หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 406 นกกางเขนยึดรังพิราบ
“เจ้าดุข้าทำไม?” ซือคงอวิ๋นบ่นการกระทำเลวร้ายของสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ทำลายเรื่องดีของเขา การพูดจาก็ไม่อ่อนโยนให้เกียรติเช่นก่อนหน้านี้
ท่าทางกระทำผิดไม่สำนึก ไม่เห็นผู้ใดในสายตาของซือคงอวิ๋น ทำให้สตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจทนดูต่อไปได้ แม้ไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะกลายเป็นสามีที่ปรารถนาของตน แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเขาสามารถไร้ค่าได้ถึงเพียงนี้
สตรีศักดิ์สิทธิ์หลับตาลง อดไม่ได้ที่จะถามตัวเองว่า เสียใจกับการตัดสินใจของตนในตอนนั้นหรือไม่?
แต่เสียใจหรือไม่แล้วมีประโยชน์ใด?
เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว ทันทีที่นางทิ้งซือคงฉางเฟิงไป ชะตากรรมของนางก็ผูกติดกับซือคงอวิ๋นแล้ว
นี่เป็นเส้นทางที่นางเลือกด้วยตัวเอง ต่อให้คลานก็ต้องไปให้ถึงที่สุด
สตรีศักดิ์สิทธิ์สูดลมหายใจ พยายามสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็เริ่มสงสัยว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้อย่างไร เหตุใดนางไปที่เรือนของนางหลาน ก็ได้พบกับซือคงอวิ๋นที่ปลอมตัวเป็นเยี่ยนจิ่วเฉา? ซือคงอวิ๋นหมายตาสตรีผู้นั้นมานาน ไม่ใช่นางไม่รู้ ยามนั้นนางมีอารมณ์อย่างเต็มที่ จนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ยามนี้มาใคร่ครวญก็พบว่าการกระทำของซือคงอวิ๋นนั้นน่าสงสัยยิ่งนัก
พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงสามีภรรยา แต่ยังมีบุตรอีกสามคน มารดาหายตัวไปนานถึงเพียงนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือกลับไปหาครอบครัวมิใช่หรือ? เหตุใดถึงล่อนางมาที่เรือฮว่าฝ่างเพียงลำพัง? นอกจากนี้เขายังชักชวนให้นางดื่มสุรา ราวกับต้องการให้นางเมาเพื่อจะทำอะไรนาง
นางโง่ยิ่งนัก เรื่องเช่นนี้ก็ดูไม่ออก!
แล้วซือคงอวิ๋นรู้ความชื่นชอบของสตรีผู้นั้นเป็นอย่างดี นี่ก็น่าแปลกอยู่บ้าง สตรีผู้นั้นยามอยู่ที่จวนซือคง ไม่เคยบอกว่าตนชอบไม่ชอบสิ่งใด ห้องครัวทำสิ่งใดนางกินสิ่งนั้น เช่นนั้นซือคงอวิ๋นรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าบอกข้ามาตามตรง!” สตรีศักดิ์สิทธิ์มองซือคงอวิ๋นด้วยสายตาเย็นชา
ซือคงอวิ๋นฮึดฮัด “ไยข้าต้องคุยกับเจ้า?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนฝ่ามือเป็นใบมีดฟันไปที่ซือคงอวิ๋น ซือคงอวิ๋นใบหน้าถอดสี กอดหัวหันตัวหลบ หลบก็นับว่าหลบได้ ทว่าโต๊ะที่อยู่ข้างกายกลับแตกละเอียด
เมื่อคิดว่าเมื่อครู่หากช้ากว่านี้ ที่แหลกละเอียดคงเป็นตน แผ่นหลังซือคงอวิ๋นพลันรู้สึกเย็นวาบ
“จะไม่บอกตรงๆ หรือ” สตรีศักดิ์สิทธิ์ข่มขู่
ซือคงอวิ๋นไม่อาจเอาชนะนาง จึงทำได้เพียงพึมพำอย่างอ่อนแรง “…ไยก่อนหน้านั้นข้าไม่รู้ว่าเจ้าดุร้ายถึงเพียงนี้…หากรู้แต่แรก…”
“จะพูดหรือไม่!” สตรีศักดิ์สิทธิ์สร้างฝ่ามือดาบอีกครั้ง
ซือคงอวิ๋นตกใจรีบร้อนกล่าว
ที่แท้ ทั้งหมดในวันนี้กลับเป็นซือคงอวิ๋นที่ถูกคนยุแยง ระยะนี้สตรีศักดิ์สิทธิ์วุ่นกับการดูแลอวี๋หวั่น ไม่มีเวลาสนใจซือคงอวิ๋น จึงไม่รู้ว่าข้างกายเขามีข้ารับใช้คนหนึ่งที่ถูกซื้อกลับมาจากข้างนอก
ว่ากันว่าเด็กรับใช้ผู้นั้นมีชื่อว่าเสี่ยวลิ่ว มีใบหน้าหล่อเหลาและฉลาดหลักแหลมยิ่ง ซือคงอวิ๋นพบเสี่ยวลิ่วที่บ่อนพนัน พลังหูของเสี่ยวลิ่วนั้นโดดเด่น เขาสามารถได้ยินเสียงการทอยลูกเต๋า ช่วยซือคงอวิ๋นให้ชนะอยู่หลายครั้ง คิดว่าซือคงอวิ๋นที่เอาแต่พ่ายแพ้ไม่เคยชนะตื่นเต้นดีใจ จึงซื้อเขากลับมา
แผนการในวันนี้ก็มาจากเสี่ยวลิ่ว
เสี่ยวลิ่วรู้ว่าซือคงอวิ๋นต้องตาตัวประกันที่สตรีศักดิ์สิทธิ์พามา แต่เพราะการเฝ้าดูที่เข้มงวดของสตรีศักดิ์สิทธิ์จึงไม่อาจลงมือ เขาจึงกล่าวกับซือคงอวิ๋นว่า “…ในวันพิธีแต่งงานทุกคนต้องคอยปรนนิบัติสตรีศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีเวลาเฝ้าดูนาง ถึงยามนั้นคุณชายก็จะทำสำเร็จ”
ซือคงอวิ๋นใช้พัดเคาะหัวตนเอง “นางแต่งงานแล้วข้าไม่แต่งงานหรือ? มีสายตามากมายจับจ้องข้า เจ้าจะให้ข้าเอาเวลาไปหานางอย่างไร?”
เสี่ยวลิ่วดวงตาทอประกายเจ้าเล่ห์ “เช่นนั้นไม่ง่ายหรือ? ข้าปลอมตัวเป็นท่าน ไปแต่งงานแทน ส่วนสตรีผู้นั้น ข้าก็จะอาศัยความสับสนวุ่นวายปล่อยนางหนีไป กล่าวตามตรงไม่ปิดบัง ข้าไปที่ถนนในช่วงนี้ หาได้ไปเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่ ข้าไปเพื่อคุณชาย ข้า…ได้สืบเรื่องของนางมา นางชื่อหลานอวี้ เป็นบุตรที่นางหลานเก็บมาเลี้ยง สามีคือเยี่ยนจิ่วเฉา อาศัยอยู่ที่จวนทางทิศตะวันออกของเมือง…ไม่นานข้าน้อยจะให้คนไปสังหารสามีนาง ท่านก็ปลอมตัวเป็นเขา มีหรือจะไม่ได้หุงข้าวสวยเป็นข้าวสุก? ถึงเวลานั้น ท่านมีใบหน้าของสามีนาง ไม่ต้องกังวลว่านางจะไม่เต็มใจ”
เมื่อซือคงอวิ๋นได้ยินดังนั้นพลันผุดรอยยิ้มชั่วร้าย “เป็นความคิดที่ดี!”
เสี่ยวลิ่วกล่าวอีกครั้ง “ทว่า ท่านต้องกลับมาก่อนฟ้ามืด เพื่อร่วมหอกับสตรีศักดิ์สิทธิ์”
“ข้ารู้ๆ!” สตรีของเขา ต้องเป็นเขาที่มานอนด้วย!
หลังจากเล่าจบ ซือคงอวิ๋นก็มองสตรีศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่พอใจนัก “ดังนั้นเจ้าจะก่อเรื่องไปไย? ข้ามิใช่จะไม่กลับไป ฟ้ามืดก็จะรีบกลับไปร่วมหอกับเจ้าแล้วมิใช่หรือ? เจ้าร้อนใจอันใด?”
ตามมาที่เรือฮว่าฝ่าง อุทิศตนให้กับเขา…
ว่าไปแล้ว ในใจของเขาคิดถึงเพียงหลานอวี้ เมื่อรู้ว่าไม่ใช่หลานอวี้ ก็ถอนตัวถอยออกทันที ยามนี้คิดแล้วก็เสียดาย สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็นับเป็นสตรีงดงามที่หาได้ยากยิ่ง หากได้ลิ้มลองก็นับว่าเป็นช่วงเวลาล้ำค่ายิ่งแล้ว
สายตาของซือคงอวิ๋นตกกระทบกับเรือนร่างสตรีศักดิ์สิทธิ์
ฟ้าใกล้มืดแล้ว กลับไปไม่ทันแล้ว ไม่สู้…
สตรีศักดิ์สิทธิ์เห็นสายตาหื่นกระหายของเขาก็เดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ นางโกรธมากจนอยากตบหน้าสักฉาดแทบทนไม่ไหว “เวลาใดแล้ว เจ้ายังมีอารมณ์ที่จะคิดเรื่องนี้? เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าถูกคนหลอกแล้ว?”
เสี่ยวลิ่วอะไรนั่น มองแวบแรกก็ไม่ใช่คนดีแล้ว จู่ๆ ก็สืบทราบชื่อของสตรีผู้นั้นและข้อมูลคู่ครองของนางได้อย่างง่ายดาย เขารู้หรือไม่ ตนใช้ความพยายามมากเพียงใดแต่ก็สืบไม่พบ?
แล้วชื่อเยี่ยนจิ่วเฉาก็ที่สตรีนั่นเรียกชื่อในความฝัน นางถึงทราบชื่อของเขา
ส่วนสตรีผู้นั้น…
หลานอวี้?
เหอะ แปดเก้าส่วนเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!
เสี่ยวลิ่วนั่นแฝงตัวอยู่ในเรือนซือคงอวิ๋นมาตลอด รู้ความเคลื่อนไหวของตนเป็นอย่างดี จึงรู้ว่าตนไม่ทราบชื่อสตรีผู้นั้น เขาแต่งเรื่องขึ้นมาก็ไม่ถูกจับได้ ทว่าข้อสมมุติล่วงหน้าของเรื่องนี้คือ เสี่ยวลิ่วรู้แผนที่นางจะสลับตัวกับ ‘หลานอวี้’ อยู่ก่อนแล้ว จึงคิดแผนนี้ขึ้นมาสลับตัวซือคงอวิ๋นเช่นกัน
สตรีศักดิ์สิทธิ์กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่าน “เจ้าคิดว่าเยี่ยนจิ่วเฉาฆ่าง่ายถึงเพียงนั้นหรือ? เจ้าไม่เคยต่อสู้กับเขา ไม่เข้าใจว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด? ไม่ต้องพูดถึงเด็กรับใช้คนเดียว ต่อให้เจ้ากับข้าสองคนร่วมแรงกันก็ยังไม่อาจฆ่าเขาได้!”
ซือคงอวิ๋นถึงกับผงะ “เจ้า…เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์โกรธเขาแทบสิ้นใจ “ความหมายของข้าก็คือ เสี่ยวลิ่วบอกว่าเขาจะฆ่าเยี่ยนจิ่วเฉาและให้เจ้าปลอมเป็นอีกฝ่าย มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!”
ซือคงอวิ๋นเกาหัว “แต่…แต่ยามที่ข้าปลอมเป็นเขาไปที่จวนสกุลหลาน เยี่ยนจิ่วเฉาก็ไม่อยู่แล้ว…ข้ารออยู่ทั้งวันก็ไม่เห็นเงาคน…”
งี่เง่า!
สตรีศักดิ์สิทธิ์โกรธมากและกล่าวว่า “แล้วเขาซ่อนตัวไม่ได้หรือ?! เจ้าถูกคนหลอก! ถูกเยี่ยนจิ่วเฉาหลอก! เสี่ยวลิ่วเป็นคนของเขา!”
นางบอกแล้ว จับสตรีผู้นั้นมานานถึงเพียงนี้ เยี่ยนจิ่วเฉากลับยังนิ่งเฉยไม่ทำสิ่งใด ที่แท้ก็รอเวลานี้ สายลับของเขาได้ปะปนเข้าไปในจวนซือคงแล้ว ไม่แปลกใจที่ยังนั่งติดที่!
นางคาดเดาว่าแผนเดิมของเยี่ยนจิ่วเฉาคือการใช้วันแต่งงาน ให้สายลับใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายพา ‘หลานอวี้’ ออกมา ทว่าด้วยท่าทีที่แปลกประหลาดของนาง เยี่ยนจิ่วเฉาจึงเข้าใจแผนของนาง นางจึงมาที่นี่กับซือคงอวิ๋น เป็นต้นหลี่ตายแทนต้นท้อ
สิ่งเดียวที่นางไม่เข้าใจก็คือ มีเพียงฮวาจือและทูตหลีเท่านั้นที่รู้เรื่องการสับเปลี่ยนใบหน้าของนางกับสตรีผู้นั้น ทั้งคู่ก็ไม่รู้ว่านางมาเพื่อหลอกล่อเยี่ยนจิ่วเฉา เช่นนั้นเยี่ยนจิ่วเฉาเดาออกได้อย่างไร? หรือการสนทนาสองสามครั้งระหว่างนางกับสตรีผู้นั้น ถูกเสี่ยวลิ่วนำไปรายงานแก่เขา จึงสามารถใช้ความคิด ความปรารถนาและความทะเยอทะยานของนางมาบีบคั้น?
จะมีคนที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?
ความสามารถในการใช้อุบายของคนผู้นี้…ช่างชวนให้หวาดหวั่นสั่นสะเทือน!
ซือคงอวิ๋นถามอย่างร้อนรน “เจ้ายังไม่ได้บอกเลยว่าทำอะไรกับหลานอวี้?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์หัวเราะเยาะด้วยความรังเกียจ “หลานอวี้? ไม่รู้ว่าสกุลซือคงเละเทะเช่นไรแล้ว? เจ้ายังมีใจที่จะคิดเรื่องไร้สาระเหล่านี้?”
สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือต้องรีบกลับไปที่สกุลซือคง หวังว่าสายลับจะไม่พา ‘หลานอวี้’ ออกไปเร็วเช่นนั้น
สตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่มีอารมณ์สนใจความโกรธของซือคงอวิ๋น จัดแจงเสื้อผ้าของนางและออกจากห้องไป
แม้เมื่อครู่ไม่ได้มีความสุขมากนัก ทว่าก็สูญเสียเรือนร่างไปแล้ว ร่างกายบอบช้ำ จิตใจย่ำแย่
ซือคงอวิ๋นเดินตามมา
สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่รู้ว่าเสียแรงไปมากเพียงใด จึงไม่ได้ผลักเขาตกลงไปในทะเลสาบ
ทั้งสองใช้วิชาตัวเบาเหาะขึ้นฝั่ง กลับไปที่จวนซือคงโดยไม่หยุดพัก
“พวกเจ้าเป็นใครกัน?”
ยามที่ทั้งสองกำลังจะเข้าไปในจวนซือคง องครักษ์ของจวนซือคงก็ออกไปหยุดพวกเขาอย่างไร้ความปรานี
สตรีศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง “ข้าคือสตรีศักดิ์สิทธิ์! เขาเป็นคุณชายรองจวนเจ้า!”
“เจ้า…ฮ่าๆๆๆ…” องครักษ์หัวเราะจนปวดท้อง “คิดว่าข้ามาที่สกุลซือคงวันแรก จะยังไม่เคยเห็นสตรีศักดิ์สิทธิ์หรือ?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์เพิ่งนึกได้ว่านางกำลังใช้ใบหน้าของอวี๋หวั่น เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ใบหน้านี้จะไม่หลุดออกอย่างน้อยสิบวัน นางกัดฟัน หันกลับมาผลักซือคงอวิ๋นไปข้างหน้า “คุณชายรองจวนเจ้าน่าจะรู้จัก!”
องครักษ์ไม่แม้แต่มอง กลับเชิดหน้ามองฟ้า “คุณชายรองของพวกข้ากำลังแต่งงานกับสตรีศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านใน คนไร้อารยะที่ใด กล้ามาแอบอ้างเป็นคุณชายรองกับสตรีศักดิ์สิทธิ์”
สตรีศักดิ์สิทธิ์คว้าเสื้อคลุมของเขา “เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ? ผู้ใดกำลังแต่งงาน?”
องครักษ์ตกใจกลัวไอสังหารที่พวยพุ่งออกมาจากร่างของนางและกล่าวอย่างตกตะลึง “คุณ…คุณชายรองกับสตรีศักดิ์สิทธิ์! ตอนนี้น่าจะเสร็จสิ้นพิธีแล้ว กำลังต้อนรับแขกของสกุลซือคง”
สตรีศักดิ์สิทธิ์พลันแน่นิ่งไป
………………………