หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 172.1 ไข่ดำสามฟอง (1)
หนึ่งเค่อต่อมา อาเว่ยคิดว่าคนในหมู่บ้านครึ่งหนึ่งคงถูกใช้กู่เป็นแน่ เขาเดินออกจากประตูไปด้วยท่าทางภาคภูมิใจ
“ขอบใจเจ้ามาก ต้าเป่า!”
“แล้วก็เอ้อร์เป่ากับเสี่ยวเป่าด้วย ขอบใจพวกเจ้ามาก”
ทันทีที่อาเว่ยเดินไปถึงทางเข้าหมู่บ้าน ก็ได้ยินเสียงชื่นชมของป้าๆ หลายคน
อาเว่ยรู้สึกงงงวย เมื่อหันไปดูก็แทบล้มทั้งยืน!
ลูกศิษย์ตัวน้อยของเขากำลังทำอะไรอยู่? เอาหนอนพิษกู่ที่เลี้ยงจนอ้วนไปป้อนไก่! ! !
เด็กอ้วนป้อนไก่ทั้งหมู่บ้านด้วยวิธีการใช้กู่ของอาเว่ย ปาไปอย่างแม่นยำ ไก่ต่างดีอกดีใจ!
อาเว่ย “…”
เขาคิดอยากตายยิ่งนัก!
แม้หนอนพิษกู่เหล่านี้จะไม่ได้มีพิษรุนแรงอย่างราชันสัตว์พิษ แต่อาเว่ยก็เลี้ยงด้วยมาด้วยความยากลำบากจนอ้วนท้วน พวกมันถูกเลี้ยงดูมาเป็นพิเศษสำหรับลูกศิษย์สามคน แต่สุดท้ายกลับถูกเด็กอ้วนทำลาย…
ว่ากันว่าทุกสิ่งล้วนมีจุดอ่อน แม้กู่จะมีพิษ ทว่าไก่ก็ยังสามารถกินพวกมันได้
อาเว่ยจิตใจเจ็บปวดเกินกว่าจะอยากคุยกับลูกศิษย์
หลังจากเด็กอ้วนทั้งสามป้อนไก่จนหมดทั้งหมู่บ้านแล้ว ก็เดินกลับไปบ้านอย่างมีความสุข!
อวี๋หวั่นเห็นบุตรชายที่เธอเฝ้าคิดถึงทุกเช้าเย็น ก็รีบกอดทั้งสามคนไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับพรมจูบ แต่ไม่รู้คิดไปเองหรือไม่ เธอรู้สึกว่าเด็กทั้งสามดูตัวหนักขึ้นกว่าเมื่อก่อน…
ไม่เพียงแค่หนักเท่านั้น แต่ยังคล้ำลงอีกด้วย
เด็กอ้วนผิวขาวบอบบาง ตากแดดทั้งวันจนเปลี่ยนเป็นไข่ดำคล้ำสามฟอง
เหล่าไข่ดำมุดหัวเข้าในอ้อมอกมารดา และถูไปมาอย่างแนบชิด
อวี๋หวั่นลูบหัวไข่ดำทั้งสาม และเอ่ยอย่างแผ่วเบา “คิดถึงแม่หรือยัง?”
คิดถึง
ทั้งสามกอดคออวี๋หวั่นไม่ยอมปล่อย
“แม่ก็คิดถึงพวกเจ้า ท่านพ่อก็มาด้วย คิดถึงท่านพ่อหรือไม่?” อวี๋หวั่นระบายยิ้มมองไปที่เยี่ยนจิ่วเฉา
เยี่ยนจิ่วเฉาทำหน้าเหม็น
เหล่าไข่ดำทำปากมุ่ย
หึ ไม่คิดถึง!
ใบหน้าเยี่ยนจิ่วเฉากลายเป็นสีดำ!
อาหารเที่ยงถูกจัดที่บ้านสาม อวี๋เซ่าชิงกับลุงใหญ่ลงมือทำอาหารด้วยตนเอง โดยมีอวี๋เฟิงเป็นลูกมือ ทำกับข้าวเลิศรสมากมายเต็มโต๊ะใหญ่
ในครอบครัวอื่นสตรีมักเป็นคนทำอาหาร ทว่าสกุลอวี๋กลับตรงกันข้าม เหตุผลเพราะฝีมือการทำอาหารของสตรีสกุลอวี๋ไม่ดีนัก ในวันธรรมดาก็กินๆ ไป ทว่ายามบุตรสาวกับบุตรเขยกลับมาบ้าน พวกเขาย่อมไม่อาจละเลย
แน่นอนว่าสถานการณ์ที่ไข่ดำทั้งสามมาอยู่ที่นี่ในระยะยาวได้ค่อยๆ กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ท่านตาใหญ่ทำอาหารอร่อย ท่านตาก็ทำอาหารอร่อย ส่วนท่านยายทั้งสองทำได้รสชาติแย่ยิ่ง!
ฝีมือการทำอาหารของนางเจียงไม่ต้องพูดถึง ส่วนฝีมือการทำอาหารของป้าสะใภ้ใหญ่ในหมู่บ้านก็ยังนับว่าไม่เลว แต่ผู้ใดให้ปากของไข่ดำทั้งสามได้รสฝีมือของลุงใหญ่กับอวี๋เซ่าชิงเล่า บุรุษใหญ่ทั้งสองจึงเปลี่ยนมาทำอาหารให้พวกเขาทานทุกวัน ไม่น่าแปลกใจที่ทั้งสามคนอ้วนขึ้น
เถี่ยตั้นน้อย เจินเจินน้อย และไข่ดำทั้งสามนั่งล้อมโต๊ะเล็ก ส่วนผู้ใหญ่ก็นั่งโต๊ะแปดเซียน เจียงไห่กับเจียงเสี่ยวอู่ถูกบุรุษในหมู่บ้านเรียกให้ไปหา เดาว่าคงจะไปดื่มกันสักหม้อสองหม้อ
พ่อครัวจวนคุณชายฝีมือทำอาหารไม่เลว ทว่าอาหารที่ท่านพ่อและลุงใหญ่ปรุงนั้นดูเรียบง่ายกว่า ขาหมูไร้กระดูกชามนั้น อร่อยมากจนอวี๋หวั่นแทบรอที่จะกลืนมันเข้าไปทั้งหมดไม่ไหว
ขาหมูไร้กระดูกที่ตุ๋นจนเปื่อย หนังขาหมูสั่นกระเพื่อม ดูแวววาวเป็นมันเงา เด็กๆ ก็ชื่นชอบเช่นกัน เถี่ยตั้นน้อย รู้จักดูแลน้องสาวและหลานชายของเขา เขาคีบหนังขาหมูอันอ่อนนุ่มออกมาและใส่ลงในชามของพวกเขาคนละชิ้น ส่วนกระดูกก็นำมาไว้ในถ้วยของตน เนื้อไม่ติดมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาเช่นกัน
“เอาอีก” เจินเจินน้อยกินหมดแล้วก็ยื่นชามไปให้เถี่ยตั้นน้อย
เถี่ยตั้นน้อยคีบเนื้อขาหมูชิ้นใหญ่ให้นาง ตามด้วยท้องปลาที่แกะก้างแล้วอีกหนึ่งชิ้น “พี่เถี่ยตั้นดีหรือไม่?”
“ดี พี่เถี่ยตั้นดีที่สุด เจินเจินชอบพี่เถี่ยตั้นที่สุด รองลงมาก็คือพี่ใหญ่และพี่รอง” เจินเจินน้อยตอบอย่างคลุมเครือ นางใกล้อายุครบสี่ขวบแล้ว นับวันยิ่งพูดเก่งขึ้น แม้ในบางครั้งที่ทะเลาะกับป้าสะใภ้ใหญ่ นางจะยังสู้ไม่ได้ก็ตาม
ส่วนไข่ดำทั้งสามยังพูดไม่ได้
ทั้งสามมีเพื่อนเล่นมากมาย คนที่อายุมากกว่าในบ้านก็สอนให้พวกเขาพูดในยามว่าง หลังจากเถี่ยตั้นน้อยเลิกเรียน ก็กลับมาสอนสิ่งที่เรียนมาให้พวกเขาฟัง กระทั่งพวกเขารู้จักตัวอักษรมากมาย ทว่าก็ยังไม่อ้าปากเอ่ยสิ่งใด
อวี๋หวั่นตั้งใจจะพักในหมู่บ้านกับเยี่ยนจิ่วเฉาสักสองสามวัน หนึ่งเพราะหมู่บ้านเหลียนฮวามีสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การฝึกตน เป็นที่อยู่ของคนเก่งมากมาย ทำให้เหมาะแก่การรักษาอาการป่วยอย่างยิ่ง สองเพราะทั้งคู่เห็นแก่บุตรชาย เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับจวนคุณชายที่ว่างเปล่า ที่นี่มีน้าเถี่ยตั้น น้าเจินเจิน ท่านอาจารย์อาเว่ยและลูกสมุนอีกนับไม่ถ้วนในหมู่บ้านเหลียนฮวา ซึ่งเอื้อให้บุตรชายได้เติบโตมาอย่างมีความสุข
เยี่ยนจิ่วเฉาได้ลาหยุดยาวกับราชสำนักและเน่ย์เก๋อแล้ว ฮ่องเต้คิดว่าเขาเป็นคนไม่จริงจัง จึงมิได้ตรัสสิ่งใด เพียงแค่ถอนหายใจด้วยความยินยอม
ทั้งสองอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเหลียนฮวา
ตอนเย็นของวันรุ่งขึ้น เจียงไห่ก็พาอวี๋ซงกลับไปส่งที่กั๋วจื่อเจียน ไม่เกินความคาดหมายของลุงใหญ่ ชายหนุ่มในหมู่บ้านถูกอวี๋ซงรินสุราให้จนเมามาย คนในโต๊ะดื่มกับอวี๋ซงจนหลับไปยกเว้นเจียงไห่ สุดท้ายอวี๋ซงก็ยังกลับห้องมาด้วยหัวสมองที่สดชื่นและอ่านหนังสือต่อถึงครึ่งชั่วยาม
ป้าสะใภ้ใหญ่แอบมองบุตรชายผ่านรอยแตกของประตู พลันยิ้มกว้างจนเกือบถึงใบหู
คนโตหาเงินได้ คนรองเรียนหนังสือได้
บุตรชายทั้งสองล้วนมีอนาคตที่ดี!
ปลายเดือนเจ็ด อิ่งสือซันและอิ่งลิ่วก็กลับจากการตามหาวัตถุดิบยา พวกเขานำมันไปที่จวนคุณชายเพื่อให้ชุยเฒ่าปรุงยาก่อน
ชุยเฒ่าไม่คิดว่าสูตรยาที่ยุ่งยากเช่นนี้ เพียงบอกว่าจะหาก็หาเจอจริงๆ ดูเหมือนว่าในที่สุด เขาก็เข้าใจว่าเหตุใดแม่ลูกสวี่เสียนเฟยจึงไม่อาจทำอันตรายเยี่ยนจิ่วเฉาได้ แค่ความสามารถขององครักษ์ผู้นี้ก็เกินกว่ายอดฝีมือทั่วไปแล้ว
ชุยเฒ่าปรุงยาเม็ดตามสูตรยาที่หวั่นเจาอี๋บอกในทันที
“ได้แล้ว เอาไปให้คุณชายของเจ้า!” ชุยเฒ่ายัดยาใส่มือของอิ่งลิ่วด้วยสีหน้าร้อนใจ
อิ่งสือซันเย็นชาและดุร้ายเกินกว่าที่เขาจะกล้ายัดใส่มือ จึงเป็นอิ่งลิ่วที่ดูอารมณ์ดีและเป็นมิตรมากกว่า
“ช้าก่อน” อิ่งสือซันคว้าขวดยามาเท “เจ้ากินก่อน”
“เจ้า!” ชุยเฒ่าโกรธจนหายใจไม่ออก “เจ้าสงสัยว่าข้าจะวางยาพิษคุณชายของเจ้ารึ?”
อิ่งสือซันกล่าวหน้าตาย “อย่างไรเจ้าก็เคยเป็นคนของสวี่เสียนเฟย”
ข้าเคยเป็น แล้วก็ต้องเป็นตลอดชีวิตหรือ?!
ชุยเฒ่าโมโหแทบขาดใจ แต่เขาก็รู้ว่าอิ่งสือซันไม่ใช่คนโง่ ชุยเฒ่าจ้องมองเขาอย่างดุร้าย “ข้าคงแก่เกินกว่าจะแต่งงานกับสตรีแล้ว! แต่นิสัยเช่นเจ้า มีสตรีมาชอบก็แปลกแล้ว!”
อิ่งลิ่วสงสัย “นิสัยของอิ่งสือซันไม่ดีอย่างไรรึ? ก็เป็นที่ชื่นชอบอยู่นี่”
อิ่งสือซันกระแอมในลำคอ “แค่ก!”
แน่นอนว่าชุยเฒ่าไม่มีทางวางยาพิษเยี่ยนจิ่วเฉา ทว่ายาเม็ดนี้ช่วยล้างสารพิษ และมีฤทธิ์ในการให้ความชุ่มชื้นภายในลำไส้ ชุยเฒ่าวิ่งไปห้องสุขาถึงสองรอบ นอกจากนี้ก็ไม่มีความผิดปกติอื่นใด
อิ่งสือซันเฝ้าสังเกตชุยเฒ่าหนึ่งวันหนึ่งคืน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรจึงนำไปให้เยี่ยนจิ่วเฉา
แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจก็คือ เมื่อเยี่ยนจิ่วเฉากินยานั้นลงไปแล้ว ก็ไม่ได้แสดงอาการล้างพิษใดๆ ออกมา
อวี๋หวั่นคิดว่าตนเองยังจับชีพจรได้ไม่ดีพอ จึงให้อิ่งสือซันพาตัวชุยเฒ่ามาที่นี่
ระหว่างทางชุยเฒ่ากระแทกกระเทือนจนอาเจียนตาเหลือก และในที่สุดก็ได้ลงจากหลังม้า ยังไม่ทันได้พักหายใจ ก็ต้องมาจับชีพจรให้เยี่ยนจิ่วเฉาแล้ว
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
อวี๋หวั่นถาม
อวี๋เซ่าชิงไปที่เหมือง นางเจียงแวะไปคุยเล่นที่บ้านป้าจาง เถี่ยตั้นน้อยกับไข่ดำทั้งสามอยู่ที่บ้านของอาเว่ย ในบ้านหลังใหญ่มีเพียงสองสามีภรรยาและอิ่งสือซัน จึงไม่จำเป็นต้องเอ่ยอย่างกังวลสิ่งใด
ชุยเฒ่าลูบเคราสีหน้าครุ่นคิด “ไม่ควรเป็นเช่นนี้สิ ข้าก็ทำตามขั้นตอนและปริมาณที่เขียนอยู่ในสูตรยาแล้ว”
อวี๋หวั่นชะงัก “หรือสูตรยาไม่ถูกต้อง?”
ชุยเฒ่าส่ายหัว “แม้ข้าจะไม่รู้ว่าพิษไป๋หลี่เซียงรักษาอย่างไร ทว่าสมุนไพรเหล่านั้นก็มีฤทธิ์ล้างพิษ แม้แต่พิษตู๋โจ้วที่ซื่อจื่อเคยถูกวาง ก็ยังมีผลไม่มากก็น้อย แต่ไม่ควรไม่มีอาการใดๆ แสดงออกมาเลย…ผิดพลาดที่ใดกันแน่?”
ขณะที่กำลังสนทนากัน หูของอิ่งสือซันก็ขยับ พลันเอ่ยด้วยความระแวดระวัง “ผู้ใด!”
เตาะแตะ~
เหล่าไข่ดำโผล่หัวและวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางน่ารัก
อิ่งสือซันพลันโล่งใจ
ไม่นานก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง!
ช้าก่อน คุณชายน้อยผิวขาวเนียนละเอียดราวกับหยกขัดเงาของพวกเขากลายเป็นก้อนถ่านตัวน้อยตั้งแต่เมื่อใด?!
……………………………………..