุผล มีบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นชายสูงวัยอายุราวหกสิบกว่ากินปลาอยู่ในบ้านจู่ๆก็ก้างปลาติดคอ ยังไม่ทันส่งไปโรงพยาบาลก็ตายเสียก่อน
หลังจากการสอบสวนอย่างละเอียด เรื่องนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่นอกจากซ่งเสี่ยวหลงและเหมียวจื่อหลงแล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาเป็นคนวางแผน จนถึงตอนนี้ซ่งเสี่ยวหลงก็ยังไม่รู้ว่าตอนนั้นกลุ่มทหารรับจ้างใช้วิธีไหน
หลายปีก่อนซ่งเสี่ยวหลงเคยเรียกใช้กองกำลังแม่ม่ายดำ ต้องการให้พวกเขาทำให้เยี่ยเทียนตายด้วยอุบัติเหตุ น่าเสียดายที่จู่ๆทหารกลุ่มนี้ก็แยกย้ายกันไปอย่างไม่มีเหตุผล ถึงทำให้คนๆนั้นที่ปลอมตัวเป็นพนักงานโรงแรมไม่รับงานลอบสังหารเยี่ยเทียน
“เสี่ยวหลง กลุ่มทหารรับจ้างนั้นมีปัญหาภายใน พวกเขาเลิกรับงานมาหลายปี แต่ตอนนี้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นภารกิจแรกที่พวกเขารับ”
สำหรับทหารรับจ้างกลุ่มนี้ เหมียวจื่อหลงให้ความไว้วางใจอย่างเต็มเปี่ยม ถ้าเทียบกับกลุ่มทหารนักรบที่รู้แต่เรื่องการต่อสู้ในสนามรบนั้น ทหารรับจ้างกลุ่มนี้มีสติปัญญาเหนือกว่ามาก ด้วยเหตุนี้พวกเขายังคงยืนหนึ่งอยู่บนตำแหน่งนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก
แม้ว่าจะเพิ่งมารวมตัวกันใหม่ แต่พวกเขาได้เรียกราคาไว้สูงมาก เพียงในวันเดียว พวกเขาได้มอบแผนการให้สามแผน แสดงถึงความเชี่ยวชาญ ความเป็นมืออาชีพของพวกเขา เหมียวจื่อหลงมองว่า ไม่ว่าจะใช้แผนไหน เยี่ยเทียนจะต้องตายแบบไร้ที่ฝังอย่างแน่นอน
ซ่งเสี่ยวหลงถาม “เพิ่งรวมตัวกันใหม่ คนในนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปใช่ไหม? ทำไมตอนนั้นพวกเขาถึงสลายกลุ่มไปหละ?”
เหมียวจื่อหลงส่ายหน้า “คนในนั้นไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นหกคนเดิม เสี่ยวหลง วางใจเถอะ ฉันไม่ได้เรียกใช้พวกเขาครั้งนี้เป็นครั้งแรก อีกอย่างถ้าเรื่องนี้ไม่สำเร็จ พวกเขาจะไม่รับเงินค่าจ้าง”
เหมียวจื่อหลงนิ่งไปพักหนึ่งแล้วบอกต่อว่า “นอกจากนี้ยังมีทหารมืออาชีพจากคองโกอีกหกร้อยกว่าคน พวกเขามีอาวุธหนักพร้อมมือ คอยวางกับดักอยู่รอบนอกกลุ่มทหารรับจ้างอีกที ถ้าเยี่ยเทียนหนีรอดจากการตามฆ่าของทหารรับจ้างมาได้ แต่จะหนีจากกองทหารคองโกพวกนั้นไม่ได้ พวกเขาเหมือนเป็นเครื่องจักรฆ่าคน!”
ทหารมืออาชีพที่เหมียวจื่อหลงจ้างมากลุ่มนี้กำลังทำสงครามอยู่ในสมรภูมิ จึงเรียกตัวมาได้แค่ทหารชั้นยอดหกร้อยกว่านายเท่านั้นเพื่อภารกิจนี้ และทั้งหกร้อยคนนี้ต่างพิสูจน์ฝีมือในสนามรบมาแล้วว่าพวกเขาเป็นนักฆ่ามือฉมัง
แค่เยี่ยเทียนเพียงคนเดียว เหมียวจื่อหลงจ่ายข้อแลกเปลี่ยนและเงินทองไปมหาศาลเพียงเพื่อสนองความโกรธแค้นและความปรารถนาให้เยี่ยเทียนตาย คนที่เขาใช้เหล่านี้สามารถล้มล้างอำนาจประเทศเล็กประเทศหนึ่งได้เลยทีเดียว
นอกจากทหารสองกลุ่ม เหมียวจื่อหลงยังซ่อนนักฆ่าเอาไว้อีกคนหนึ่ง นั่นก็คือเหลยหู่และเจียงซาน ต่อให้เยี่ยเทียนโชคดีหนีจากพวกทหารไปได้ แต่หนีไม่พ้นความสามารถในการควบคุมจิตของเจียงซาน ภายในไม่กี่วินาที เยี่ยเทียนจะถูกซ้อมจนไม่เหลือชิ้นดี
เหมียวจื่อหลงอธิบายแผนให้เขาฟังคร่าว ๆ ซ่งเสี่ยวหลงโบกมือ “พี่เหมียว เรื่องพวกนี้ผมไม่สนหรอก ผมแค่รอดูผล แผนการต่างๆน่ะพี่ไปจัดการเถอะ ผมแค่ต้องการให้เยี่ยเทียน….ตาย!”
ดวงหน้าซ่งเสี่ยวหลงซ่อนความอำมหิตเอาไว้ เขากระดกแก้วส่งไวน์แดงเข้าปาก กัดฟันแล้วเขวี้ยงแก้วไวน์ลงบนพื้นจนแตกละเอียดเพื่อความสะใจ เขาเหมือนมองเห็นเค้าลางๆของจุดจบชีวิตเยี่ยเทียนแล้ว
“เสี่ยวหลง วางใจเถอะ เหลยหู่กับเด็กสาวคนนั้นกำลังไปที่เมืองโยฮันน์เนสเบิร์ก ฉันเองก็จะรีบตามไป หลังจากนี้สามวัน นายรอฟังข่าวดีได้เลย!”
เหมียวจื่อหลงรับปากอย่างมั่นใจ กองทัพและกลุ่มทหารที่แข็งแกร่งที่สุดที่โหดเหี้ยมที่สุดได้มารวมตัวอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าเขายังจัดการกวาดล้างเยี่ยเทียนไม่ได้ เขายอมใช้เชือกแขวนคอตายเสียดีกว่า
………………………………………