หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 857 รักษา
“วูวู…” เจ้าสิงห์ขนทองส่งเสียงร้องกระซิกๆ และทำท่าหวาดกลัว แต่มันไม่ได้กระโดดใส่เยี่ยเทียน มันเริ่มแสดงความฉลาดที่ไม่เข้ากับอายุของมัน
“ต่อไปนี้เจ้าชื่อ “เสี่ยวจิน” ก็แล้วกัน! ”
เยี่ยเทียนมองเจ้าสิงห์ขนทองแว๊บหนึ่ง ถ้าจะพูดถึงพ่อแม่ของมันมีบุญคุณกับตัวเอง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะอสูรสามตัวนั่น เยี่ยเทียนคงต้องแก่ตายอยู่บนเกาะ “เผิงไหล” แล้ว ไม่มีโอกาสกลับมาพี่น้องเป็นแน่
“วูวู…”
หลังจากได้ยินชื่อ เจ้าตัวเล็กเอียงหัวคล้ายกับคิดบางอย่าง แล้วมันก็กระโดดจากหัวไหล่ของเหลยหู่ไปที่กลางอกของเยี่ยเทียน และเอาหัวมุดอยู่ตรงนั้น ท่าทางดูไร้เดียงสา พลังวิปริตที่กลืนกินน้ำสมองของสัตว์ประหลาดแทบจะไม่มีเหลือ
“แกนี่มันฉลาดจริงนะ”
เยี่ยเทียนขำท่าทีของเจ้านี่
“ดูเหมือนว่าเกาะจะมีส่วนช่วยยับยั้งความฉลาดของสัตว์โบราณ อย่างสัตว์โบราณดึกดำบรรพ์แบบนี้ ควรจะมีความฉลาดตั้งแต่เกิดถึงจะถูก”
“เอาล่ะ ต่อไปนี้แกจะเป็นสัตว์ผู้พิทักษ์ของสำนักเสื้อป่านของฉัน เดี๋ยวฉันพาแกไปอาณาเขตแห่งเทพกสิกร เสินหนงเจี้ย แล้วจะแนะนำเพื่อนอีกสองตัวให้แกรู้จัก”
ตอนแรกเยี่ยเทียนอยากจะลูบหัวปลอบใจเจ้าตัวเล็กสักหน่อย แต่ทั้งตัวถูกห่อไว้อย่างกับบ๊ะจ่าง สองแขนยิ่งไม่กล้าขยับ จึงทำได้เพียงมองไปที่เหลยหู่และพูดว่า
“มันชอบกินพลอยวิเศษธาตุทอง งั้นก็ป้อนให้มันวันละครึ่งก้อนก็พอนะ ไม่อย่างนั้นพลอยวิเศษแค่นี้คงไม่พอหรอก! ”
“ เยี่ยเทียนยังพูดไม่ทันจบ เสี่ยวจินที่เกาะอยู่ตรงหน้าอกก็ใช้กรงเล็บข่วน เยี่ยเทียนด้วยความไม่พอใจสมองสิงห์โตและเสือไม่มีให้กิน แล้วยังจะมากำหนดปริมาณพลอยวิเศษอีก
“ที่นี่มีของอร่อยมากมาย รับรองแกต้องชอบ วันหลังแกอาจจะไม่อยากกินพลอยวิเศษอีกเลยก็ได้นะ”
เยี่ยเทียนส่งสัญญานทางสายตาไปให้กับโจวเซี่ยวเทียนพูดว่า
“ที่นี่มีของกินดีๆอะไรบ้าง? ทำมาให้เจ้าตัวเล็กชิมหน่อยซิ เสี่ยวจิน ถ้าแกไม่ชอบ มาหาฉันได้เลย! ”
“อาจารย์ครับ สบายใจได้ ผมจะทำให้ เสี่ยวจินกิน จนมันลืมพลอยวิเศษไปเลย! ”
โจวเซี่ยวเทียนเห็นเจ้าสิงห์ขนทองกินพลอยวิเศษเป็นอาหารจนรู้สึกเสียดายไปหมด หลังจากได้ยินเยี่ยเทียนพูดแบบนั้น เขาก็ยืดอกขึ้นและตบอย่างมั่นใจ
คนในห้องรวมถึงเหลยหู่ด้วย ล้วนแต่เป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องเงินทอง พอได้ยินสิงห์ขนทองชอบกินสมองสิงห์โตกับเสือ โจวเซี่ยวเทียนก็เริ่มคิดแล้วว่าจะซื้อสวนเสือไว้สักที่หนึ่งแล้วให้สถานที่แห่งนั้นเป็นแหล่งอาหารให้กับเจ้าตัวเล็ก
“วูวู” เมื่อเห็นว่าโจวเซี่ยวเทียนเรียกมัน เสี่ยวจินจึงหันไปมองเยี่ยเทียนก่อน ในโลกของสัตว์โบราณอย่างพวกมัน สิ่งที่น่าเกรงขามก็คือคนที่เก่งกว่า และในตอนนี้ ที่แห่งนี้ มีเพียงเยี่ยเทียนเท่านั้นที่ทำให้สิงห์ขนทองรู้สึกน่าเกรงขาม
“เสี่ยวจิน ฉลาดจริงนะ”
เมื่อเห็นท่าทีของมัน เยี่ยเทียนยิ้มพูดว่า
“ไปสิ ไม่เจอของอร่อยค่อยกลับมาหาฉัน พลอยวิเศษก็ยังอยู่ไม่ใช่เหรอ? ”
“ศิษย์น้องเล็ก เจ้า…เจ้าตัวเล็กนี่มันเหมือนกับเป็นบรรพบุรุษของเราเลยนะ!”
จั่วเจียจวิ้นอดขำไม่ได้กับท่าทีสิงห์ขนทอง เสี่ยวจิน ที่เดินตามหลังโจวเซี่ยวเทียนออกไป แต่ก็ยังหันกลับมามองถึงสามรอบ พลอยวิเศษแค่ก้อนเดียวสามารถทำให้ระดับโฮ่วเทียนเพิ่มเป็นระดับเซียนเทียนได้ มันวิเศษมาก แต่สำหรับเสี่ยวจิน มันกินพลอยวิเศษเหมือนกินลูกอม ทำให้คนที่เห็นถึงกับบีบหัวใจ
เยี่ยเทียนส่ายหัวพูดออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง
“ศิษย์พี่รอง อย่าไปดูถูกมันนะ ถ้าเจ้าสิงห์ขนทองมันโตขึ้นจริง การมีตัวตนของมันจะไม่ใช่เรื่องธรรมดา เกรงว่าสำนักวิชาใหญ่ที่มีในสมัยโบราณ ไม่อยากจะให้มีสัตว์โบราณแบบนี้! ”
หลังจากที่จางซันเฟิงเกิดมาบนโลกนี้ เขาบันทึกตำนานต่างๆไว้มากมาย เขาเคยไปอีกสองเขตแดนที่ซึ่งมีมนุษย์อาศัยอยู่ด้วย เขตแดนเหล่านั้น ถึงแม้จะมีสัตว์โบราณหายากที่สูญพันธุ์หมดแล้วในโลกมนุษย์ แต่สัตว์โบราณระดับสิงห์ขนทองแบบนี้ มีเพียงหนึ่งเดียวและตัวเดียวเท่านั้น
“ไม่ต้องรอให้มันโต พวกเราก็คงโดนมันกินหมดนี่แหละ ”
จั่วเจียจวิ้นไม่เคยเห็นอำนาจของพ่อแม่ของเจ้าตัวเล็ก ก็เลยยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเยี่ยเทียนพูดขนาดนี้แล้ว เขาก็ทำอะไรไม่ได้ จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและพูดว่า
“ศิษย์น้องเล็ก จะกลับปักกิ่งหรือไปเกาะฮ่องกง? ฉันยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่ของเธอเลยว่าพวกเราเจอเธอแล้ว”
“ที่บ้านผมไม่มีอะไรใช่มั้ยครับ? ”
พอได้ยินจั่วเจียจวิ้นเอ่ยถึงที่บ้าน เยี่ยเทียนก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ตั้งแต่ออกมาได้ เขายังไม่ได้ถามถึงพ่อแม่และภรรยาเลย หรือว่าฝึกพลังจนจิตบริสุทธ์ไร้ความอยากแล้วจริงๆ?
“ไม่มีอะไร คุณตาของเธอบอกว่าเธอออกไปทำงานให้กับทางรัฐบาล ตงผิงก็เลยไม่ได้ถามอะไรมาก มีฉันกับพี่ใหญ่อยู่ด้วย เธอไม่ต้องเป็นห่วงที่บ้านหรอก”
เรื่องที่เยี่ยเทียนหายตัวไป ทั้งจั่วเจียจวิ้นและคนอื่นแทบล้มประดาตาย ไม่เพียงแต่ต้องลากถังเหวินหย่วนมาช่วยกันแต่งเรื่อง แม้แต่โก่วซินเจียเองถึงกับต้องไปปักกิ่งเพื่อให้ซ่งเฮ่าเทียน ไปอธิบายให้กับลูกสาวและลูกเขยฟัง เพราะผู้เฒ่าคนนี้มีตำแหน่งสูงส่ง คำพูดที่ออกมาจากปากเขาจึงมีน้ำหนักค่อนข้างมาก และคนที่บ้านของเยี่ยเทียนก็เชื่อจริงๆ
“ครับ ถ้ายังงั้นผมยังไม่กลับไปจะดีกว่า”
เยี่ยเทียนครุ่นคิดไปครู่หนึ่งและหันไปถามเหลยหู่ว่า
“ได้หยิบเบาะรองนั่งสมาธิออกมาด้วยมั้ย?”
“เบาะรองนั่งสมาธิ ผมหยิบมาด้วยครับอาจารย์”
เหลยหู่พยักหน้า หยิบเบาะรองนั่งสมาธิออกมา และพูดว่า
“ศิษย์ไร้ความสามารถ บันทึกมู่เจี่ยนไม้ไผ่ของนักพรตจางผมหยิบมาไม่ทัน มันยังตกอยู่ในเขตแดนนั่นครับ”
ตอนนั้นเหลยหู่เก็บบันทึกมู่เจี่ยนไม้ไผ่ในกระเป๋าหนังใบหนึ่ง แต่มันไหลออกจากไหล่ของเขาตอนอยู่กลางอากาศตกลงไปในทะเล
“เสียดาย นั่นมันของดีเลยนะ! ”
เยี่ยเทียนทำหน้าเสียดาย ถึงแม้เขาจะจำสิ่งที่บันทึกไว้ในมู่เจี่ยนไม้ไผ่ได้ทั้งหมดได้ แต่เขาไม่สามารถคัดลอกบันทึกนั่นลงไม้ได้อย่างมีเสน่ห์เหมือนกับจางซันเฟิง ได้แต่รอให้เขาเข้าถึงระดับจินตันก่อน อาจทำได้ก็ได้
เยี่ยเทียนส่ายหัวหันไปหาโก่วซินเจีย
“ศิษย์พี่ใหญ่ครับ ผมต้องรบกวนพี่เรื่องหนึ่ง ช่วยย้ายของที่ไม่ได้ใช้ในห้องนี้ออกไปให้หมดหน่อยครับ จากนั้นก็ตั้งค่ายกลรวมห้าธาตุ ผมจะรักษาอาการบาดเจ็บ เหลยหู่ แกก็อยู่เรียนรู้กับอาจารย์ลุงนะ”
ในศิษย์พี่ทั้งสองของเยี่ยเทียน จั่วเจียจวิ้นมีความชำนาญเรื่องทำนายถามกว้าเป็นอย่างมาก ส่วนโก่วซินเจียก็ศึกษาวิชาค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าเยี่ยเทียน ดังนั้นงานตั้งค่ายกลจึงตกเป็นหน้าที่ของโก่วซินเจีย
“ครับอาจารย์”
“ไม่มีปัญหาศิษย์น้องเล็ก”
เหลยหู่กับโก่วซินเจียตอบพร้อมกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้าระดับเซียนเทียนแล้วทั้งคู่ แต่เยี่ยเทียนเป็นเจ้าสำนักของสำนักเสื้อป่าน ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
ด้วยพลังวิชาของโก่วเซินเจีย แม้จะต้องถอดชิ้นส่วนเรือลำนี้ออกทั้งหมดก็ง่ายเหมือนปลอกกล้วย ผ่านไปครู่เดียว เรือสำราญอันหรูหราก็กลายเป็นเรือที่ว่างเปล่าไปทันที เพราะเหลยหู่รู้สึกว่ามันเกะกะ เขาจึงโยนโซฟาและของต่างๆนานาทิ้งลงทะเล
“ศิษย์พี่ใหญ่ วางพลอยวิเศษธาตุทองตรงนี้ห้าอัน! ”
“เหลยหู่ ถัดจากขาขวาแกไปสามก้าว วางพลอยวิเศษธาตุน้ำหกอัน!”
“ไม่ได้ ปราณวิเศษตรงข้างซ้ายไม่ค่อยสมดุล ศิษย์พี่รอง ช่วยวางพลอยวิเศษธาตุดินอีกสี่อัน!”
พอเคลียร์ของในห้องเสร็จ เยี่ยเทียนก็เริ่มให้ทุกคนช่วยกันตั้งค่ายกล ค่ายกลนี้แตกต่างจากค่ายรวมห้าธาตุที่สืบทอดมาจากโบราณ เยี่ยเทียนทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้ปราณวิเศษที่อยู่ในพลอยวิเศษออกมาได้อย่างเต็มที่
แต่ก็ยังทำให้โก่วซินเจียกับจั่วเจียจวิ้นรู้สึกเสียดาย
เมื่อครู่พวกเขาลองคำนวณดูพบว่า ในกระเป๋าหนังที่เหลยหู่เอามาด้วย มีพลอยวิเศษธาตุต่างๆอยู่ 931 อัน ธาตุไม้มีแค่ 30-40อัน เป็นพลอยวิเศษที่เยี่ยเทียนเก็บเอง ที่เหลือถูกใช้ไปตอนที่อสูรใหญ่พวกนั้นต้านภัยอัสนีสวรรค์
ค่ายกลที่เยี่ยเทียนตั้งขึ้น ต้องใช้พลอยวิเศษถึง 368 อัน ลดลงมากกว่าหนึ่งส่วนสามอีก ทำให้โก่วซินเจียและจั่วเจียจวิ้นที่เหมือนคนถูกรางวัลรู้สึกอยากจะโมโหเยี่ยเทียน
“ศิษย์พี่ใหญ่ ไม่เป็นไร ถึงแม้พลอยวิเศษจะเป็นของพิเศษ แต่เราต้องหามันเจออีกครับ! ”
เยี่ยเทียนขำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ของศิษย์พี่ทั้งสองคน จางซันเฟิงทิ้งพิกัดการเข้าออกของอีกสองเขตแดนเอาไว้ให้ ที่นั่นมีต้นน้ำของปราณวิเศษ ขอแค่มีพลังระดับเซียนเทียนขั้นกลาง ก็จะเข้าออกที่นั่นได้อย่างอิสระ ถ้าต้องใช้พลอยวิเศษจริง เยี่ยเทียนจะต้องหาวิธีไปที่นั่นและเอามันออกมาได้แน่นอน
พอได้ยินเยี่ยเทียนพูดแบบนั้น สีหน้าของทั้งคู่ค่อยดีขึ้นหน่อย เหลยหู่พยุงเยี่ยเทียนขึ้นมาพิงที่หัวเตียง แล้วนำเบาะรองนั่งสมาธิวางไว้ใต้ตัวของเยี่ยเทียน จากนั้น สามคนก็เดินออกจากห้องไป
“ถ้าไม่มีเบาะรองนั่งสมาธินี่ ฉันคงต้องรักษาอาการบาดเจ็บอย่างน้อยก็สองปี! ”
เยี่ยเทียนสัมผัสถึงปราณวิเศษธาตุไม้ที่มาจากด้านล่าง เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก เพราะความบริสุทธิ์ของปราณวิเศษจากเบาะรองนั่งสมาธิ มันไม่ได้ด้อยไปกว่าพลอยวิเศษธาตุไม้ชั้นดีเลย ตอนที่ปราณวิเศษเริ่มเคลื่อนไหวไปตามเส้นชีพจร เยี่ยเทียนรู้สึกได้ทันทีว่าชีพจรที่แหลกสลายกำลังสมานเข้าด้วยกัน
“ช้าไป เปิด!”
เยี่ยเทียนเบิกตากว้าง จิตตั้งเดิมปรากฏขึ้นอยู่ข้างบนของร่างกาย จิตตั้งเดิมที่มีใบหน้าพอๆกับเยี่ยเทียน สองมือชิดกันเริ่มรวบรวมจิต ทันใดนั้น ปราณวิเศษในพลอยวิเศษจากมุมต่างๆ เริ่มพุ่งออกมาไปหาเยี่ยเทียน
“รู้สึกสบายมาก พอเข้าถึงระดับเจี่ยตันแล้ว ปริมาณปราณวิเศษที่เข้าไปในร่างกาย มากกว่าเมื่อก่อนสิบกว่าเท่าอีก! ”
ที่จริงคนที่อยู่ระดับเซียนเทียนไม่ต้องใช้พลอยวิเศษมากขนาดนั้น แต่ด้วยขีดจำกัดของพลังกับระดับปราณวิเศษของพลอยวิเศษหนึ่งก้อน เกือบครึ่งหนึ่งก็อาจจะเสียไปโดยไม่ได้ใช้เลย
เพราะฉะนั้นถึงแม้จะอยู่ดินแดนแห่งทวยเทพ นอกจากเทพเซียนระดับจินตันแล้ว ลูกศิษย์เก่งที่แต่ละพรรคฝึกฝนเป็นพิเศษ จะใช้ปราณวิเศษช่วยทุกวันก็คงเป็นไปไม่ได้ มีเพียงผู้ที่เพิ่งเข้าระดับใหม่ถึงจะใช้ปราณวิเศษได้
แต่ตอนนี้ร่างกายของเยี่ยเทียนเหมือนถ้ำไม่มีจุดสิ้นสุด ปราณวิเศษที่กำลังพลุ่งพล่าน ไม่ได้ใช้ไปสูญเปล่า มันซึมเข้าร่างกายของเยี่ยเทียนทั้งหมด หมอกขาวซึมออกมาข้างนอกผิวเยี่ยเทียน ไม่นานนักหมอกก็คลุมเขาไว้ทั้งตัว
………………………….