หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 532 ท่าไม้ตายของเสี่ยวเป่า!
“เช่นนั้นยามนี้จะทำเช่นไรดีละ? ปีศาจตนนี้ไม่เพียงมีพลังของหลัวช่าวิญญาณ ยังมีพลังของราชาศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย คุณชายเผชิญหน้ากับมัน…อันตรายนัก!” อิ่งลิ่วกังวลจนเหงื่อออกมือ
อิ่งสือซันก็รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่เป็นผลดีนัก ยามที่คุณชายยังเด็กเคยได้รับบาดเจ็บ แม้จะไม่ถึงกับถูกคนทำลายเอ็นข้อมือข้อเท้าอย่างที่อวี้จื่อกุยเล่า ทว่าก็ไม่ไกลกันนัก กล่าวโดยสรุป ก่อนที่จะสืบทอดพลังของอ๋องเผ่าปีศาจคุณชายไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้เลย
ต้องยอมรับว่าคุณชายมีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ที่น่าทึ่ง ไม่เช่นนั้น คงไม่อาจพัฒนาวิชาอายุวัฒนะจนถึงระดับเก้าในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ได้ ทว่าสิ่งที่คุณชายกำลังเผชิญหน้าในยามนี้ คือปีศาจร้ายที่แม้แต่ราชาศักดิ์สิทธิ์กับราชาพ่อมดก็ไม่อาจฆ่าได้ง่ายๆ พลังของคุณชายในยามนี้ยังห่างไกลยิ่งนัก
อิ่งลิ่วกล่าวอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “หากฮูหยินอยู่ก็คงดี…”
ยามที่ฮูหยินไม่ถูกบุรุษหล่อเหลาทำให้ลุ่มหลง นับว่าพึ่งพาได้มากทีเดียว
ทว่าพูดยามนี้จะมีประโยชน์ใด? ฮูหยินกับนายท่านตกลงไปในหลุมลึก เป็นหรือตายก็ยังไม่แน่นอน…
หากรู้แต่แรกว่าหลัวช่าวิญญาณจะตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ในวันนี้ พวกเขาคงไม่เข้าวังมาชักช้าเช่นนี้แน่ ทว่ามีทองพันชั่งก็ยากจะซื้อหากรู้แต่แรก ยามนี้ไม่ใช่พวกเขาจะฆ่าหลัวช่าวิญญาณหรือไม่ แต่เป็นหลัวช่าวิญญาณจะปล่อยพวกเขาไปหรือไม่
ราชาศักดิ์สิทธิ์เหาะลงบนยอดชายคาอย่างแผ่วเบา เสื้อคลุมสีม่วงพลิ้วไหวกับสายลมราวดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่เบ่งบาน
ริมฝีปากแดงสดคลี่ยิ้มยากคาดเดาน้อยๆ แม้ไม่เอ่ยสิ่งใด ทว่าอิ่งลิ่วและอิ่งสือซันกลับรู้สึกว่านางกำลังพูดบางอย่าง เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ยิน
“ส่งเสียงเข้าหู!” อิ่งสือซันกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
อิ่งลิ่วหายใจเฮือก “ส่งเสียงเข้าหูมิใช่ทักษะยุทธจักรจงหยวนที่สาบสูญไปนานแล้วหรอกหรือ? หลัวช่าวิญญาณกับราชาศักดิ์สิทธิ์ล้วนไม่ใช่คนจงหยวน เหตุใดยังสามารถทำได้?”
อิ่งสือซันกล่าวว่า “เจ้าลืมความสามารถของหลัวช่าวิญญาณไปแล้วหรือ? มันเชี่ยวชาญการดูดกลืนวิญญาณ ทุกครั้งที่กลืนกินยอดฝีมือคนหนึ่ง ก็จะสามารถใช้พลังพิเศษของอีกฝ่ายได้”
อิ่งลิ่วรู้ซึ้งทันใด “เช่นนั้น ก่อนหน้านี้มันกลืนกินยอดฝีมือจงหยวนไปเช่นนั้นหรือ?”
ความสามารถเช่นนี้น่ากลัวเกินไป ในช่วงชีวิตคนธรรมดาฝึกฝนวิชาจนเชี่ยวชาญได้เพียงอย่างหรือสองอย่าง หลัวช่าวิญญาณดูดวิญญาณครั้งหนึ่งกลับได้ครอบครอง แน่นอนว่าพลังดั้งเดิมของคนผู้นี้ต้องแข็งแกร่งพอตัว ถึงสามารถครอบครองพลังได้มากพอ และรวมเข้าด้วยกันได้ในเวลาอันสั้น
“แต่นางพูดสิ่งใดกับคุณชายกันแน่?” อิ่งลิ่วถามขณะมองดูทั้งสองเผชิญหน้ากันบนฟ้า
ราชาศักดิ์สิทธิ์เผยรอยยิ้มแปลกประหลาด สีหน้าของเยี่ยนจิ่วเฉาเย็นชาราวกับเหล็ก
อิ่งสือซันจ้องมองคุณชายเนิ่นนาน “แม้ไม่รู้ว่านางพูดสิ่งใด ทว่าที่แน่นอนคือนางกำลังยั่วยุคุณชาย”
อิ่งลิ่วมองเยี่ยนจิ่วเฉา แล้วก็มองราชาศักดิ์สิทธิ์ “นางจะยั่วยุคุณชายไปเพื่อสิ่งใด? หากนางอยากฆ่าคุณชาย ก็ฆ่าไปเสียตรงๆ บัดนี้คุณชายมีพลังเพียงห้าส่วน จะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้อย่างไร?”
แม้อิ่งลิ่วจะสับสนอยู่บ้าง แต่ในเวลาสำคัญก็มักจะถามได้ตรงประเด็น จริงด้วย พลังของคุณชายในยุครุ่งเรืองยังไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้ บัดนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะนาง ทำให้คุณชายโกรธไม่เป็นการเพิ่มความยุ่งยากหรอกหรือ?
เว้นเสียแต่ว่า——
จำเป็นต้องมีความโกรธ
“นางต้องการดูดวิญญาณ! นางต้องการกลืนกินคุณชาย!”
อิ่งสือซันไม่เคยฝึกวิชาดูดวิญญาณ ไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แต่หากราชาศักดิ์สิทธิ์ต้องการฆ่าคุณชายก็คงทำไปนานแล้ว และหากต้องการใช้วิชาดูดวิญญาณ ก็คงลงมือไปแล้ว ที่ไม่ทำเช่นนั้นมิใช่ไม่อยากทำ ทว่ายากที่จะทำ
การฆ่าคุณชายไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้นสิ่งที่ยากก็มีเพียงดูดวิญญาณเท่านั้น
อิ่งสือซันกล่าวว่า “จิตใจคุณชายมั่นคงยากหวั่นไหว นางไม่อาจใช้วิชาดูดวิญญาณ จึงต้องทำให้คุณชายเกิดโทสะเสียก่อน บีบบังคับให้เผยช่องโหว่”
“ร้ายกาจนัก!” อิ่งลิ่วกัดฟัน
อิ่งสือซันดึงกริชออกจากเอว
เกือบในเวลาเดียวกัน อิ่งลิ่วก็หยิบลูกดอกออกมาสองสามหัว ทั้งสองมองหน้ากันราวกับรู้ใจ แม้พลังของพวกเขายามอยู่ต่อหน้าราชาศักดิ์สิทธิ์จะไม่เพียงพอ ทว่าก็ต้องลองกันสักตั้ง
ต่อให้ต้องใช้ชีวิตพวกเขาเข้าแลก ก็ต้องหยุดยั้งราชาศักดิ์สิทธิ์ให้ได้
กริชและอาวุธลับของทั้งสองพุ่งเป้าไปที่ราชาศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว
ราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่ขยับหรือแม้แต่กะพริบตา ทว่ากริชและลูกดอกเหล่านั้นกลับหยุดนิ่งก่อนจะสัมผัสถูกราชาศักดิ์สิทธิ์ มองแวบแรก คล้ายกับมีเกราะกำบังที่มองไม่เห็น วินาทีถัดมา กริชและลูกดอกก็แหลกสลายเป็นผุยผง
เมื่อทั้งสองเห็นเช่นนั้น ก็เลิกคิ้วโดยไม่รู้ตัว
เดิมทีราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่เห็นหน่วยกล้าตายสองคนในสายตา ทว่าไม่รู้นึกสิ่งใดได้ จู่ๆ นางก็ดีดปลายเท้า ปล่อยพลังฝ่ามือโจมตีอิ่งสือซันและอิ่งลิ่ว
หากถูกฝ่ามือนี้ ทั้งสองคงกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที
เยี่ยนจิ่วเฉาถือดาบพุ่งเข้าไป ใช้พลังปราณดาบรุนแรงสร้างแรงลมพัดทั้งสองออกไป
ราชาศักดิ์สิทธิ์ปล่อยพลังฝ่ามือออกไปอีกครั้ง ริมฝีปากยกยิ้มลึกล้ำกว่าเดิม หันกลับไปเหลือบมองเยี่ยนจิ่วเฉาปราดหนึ่ง ดวงตาลึกล้ำแฝงนัยคล้ายกับกำลังกล่าวว่า : ยังรู้ว่าไม่สามารถปะทะกับข้า ก็นับว่าไม่โง่เขลาเกินไป ทว่าเจ้าจะรับมือได้นานสักเพียงใด?
เยี่ยนจิ่วเฉารับมือได้ไม่นานจริงๆ เขามาฆ่าหลัวช่าวิญญาณที่ยังไม่ตื่นโดยสมบูรณ์ ทว่ามาถึงวิหารกวังหมิง ผู้ที่ต้อนรับเขากลับเป็นหลัวช่าวิญญาณที่ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้วไม่ต้องพูดถึง ยังมีพลังอันแข็งแกร่งของราชาศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมา พลังที่มีเพียงห้าส่วนของเขา แค่รับฝ่ามือแรกก็หนักหนาแล้ว
กลับกัน สถานการณ์ของราชาศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พลังของนางเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการควบรวมของหลัวช่าวิญญาณและร่างกายของราชาศักดิ์สิทธิ์!
“พวกเจ้าไปก่อน!” เยี่ยนจิ่วเฉากำดาบในมือแน่น
“คุณชาย!” อิ่งสือซันแอบเคลื่อนย้ายลมปราณ ชีวิตของเขาเป็นของคุณชาย หากถึงจุดนั้นจริงๆ เขา…
เยี่ยนจิ่วเฉาเดาได้ทันทีว่าอิ่งสือซันจะทำสิ่งใด “เจ้าระเบิดตัวเองไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่อาจทำอะไรนางได้ รีบไป!”
พูดจบ เขาก็สะบัดแขนเสื้อส่งอิ่งสือซันกับอิ่งลิ่วออกไป
คอของทั้งสองเจ็บเล็กน้อย
ยามอยู่ในต้าโจว หลายคนถามพวกเขาว่าเยี่ยนจิ่วเฉามีอารมณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ บ้าขึ้นมาก็ไม่ใช่คน เหตุใดพวกเขาถึงยังจงรักภักดีต่อเขา? นั่นเพราะคนพวกนั้นไม่รู้ว่าคุณชายเป็นเพียงผู้เดียวในใต้หล้าที่ปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นมนุษย์
อยู่ข้างกายคุณชาย พวกเขาเป็นหน่วยกล้าตาย แต่กลับไม่ใช่หน่วยกล้าตาย
คุณชายให้พวกเขาทุ่มเทสุดความสามารถ โดยเชื่อมั่นเสมอว่าพวกเขาจะไม่ตายจริงๆ
ราชาศักดิ์สิทธิ์ใช้กำลังภายในวิชาอายุวัฒนะ พยายามดักจับทั้งสองคน แต่เยี่ยนจิ่วเฉาขวางไว้
อิ่งลิ่วขมวดคิ้ว “เมื่อครู่คือวิชาอายุวัฒนะ? ราชาศักดิ์สิทธิ์กลืนคุณชายเข้าไปแล้วหรือ? เหตุใดนางสามารถใช้วิชาอายุวัฒนะ?”
อิ่งสือซันกล่าวว่า “ไม่น่าจะมาจากคุณชาย แต่เป็นยอดฝีมือคนอื่นๆ ที่ฝึกฝนวิชาอายุวัฒนะ ทว่าระดับพลังไม่สูงเท่าคุณชาย ราชาศักดิ์สิทธิ์จึงใช้พลังได้เพียงขั้นหกขั้นเจ็ด”
ขณะที่พูด ทั้งสองคนถูกกำลังภายในของเยี่ยนจิ่วเฉาส่งออกไปนอกวัง
เหยื่อในมือหายไป ความผิดหวังพาดผ่านใบหน้าของราชาศักดิ์สิทธิ์ สีหน้าเกินจริงราวกับกำลังพูดว่าเหยื่อของข้าหายไปแล้ว เช่นนั้นก็เอาตัวเจ้ามาชดใช้ให้ข้าซะ
ราชาศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกไปจับเยี่ยนจิ่วเฉา
เยี่ยนจิ่วเฉากำดาบไว้ในมือแน่น แม้ไม่สามารถเอาชนะได้ก็จริง แต่หากจะฆ่านางก็ยังพอมีวิธี คือตายไปด้วยกัน
หากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย เยี่ยนจิ่วเฉาก็ไม่อยากตัดสินใจเช่นนี้ แต่หากราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่ตาย อวี๋หวั่นจะถูกสังหารเป็นรายต่อไป เพราะในกายของนางก็มีราชาศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอีกคนอยู่
หลัวช่าวิญญาณจะกลืนกินราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยเป็นแน่!
เมื่อราชาศักดิ์สิทธิ์เข้ามาใกล้เยี่ยนจิ่วเฉา เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้นางบีบคอตน
ดาบยาวในมือกลายเป็นขี้เถ้าภายใต้พลังกดดันอันยิ่งใหญ่ของราชาศักดิ์สิทธิ์
สองเท้าเริ่มไร้ความรู้สึก แผ่ไปถึงเอวกับหน้าท้องอย่างช้าๆ ขณะที่จุดตันเถียนกำลังจะถูกราชาศักดิ์สิทธิ์บดขยี้ สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
จู่ๆ ร่างของราชาศักดิ์สิทธิ์ก็กระตุก
เยี่ยนจิ่วเฉาผงะ
ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ผงะเช่นกัน
พลังกดดันของราชาศักดิ์สิทธิ์บนร่างกายเยี่ยนจิ่วเฉาลดลง แต่หลังจากราชาศักดิ์สิทธิ์คืนสติอีกครั้ง พลังก็เพิ่มเป็นสองเท่า
เยี่ยนจิ่วเฉาตัดสินใจว่าจะระเบิดตัวเองเป็นครั้งที่สอง
ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็กระตุกอีกครั้ง
เยี่ยนจิ่วเฉา “…”
ราชาศักดิ์สิทธิ์เปลือกตากระตุก มุมปากกระตุก แก้มกระตุก ท้ายที่สุดก็กระตุกไปทุกที่
เยี่ยนจิ่วเฉากะพริบตา ยื่นนิ้วเรียวยาวดุจหยกจิ้มหน้าผากของราชาศักดิ์สิทธิ์
ราชาศักดิ์สิทธิ์ล้มลงกับพื้นดังตึง
เมื่อเห็นเช่นนี้ เยี่ยนจิ่วเฉาก็รีบวาดฝ่ามือร่ายท่า
ไหนเลยจะรู้ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์กลับดีขึ้นอีกครั้ง ตบฝ่ามือยืมแรงจนร่างกายสั่นสะเทือน จากนั้นก็กางกรงเล็บคว้าเยี่ยนจิ่วเฉาอีกครั้ง
ทว่ายังไม่ทันถูกเยี่ยนจิ่วเฉา นางกระตุกอีกๆๆๆ ครั้ง…
นางทรุดลงกับพื้น กระตุกจนจมูกเอียงปากเบี้ยว!
บรรดาองครักษ์ที่อยู่ไม่ไกลต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
เกิดอะไรขึ้นกับหลัวช่าวิญญาณ?
เหตุใดจู่ๆ ถึงชักกระตุก?
“กินสิ่งใดผิดสำแดงไปหรือไม่?”
“นางเพิ่งตื่น ยังไม่ได้กินสิ่งใดเลย!”
“เช่นนั้นก็กินยาผิด?”
“ยานั้นองค์ราชินีแม่มดเป็นคนเตรียม! จะผิดพลาดได้อย่างไร? ข้าลองใช้เข็มเงินทดสอบดูแล้ว! ไม่มีพิษ!”
…………………………