หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 27 ของศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าศักดิ์สิทธิ์
ความลับที่หานจิ้งซูกุมไว้ยิ่งใหญ่นัก เยี่ยนไหวจิ่งอาจฟังไม่รู้เรื่องว่า ‘ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์’ คือสิ่งใด แต่หากอวี๋หวั่นอยู่ที่นั่นคงเข้าใจได้ทันที ว่าสิ่งนั้นคือสมบัติของเผ่าศักดิ์สิทธิ์!
เยี่ยนไหวจิ่งทำอะไรไม่ถูก หานจิ้งซูนอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเผือดราวกับดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย…
ในที่สุดเขาก็จับมือนาง
เวลานี้ เขาไม่อยากจากสตรีผู้นี้อย่างแท้จริง
บางทีบุรุษอาจเป็นพวกงี่เง่าจริงๆ ต้องสูญเสียถึงหวงแหน สิ่งที่เขาคิดออกในยามนี้ล้วนมีแต่ความดีของหานจิ้งซู
“หากเจ้ารอด ข้าจะไม่ผิดต่อเจ้าอีก”
นอกประตูห้องลับ จวินฉางอันมองดูฉากนี้อย่างเงียบๆ ครู่หนึ่งจึงหันหลังกลับเดินเข้าไปในความมืดยามราตรีด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
…
กระท่อมเล็กๆ ในภูเขาทางตะวันตกของเมือง ชายชุดดำคนหนึ่งนั่งบนทางเดิน ด้านหน้ามีกระดานหมากรุกแผ่นหนึ่งวางอยู่
ชายผู้นั้นถอดเหลือเพียงชุดขาว ไม่เงยหน้า แต่กลับเอ่ยว่า “ในเมื่อมาแล้วก็ออกมาเถอะ”
จวินฉางอันใช้วิชาตัวเบาลงมาตรงหน้าเขา
“ถอดรองเท้า พื้นเพิ่งถูใหม่” ชายผู้นั้นเอ่ย
จวินฉางอันถอดรองเท้า เหยียบบันไดขึ้นไปยังทางเดินด้วยเสื้อผ้าขาวสะอาด
“ไม่เห็นสะอาดสักนิด” จวินฉางอันกล่าวด้วยความรังเกียจ
“แต่ข้าถูแล้ว” ชายผู้นั้นกล่าว
จวินฉางอันนั่งขัดสมาธิตรงข้ามชายผู้นั้น พร้อมกับกอดดาบไว้ในอ้อมแขน
เขาเป็นนักดาบ ดาบย่อมไม่ห่างมือ
ชายผู้นั้นเหลือบมองดาบของเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดาบหักนี่ยังไม่ทิ้งอีกหรือ? กี่ปีมาแล้ว องค์ชายรองยังขี้เหนียวเช่นนี้อีกหรือ? เป็นถึงรัชทายาทแล้วก็ยังไม่ให้ดาบพระราชทานกับเจ้า?”
จวินฉางอันเอ่ย “ข้ามาที่นี่ ไม่ได้มาหารือเรื่องอาวุธของข้า”
ชายผู้นั้นคลี่ยิ้มเล็กน้อย “เช่นนั้นมาถามถึงเบาะแสน้องชายของเจ้าหรือ? น่าเสียดายที่เจ้าไม่อาจจ่ายได้”
“ไป๋เสี่ยวเซิง”
“หืม?”
“ราคาที่เจ้าต้องการ ข้าจะให้” จวินฉางอันเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
“โอ้?” ไป๋เสี่ยวเซิงเงยหน้าขึ้น
ไป่เซียวเฉิงแห่งยุทธภพ มีข่าวลือว่ามีใบหน้าเป็นพันๆ หน้า ไม่มีผู้ใดเห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของเขา ใบหน้าที่เขามีอยู่บัดนี้ไม่มีทางเป็นใบหน้าที่จวินฉางอันเคยเห็นมาก่อน แต่จวินฉางอันมีวิธีที่จะตามตัวเขาและจำเขาได้
“เจ้า…แน่ใจรึ?” ไป๋เสี่ยวเซิงถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้าแน่ใจ” จวินฉางอันเอ่ย
ไป๋เสี่ยวเซิงเก็บหมากรุกที่ยังเล่นไม่จบกลับเข้ากล่อง มองจวินฉางอันด้วยความสนใจ “ความจริงเบาะแสหนึ่งอย่างของน้องชายเจ้า ข้าบอกเจ้าได้ไม่คิดราคา เขาไม่ได้ถูกคนเผ่าปีศาจลักพาตัวไป ส่วนถูกผู้ใดจับไปนั้น เจ้าต้องจ่ายแล้ว”
“น้องชายของข้าค่อยๆ ตามหาก็ได้” จวินฉางอันกล่าว
ไป๋เสี่ยวเซิงเลิกคิ้ว “ฟังที่เจ้าพูด หมายความว่า…เจ้ามาเพื่อซื้อข่าวให้ผู้อื่นรึ? เจ้าควรคิดให้ดี ข้าทำการค้าเพียงหนึ่งครั้ง ข้าขายข่าวนี้ให้เจ้าแล้ว วันหน้าข้าจะไม่ขายข่าวเรื่องน้องชายของเจ้าให้กับเจ้าอีก”
จวินฉางอันหลับตา “…ข้ารู้”
ไป๋เสี่ยวเซิงหรี่ตา “ข้าสงสัยนัก เจ้าหมกมุ่นมาหลายปียังปฏิเสธจะมอบสิ่งที่ข้าต้องการ คราวนี้เพื่อผู้ใด?”
จวินฉางอันไม่ได้ตอบ
ไป๋เสี่ยวเซิงหยิบกาน้ำชาที่อุ่นอยู่บนเตามาชงชาให้ตนเองถ้วยหนึ่งและจวินฉางอันถ้วยหนึ่ง “เอาละ ข้าไม่ล้อเจ้าเล่นแล้ว พูดมาเถอะ เจ้าต้องการถามสิ่งใด?”
จวินฉางอันไม่แม้แต่จะมองถ้วยชา “พระชายารัชทายาทถูกกู่ ข้าต้องการคลายกู่ให้นาง”
ฟู่——
น้ำชาถูกพ่นจากปากไป๋เสี่ยวเซิง!
“สตรีของเยี่ยนไหวจิ่งน่ะรึ? เจ้าบ้าไปแล้วหรือ จวินฉางอัน?” ไป๋เสี่ยวเซิงท่องยุทธภพมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเสียอาการถึงเพียงนี้!
จวินฉางอันเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เจ้าแค่บอกข้ามาว่าข่าวนี้เจ้ามีขายหรือไม่?”
ไป๋เสี่ยวเซิงยกแขนเสื้อเช็ดปาก “ไม่เห็นต้องรุกข้าเช่นนี้ ใต้หล้านี้ไม่มีข่าวใดที่ไป๋เสี่ยวเซิงไม่มี! ข้าไม่มียาถอนพิษ แต่ข้าบอกเจ้าได้ว่าผู้ใดสามารถคลายกู่ให้นาง! เจ้าจะเชิญคนผู้นั้นได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าเอง”
จวินฉางอันขมวดคิ้ว “เจ้าทำเช่นนี้ ไม่น่าละอายเกินไปหน่อยหรือ?”
อย่างไรก็ควรเชิญคนผู้นั้นมาถึงจวนรัชทายาทให้ได้ ถึงจะคู่ควรกับราคาที่ต้องจ่าย!
ไป๋เสี่ยวเซิงแบมือ “ดังนั้น เจ้าควรเก็บโอกาสไว้ตามหาน้องชายของเจ้า เหตุใดต้องเสียให้กับสตรีที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จวินฉางอันเข้าใจแล้วว่าไม่มีที่ว่างให้ต่อรอง
ไป๋เสี่ยวเซิงมองเข้าไปในดวงตาของจวินฉางอัน “ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการซื้อข่าวนี้?”
…
เยี่ยนจิ่วเฉาไปท้องพระโรงอีกครั้ง
เมื่อก่อนยามที่เขาอยู่เคียงข้างก็ไม่ได้ไปไหนมาไหนกับอวี๋หวั่นมากนัก บางครั้งเก็บตัวบำเพ็ญหลายวัน แต่ความรู้สึกเช่นนั้นก็ยังแตกต่างจากตอนที่เขาไปท้องพระโรง
อวี๋หวั่นคิดถึงเขาแปลกๆ!
อวี๋หวั่นกระซิบเบาๆ ว่า “ข้าเป็นอะไรไป? ยิ่งอยู่ก็ยิ่งถอยกลับหรือ? ทั้งๆ ที่เป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว ก็ยังหวานเลี่ยนเช่นนี้?”
ไม่เห็นเยี่ยนจิ่วเฉา ก็ดูสำเนาตัวน้อยๆ พวกนั้นเอาแล้วกัน
และแล้วไข่น้อยทั้งสามที่ซุกซนก็ถูกมารดาจับกลับมา
แต่เหตุใดสายตาของมารดาที่มองพวกเขาช่างน่ากลัวนัก…
หลังอาหารกลางวัน ไข่น้อยทั้งสามและเถี่ยตั้นน้อยกลับไปพักผ่อนที่เรือนของเยี่ยนอ๋อง อวี๋หวั่นก็กลับไปนอนพักที่ห้อง
ขณะที่เธอผล็อยหลับไป องครักษ์ผู้ดูแลต้อนรับก็เข้ามารายงาน “มีคนมาขอพบฮูหยินน้อย! บอกว่าเป็นคนรู้จักเก่าของฮูหยินขอรับ!”
เถาเอ๋อร์กับหลีเอ๋อร์มองหน้ากันและกำลังจะเข้าไปรายงาน ผิงเอ๋อร์ก็เดินออกมา
ผิงเอ๋อร์เอ่ย “คนรู้จักเก่าอันใด? ให้เขารอก่อน! ฮูหยินน้อยกำลังพักผ่อน ตื่นแล้วค่อยว่ากัน!”
“เอ่อ…ขอรับ!” ผิงเอ๋อร์เป็นคนสนิทของอวี๋หวั่น องครักษ์ไม่กล้าละเลย จึงออกไปแจ้งตามความจริง
“ผิงเอ๋อร์ เช่นนี้จะไม่เป็นไรหรือ? หาก…เป็นคนสำคัญมากจะทำเช่นไร?” หลีเอ่อร์กระซิบถาม
หลีเอ่อร์และเถาเอ๋อร์เข้าจวนมานาน พวกนางเป็นสาวใช้ที่ลุงวั่นซื้อมายามที่อวี๋หวั่นแต่งเข้าจวน ส่วนการปรนนิบัติอวี๋หวั่น ทั้งสองไม่ได้เชี่ยวชาญเช่นนาง ผิงเอ๋อร์ตามอวี๋หวั่นขึ้นเหนือล่องใต้ รู้จักนิสัยของอวี๋หวั่นดี และเพราะผ่านความเป็นความตายมาแล้ว นางจึงมีความกล้าหาญกว่าสาวใช้ในจวนมาก
ผิงเอ๋อร์เอ่ย “ฮูหยินน้อยมีคนรู้จักเก่าในเมืองหลวงหรือ? แบบที่ต้องรอแจ้งอยู่นอกประตู?”
สาวใช้ทั้งสองตะลึง
จริงด้วยสิ!
ฮูหยินน้อยของพวกนางเติบโตในชนบท ไม่คุ้นเคยกับขุนนางชนชั้นสูงผู้ใดในเมืองหลวงแม้แต่น้อย! หากเป็นคนจากจวนสกุลเซียวหรือคนสกุลอวี๋ เช่นนั้นก็เข้ามาได้โดยไม่ต้องรายงาน!
อวี๋หวั่นงีบหลับตื่นอีกครั้งก็เย็นแล้ว
หากจวินฉางอันไม่กลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายโกรธจนไม่ยอมรักษา เขาคงบุกเข้ามาในจวนหลายร้อยครั้งแล้ว
ขณะที่ผิงเอ๋อร์หวีผมของอวี๋หวั่น ก็บอกว่ามี ‘คนรู้จักเก่า’ รออยู่ด้านนอก
อวี๋หวั่นรู้สึกว่าผิงเอ๋อร์ผู้นี้รู้ใจเธอยิ่งนัก หากถูกปลุกให้ตื่นกลางคัน เธอคงจะโมโห!
“ยังอยู่อีกหรือ?”
“อยู่เจ้าค่ะ”
“ให้เขาไปที่โถงบุปผา”
“เจ้าค่ะ”
ผิงเอ๋อร์เดินออกไป นำจวินฉางอันไปยังโถงบุปผานอกเรือน
เมื่ออวี๋หวั่นเห็นจวินฉางอันก็ผงะไปครู่หนึ่ง
บุรุษผู้นี้…เป็นใครกัน?
ท้องหนึ่งหนโง่สามปี เธอรู้สึกว่าสมองไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อน ทั้งที่รู้สึกคุ้นๆ แต่กลับนึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร
“จวินฉางอันคารวะพระชายา” จวินฉางอันยกมือคำนับ
เมื่อได้ยินชื่อเขา อวี๋หวั่นก็นึกออก ไม่ใช่ยอดฝีมือส่วนตัวของเยี่ยนไหวจิ่ง นักดาบจากยุทธจักรผู้นั้นหรอกหรือ?
ว่ากันว่าเขาและอิ่งสือซันฝีมือสูสี แต่นี่ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว อิ่งสือซันมีร่างกายพิเศษ ทุกครั้งที่เขาไม่ตายจะยิ่งกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งขึ้น อวี๋หวั่นประมาณคร่าวๆ ว่าอย่างน้อย อิ่งสือซันก็มีความแข็งแกร่งถึงซิวหลัวระดับสูงสุดแล้ว
หากทั้งสองสู้กัน…คงไม่สูสีแล้วกระมัง?
จวินฉางอันไม่อาจเดาได้ว่า ผู้ซึ่งเป็นถึงพระชายาเมื่อพบตนครั้งแรกจะคิดเรื่องที่ว่า เขากับอิ่งสือซัน ผู้ใดจะแข็งแกร่งกว่ากัน!
“พระชายา?” จวินฉางอันยังคงอยู่ในท่าคำนับ
“โอ้ ลุกขึ้นเถิด!” อวี๋หวั่นได้สติกลับมา หาโอกาสให้ทั้งสองได้ต่อสู้กันสักครั้ง!
แค่ก ไม่ใช่สิ ได้เรียนรู้กันสักหนต่างหาก
“มีอะไรรึ? องค์รัชทายาทมีเรื่องอันใดกับข้า?” อวี๋หวั่นถามอย่างเฉยเมย
“เป็นข้าเอง ข้ามีเรื่องมาพบพระชายา” ไม่ใช่จวินฉางอันไม่คิดว่าใช้ชื่อผู้ใดจะดีกว่า คนที่เขาต้องการช่วยคือหานจิ้งซู เยี่ยนไหวจิ่งเป็นสามีของหานจิ้งซู ใช้ชื่อของเขาย่อมเป็นปกติชอบธรรมมากกว่า เขาเป็นใคร? ทำเกินหน้าที่ตนเองหรือ?
ทว่าเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเยี่ยนไหวจิ่งกับจวนคุณชาย จวินฉางอันก็รู้สึกว่าพระชายาจะไม่เห็นแก่หน้าของเยี่ยนไหวจิ่งแน่!
อวี๋หวั่นเลิกคิ้วประหลาดใจ “โอ้? นักรบจวินตามหาข้า มีเรื่องอันใดหรือ?”
นักรบ…จวิน?
นี่…มันชื่อบ้านนอกคอกนาอะไรเนี่ย?!
จวินฉางอันรู้สึกขนลุก พยายามคงสีหน้ากล่าว “ข้าอยากเชิญพระชายาไปช่วยรักษาคนคนหนึ่งให้ข้าหน่อยขอรับ”
“หานจิ้งซู?”
“…ขอรับ” จวินฉางอันประหลาดใจ “พระชายาเดาออกได้อย่างไร?”
“ยังต้องเดาอีกหรือ? เจ้าเป็นคนของจวนรัชทายาท พระชายารัชทายาทเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ข้ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเยี่ยนไหวจิ่ง หากเขาออกหน้า ข้าก็คงไม่สนใจเขาเป็นแน่ ส่วนเจ้า…” อวี๋หวั่นสองมือกอดอก เชิดหน้ามองเขา “จริงๆ ข้าก็ไม่อยากรับปากเจ้านักหรอก”
อวี๋หวั่นไม่ได้ถามว่าเหตุใดจวินฉางอันถึงออกหน้าขอการรักษาแทนหานจิ้งซู ในความเห็นของเธอมีความเป็นไปได้สองทาง หนึ่งคือเยี่ยนไหวจิ่งขอให้เขามา อีกอย่างคือเขามาด้วยตนเอง หากวันหนึ่งเธอป่วยเป็นโรครักษาไม่หาย ต้องให้อิ่งสือซันและอิ่งลิ่วออกหน้า เธอก็เชื่อว่าพวกเขาจะทำอย่างไม่ลังเล
หากใช้ใจตนไปวัดใจผู้อื่น อวี๋หวั่นรู้สึกว่าจวินฉางอันปฏิบัติต่อหานจิ้งซู เช่นเดียวกับอิ่งลิ่วและอิ่งสือซันที่ปฏิบัติต่อตน เป็นความรู้สึกระหว่างความภักดีและมิตรภาพที่แน่นแฟ้น
จึงไม่แปลกที่จวินฉางอันมาหาเธอ
แต่สิ่งที่แปลกคือจวินฉางอันรู้ได้อย่างไรว่าเธอสามารถรักษาหานจิ้งซูได้ต่างหาก
สัตว์พิษตัวน้อยของเธอถูกเปิดเผยแล้วหรือ?
……………………