หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 537 จักรพรรดิหนอนพิษน้อยทรงพลัง!
โจวจิ่นยกมือแตะโซ่เหล็กที่มัดร่างของสตรีผู้นั้นอย่างช้าๆ ขณะที่เขากำลังจะปลดโซ่เหล็ก จู่ๆ ก็เจ็บหน้าอกขึ้นมา
“อ๊าก!” โจวจิ่นถอนมือกลับมากุมหน้าอกด้วยความเจ็บปวด วินาทีนี้ สติของเขาก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
เขาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มองไปยังสตรีที่ถูกโซ่เหล็กมัดตรึงด้วยความตกใจ
เขาเป็นทายาทของราชาพ่อมด มีพลังเวทที่น่าทึ่งตั้งแต่เด็ก ที่ผ่านมามีเพียงเขาที่สะกดจิตผู้อื่น นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้เวทมนตร์กับเขา
หากไม่ใช่สัตว์พิษตัวน้อยที่ปลุกเขาได้ทันท่วงที เขาคงทำเรื่องที่ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้แล้ว
เมื่อราชาศักดิ์สิทธิ์เห็นโจวจิ่นได้สติ สีหน้าอ่อนโยนพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ดวงตาจับจ้องไปที่หัวใจของโจวจิ่น มุมปากยกขึ้นอย่างดูถูก “จักรพรรดิ หนอนพิษ น้อย?”
เมื่อสัมผัสได้ถึงไอสังหารของนางต่อสัตว์พิษตัวน้อย โจวจิ่นก็ถอยห่างนางมากขึ้น
ราชาศักดิ์สิทธิ์กลับหัวเราะ เอ่ยเสียงเนิบ “อย่ากลัวไปเลย แม่เป็นแม่ของลูก แม่ไม่มีทางทำร้ายลูก”
โจวจิ่นมองนางอย่างสงบเยือกเย็นไม่โต้ตอบ
ราชาศักดิ์สิทธิ์สะกดจิต “เป็นอะไรไป? พวกเขาไม่ได้บอกลูกหรือว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่? แม่ยังไม่ตาย คนที่ตายคือหลัวช่าวิญญาณ แม่กลับมาได้อย่างปลอดภัย มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแม่ลูก”
ความหวาดระแวงวาบผ่านดวงตาของโจวจิ่น
ราชาศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า “ไม่ต้องกลัว รีบมานี่ มาให้แม่ข้าดู โจวจิ่นน้อยของแม่โตถึงเพียงนี้แล้ว”
เพราะถูกโซ่เหล็กนิลควบคุมไว้นางจึงไม่อาจใช้พลังเวท ทว่ากลับไม่ได้ป้องกันวิชาภาพลวงตาต่อบุตรในสายเลือดของ ‘ตน’
“มา มาอยู่ข้างๆ แม่” นางเอ่ยพลางมองโจวจิ่นเนือยนิ่ง
โจวจิ่นต่อสู้กับภาพลวงตาของนาง
จู่ๆ ร่างของราชาศักดิ์สิทธิ์ก็กระตุก เมื่อราชาศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้นมา กลิ่นอายทั้งหมดก็แปรเปลี่ยนไป
นางตะโกนด้วยดวงตาแดงก่ำ “รีบไป! ไปสิ! อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามาใกล้ที่นี่! ไม่ต้องฟังที่แม่พูด!”
โจวจิ่นตกตะลึง
“เร็ว…” ก่อนที่นางจะพูดจบ ร่างกายก็กระตุกอีกครั้ง เมื่อลืมตาขึ้นอีกทีก็กลับมาเป็นมารดาผู้อบอุ่นอ่อนโยน
“เด็กดี มาหาแม่มา…”
โจวจิ่นก้าวไปข้างหน้า
ราชาศักดิ์สิทธิ์กระตุกอีกครั้ง
นางตะโกนเสียงดัง “อย่าเข้ามา! ข้าบอกให้เจ้าออกไป!”
โจวจิ่นหยุดชะงัก
ราชาศักดิ์สิทธิ์เผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ “เด็กดี มานี่สิ แม่คิดถึงลูก…”
เท้าของโจวจิ่นใกล้จะไม่ฟังคำสั่ง
ทันใดนั้น พลังเวททรงพลังก็พุ่งเข้าปกคลุม แทรกซึมเข้าไปในหัวของราชาศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาของราชาศักดิ์สิทธิ์ดำมืดและสลบไป
โจวจิ่นก็ทรุดตัวลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ทว่าความเจ็บปวดที่จินตนาการกลับไม่ได้เกิดขึ้น เขาตกอยู่ในอ้อมแขนอบอุ่น
ราชาพ่อมดรับตัวเขาไว้และถามด้วยความเป็นห่วง “เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
โจวจิ่นมองเขาอย่างอ่อนแรง
“เกิดอะไรขึ้น?” อิ่งสือซันเข้ามาในห้องพร้อมกับดาบเล่มยาวในมือ สิ่งแรกที่เห็นคือราชาพ่อมดที่สวมเสื้อคลุม กับโจวจิ่นที่ดูอ่อนแอในอ้อมแขนของเขา นั่นก็พอคาดเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้
เขาเก็บดาบ เดินเข้าไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย รับโจวจิ่นมาจากอ้อมแขนของเขา “มาให้ข้าเถอะ ข้าจะพาเขากลับไปที่ห้องเอง”
ราชาพ่อมดมองบุตรชายที่ใบหน้าซีดขาว จากนั้นก็พยักหน้าแล้วปล่อยมือ
อิ่งสือซันหมายจะส่งโจวจิ่นกลับห้อง ทว่าโจวจิ่นกลับดึงแขนเสื้อของอิ่งสือซัน
อิ่งสือซันกล่าวอย่างเข้าใจ “เมื่อครู่ที่เจ้าหลับไป มีเรื่องที่ไม่ทันได้บอกเจ้า หากเจ้าอยากฟัง ก็อยู่ที่นี่”
โจวจิ่นไม่ใช่เด็กธรรมดา พวกเขาไม่เคยจงใจปิดบังสิ่งใดจากเขา
“เช่นนั้นข้าจะอยู่” โจวจิ่นกล่าว
“ก็ได้” อิ่งสือซันหันกลับไปกล่าวกับราชาพ่อมด “องค์ราชาพ่อมดก็เชิญทางนี้ขอรับ”
อาจเพราะคาดการณ์ไว้แล้วว่าเขาจะมา จึงไม่มีผู้ใดแปลกใจกับการมาเยี่ยมเยือนกลางดึกของราชาพ่อมดมากนัก
อิ่งสือซันอุ้มโจวจิ่นไปที่ห้องตำรา เยี่ยนจิ่วเฉารอเขาอยู่ที่นั่นแล้ว
อิ่งลิ่วก็อยู่กับเยี่ยนจิ่วเฉา เมื่อเห็นอิ่งสือซันอุ้มโจวจิ่นเข้ามา เขาก็รีบหาเก้าอี้ให้อิ่งสือซันวางโจวจิ่นลง
“ราชาพ่อมดมาเยือนกลางดึกเช่นนี้ เพราะราชาศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่?”
“ใช่” ราชาพ่อมดกล่าวอย่างไม่เขินอาย “ข้าเดาว่านางจะมาหาพวกเจ้า”
อิ่งสือซันกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ท่านผิดแล้ว นางไม่ได้มาหาเรา นางมาหาโจวจิ่น เพียงแต่โจวจิ่นบังเอิญอยู่กับเราเท่านั้น”
นี่เป็นการเตือนสติราชาพ่อมด เพราะสิ่งที่เขาไม่อาจตัดใจปล่อยวาง ได้นำพาอันตรายใหญ่หลวงมาสู่บุตรชายของเขาเอง
ราชาพ่อมดเอ่ยอย่างแผ่วเบา “เจ้าไม่ต้องเตือนข้า ข้ารู้ดี”
อิ่งสือซันถามว่า “เช่นนั้นท่านเตรียมการจะทำเช่นไร? ท่านก็เห็นแล้วว่าหลัวช่าวิญญาณจะไม่ปล่อยท่านกับบุตรชายไป”
ราชาพ่อมดกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่ใช่หลัวช่าวิญญาณ แต่เป็นอาเยียน”
อิ่งสือซันกล่าวว่า “ท่านหมายถึงราชาศักดิ์สิทธิ์หรือ? ท่านเชื่อไปได้อย่างไร ราชาศักดิ์สิทธิ์ตายแล้ว นางไม่อาจกลับมาได้อีกแล้ว”
ราชาพ่อมดส่ายศีรษะ “ไม่ นางยังไม่ตาย นางเพียงถูกความทรงจำของหลัวช่าวิญญาณควบคุมไว้เท่านั้น ข้าพบนางแล้ว ข้าเชื่อว่า…จิ่นเอ๋อร์ก็พบนางเช่นกัน” ราชาพ่อมดเอ่ยพลางมองโจวจิ่นที่ใบหน้าซีดเซียวเนือยนิ่ง
“เมื่อครู่เจ้าพบราชาศักดิ์สิทธิ์จริงๆ หรือ?” อิ่งลิ่วกระซิบถามโจวจิ่น
โจวจิ่นย้อนนึกไปครู่หนึ่งและพยักหน้าเบาๆ “อื้อ”
เมื่อดูจากเหตุการณ์เมื่อครู่ สตรีที่ตะโกนบอกให้เขาออกไป ดูเหมือนจะเป็นมารดาของเขา ราชาศักดิ์สิทธิ์
ประกายวาบผ่านดวงตาของราชาพ่อมด “เห็นหรือไม่! จิ่นเอ๋อร์ก็พบนางเช่นกัน! ข้าพูดไม่ผิด! อาเยียนยังมีชีวิตอยู่! พวกเราแค่ต้องลบล้างจิตวิญญาณของหลัวช่าวิญญาณออกไปเท่านั้น!”
อิ่งสือซันและอิ่งลิ่วต่างมองไปที่เยี่ยนจิ่วเฉาพร้อมกัน
เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวอย่างเมินเฉย “ท่านคิดว่าจะลบมันอย่างไร?”
ราชาพ่อมดกล่าวว่า “ใช้โอกาสที่จิตวิญญาณของหลัวช่าวิญญาณอ่อนแอ ข้าสามารถใช้พลังเวทลบล้างมันได้”
“เช่นนั้นหากล้มเหลวละ?” เยี่ยนจิ่วเฉาถาม
ราชาพ่อมดอ้ำอึ้ง “ข้าไม่มีทางพลาด ข้าทำได้ เพียงแต่ต้องการการคุ้มกันจากพวกเจ้า ข้าอาจต้องขอยืมบางอย่างจากพวกเจ้าด้วย”
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่คัดค้านหรือเห็นด้วย
ราชาพ่อมดเข้าใจดีว่าบุรุษผู้นี้มิได้โอนอ่อนง่ายๆ แต่ในเมื่อโอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาก็จำเป็นต้องคว้ามันไว้ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กำหมัดแน่น กัดฟันกล่าว “ข้าให้สัญญากับเจ้า ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ มันจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย หากข้าล้มเหลว ข้า…จะยกนางให้เจ้าจัดการ แล้วน้ำตาของราชาพ่อมด…ข้าก็จะมอบให้พวกเจ้าเช่นกัน”
เมื่อเห็นว่าเยี่ยนจิ่วเฉายังคงไม่พูดอะไร ราชาพ่อมดก็กล่าวต่อว่า “คนของพวกเจ้ามิใช่ถูกดูดกลืนวิญญาณหรอกหรือ? หากอาเยียนตื่นขึ้นมารวมพลังกับข้า อาจปลุกให้พวกอาม่าฟื้นขึ้นก็เป็นได้”
ครู่ใหญ่ เยี่ยนจิ่วเฉาก็เอ่ยปาก “ท่านต้องการสิ่งใด?”
…
มู่ชิงเกิดมาพร้อมเนตรหยินหยาง ดวงตานั้นเป็นลางร้ายสำหรับประเทศมรกต ทว่าสำหรับเผ่าพ่อมดแล้ว มันคือพรจากเหล่าทวยเทพ ราชาพ่อมดต้องการเลือดของเขาสองสามหยด พร้อมกับเลือดจักรพรรดิหนอนพิษอีกหนึ่งหยด
สัตว์พิษตัวน้อยยังเล็ก ปริมาณเลือดจึงมีเพียงน้อยนิด เลือดหนึ่งหยดก็ทำให้ตัวเบาได้!!!
ศิลาพ่อมดและสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์ที่สุดก็ถูกเตรียมไว้อีกหลายก้อน
“ท่านยังเปลี่ยนใจทัน” เยี่ยนจิ่วเฉากล่าว
“ข้าจะไม่เสียใจทีหลัง” ราชาพ่อมดกล่าว
“คงจะไม่ล้มเหลวกระมัง? ข้าตื่นเต้นแล้วสิ” อิ่งลิ่วจับมืออิ่งสือซัน
อิ่งสือซันมองนิ้วเรียวยาวของอิ่งลิ่ว ดวงตาสั่นไหวและกล่าวว่า “ความเสี่ยงย่อมมี ทว่าก็ไม่มีหนทางอื่น”
หลัวช่าวิญญาณไม่มีทางช่วยพวกอาม่า หากเป็นอย่างที่ราชาพ่อมดกล่าวจริง นั่นเป็นทางเดียวที่จะเรียกราชาศักดิ์สิทธิ์กลับมา
พวกเขาเลือกป่าเงียบสงบบนภูเขา
ราชาพ่อมดเตรียมการต่อสู้
เยี่ยนจิ่วเฉาคอยคุ้มกันเขา
อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันก็เตรียมพร้อมตั้งรับ ส่งสิ่งจำเป็นให้ราชาพ่อมดยามที่เขาต้องการ
ราชาศักดิ์สิทธิ์ถูกมัดไว้กับต้นไม้
“ข้าจะเริ่มละ” ราชาพ่อมดกล่าว
“อื้ม” เยี่ยนจิ่วเฉาพยักหน้า
“พลังของคุณชายฟื้นฟูมาเท่าใดแล้ว?” อิ่งลิ่วกระซิบถาม
“เจ็ดส่วน” อิ่งสือซันกล่าว
ราชาพ่อมดนั่งขัดสมาธิวาดมือร่ายคาถา พลังเวทมหาศาลพุ่งออกมาปกคลุมราชาศักดิ์สิทธิ์ในทันที
หลังจากนั้น ราชาพ่อมดราวกับดึงไหมออกจากรัง[1] เขาปล่อยพลังเวททรงพลังเข้าสู่ภายในของราชาศักดิ์สิทธิ์ผ่านสมองของนางอย่างช้าๆ
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีแบบแผน ดูราบรื่นอย่างยิ่ง พลังเวทของราชาพ่อมดได้เข้าสู่ร่างของราชาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต่อไปก็ถึงเวลากักขังจิตวิญญาณของหลัวช่าวิญญาณ และลบล้างมันออกในคราวเดียว ทว่าเวลานี้ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ลืมตาขึ้น
พลังเวทในร่างกายถูกดูดเข้าไปที่ตันเถียนของนางอย่างสมบูรณ์ ราชาพ่อมดผงะ วินาทีถัดมา เยี่ยนจิ่วเฉาก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เหาะขึ้นไปใช้ฝ่ามือปราณกับราชาศักดิ์สิทธิ์จากด้านหน้า
“อย่า——”
ราชาพ่อมดพุ่งเข้าไปกอดราชาศักดิ์สิทธิ์
ฝ่ามือปราณของเยี่ยนจิ่วเฉากระทบแผ่นหลังของราชาพ่อมดจนกระอักเลือด โซ่เหล็กนิลที่เปื้อนเลือดของราชาพ่อมดพลันแตกออก แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น หลัวช่าวิญญาณทำลายพลังยับยั้งของราชาศักดิ์สิทธิ์ และดูดพลังเวทของราชาพ่อมดแทบหมดสิ้น
“ฮ่าๆๆๆ…” ราชาศักดิ์สิทธิ์เหาะขึ้นไปในอากาศ ยิ้มมุมปากอย่างกระหายเลือด “ช่างดีเสียจริง ไม่มีพลังยับยั้งแล้ว แผลของข้าก็หายดี ขอบคุณมากจริงๆ!”
สีหน้าอิ่งสือซันแปรเปลี่ยน “ฉิบหาย! เราถูกหลอก! ราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีตัวตนอยู่ตั้งแต่แรก สิ่งที่โจวจิ่นเห็น…ล้วนเป็นการแสดงของหลัวช่าวิญญาณ! เพื่อทำให้โจวจิ่นเชื่อว่าเขาได้พบมารดาของตน!”
ช่างเป็นอุบายที่ล้ำลึกนัก!
………………………