หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 402 ครรภ์ดิ้น สัตว์พิษตัวน้อยหลักแหลม
อวี๋หวั่นรีบหันหลังซ่อนตัวที่ต้นไม้ใหญ่
แต่ต้นไม้ต้นนี้ยืนต้นโดดเดี่ยว ไม่อาจบังได้มิด อีกเดี๋ยวพวกเขาตามมา ก็ไม่ยากที่จะพบตัวเธอ ขณะที่อวี๋หวั่นลังเลว่าจะหลบคนพวกนั้นอย่างไร ก็มีเสียงใสกังวานของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้นเบื้องหน้า
“สะ…สตรีศักดิ์สิทธิ์?”
อวี๋หวั่นคิ้วสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมา
เป็นซือคงฉางเฟิง!
“ข้าจำผิดไป” ซือคงฉางเฟิงเห็นแวบหนึ่งจากที่ไกลๆ ยังคิดว่าเป็นสตรีที่เคยพบในหมิงซาน เมื่อเข้าไปใกล้ๆ จึงทราบว่าเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ดูอวบอ้วนขึ้นหรือไม่? แต่นี่ก็หาใช่เรื่องของเขา
“เจ้ามาทำอันใดที่นี่? อีกไม่นานก็จะถึงฤกษ์แล้ว” ซือคงฉางเฟิงเตือนด้วยน้ำเสียงที่รักษาระยะห่าง
อวี๋หวั่นไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใจบุรุษที่เคยพบกันเพียงครั้งหนึ่งหรือไม่ ทว่ายามนี้ดูเหมือนจะไม่มีทางอื่นแล้ว
บุรุษที่แม้กระทั่งสตรีแปลกหน้าก็สามารถดูแลได้อย่างอ่อนโยน หัวใจของเขาก็คงไม่ได้แย่สักเท่าใดกระมัง? แม้จะไม่เชื่อในตัวเอง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง
เมื่อความคิดแล่นเข้ามา อวี๋หวั่นก็ตัดสินใจที่จะลองออกไป
แต่ทันทีที่อวี๋หวั่นอ้าปาก ก็รู้สึกถึงบางอย่างผิดปกติ
แปลกจริง เหตุใดคอเธอไม่อาจส่งเสียง?
อวี๋หวั่นบีบคอและพยายามอีกครั้ง แน่ใจว่าตนเอง ‘เป็นใบ้’ แล้ว
ไม่ต้องเดาว่าใครเป็นคนทำ สตรีศักดิ์สิทธิ์สมควรตาย ไม่เพียงแต่แอบเปลี่ยนใบหน้าที่งดงามสูงส่งของเธอ ยังเอาเสียงดุจสวรรค์ของเธอไปอีก เธอช่างเป็นคนน่าสงสารที่ตกนรกทั้งเป็นจริงๆ!!!
หลังจากถูกสตรีศักดิ์สิทธิ์ถอนหมั้น ความสัมพันธ์ระหว่างซือคงฉางเฟิงและสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็กระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง ในฐานะพี่ชาย หลังจากเตือนสตรีศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องที่ควรสนใจ ซือคงฉางเฟิงก็หมายจะเดินจากไป
อวี๋หวั่นมีหรือจะยอมปล่อยเขาไป?
สมุนของสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็อยู่ใกล้ๆ หากเขาไป เธอจะไม่เรียกฟ้าฟ้าไม่ตอบ เรียกดินดินไม่ขาน[1]หรือ?
อวี๋หวั่นกัดฟันคว้าข้อมือของซือคงฉางเฟิงไว้
ซือคงฉางเฟิงมองไปที่อวี๋หวั่นอย่างตกตะลึง แล้วก็มองมือที่จับตน คิ้วพลันขมวดแน่น “สตรีศักดิ์สิทธิ์!”
อวี๋หวั่นลนลานรีบโบกมือปฏิเสธ
ข้าไม่ใช่สตรีศักดิ์สิทธิ์
และชี้ไปที่ลำคอของตน
ข้าถูกพิษทำให้เป็นใบ้
ซือคงฉางเฟิงงวยงง ไม่เข้าใจว่าในวันแต่งงาน ‘สตรีศักดิ์สิทธิ์’ ไม่แต่งงานกับน้องชายดีๆ กลับมาจับเขาลับๆ ล่อๆ อันใด? คงมิใช่นางเสียใจกับการตัดสินใจในคราแรก แล้วอยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์ครั้งเก่ากับเขากระมัง?
กล่าวให้ชัดเจน เขากับสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็นับว่าเป็นคนรักมาตั้งแต่เด็กจนโต ในฐานะสตรีศักดิ์สิทธิ์สกุลหลาน ตั้งแต่เกิดมา หลานจีก็ถูกยกย่องจากคนทั้งหมิงตู นางอายุสามขวบก็เข้ามาศึกษาที่สกุลซือคง เขารู้ว่านางจะกลายมาเป็นคู่หมั้นของตน จึงดูแลนางมาตั้งแต่เยาว์วัย
ยามที่มารดายังมีชีวิตอยู่ สถานการณ์ของเขายังไม่นับว่าน่าอึดอัดใจ หลังจากมารดาจากไป เขาก็ถูกทิ้งให้อยู่ในสกุลซือคง แล้วสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ค่อยๆ จางหายไปจากเขา
หากบอกว่าไม่ผิดหวังก็คงโกหก แต่เขาไม่ต้องการให้ใครลำบากใจ ยอมรับความเหินห่างของนาง หลังจากนั้นก็มีรายงานว่านางต้องการถอนหมั้นกับเขามาแต่งงานกับน้องรอง เขาเก็บตัวเศร้าอยู่ในเรือนพักหนึ่ง ไม่ใช่เพราะความรักที่เขามีต่อนางมากน้อยอย่างไร แต่เพราะคนที่ประกาศว่าจะแต่งงานกับตนมาตั้งแต่ยังเล็ก จู่ๆ กลับหันไปเลือกคนอื่น เขาก็รู้สึกว่าใบหน้าถูกเหยียบย่ำลงไปในโคลนตม
เขาจำได้รางๆ ว่ามารดารักสตรีศักดิ์สิทธิ์มาก มักจับมือเขาและบอกให้เขาดูแลหลานจีให้ดี นางเป็นสะใภ้ของเจ้าในอนาคต หลานจีถอนหมั้นแล้ว การติดต่อครั้งสุดท้ายของเขากับมารดาก็คล้ายกับถูกตัดขาดในทันที
เขาเคยถามนางว่า รู้หรือไม่ว่าซือคงอวิ๋นเป็นบุรุษเช่นไร? นางไม่ตอบอะไร เพียงแต่มองกลับมาด้วยสายตาที่บอกว่าอย่ามายุ่งเรื่องของนาง
ดังนั้น…มาถึงบัดนี้ ในที่สุดนางก็เห็นว่าซือคงอวิ๋นไม่ใช่คู่ที่ดีของตน?
น่าตลกสิ้นดี
นางเห็นเขาเป็นอะไร? อยากได้ก็เอา ไม่อยากได้ก็ทิ้ง ทิ้งแล้วยังกลับมากระหายอยากได้คืน ในโลกนี้มีเรื่องดีเช่นนี้ที่ใดกัน? เขา ซือคงฉางเฟิงจะไม่ลดค่าตนเองอีก!
ซือคงฉางเฟิงปัดมือของอวี๋หวั่นทิ้งอย่างเย็นชา “สตรีศักดิ์สิทธิ์ โปรดให้เกียรติตนเอง”
อวี๋หวั่นเกือบทรุดลง
ซือ คง ฉาง เฟิง ข้า ไม่ ใช่ สตรี ศักดิ์สิทธิ์! ไม่ใช่!
อวี๋หวั่นพยายามแสดงท่าทางอย่างเต็มที่ ทว่าซือคงฉางเฟิงกลับไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเธออีก และตัดสินใจเดินจากไป
ทันใดนั้นแสงสีขาวก็สว่างวาบออกจากแขนเสื้อเขา มาชนเข้ากับหน้าอกของอวี๋หวั่น
สัตว์พิษตัวน้อย!
ดวงตาของอวี๋หวั่นเป็นประกายสว่าง!
แม้รูปลักษณ์ของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปใหญ่หลวง แม้ไม่มีใครในโลกจำเธอได้ แต่สัตว์พิษตัวน้อยกลับยังคงได้กลิ่นลมหายใจของเธอ
ซือคงฉางเฟิงเก็บสัตว์พิษตัวน้อยมา ก็ถือว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาแล้ว บัดนี้สัตว์เลี้ยงไม่อยู่ในอ้อมแขนของเขาโดยดี กลับวิ่งไปหาสตรีอีกคน
แต่ท่าทีของซือคงฉางเฟิงที่มีต่อสัตว์พิษตัวน้อยอ่อนโยนกว่า ‘สตรีศักดิ์สิทธิ์’ มาก
ซือคงฉางเฟิงถอนใจอย่างช่วยไม่ได้ “เสี่ยวฮวา อย่าดื้อซน”
อวี๋หวั่นผงะ “…”
เสี่ยว เสี่ยวฮวา?
นี่มันชื่อเจ้าแห่งผืนดินอันใด?
ตุบ!
สัตว์พิษตัวน้อยตัวแข็งทื่อกลิ้งลงมา
ขาย ขายหน้าชะมัด…
ซือคงฉางเฟิงย่อตัวหยิบสัตว์พิษตัวน้อยขึ้นมา สัตว์พิษตัวน้อยนอนแผ่บนพื้นราบ กรงเล็บของมันกอดนิ้วของเขา ดึงเข้าหาอวี๋หวั่น
ความคิดอันชาญฉลาดของอวี๋หวั่นผุดขึ้นมา พลันหยิบกิ่งไม้เล็กๆ ขึ้นมาเขียนอักษรลงบนพื้น
“ข้า…ไม่…ใช่…”
“ท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์!”
อวี๋หวั่นเขียนไปได้ครึ่งหนึ่ง ทูตหลีก็ปรากฎตัวออกมาราวกับปีศาจ
ทูตหลีคำนับอวี๋หวั่น ก่อนจะหันไปคำนับซือคงฉางเฟิง “คุณชายใหญ่ก็อยู่ที่นี่ด้วย”
คุณชายใหญ่? อวี๋หวั่นมองซือคงฉางเฟิง ที่สกุลซือคง คนผู้เดียวที่ถูกเรียกว่าคุณชายใหญ่ก็มีเพียงพี่ชายของซือคงอวิ๋นกระมัง?
เช่นนั้น ที่ถนนเมื่อคราก่อน คนที่ทำให้หลานเจียวล่าถอยไปก็คือเขา?
หากเป็นเขาจริงๆ เช่นนั้นความเฉยชาของเขาก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
สตรีศักดิ์สิทธิ์เป็นคู่หมั้นของเขา หลังจากถอนหมั้นก็ไปคบหากับน้องชาย เกรงว่าในโลกนี้คงไม่มีใครทนได้
ยามนี้ตนมีใบหน้าที่เขาเกลียดที่สุด ไม่รู้ว่าเขาจะรำคาญตนมากเพียงใด
สายตาซือคงฉางเฟิงที่ตกกระทบอักษรบนพื้นละออกไป เขาหยิบสัตว์พิษตัวน้อยใส่ลงในขวดหยก จากนั้นก็หันมองทูตหลีและกล่าวว่า “ดูแลสตรีศักดิ์สิทธิ์อย่างไร? ใกล้ถึงฤกษ์ยามแล้ว กระทั่งชุดแต่งงานก็ยังไม่ได้สวม”
“บ่าวผิดไปแล้ว!” ทูตหลียอมรับความผิดตนอย่างเด็ดขาด “ทำให้คุณชายใหญ่กังวล บ่าวจะรับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์ให้ดี ไม่ให้พลาดฤกษ์งามของสตรีศักดิ์สิทธิ์และคุณชายรอง”
“รู้แล้วก็ดี!” ซือคงฉางเฟิงกล่าวพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องจัดเลี้ยงอย่างสง่างาม
นาทีที่ผ่านอวี๋หวั่น อวี๋หวั่นใช้ร่างกายบังสายตาทูตหลี และจับมือของซือคงฉางเฟิงมาแตะท้องของเธอ
เธออยากให้ซือคงฉางเฟิงรู้ว่าเธอเป็นสตรีมีครรภ์ ไหนเลยจะรู้ว่าทันทีที่มือของซือคงฉางเฟิงสัมผัส อวี๋หวั่นก็รู้สึกว่าท้องของตนเคลื่อนไหว
อวี๋หวั่นและซือคงฉางเฟิงต่างก็ตกใจ ถอนมือออกพร้อมกัน!
อวี๋หวั่นเป็นหมอ เธอรู้ได้อย่างรวดเร็วว่ามันคืออะไร ส่วนซือคงฉางเฟิงจะเข้าใจหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซือคงฉางเฟิงจากไปด้วยสีหน้างุนงง
สายตาทูตหลีถูกบดบังไว้ ไม่อาจมองเห็นการกระทำของอวี๋หวั่นได้อย่างชัดเจน แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าอวี๋หวั่นกำลังจะขอความช่วยเหลือจากซือคงฉางเฟิง ทูตหลีรีบเดินไปด้านหน้าจับแขนของอวี๋หวั่น พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สตรีศักดิ์สิทธิ์ ใกล้ถึงฤกษ์แล้ว พวกเราควรไปได้แล้ว”
ทูตหลีมีวรยุทธ์ อวี๋หวั่นถูกนางควบคุมอย่างแน่นหนา
อวี๋หวั่นหันกลับไปมองซือคงฉางเฟิง หวังว่าเขาจะหันกลับมา ทูตหลีหันเท้าลากอวี๋หวั่นเดินอ้อมภูเขาหินปลอม
ซือคงฉางเฟิงสาวเท้าไปข้างหน้า
สัตว์พิษตัวน้อยเขย่าขวดหยก ราชันหมื่นสัตว์พิษเข้าสู่สมาธิ มีเพียงสัตว์พิษตัวน้อยตัวนี้ที่ไม่สงบ
ซือคงฉางเฟิงกลับปวดใจ หยิบสัตว์พิษตัวน้อยออกมา
สัตว์พิษตัวน้อยกลิ้งไปมาหวีดร้องบนฝ่ามือของเขา
“เป็นอะไรไป?” ซือคงฉางเฟิงถาม
สัตว์พิษตัวน้อยกระโดดลงไปที่พื้น ดึงชายเสื้อของเขาไปในทิศที่อวี๋หวั่นจากไป
ซือคงฉางเฟิงสนใจว่ามันกำลังหมายความเช่นไร มองย้อนกลับไป แต่กลับไม่เห็นเงาของอวี๋หวั่นแล้ว
แต่นี่มันแปลกมากมิใช่หรือ? เสี่ยวฮวาไม่รู้จักสตรีศักดิ์สิทธิ์ แล้วเหตุใดถึง ‘ตามนางไม่ปล่อย’?
แล้ววันนี้สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ทำตัวแปลกๆ นางไม่ได้มักจะดูถูกเขาหรอกหรือ? เหตุใดทำราวกับกำลังพึ่งพาและขอความช่วยเหลือจากเขา…
ช้าก่อน ขอความช่วยเหลือ?
ซือคงฉางเฟิงพิจารณาถึงดวงตาของอวี๋หวั่นอย่างละเอียด ต้องขอความช่วยเหลือไม่ผิดแน่ แต่ตนมีใจอคติต่อนาง จึงเมินเฉยและมองไม่เห็น
ซือคงฉางเฟิงก้มมองฝ่ามือตน
ท้องของสตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งใหญ่ แข็งและยังเคลื่อนไหวได้…
“ข้า…ไม่…ใช่”
นางไม่ได้เป็นอะไร?
ไม่ใช่…สตรีศักดิ์สิทธิ์หรือ?!
แต่หากไม่ใช่สตรีศักดิ์สิทธิ์ แล้วเป็นใครละ?
หรือว่าจะเป็น–
ทันใดนั้นประกายความคิดก็จุดขึ้นในหัวซือคงฉางเฟิง เขาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อีกครั้งอย่างละเอียด สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไป!
…………………………………………
[1] เรียกฟ้าฟ้าไม่ตอบ เรียกดินดินไม่ขาน เปรียบถึง การตกที่นั่งลำบาก ไม่มีใครช่วยเหลือ