หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 425 พลังแห่งเด็กน้อย!
หลังจากที่ซิวหลัวฟันน้ำนมระเบิดราชาซิวหลัวแล้ว เขาก็กลับมายังตรอกเส้นเดิมซึ่งก่อนหน้านี้ถูกราชาซิวหลัวระดับห้าขวางเอาไว้ เขากระโดดเข้าไปยังเรือนโกโรโกโสหลังหนึ่ง เปิดประตูตู้ แล้วช่วยเยี่ยนจิ่วเฉาซึ่งซ่อนอยู่ด้านในออกมา
เขาจิ้มนิ้วทั้งสองข้างเข้าหากัน ไม่รู้ว่าควรไปที่ใดดี
เยี่ยนจิ่วเฉาค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วพูดอย่างอ่อนแรงว่า “ไปหาอิ่งสือซัน”
ซิวหลัวฟันน้ำนมแบกเยี่ยนจิ่วเฉาขึ้นหลัง ขณะที่กำลังจะใช้วิชาตัวเบาเหาะกลับไปยังคฤหาสน์ ก็เห็นอิ่งลิ่วกำลังรีบร้อนตามมา
เดิมทีอิ่งลิ่วก็ไม่รู้ว่าคุณชายของตนกับซิวหลัวอยู่ที่ใด แต่เมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังลั่นจึงรีบตามมา เขาไม่มั่นใจว่าเป็นคุณชาย คิดเพียงหวังพึ่งโชค ไหนเลยจะรู้ว่ากลับพบคุณชายเข้าจริงๆ
“คุณชาย!” นัยน์ตาของเขาสว่างวาบ สาวเท้าเข้าไปทันที
เยี่ยนจิ่วเฉามองเขา “อิ่งสือซันเล่า?”
อิ่งสือซันกำลังจะสิ้นใจ ทว่าจิตใจยังคงพะวงถึงแต่คุณชาย เขาไม่คิดว่าแม้คุณชายจะบาดเจ็บหนักถึงเพียงนี้ แต่คนแรกที่นึกถึงก็ยังเป็นอิ่งสือซัน ใจหนึ่งอิ่งลิ่วก็รู้สึกซาบซึ้งกับมิตรภาพของพวกเขาทั้งสอง อีกใจหนึ่งก็รู้สึกริษยา ไม่รู้ว่าทำไม
อิ่งลิ่วกล่าวว่า “ตอนนี้คฤหาสน์ปลอดภัยขอรับ ข้าปล่อยเขาไว้ที่นั่น เพียงแต่ว่า…อาการของเขาไม่สู้ดีนัก…”
เยี่ยนจิ่วเฉาฝืนทนความเจ็บปวดของร่างกายและจุดตันเถียน จากนั้นก็หยิบยาออกมาจากอกเสื้อ “นำไปป้อนให้เขา”
“นี่คืออะไรหรือขอรับ?” อิ่งลิ่วรับขวดยามา แล้วเปิดดู ข้างในเป็นยาเม็ดสีดำ
“ยาบำรุงของสกุลซือคง” สภาพของเยี่ยนจิ่วเฉาเองก็ร่อแร่เหลือทน แม้แต่เปล่งคำพูดยังต้องใช้แรง จึงไม่ได้อธิบายให้มากความ
แต่ต่อให้เขาไม่พูด อิ่งลิ่วก็เดาได้ ด้วยนิสัยของคุณชายแล้ว ยาบำรุงอะไรเทือกนี้ไม่อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย แต่เมื่อคุณชายพกติดตัวไว้เช่นนี้ ย่อมต้องเป็นยาดี
เห็นได้ชัดว่าคุณชายสูญเสียความทรงจำ คิดว่าตนเองเป็นอ๋องแห่งเผ่าปีศาจ ด้วยความจำเป็นต้องทำตามแผน เขาจึงตกลงว่าจะปลอมตัวเป็นคุณชายของพวกเขาก็เท่านั้น แต่ในยามคับขัน คุณชายกลับมอบยาเม็ดสุดท้ายให้กับอิ่งสือซัน
อิ่งลิ่วซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ออกมา…
ประเสริฐเหลือเกิน ช่างเป็นคุณชายที่ประเสริฐเหลือเกิน…
พวกเขาต้อง…
อิ่งลิ่วยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยนจิ่วเฉาหยิบขวดยาออกมาจากแขนเสื้ออีกเจ็ดแปดขวด
“…” อิ่งลิ่วนิ่งไปทันใด!
ราชาซิวหลัวระดับห้าตายในหมิงตูติดต่อกันถึงสองคน เรื่องใหญ่เช่นนี้ย่อมไม่อาจปิดบังจากบรรดายอดฝีมือในหมิงตูได้ อีกทั้งสกุลซือคงตั้งอยู่ที่เชิงเขาหมิงซาน เมื่อเกิดเสียงดังกัมปนาทเช่นนั้น มีหรือประมุขสกุลซือคงจะไม่รู้?
ปรมาจารย์ฝึกวิชาอยู่บนเขาหมิงซานมานานหลายปี ใช่ว่าจะไม่เคยประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่กลิ่นอายนี้คล้ายกับว่าจะไม่ได้มาจากปรมาจารย์
มีคนบุกรุกเข้ามาในเขาหมิงซานอย่างนั้นหรือ?
แม้ว่าประมุขสกุลซือคงจะเชื่อมั่นในวรยุทธ์ของปรมาจารย์ของพวกตน ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบเหตุการณ์ เขายังสัมผัสถึงพลังและกลิ่นอายของปรมาจารย์ไม่ได้เลย เป็นเพราะอะไรกัน หรือว่าท่านปรมาจารย์จะกำลังประสบกับสถานการณ์ที่เลวร้าย?
สีหน้าของประมุขสกุลซือคงแลดูเคร่งเครียดขึ้นมา
“ท่านพ่อ” ซือคงฉางเฟิงเดินเข้ามาคำนับด้วยท่าทางห่างเหิน
ประมุขสกุลซือคงกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางของบุตรชาย “เจ้าคงได้ยินการเคลื่อนไหวที่เขาหมิงซานใช่ไหม?”
ไม่เพียงได้ยิน ทว่าเขาเห็นกับตา ราชันหมื่นสัตว์พิษระเบิดขวดหยก และพาเสี่ยวฮวาไปยังเขาหมิงซาน สัญชาตญาณบอกกับเขาว่าเกิดเรื่องกับปรมาจารย์แล้ว ขณะที่เขากำลังจะออกไปดูเหตุการณ์ที่เขาหมิงซาน ก็ถูกท่านพ่อเรียกเข้ามาในห้องเสียก่อน
“ได้ยินแล้วขอรับ ท่านพ่อ” เขาตอบ
ประมุขสกุลซือคงกล่าวว่า “เจ้าคงรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น มีคนบุกเข้ามาในเขาหมิงซานหรือเปล่า? ท่านปรมาจารย์เขา…”
แม้ว่าซือคงฉางเฟิงจะสามารถเข้าออกหมิงซานได้อย่างอิสระ ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยบอกเรื่องเกี่ยวกับเขาหมิงซานให้คนนอกรู้ เพราะฉะนั้นต่อให้บิดาบังเกิดเกล้าของเขาถาม เขาก็ทำได้เพียงตอบว่า “ลูกไม่รู้”
ประมุขสกุลซือคงกระจ่างดีว่าบุตรชายปิดปากเงียบ ไม่มีทางบอกมาแม้แต่ประโยคเดียว จึงบอกไปอย่างไม่จนปัญญาว่า “เจ้าไปดูสักหน่อย” จากนั้นจึงให้เขาออกไป
เมื่อซือคงฉางเฟิงรุดไปยังสุสานบนเขาหมิงซาน ราชาซิวหลัวระดับห้าขั้นสูงก็ตายด้วยน้ำมือของสัตว์พิษตัวน้อยเสียแล้ว มันคิดจะกัดซิวหลัวซ้ำ แต่อวี๋หวั่นเข้ามาห้ามได้ทันเวลา
อวี๋หวั่นบอกว่า “เขาเป็นซิวหลัว วรยุทธ์ที่ใช้ต้องเทียบเท่าของซิวหลัว”
เมื่อรู้เช่นนั้น สัตว์พิษตัวน้อยจึงปัดมือเล็กๆ ของตน แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังของราชันหมื่นสัตว์พิษ
ราชันหมื่นสัตว์พิษอยู่ในสภาวะเข้าฌานเป็นที่เรียบร้อย มันนอนอยู่บนพื้นเย็นยะเยือก คอยอารักขาซือคงเย่ซึ่งกำลังหายใจรวยริน
พลังภายในของซือคงเย่หมดสิ้นไปตั้งแต่หลังจากที่ถูกราชาซิวหลัวระดับห้าทำร้าย ชีวิตของเขาใกล้จุดจบเต็มที ลมหายใจของเขาแผ่วเบา
“ท่านตาทวดเจ้าคะ!” อวี๋หวั่นกระวีกระวาดเข้ามา เธอพยุงซือคงเย่ขึ้นมา เพื่อให้เขานั่งพิงกำแพงห้องลับ
อวี๋หวั่นจำได้ว่าตนเองระวังมากแล้ว หลังจากออกมาจากสุสาน ก็ไม่ได้ปริปากบอกใครเรื่องจุดอ่อนของท่านตาทวดแม้แต่น้อย ไหนเลยจะรู้ว่ากลับถูกคนฉวยโอกาสเสียอย่างนั้น!
ซือคงเย่อาการไม่สู้ดีนัก ใบหน้าของเขาแลดูซีดเซียว อวี๋หวั่นจับชีพจรของเขา และพบว่าชีพจรของเขายุ่งเหยิงไปหมด มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆ
“ท่านตาทวดอดทนไว้ก่อนนะเจ้าคะ…ข้ามียา…เป็นยาของเยี่ยนจิ่วเฉา…เป็นยาบำรุงที่ดีที่สุดของสกุลซือคง…
สามารถฟื้นคืนชีพได้…” ยาชนิดนี้ดีกว่ายาที่ท่านยายทวดทำไว้ครั้นอาศัยอยู่ด้านล่างหน้าผาเสียอีก ดังนั้นเยี่ยนจิ่วเฉาจึงไม่เพียงเก็บไว้กับตนเองจำนวนมาก แต่ยังให้อวี๋หวั่นพกติดตัวไว้อีก
อวี๋หวั่นหยิบยาออกมาทั้งขวด “ท่านตาทวดดูสิเจ้าคะ! ยามากมายถึงเพียงนี้! ท่านจะต้องไม่เป็นไร!”
อวี๋หวั่นหยิบขวดยา ดึงจุกยาออกมา แล้วเทยาเม็ดออกมา
ซือคงเย่ยิ้มน้อยๆ พลางส่ายหน้า แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า “ไม่มีประโยชน์หรอก…ยาพวกนี้…รักษาข้าไม่ได้หรอก…”
อวี๋หวั่นกระวนกระวายใจ “ไม่สิเจ้าคะ ลองก่อนเจ้าค่ะ!”
ซือคงเย่ยกมือขึ้นมาแตะมืออวี๋หวั่นที่กำลังจะป้อนยาเขา แล้วบอกว่า “พลังระดับข้า ยาเหล่านี้…ไม่มีประโยชน์แล้ว…”
เขาไม่ได้กล่าวเช่นนี้เพียงเพราะเกรงใจ นี่คือความจริง ด้วยฐานะและอำนาจของสกุลซือคง พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาอย่างกระเบียดกระเสียร เพียงแต่ว่าหลังจากที่ฝึกวิชาอายุวัฒนะไปจนถึงระดับแปดแล้ว ก็ไม่มียาชนิดใดในหมิงตูที่รักษาเขาได้แล้ว
“แต่ว่า…” อวี๋หวั่นยังไม่อยากละทิ้งความหวังสุดท้าย
ซือคงเย่มองเธอ “เจ้าฟังข้าพูดให้จบ”
อวี๋หวั่นรู้สึกจุกที่ลำคอ ขอบตาของเธอแดงก่ำ
เขายกมือขึ้นมาลูบศีรษะของอวี๋หวั่น “ทำให้เจ้าต้องลำบากใจแล้ว”
เรื่องดำเนินมาจนถึงตอนนี้ ยังมีสิ่งใดที่เขาไม่กระจ่างอีก? เด็กคนนี้พยายามต่อต้านสตรีศักดิ์สิทธิ์ แท้จริงแล้วก็เพื่อปกป้องเขา เขานั้นเบาปัญญาเหลือเกิน มองไม่ออกว่านางเป็นเหลนแท้ๆ เพียงคนเดียวของเขา
“ชีวิตนี้ข้าไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ทำ…ตอนนี้…ข้าเสียใจเหลือเกินที่ไม่ได้หนีไปพร้อมกับหลานอี…”
ถ้าหากเขาทำเช่นนั้น ย่อมต้องรู้ว่าหลานอีตั้งครรภ์
เขาอยากอยู่กับหลานอีในยามที่นางให้กำเนิดลูก อยากเลี้ยงลูกด้วยตนเอง
เขาอยากมองดูลูกแต่งงาน อยากสรรหาบุรุษที่ดีที่สุดในใต้หล้าให้นาง ถ้าหากบุรุษคนนั้นรังแกนาง เขาก็จะไปจัดการเอง!
แล้วก็ยังมีลูกของนาง ลูกของลูกของนาง…ที่เขาอยากจะปกป้อง…
“ตาทวดอยู่กับเจ้าไม่ได้แล้ว…” ซือคงเย่กระอักเลือดออกมา เขาหยิบตำราเล่มหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ “นี่คือตำราวิชาอายุวัฒนะฉบับสมบูรณ์…ด้านในเป็นสิ่งที่ข้ารวบรวมมาทั้งชีวิต…เจ้ารับไป…”
“ข้าไม่ได้อยากได้วิชาอายุวัฒนะ!” อวี๋หวั่นสะอึกสะอื้น
ซือคงเย่ยิ้มพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาของเธอ “อันที่จริงหลายวันมานี้…ข้าสัมผัสได้ว่าวันเวลาของข้ากำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว…แต่ข้าไม่อาจทำใจยอมรับได้…ข้าคิดว่า…ข้าอยากจะรอพบกับเจ้าเสียก่อน…ในตอนนี้…ข้าไม่มีสิ่งใดให้เสียใจอีกต่อไป…ข้าจะได้ไปอย่างสงบ…”
อวี๋หวั่นรู้สึกปวดร้าวในอก “ท่านตาทวด!”
ซือคงเย่นอนอยู่บนพื้นอย่างสงบ
น้ำตาของอวี๋หวั่นหยุดลงบนพื้นไม่หยุด “ท่านตาทวด…ท่านตาทวดเจ้าคะ! ท่านตา…”
ปัก!
เธอพูดยังไม่ทันจบ ร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งอุ้มของสีดำๆ สามชิ้นเข้ามาจากด้านนอกของสุสาน
แท้จริงแล้วเป็นอาเว่ยที่พาลูกศิษย์ไม่ได้ความทั้งสามหนีออกมาจากคฤหาสน์ หนีไปหนีมากลับหลงทาง และเข้ามาในเขาหมิงซาน จากนั้นก็จับพลัดจับผลูเข้ามาในสุสาน
อาเว่ยใช้ตนเองเป็นเบาะกันกระแทก
เด็กทั้งสามกระแทกลงบนตัวเขา จากนั้นก็กลิ้งกลุกๆ ลงบนพื้น
ซือคงเย่ลืมตาขึ้น นั่นอาจเป็นสิ่งที่เขาได้เป็นครั้งสุดท้าย
แต่ว่า…เขาเห็นอะไรนั่น?
เด็กสามคน ตัวอ้วนกลมจ้ำม่ำ?!
“เด็กๆ!” อวี๋หวั่นร้องเรียก
ดะ…เด็ก…เด็กเจ้าเนื้อน่ารักเหล่านี้คือ…ลูกๆ ของเหลนของเขาหรือ?
นัยน์ตาของซือคงเย่เบิกกว้าง…
เขาคว้ามือของอวี๋หวั่น แล้วพูดออกมาด้วยแรงเฮือกสุดท้ายว่า “ข้าคิดว่า…เจ้ายังช่วยข้าได้!”
……………….
Comments for chapter "บทที่ 425 พลังแห่งเด็กน้อย!"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
สร้อยสนภริยาขุนภักดี
ท่านตาทวด สู้ๆ