หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 352.2 ตกม้า? ต้าเป่ากลับมา (2)
อิ่งสือซันถามอย่างเศร้าสลด “คุณชาย ต้องการให้ข้าน้อยลงไปค้นหาหรือไม่?”
“ไม่ต้อง ขึ้นเขา” เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวพลางมองไปที่ภูเขาด้านข้าง
อาเว่ยเคยบอกว่า ตราบใดที่หนอนกู่ยังมีชีวิตอยู่ก็หมายความว่าต้าเป่าไม่เป็นไร เมื่อต้าเป่าไม่เป็นไร เยี่ยนอ๋องก็ต้องไม่เป็นไรเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าที่นี่มีบางอย่างรบกวนการรับรู้ของหนอนกู่ จู่ๆ มันก็หยุดเคลื่อนไหวกะทันหัน
นัยน์ตาของเยี่ยนจิ่วเฉากระตุก “ระวังกันหน่อย ใกล้ๆ นี้มีปรมาจารย์พิษอยู่”
“ขอรับคุณชาย” อิ่งลิ่วตอบ พลันเพิ่มการคุ้มกันรอบด้านกับอิ่งสือซัน
เนินเขาสูงชัน รถม้าไม่สามารถขึ้นไปได้ พวกเขาทั้งสามต้องเดินเท้าขึ้นไป อิ่งสือซันเปิดทางอยู่ด้านหน้าและใช้ดาบกำจัดหนามที่ขวางทางออกไป
“คุณชายระวัง!” อิ่งลิ่วจับเยี่ยนจิ่วเฉาไว้ แสดงให้เห็นว่ามีหินก้อนใหญ่อยู่ตรงหน้าเขา
หินก้อนใหญ่เพียงนี้ คุณชายไม่เห็นหรือ? จะสะดุดอยู่แล้ว!
อิ่งสือซันมองก้อนหินแวววาว จากนั้นก็มองคุณชายของเขา ดวงตาพลันสั่นไหว “คุณชาย ข้าจะแบกท่าน”
เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่ต้อง รีบขึ้นเขา”
อิ่งสือซันมองไปที่คุณชายอย่างลึกซึ้ง และบอกกับอิ่งลิ่วว่า “พยุงคุณชายให้ดี”
“เข้าใจแล้ว” อิ่งลิ่วกล่าว
ก่อนหน้านี้มีหนอนกู่นำทาง การค้นหาจึงนับว่าค่อนข้างราบรื่น ทว่ายามนี้หนอนกู่ไม่สามารถขยับได้แล้ว ทำให้พวกเขากระโดดไปรอบๆ ราวกับแมลงวันไร้หัว การค้นหาคนสองคนในเทือกเขาขนาดใหญ่ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร
อิ่งสือซันหลับตา พยายามกระตุ้นพลังภายในของเขาและสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวรอบตัว อย่างไรก็ตามในป่านี้มีนกและสัตว์ร้ายมากมาย เสียงร้องไม่มีที่สิ้นสุด ต่อให้มีการเคลื่อนไหวใดๆ ก็จะถูกกลบไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้หยา ดูสิ!” อิ่งลิ่วชี้ไปที่พื้นหญ้า
บนพื้นหญ้ามีบางสิ่งบางอย่างอยู่
มันคือก้อนเหม็นของต้าเป่า
พวกเขาควบคุมฟ้าควบคุมดินได้ แต่มีหรือจะสามารถควบคุมคนถ่ายหนักผายลมได้?
ต้าเป่ากินมากเกินไป เขาปล่อยก้อนเหม็นหลายครั้งมาตลอดทาง
อิ่งลิ่วกระโดดขึ้นอย่างมีความสุข “ที่นี่ก็มี! ที่นี่ ที่นี่!”
ทั้งสามคนเดินไปตามก้อนเหม็นของต้าเป่าสักพัก โดยคิดว่าคราวนี้พวกเขาจะได้พบกับต้าเป่า แต่พวกเขากลับต้องตกใจกับฉากตรงหน้า
พวกเขามาถึงขอบภูเขา ฝั่งตรงข้ามเป็นภูเขาอีกลูก แต่สะพานแขวนที่ทอดไปสู่ภูเขาลูกนั้น…ถูกคนตัดขาด
ณ กระท่อมเล็กกลางภูเขา เยี่ยนอ๋องนั่งอยู่บนเก้าอี้นวม ต้าเป่าก็นั่งข้างๆ เขาอย่างเชื่อฟัง
ตรงข้ามเขา มีปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งที่ไม่ได้พบกันนานนั่งอยู่
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งเยี่ยนอ๋องและหนานกงเยี่ยนได้ใช้ทักษะการแสดงที่เรียนรู้มาชั่วชีวิตของตนเอง หนานกงเยี่ยนตัดใจจากเยี่ยนอ๋องไปนานแล้ว แต่ทันทีที่เยี่ยนอ๋องปรากฏตัว นางก็ยังแสร้งทำเป็นว่าทนไม่ได้ที่จะทำร้ายเยี่ยนอ๋อง จึงไม่ลังเลที่จะปล่อยเซียวเจิ้นถิงไป เพื่อทำให้เยี่ยนอ๋องเชื่อว่านางยังมีความรู้สึกต่อเขาอยู่
ตราบใดที่เยี่ยนอ๋องเชื่อว่าหนานกงเยี่ยนไม่อาจทนทำร้ายเขาได้ เขาก็จะไม่หวาดระแวงนาง น่าเสียดาย คุณธรรมสูงหนึ่งฉื่อ ปีศาจสูงสิบฉื่อ เยี่ยนอ๋องมองความคิดของหนานกงเยี่ยนออกทะลุปรุโปร่ง
เยี่ยนอ๋องรู้ว่าหนานกงเยี่ยนจะฆ่าต้าเป่าและตัวเขา ดังนั้นก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่ป่าไผ่ เขาจึงเขียนจดหมายก่อนและให้คนไปส่งให้ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่ง
ในจดหมายบอกปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งว่า ตนรู้จักคนที่สังหารศิษย์ของเขา ตราบใดที่เขาเต็มใจช่วยเหลือตนให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของหนานกงเยี่ยน ตนก็จะบอกความจริงกับเขา
แน่นอนว่าปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งไม่มีทางปล่อยเยี่ยนอ๋องไป แต่เหตุใดไม่รับรู้ความจริงก่อนจากนั้นค่อยจัดการกับเยี่ยนอ๋องละ?
ในฐานะคนสนิทของหนานกงเยี่ยน ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งจะซื้อองครักษ์สักสองสามคนจะมีสิ่งใดยากเย็น?
รถม้าถูกผลักตกหน้าผาไม่เป็นเท็จ แต่กลับยังเก็บเยี่ยนอ๋องและต้าเป่าไว้
หากจะพูดเยี่ยนอ๋องก็เป็นคนหนึ่งที่ฉลาดแกมโกง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทิ้งคำใบ้ใดระหว่างทาง แต่เขาก็ให้เด็กคนนั้นสร้างร่องรอยไว้มากมาย คิดว่าเขาโง่เขลา ไม่เห็นกลยุทธ์ของเยี่ยนอ๋องหรือ?
เยี่ยนอ๋องคงไม่รู้ว่าตนเองได้สร้างแผนรับมือไปนานแล้วกระมัง?
ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งคว้าภาคภูมิใจจากก้นบึ้งของหัวใจ เขามองเยี่ยนอ๋องด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “เอาละ เจ้ากับเด็กน้อยคนนี้ ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งได้ช่วยเหลือออกมาแล้ว เจ้าบอกตัวฆาตกรที่สังการเฟ่ยหลัวมาได้แล้ว”
เยี่ยนอ๋องเงียบ
ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งกล่าว “อย่าทำให้เปล่าประโยชน์ บุตรชายของเจ้าถูกข้าล่อไปแล้ว เขาไม่มีทางหาที่นี่พบ หากเจ้าไม่พูดอะไร ข้าจะฆ่าหลานชายอันเป็นที่รักของเจ้าก่อน”
ต้าเป่าจ้องปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งอย่างถมึงทึง
ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งถูกดวงตาของเด็กทำให้ใจเต้นระส่ำ แต่เด็กอายุสามขวบ จะมีดวงตาที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?
สุดท้ายก็เป็นเด็ก ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งยังไม่เห็นเขาในสายตา ปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้งอะไร ก็แค่บังเอิญเท่านั้น! เขาไม่เชื่อว่าเจ้าหนูตัวเล็กผู้นี้จะมีความสามารถจริงๆ!
ต้าเป่าเท้าเอวจ้องมองเขา!
เยี่ยนอ๋องลูบหัวต้าเป่าและพูดกับปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งว่า “ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่ง ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีหลายสิ่งเกิดขึ้นในเมืองหลวง ศิษย์ของเจ้าตายได้อย่างไร เจ้าไม่สงสัยแม้แต่น้อยจริงๆ หรือ?”
ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งขมวดคิ้ว “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
เยี่ยนอ๋องยิ้มอย่างเฉยเมย “เจ้าต้องลองคิดดู ยามนั้นที่ศิษย์เจ้ามาที่เมืองหลวง อาจพบใครบางคนก็เดาได้แล้ว”
เฟ่ยหลัวมาที่เมืองหลวงในยามนั้น เขาได้รับคำสั่งให้ปราบคางคกหิมะ เขาพาเฟ่ยหลัวเข้ามาในจวนประมุขหญิง ด้วยความหวังว่าศิษย์ผู้นี้จะช่วยเขาได้อีกแรง นิสัยของเฟ่ยหลัวไม่เป็นที่พอใจนัก แต่ศาสตร์กู่ของเขากลับโดดเด่นที่สุดในบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย
สุดท้ายเฟ่ยหลัวก็ตาย คางคกหิมะก็ถูกองค์หญิงหวั่นและพรรคพวกยึดไปเป็นของตน
ช้าก่อน องค์หญิงหวั่น?
นางกับเยี่ยนจิ่วเฉาก็เข้าไปในจวนเห้อเหลียนในเดือนนั้นไม่ใช่หรือ?
“เป็นพวกเจ้า!” ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งยืนขึ้น “พวกเจ้าฆ่าเฟ่ยหลัว!”
“ใช่ พวกเราเอง” เยี่ยนอ๋องไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ แต่เยี่ยนอ๋องไม่ได้พาตัวเองออกไป เพราะเขาไม่รู้เรื่องราว หากเขารู้ เขาก็จะไม่มีวันทิ้งชีวิตเฟ่ยหลัว
นั่นคือศิษย์ที่ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งรักที่สุด!
ที่แท้ก็ถูกพวกเขาฆ่าตายเช่นนี้!
ราชินีสัตว์พิษของเขาโดนองค์หญิงหวั่นทำลายจนเสียแผน ความโดดเด่นของการเป็นปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้งก็ถูกพวกเด็กชายตัวเล็กช่วงชิงไป เจ้าพวกนี้…เจ้าพวกนี้มาเพื่อเอาชนะเขา!
เขาไม่อาจอยู่ร่วมโลกกับคนพวกนี้อีก!
ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งสะบัดหลังมือ สังเวยหนอนกู่แก่ทั้งสอง มันคือราชันพันสัตว์พิษที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ถูกกัดเพียงครั้งเดียว สามารถทำให้หัวใจเป็นอัมพาต เลือดไหลออกเจ็ดทวารและตายในที่สุด
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ ราชันพันสัตว์พิษกระโดดไปถึงตัวของพวกเขาทั้งสอง แต่กลับหันหัวกลับมากระโดดกัดคอของเขา!
เหตุใดเป็นเช่นนี้?
นี่คือหนอนกู่ที่เขาเลี้ยง!
ที่เขาเลี้ยง…ที่เขา…เขา…
เขาอะไร?
ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งล้มลงกับพื้น ดวงตาเบิกกว้าง หมดลมหายใจไปอย่างสมบูรณ์
ต้าเป่ามองดูศพบนพื้นอย่างเย็นชา
ฝ่ามือโอบอ้อมอารีหนึ่งปิดตาเขา
“อย่าดู ไม่ต้องกลัว”
ต้าเป่าหันศีรษะมา ร่างเล็กโน้มตัวเข้าสู่อ้อมแขนของเยี่ยนอ๋องอย่างนุ่มนวล
“ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่ง เกิดอะไรขึ้น?” ผู้คุมนอกประตูถาม
เยี่ยนอ๋องเพิ่มน้ำเสียง “ได้ ข้าพูดก็ได้ แต่เจ้าต้องสัญญากับข้า อีกครู่หนึ่งต้องส่งข้าลงจากภูเขา! ข้ารู้ว่าตี้จีองค์เล็กจะไม่อนุญาตให้เจ้าทำเช่นนี้ แต่หากเจ้าต้องการสิ่งที่อยู่ในมือข้า ก็ต้องยอมแลกสักหน่อย ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดหนึ่งก้านธูป หลังจากหนึ่งก้านธูป เจ้าฆ่าข้า ข้าก็ไม่อาจพูดอีก!”
เมื่อผู้คุมได้ยินดังนั้น จึงเดินไปเฝ้าประตูลานเงียบๆ
เยี่ยนอ๋องเปิดหน้าต่างเบาๆ และอุ้มต้าเป่าปีนออกไป
ผู้คุมยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกถึงความผิดปกติ เหตุใดจู่ๆ ภายในห้องไม่มีเสียง เด็กคนนั้นไม่ช่างพูด แต่เหตุใดผู้ใหญ่ทั้งสองจึงไม่มีบทสนทนาใดๆ อีก?
“ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่ง ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่ง” ผู้คุมเคาะประตู ไม่มีคนตอบกลับมา ผู้คุมผลักประตูเข้าไป เห็นปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งที่นอนตายอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “ไม่ดีแล้ว! พวกเขาหนีไป! รีบตามไปเร็วเข้า!”
หน่วยกล้าตายสี่คนและผู้คุมสี่คนรีบไล่ตามไปยังทิศที่ทั้งสองหนีไป
เยี่ยนอ๋องไม่ใช่ผู้รู้วรยุทธ์ อีกทั้งยังอุ้มเด็กอีกคน แม้ว่าเขาจะยื้อเวลาให้ตัวเองได้ไม่น้อย แต่ไม่นานพวกเขาก็ตามมาทัน
“หยุด!”
หัวหน้าผู้คุมตะโกน
เยี่ยนอ๋องไม่หันกลับไป ไม่หยุดและยังคงกอดต้าเป่าไว้ในอ้อมแขนแน่น
หัวหน้าผู้คุมหยิบคันธนูและศร ดึงสายยิงธนูปลิดชีพสามดอกออกไป
ความแข็งแกร่งของศรเหล่านี้ เพียงพอที่จะเจาะทะลุร่างของเยี่ยนอ๋องและต้าเป่า
ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต เงาดำร่างหนึ่งกระโดดลงจากท้องฟ้า ขวางกั้นร่างเยี่ยนอ๋อง ชักดาบตัดลูกธนูเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
เยี่ยนอ๋องได้ยินการเคลื่อนไหว พลันหยุดชะงัก หันกลับมามอง “อิ่งสือซัน?”
หัวหน้าผู้คุมประหลาดใจ บุรุษผู้นี้ไม่ใช่องครักษ์เงาของเยี่ยนจิ่วเฉาหรอกหรือ? เขามาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร? หรือจะกล่าวว่าเยี่ยนจิ่วเฉาตามมาพบที่นี่แล้ว? เป็นไปไม่ได้สิ เด็กนั่นทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งมองกลยุทธ์ของเยี่ยนอ๋องออกนานแล้ว จงใจพาพวกเขาไปที่ริมหน้าผา จากนั้นปิดตาพวกเขาแล้วพาพวกเขาไปที่กระท่อม
เยี่ยนอ๋องคงไม่รู้ว่าหลังจากที่ตนจากไป เขาได้รับคำสั่งให้ไปตัดสะพานแขวน
‘เครื่องหมาย’ ถึงสะพานนั้นก็ไม่มีแล้ว อีกทั้งสะพานก็ยังถูกตัด เป็นใครก็คิดว่าพวกเขาข้ามสะพานไปยังเขาอีกลูก
ยามนี้พวกเขาควรจะลงจากภูเขา จากนั้นก็ปีนขึ้นเชิงเขาลูกนั้นไปยังหน้าผา กว่าจะพบว่าพวกเขาถูกหลอก อย่างน้อยก็สองวันหลังจากนั้น
ในเวลานั้น ปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งคงได้ถามตัวฆาตกรแล้ว และศพของเยี่ยนอ๋องกับเด็กนั่นก็คงเย็นแล้ว
ต้องกล่าวว่ากลอุบายของปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งนั้นชาญฉลาดยิ่งนัก แต่ก็น่าเสียดายที่พบกับเยี่ยนจิ่วเฉา
หากเยี่ยนจิ่วเฉาหลอกง่ายขนาดนั้น ก็คงไม่ใช่เยี่ยนจิ่วเฉาแล้ว
“ท่านอ๋องโปรดถอยไป” อิ่งสือซันยกดาบปกป้องเขากับต้าเป่า
เยี่ยนอ๋องพยักหน้าและถอยห่างออกไปสิบฉื่อพร้อมกับต้าเป่าในอ้อมแขน
อิ่งสือซันจัดการอย่างรวดเร็ว หากไม่มีซิวหลัว หน่วยกล้าตายหน้ากากทองไม่กี่คนก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
เมื่ออิ่งลิ่วกับเยี่ยนจิ่วเฉามาถึง พื้นที่ได้ถูกทำความสะอาดกระทั่งศพก็มองไม่เห็น
ต้าเป่าเห็นบิดาของเขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะยื่นมือน้อยๆ ออกไป
เยี่ยนจิ่วเฉาอุ้มบุตรชายมา
ต้าเป่านอนขดในอ้อมแขนของเขาอย่างน้อยใจ มือเล็กก็กอดรอบคอของเขา
เยี่ยนจิ่วเฉาก้มหัวลงแตะหน้าผากของบุตรชาย
ต้าเป่าทำตัวออดอ้อนยากจะพบเจอ ฝังศีรษะลงในอ้อมแขนของบิดา
เยี่ยนจิ่วเฉากอดเขาแน่น
บิดาและบุตรไม่มีผู้ใดเอื้อนเอ่ย แต่วินาทีนี้กลับเป็นความเข้าใจอันไร้เสียง ที่นั่นไม่มีผู้ใดส่งเสียงขัดจังหวะ
เยี่ยนจิ่วเฉาดูเหมือนคนไร้หัวใจ เย็นชาไม่แยแสผู้คนทั้งวัน แต่ในใจกลับห่วงใยเด็กน้อยเหล่านี้ยิ่งนัก เพียงแต่ปากไม่เอ่ย ทว่าเขาทำได้ทุกอย่าง
เยี่ยนอ๋องมองดูพวกเขา ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าบุตรชายของเขาโตเป็นผู้ใหญ่และกลายเป็นบุรุษที่มีความรับผิดชอบ สิ่งที่เขาทำไม่ได้ในอดีต แต่ฉงเอ๋อร์ทำได้
ท้องฟ้าเริ่มเย็นแล้ว พวกเขาก็รีบเดินทางลงจากภูเขาขึ้นรถม้ากลับจวนเห้อเหลียน
ประตูใหญ่จวนเห้อเหลียนเปิดอยู่
อวี๋หวั่นรอนอกประตูอยู่นานแล้ว
เอ้อร์เป่าและเสี่ยวเป่าก็ตั้งหน้าตั้งตารอด้วยเช่นกัน
เสี่ยวเป่ายืนเขย่งเท้ามองไปสุดถนน “ไยต้าเป่ายังไม่กลับมา?”
“นานมากแล้ว!” เอ้อร์เป่าก็รอไม่ไหวแล้ว
ทั้งสองไม่เคยห่วงต้าเป่ามากขนาดนี้
“ต้าเป่า!”
เสี่ยวเป่าตะโกน!
อวี๋หวั่นหันหน้าขวับ!
กลางดึกมีรถม้าคันหนึ่งหยุดลงที่หน้าถนน
ม่านของรถม้าถูกเปิดออก เยี่ยนจิ่วเฉาลงรถม้า จูงต้าเป่าเดินมาหาเธอช้าๆ
……………………