หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 538 กลุ่มเพื่อนเทพที่แข็งแกร่งที่สุด!
“คุณชาย!”
อิ่งสือซันสังเกตเห็นใบหน้าของเยี่ยนจิ่วเฉาซีดลงฉับพลัน เขารีบก้าวไปข้างหน้า “คุณชายเป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”
เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวว่า “ข้าไม่เป็นไร”
ทว่าความจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้น ไม่เพียงแต่ใบหน้าขาวซีด ลมปราณยังแปรปรวนผิดปกติ
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?” อิ่งสือซันไม่เข้าใจ เมื่อครู่คุณชายลอบโจมตีราชาศักดิ์สิทธิ์ แม้ราชาพ่อมดจะเข้ามาขวางทว่าไม่ได้ต่อต้าน ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ทันต่อสู้กับคุณชาย เช่นนั้นอาการบาดเจ็บนี้มาจากที่ใดกัน?
เยี่ยนจิ่วเฉากุมหน้าอกที่เจ็บปวด “การคุ้มกันราชาพ่อมดถูกขัดจังหวะ จึงถูกพลังย้อนกลับเข้าตัวเล็กน้อย”
อิ่งสือซันเข้าใจแล้ว คุณชายใช้พลังเพื่อคุ้มกันราชาพ่อมด หากทุกอย่างราบรื่นดี ก็จะสามารถถอนพลังกลับมาได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เมื่อครู่วิกฤตอันตรายใหญ่หลวง เพื่อหยุดยั้งการสูญเสียให้ทันท่วงที แม้จะเสี่ยงกับพลังย้อนกลับ คุณชายก็ยังตัดสินใจโจมตีราชาศักดิ์สิทธิ์ นั่นเป็นฝ่ามือที่ต้องสำเร็จเท่านั้น แต่แล้วกลับถูกราชาพ่อมดทำพัง…
“ราชาพ่อมด…ราชาพ่อมด…ราชาพ่อมด!” อิ่งลิ่วบีบข้อมือของเขา สีหน้าเคร่งเครียด “ชีพจรของเขาอ่อนมาก!”
แย่แล้ว!
หากราชาพ่อมดตาย โจวจิ่นก็อาจไม่รอดเช่นกัน!
อิ่งสือซันรีบหยิบขวดยาอายุวัฒนะที่นำมาจากสกุลซือคงในหมิงตูโยนให้อิ่งลิ่ว “ให้เขากิน!”
“กี่เม็ดละ?” อิ่งลิ่วรับขวดยามา
ตามหลักหนึ่งเม็ดก็เพียงพอแล้ว ทว่า…อิ่งสือซันกลับกล่าวว่า “ให้เขากินทั้งหมด!”
“โอ้” อิ่งลิ่วดึงจุกออก ประคองร่างราชาพ่อมดขึ้นแล้วเทยาทั้งหมดเข้าปากของเขา
เม็ดยาละลายในปากไหลลงสู่ช่องท้องอย่างรวดเร็ว
มันคือยาต่อชีวิตไม่ผิด ทว่าก็มิได้หมายความว่าจะมีผลกับทุกคน ขึ้นอยู่กับความโชคดีของคนผู้นั้น
ราชาศักดิ์สิทธิ์มีความสุขกับความรู้สึกไร้ขีดจำกัด นางยืนอยู่บนกิ่งไม้ หลับตา สูดอากาศบริสุทธิ์ มองดูเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างอารมณ์ดี “เห็นแก่ที่เจ้าปกป้องข้าครั้งหนึ่ง ข้าจะยังไม่ฆ่าเจ้า รอจนกว่าข้าจะจัดการเจ้าตัวเล็กทั้งสองนั่นได้แล้ว ค่อยมาเอาชีวิตเจ้า!”
เอ่ยจบ นางก็สะบัดแขนเสื้อ ทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราะบ้าคลั่งยืดยาว หายไปในความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเจ้าตัวเล็กทั้งสองที่นางกล่าวถึงคือใคร โจวจิ่นเป็นลูกหลานของศัตรู ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะเอาชีวิตเขา ส่วนราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยเป็นยาบำรุงชั้นดี นางหายจากอาการบาดเจ็บสาหัสแล้ว จะมีสิ่งใดหล่อเลี้ยงพลังชีวิตของนางได้ดีไปกว่าการกลืนราชาศักดิ์สิทธิ์น้อย?
“พวกเจ้าดูแลราชาพ่อมดให้ดี!” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะใช้วิชาตัวเบาเหาะตามไป
“คุณชาย! คุณชาย!” อิ่งสือซันตะโกนเรียกแต่ก็ไม่อาจหยุดเยี่ยนจิ่วเฉาไว้ได้ เขาหันกลับไปมองราชาพ่อมดที่ไม่ได้สติ พลางเดินไปอุ้มราชาพ่อมดขึ้นมาอย่างเย็นชา
“เจ้าจะพาเขาไปที่ใด?” อิ่งลิ่วถาม
อิ่งสือซันกล่าวว่า “กลับเรือนพ่อครัวเทพเป้า ราชาศักดิ์สิทธิ์ต้องการสังหารราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยกับโจวจิ่น เขาต้องไปที่นั่นแน่ คุณชายฟื้นพลังมาเพียงเจ็ดส่วน ทั้งยังถูกพลังย้อนเข้าตัว อย่างน้อยก็สูญเสียพลังไปแล้วสองส่วน……”
“แต่…พวกเราตามไปไม่ทัน” อิ่งลิ่วเข้าใจความปรารถนาของอิ่งสือซันที่ต้องการช่วยคุณชายอีกแรง ความจริงเขาก็อยากทำเช่นนั้น แม้ว่าพลังของพวกเขาจะยังไม่ล้ำลึกมากพอ ทว่าในยามวิกฤตพวกเขาก็พร้อมแลกชีวิตกับคุณชายอย่างไม่ลังเล พวกเขาพร้อมทุ่มสุดตัว
ดวงตาอิ่งสือซันตกกระทบม้าฝีเท้าดีที่กำลังแทะเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกล “ยังมีม้าของราชาพ่อมดอยู่มิใช่หรือ?”
…
ตกดึก
เรือนของพ่อครัวเทพเป้าเงียบสงบ ทุกคนหลับใหลโดยไม่รู้ว่ามีอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา
จู่ๆ โจวจิ่นก็ลืมตาโพลง ลุกขึ้นนั่ง!
เขายกผ้าห่มออก เดินไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วดึงประตูเปิด พลังปราณทรงพลังของหลัวช่าวิญญาณพุ่งปะทะหน้า กดเขาจนแทบไม่อาจหายใจ เขาเงยมองฟ้ายามค่ำคืนอย่างหวาดระแวง มือเล็กกำแน่นโดยไม่รู้ตัว
คนที่สองที่รับรู้ได้ถึงหลัวช่าวิญญาณคือต๋าหว่า
สองสามวันมานี้ ต๋าหว่าเฝ้าอยู่ในห้องฮูหยินรองไม่ห่าง เรื่องคุ้มกันราชาศักดิ์สิทธิ์เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทว่ายามนี้ สัญชาตญาณของเขาสัมผัสได้ถึงอันตราย
เขาออกมานอกห้อง เห็นโจวจิ่นยืนอยู่ในลานด้วยชุดนอนบางๆ
เขาขมวดคิ้ว “โจวจิ่น ไยเจ้าออกมาข้างนอก?”
“รีบกลับเข้าไป” โจวจิ่นหันกลับมาบอกเขา
“แต่เจ้า…” ก่อนต๋าหว่าจะเอ่ยจบ ดวงตาของโจวจิ่นเย็นเยียบ ปล่อยพลังเวททรงพลังผลักต๋าหว่ากลับเข้าไปในห้องฮูหยินรอง
โจวจิ่นกวาดตาดูทีละห้อง ใช้พลังเวทปิดผนึกห้องทุกห้อง
“ฮ่าๆๆ…”
เสียงหัวเราะราวกับระฆังเงินดังก้องมาจากฟากฟ้าอันไกลโพ้น ชวนให้ขนลุกในคืนเงียบสงัด
“จิ่นเอ๋อร์ จิ่นเอ๋อร์ของแม่…”
เสียงสะกดจิตดังแว่วมาในหูของโจวจิ่น โจวจิ่นกำหมัดแน่น เงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางเย็นชา
ราชาศักดิ์สิทธิ์ในชุดสีม่วงลอยลงมาจากฟ้าอย่างช้าๆ งดงามราวกับเทพธิดา และน่ากลัวราวกับปีศาจในหุบเขา ปลายเท้าเหยียบลงบนชายคาตรงข้ามโจวจิ่น นางนอนลงงอขาข้างหนึ่งขึ้นเล็กน้อย มือข้างหนึ่งรองศีรษะ มองโจวจิ่นอย่างเกียจคร้านและสง่างาม
“ไอ้หยา ไม่เสียแรงที่เป็นสายเลือดของราชาพ่อมดกับราชาศักดิ์สิทธิ์ มีพลังเวททรงพลังเช่นนี้ตั้งแต่อายุน้อย ข้าจะฆ่าเจ้า หรือเลี้ยงเจ้าไว้ดีละ? คุณสมบัติของเจ้าไม่เกินสองปีก็เป็นราชาพ่อมดคนใหม่ได้แล้ว ถึงเวลานั้นข้าค่อยใช้พลังเวทของเจ้าเพื่อตนเองจะคุ้มค่ากว่าใช่หรือไม่?
ทว่าตัวเล็กเท่านี้กลับมีความคิดชั่วร้ายมากมาย หากเลี้ยงเจ้าไว้ เกรงจะเป็นลูกเสือลูกจระเข้เปล่าๆ เช่นนั้นชิงฆ่าเจ้าก่อนเสียดีกว่า อย่างไรราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยข้างในนั้นก็เพียงพอที่จะเติมเต็มพลังชีวิตของข้าแล้ว”
“วันนี้ไม่ใช่วันตายของมัน!” โจวจิ่นเอ่ยพลางมองนางอย่างแน่วแน่
“จริงหรือ?” ราชาศักดิ์สิทธิ์หยิบใบไม้บนชายคาใบหนึ่งมาเล่นเบาๆ จากนั้นก็ยิงมันออกไปด้วยความเร็ว!
ใบไม้ที่อ่อนนุ่มกลับกลายเป็นใบมีดคม
ราชาศักดิ์สิทธิ์คลี่ยิ้ม “เช่นนั้นเจ้าก็จงลืมตาดูให้ชัด ว่าข้าจะฆ่ามันให้ตายทีละนิดต่อหน้าเจ้าอย่างไร!”
เมื่อครู่โจวจิ่นสร้างเขตกำบังให้กับเรือนนี้ ทว่ามันแทบไม่ได้ผลกับราชาศักดิ์สิทธิ์ นางใช้ปลายนิ้วเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำลายพลังเวทของโจวจิ่นได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ใช้ฝ่ามือปราณใส่อวี๋หวั่นที่อยู่ในห้อง
ทว่าขณะที่ฝ่ามือปราณเกือบถูกตัวอวี๋หวั่น พลังเวทหนึ่งก็พุ่งเข้ามากันฝ่ามือปราณของราชาศักดิ์สิทธิ์ออกไป
ราชาศักดิ์สิทธิ์คิ้วกระตุก มองโจวจิ่นที่ใบหน้าซีดขาว “เด็กน้อย ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ เจ้าปัดฝ่ามือของข้าได้ ก็นับว่ามีความสามารถอยู่บ้าง ทว่าเจ้าก็ทำได้เพียงเท่านี้ละ ต่อไปดูซิว่าเจ้าจะหยุดข้าได้อย่างไร?”
เอ่ยจบ นางก็ปล่อยผ้าแพรขาวพุ่งใส่อวี๋หวั่นที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้อง โจวจิ่นก็ไม่รู้ว่าพละกำลังของเขามาจากที่ใด เขาฉีกเสื้อผ้าตนเองกระโดดลงบนพื้น ใช้ร่างกายปะทะผ้าแพรขาวกระเด็นออกไป
โจวจิ่นกระอักเลือดออกมา
ราชาศักดิ์สิทธิ์ตกใจลุกขึ้นนั่ง นางนึกไม่ถึงว่าเด็กอายุเก้าขวบจะไม่คิดชีวิตได้เช่นนี้ ไม่เจ็บหรือ? ไม่กลัวหรือ?
ส่วนนี้ ช่างเหมือนกับราชาพ่อมดจริงๆ ไม่แปลกที่เป็นบิดากับบุตรกัน ถึงได้โง่เขลาเช่นนี้!
โจวจิ่นเช็ดเลือดมุมปาก ค่อยๆ ลุกขึ้นทีละนิด จ้องมองนางด้วยดวงตาดุจคบเพลิง “ข้าบอกแล้ว ว่าวันนี้…ไม่ใช่วันตายของมัน!”
“เฮอะ อย่าว่าแต่ปกป้องผู้ใดเลย แม้แต่ตัวเจ้าเองก็ยังเอาไม่รอด ยังสนใจว่าข้าจะฆ่าหรือไม่ฆ่ามันอีกหรือ?” ราชาศักดิ์สิทธิ์เยาะเย้ยจบก็ปล่อยฝ่ามือปราณไปทางห้องของอวี๋หวั่น
ไม่เกินความคาดหมาย โจวจิ่นขวางมันไว้อีกครั้ง
ซี่โครงของโจวจิ่นหัก เลือดสดกระอักไหลออกมาอย่างรุนแรง เขาล้มลงกับพื้น ใช้มือยันพื้นที่เปื้อนเลือดหยัดลุกด้วยร่างอันสั่นเทา
“วันนี้ไม่ใช่วันตายของมัน”
โจวจิ่นยังคงเอ่ยอย่างดื้อรั้น
ราชาศักดิ์สิทธิ์หรี่ตาลง
แม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงเด็ก ทว่าบัดนี้ นางรับรู้ถึงเจตจำนงยิ่งใหญ่ดุจท้องฟ้าในตัวเขา
เสียงหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว : ฆ่าเขาซะ! ใช้โอกาสยามที่เขายังไม่แข็งแกร่งถึงขีดสุด!
“เด็กน้อย ข้าจะไม่ออมมือให้เจ้าอีกแล้ว” ลางสังหรณ์บอกหลัวช่าวิญญาณว่าไม่อาจปล่อยให้เจ้าเด็กชั่วร้ายผู้นี้เติบโต ไม่เช่นนั้น สถานการณ์ของนางคงไม่ปลอดภัย
ฝ่ามือปราณของราชาศักดิ์สิทธิ์พุ่งตรงไปที่โจวจิ่น
โจวจิ่นไม่หลบ
แน่นอน เพราะเขาไม่อาจหลบได้ แรงกดดันของราชาศักดิ์สิทธิ์รุนแรงจนเขาไม่อาจแม้แต่จะขยับนิ้ว
โจวจิ่นเหลือบมองไปทางห้องนั้นเป็นครั้งสุดท้าย
เขาเคยบอกว่าจะปกป้อง จะให้มันได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อย่างสงบสุข
เขาจะตายไม่ได้…
ไม่ได้…
ไม่ได้!
ทว่าอย่างไรฝ่ามือนั้นก็ตกลงมาแล้ว
เพียงแต่เหตุการณ์น่าเศร้าที่คิดกลับไม่ได้เกิดขึ้น
“หือ?” ราชาศักดิ์สิทธิ์กะพริบตาด้วยความประหลาดใจ ขณะที่ฝ่ามือปราณใกล้โจวจิ่นอีกเพียงครึ่งนิ้ว มันกลับหยุดชะงัก ราวกับ…มีแรงที่มองไม่เห็นขวางไว้
เป็นไปได้อย่างไร?
ราชาศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ทันคิดหาคำตอบ พลังปราณของโจวจิ่นก็เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ฝ่ามือปราณของราชาศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออก!
“เกิดอะไรขึ้น?” อวี๋หวั่นตื่นขึ้นด้วยความตกใจ เธอลุกจากเตียงเปิดประตูออกไป แต่กลับต้องใจเต้นระส่ำกับพลังเวทที่น่ากลัว
“เป็นไปไม่ได้!” ราชาศักดิ์สิทธิ์สีหน้าเปลี่ยน!
โจวจิ่นที่นอนจมกองเลือดค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ในดวงตาทั้งสองปรากฏแสงสีทองอร่าม
เขา…บรรลุแล้ว!
เขากลายเป็นราชาพ่อมดคนใหม่แล้ว!!!
…………………………