หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 28 หวั่นอ้วนหมอเทวดา!
ความสามารถทางการแพทย์ของอวี๋หวั่นไม่ใช่ความลับในเมืองหลวง ยามที่ราชครูแห่งหนานจ้าวเดินทางมาเยี่ยมเยือน หวั่นเฟิงล้มและได้รับบาดเจ็บ เป็นเธอที่ช่วยชีวิตเขาไว้ หมอหลวงยังชื่นชมเธอว่าทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมและจัดการได้เป็นอย่างดี หากมาขอให้อวี๋หวั่นรักษาด้วยอาการบาดเจ็บยังพอเข้าใจ ทว่าหานจิ้งซูโดนกู่ไม่ใช่หรือ?
คนนอกไม่รู้ความ จวินฉางอันเป็นขุนนางมีหรือจะไม่รู้ความจริง? หมอหลวงของต้าโจวคงยังไม่อาจแยกแยะระหว่างกู่กับพิษกระมัง?
ความจริงเหตุการณ์ในหนานจ้าวยามนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่โต หลายคนในเมืองหลวงรู้ว่าของศักดิ์สิทธิ์แห่งหนานจ้าวอยู่ในมือของเธอ
แต่ของศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือเธอก็เป็นเรื่องหนึ่ง เธอสามารถใช้มันคลายกู่ได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ของศักดิ์สิทธิ์เป็นเทพที่ถูกประดิษฐาน ไหนเลยจะเหมือนกับสัตว์พิษตัวน้อยของเธอที่ถูกกดขี่ใช้แรงงานอย่างหนัก?
อีกอย่าง องค์ประมุข เยี่ยนอ๋อง แม้แต่เห้อเหลียนเป่ยหมิงต่างก็เข้มงวดในการปกป้องความลับ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในที่สุด ‘ความจริง’ ที่ของศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ในวังหลวงของหนานจ้าวก็แพร่ออกสู่ภายนอกแล้ว
อวี๋หวั่นรู้สึกว่าตนต้องคิดให้ออกว่า เหตุใดจวินฉางอันถึงมาหาเธอได้? เขารู้เรื่องไพ่ตายของเธอมากเพียงใด?
อวี๋หวั่นยิ้มจางๆ “ข้าได้ยินมาว่าพระชายารัชทายาทของเจ้าถูกวางยา แต่น่าเสียดายที่ข้าถนัดการรักษาบาดแผลภายนอกเท่านั้น ส่วนการถอนพิษ เกรงว่าอยากช่วยแต่ก็ไร้ความสามารถ”
เรื่องที่ไม่ได้แพร่สู่ภายนอกคือกู่ เธอจึงไม่อาจเปิดเผยว่าตนล่วงรู้
จวินฉางอันเอ่ย “เป็นพิษหรือกู่ ข้าเชื่อว่าด้วยความสามารถของผู้สำเร็จราชการแล้ว ไม่มีทางไม่รู้”
มุมปากของอวี๋หวั่นกระตุก เหตุใดเธอถึงลืมเยี่ยนจิ่วเฉา? ต้องเป็นเพราะท้องหนึ่งหนโง่สามปีจริงๆ ระยะนี้สมองเธอไม่ดีเกินไปแล้ว!
จวินฉางอันมองอวี๋หวั่น “พระชายาไม่จำเป็นต้องทดสอบข้า ข้ามาขอร้องถึงที่ในวันนี้องค์รัชทายาทไม่ทราบเรื่อง ส่วนพระชายามีความสามารถใด ข้าก็จะไม่บอกองค์รัชทายาท”
คำพูดเหล่านี้ชัดเจนว่าเขารู้ว่าตนมีความสามารถในการคลายกู่
อวี๋หวั่นถามว่า “ผู้ใดบอกเจ้าว่าข้าสามารถคลายกู่ได้? ทางที่ดีเจ้าบอกความจริงกับข้า ไม่เช่นนั้นหากข้าไม่สบายใจ ข้าจะยื่นมือไม่ช่วยพระชายารัชทายาทของเจ้า”
จวินฉางอันลังเล ในที่สุดก็ตัดสินใจบอกความจริง
เขาเอ่ยว่า “ไป๋เสี่ยวเซิง”
อวี๋หวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย ไป๋เสี่ยวเซิง? คนที่รู้เรื่องราวในยุทธจักรเป็นอย่างดีน่ะหรือ? มีข่าวลือว่าไป๋เสี่ยวเซิงมีหน้ากากหนังมนุษย์นับพัน ไม่มีผู้ใดเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ก่อนไปหนานจ้าว เยี่ยนจิ่วเฉาก็ทำข้อตกลงกับไป๋เสี่ยวเซิงไปเช่นกัน
เวลานี้ของปีที่แล้ว ราชครูแห่งหนานจ้าวมาตามหาตี้จีองค์โต เดิมทีเยี่ยนจิ่วเฉาต้องการสังหารราชครูแห่งหนานจ้าว แต่ไป๋เสี่ยวเซิงกลับใช้เบาะแสของเยี่ยนอ๋องแลกกับชีวิตเขา
เยี่ยนจิ่วเฉาถามไป๋เสี่ยวเซิงว่า เหตุใดเขาต้องช่วยราชครูแห่งหนานจ้าว?
คำตอบของไป๋เสี่ยวเซิงคือเขาเป็นหนี้บุญคุณนายของราชครู
ครั้งหนึ่งพวกอวี๋หวั่นเดาว่านายของราชครูคือตี้จีองค์เล็ก แต่เมื่อความลับของอวี่เหวินจ้าวและฮองเฮาหนานจ้าวถูกเปิดเผย พวกเขาจึงกล้าเดาว่า ‘นายของราชครู’ ที่ไป๋เสี่ยวเซิงหมายถึงในยามนั้นน่าจะเป็นอาจารย์ของราชครู อดีตราชครูแห่งหนานจ้าว อวี่เหวินจ้าว
พูดถึงอวี่เหวินจ้าวก็เหลือเกิน หลับนอนกับฮองเฮา ได้เป็นราชครู ทั้งยังไม่ลังเลที่จะให้ตี้จีองค์โตเป็นดาวหายนะ เพื่ออนาคตของ ‘บุตรสาว’ ตน แน่นอน อวี่เหวินจ้าวก็ถูกฮองเฮาหนานจ้าวปั่นหัวและบีบบังคับ คุณธรรมของนักบวชรุ่นแรกก็เสื่อมโทรมและตกต่ำมาถึงจุดนี้!
จะว่าไปอวี่เหวินจ้าวก็ตายไปหลายปีแล้ว ไป๋เสี่ยวเซิงติดหนี้บุญคุณเขา ก็หมายความว่าไป๋เสี่ยวเซิงอายุไม่น้อยแล้วกระมัง?
เพราะกลัวว่าคนจะเห็นความแก่ของตนจึงต้องเปลี่ยนหน้าทุกวันหรือ?
สิ่งที่อวี๋หวั่นสงสัยที่สุดไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นบุรุษผู้นั้นรู้ข้อมูลมากมายเช่นนั้นจริงๆ หรือ?
“เขาพูดอะไรกับเจ้า?”
“ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่บอกว่าท่านสามารถช่วยพระชายารัชทายาทได้”
อวี๋หวั่นตกตะลึง “เจ้าก็เชื่อหรือ?”
จวินฉางอันเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ไป๋เสี่ยวเซิงแห่งยุทธภพไม่เคยขายข่าวปลอม”
อวี๋หวั่นเอ่ยอีกครั้ง “บางทีเขาอาจไม่ได้ตั้งใจขายข่าวปลอม เพียงแต่ได้ข่าวผิดมา?”
จวินฉางอันกล่าวอย่างหนักแน่น “ไป๋เสี่ยวเซิงรู้ทุกเรื่องใต้หล้า ไม่เคยพลาดมาก่อน”
พูดอย่างกับบุรุษผู้นั้นไม่มีเรื่องใดไม่รู้ เช่นนั้นเขารู้หรือไม่ว่าเยี่ยนจิ่วเฉากับตนร่วมรักกันคืนละกี่หน?
อวี๋หวั่นรู้สึกขนลุกเสียเอง ตนคิดถึงเยี่ยนจิ่วเฉามากเพียงใดถึงได้คิดพิเรนทร์เช่นนี้?
แต่ในเมื่อจวินฉางอันรู้และเชื่อไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว โชคดีที่ไป๋เสี่ยวเซิงกล่าวเพียงว่าตนสามารถคลายกู่ได้ ทว่าไม่ได้บอกว่าตนมีสัตว์พิษตัวน้อยอยู่ในมือ
อวี๋หวั่นทอดถอนใจ “ข้าได้ยินมาว่ายังตามหามือสังหารที่ใช้กู่กับพระชายารัชทายาทไม่พบ หากข้าคลายกู่ให้นาง แล้วถูกเข้าใจผิดว่าเป็นมือสังหารจะทำเช่นไร?”
โดยทั่วไปแล้วมีคนเพียงสองประเภทที่สามารถคลายกู่ได้ หนึ่งคือผู้ใช้กู่ สองคือผู้ที่เชี่ยวชาญศาสตร์กู่ขั้นสูง หากดูจากความขัดแย้งระหว่างจวนคุณชายกับจวนรัชทายาท อวี๋หวั่นก็มีแรงจูงใจให้ใช้กู่เต็มที่! หลังจากใช้กู่แล้วก็คลายกู่ ให้จวนรัชทายาทติดหนี้บุญคุณเธอ การค้าครั้งนี้ช่างคุ้มค่ายิ่งนัก!
ภายภาคหน้า หากเยี่ยนไหวจิ่งขึ้นครองราชย์แล้วจะจัดการกับจวนคุณชาย ย่อมมีคนกระโดดออกไปแหวกสันหลังของเยี่ยนไหวจิ่ง ตอนนั้นพวกเขาช่วยภรรยาของเจ้า เจ้าตอบแทนพวกเขาเช่นนี้หรือ?
ดูไปแล้วก็เหมือนกระบวนการที่ทำเพื่อปกป้องตนเองไม่ใช่หรือ?
จวินฉางอันเอ่ย “ข้าเชื่อในการประพฤติตนของผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์และพระชายา”
อวี๋หวั่นฮึดฮัดอย่างเย็นชา “เจ้าเชื่อก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเชื่อ”
จวินฉางอันถามว่า “ต้องทำเช่นไร พระชายาถึงจะยอมช่วยพระชายารัชทายาท?”
อวี๋หวั่นกลอกตา “ข้าจำได้ว่าข้างกายเยี่ยนไหวจิ่ง ไม่ใช่มีหมอผู้เก่งกาจแซ่ชุยหรอกหรือ?”
จู่ๆ หลังของอิ่งลิ่วก็เย็นวาบ!
อวี๋หวั่นมีแผนในใจ ชุยเฒ่าออกเดินทางไปแล้ว คนของเธอก็หาเขาไม่เจอ เยี่ยนไหวจิ่งน่าจะมีวิธีติดต่อที่พิเศษกระมัง? ใช้โอกาสนี้ตามหาชุยเฒ่ามาทำยาถอนพิษให้เยี่ยนจิ่วเฉาโดยเร็วที่สุดก็ดีไม่น้อย!
ชุยเฒ่าอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเหลียนฮวา ตามหาไม่ยากเลยแม้แต่น้อย ตกเย็นจวินฉางอันก็จับตัวมาที่เมืองหลวง
ชุยเฒ่าเห็นอวี๋หวั่นก็กระอักกระอ่วนไม่สู้ดี
คำสั่งที่เขาได้รับคือซ่อนตัวจากสตรีผู้นี้ เหตุใดถึงใช้ความสัมพันธ์ของเยี่ยนไหวจิ่งจับเขาออกมา? หากครั้งหน้าถูกคนบ้าสติฟั่นเฟือนผู้นั้นลงโทษ…เป็นความคิดผู้ใดกันแน่ละ?!
สถานที่นัดพบอยู่ที่โรงน้ำชาชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
อิ่งลิ่วก็อยู่ที่นั่นด้วย
ชุยเฒ่ามองอวี๋หวั่นจากนั้นมองอิ่งลิ่วที่อยู่ด้านหลังอวี๋หวั่น
อิ่งลิ่วกุมขมับ “…”
อย่ามองข้า ข้าเองก็เจ็บปวดเช่นกัน! ! !
ต่อหน้าจวินฉางอัน ทั้งสามคนแสร้งทำเป็นไม่คุ้นเคย ความจริงอวี๋หวั่นกับอิ่งลิ่วได้ปลอมตัวแล้ว แต่หลังจากอยู่กับพวกเขาทั้งสองมานาน มองปราดเดียวชุยเฒ่าก็รู้ว่าใครเป็นใคร
มีเพียงจวินฉางอันเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว
จวินฉางอันเอ่ยกับอวี๋หวั่น “ระหว่างทางข้าได้สับเปลี่ยนคนที่ควรสับเปลี่ยนกับหมอเทวดาชุยแล้ว หมอเทวดาชุยสามารถกำบังแทนฮูหยินได้”
อวี๋หวั่นสวมเสื้อคลุมตัวกว้างมากๆ คู่กับกระโปรงเอวสูง ท้องจึงเห็นไม่ชัดนัก แต่หมอเทวดาชุยเป็นหมอ เพียงเข้าใกล้ก็ดูออกว่าเธอเป็นสตรีตั้งครรภ์
“เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าไม่ได้บอกเรื่องนี้กับองค์รัชทายาท?” อวี๋หวั่นยืนยันกับจวินฉางอันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จวินฉางอันเชื่อในจวนคุณชาย ไม่ได้หมายความว่าเยี่ยนไหวจิ่งจะเชื่อเช่นกัน เธอไม่ต้องการสร้างปัญหาให้เยี่ยนจิ่วเฉา
จวินฉางอันเอ่ย “ข้าเพียงเอ่ยถึงหมอเทวดาชุยกับเขา เขาคิดว่าเป็นหมอเทวดาชุยที่มาคลายกู่เท่านั้น อีกอย่าง ข้าได้ทำให้เขาหลีกทางไปแล้ว หากคนในจวนถาม ข้าจะบอกว่าท่านเป็นสาวใช้ของหมอเทวดาชุย”
ความจริงบอกว่าเป็นคนปรุงยาหรือลูกศิษย์จะดีกว่า แต่รูปร่างของอวี๋หวั่นเป็นไปไม่ได้ที่จะแสร้งเป็นบุรุษไม่ใช่หรือ?
การรับลูกศิษย์หญิง ก็ไม่เป็นจุดสนใจน้อยไปกว่าสาวใช้
เมื่อรถม้าเข้าใกล้จวนรัชทายาท จวินฉางอันพูดกับอิ่งลิ่ว “ตัวตนของเจ้าไม่เหมาะจะเข้าจวน โปรดรอที่นี่เถิด”
อิ่งลิ่วเป็นหน่วยกล้าตาย บนร่างกายเขามีพลังและกลิ่นอายของหน่วยกล้าตาย แม้ปลอมตัวก็ยังอาจถูกเปิดเผย
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะปกป้องพระชายาให้ดี” จวินฉางอันให้สัญญา
เขาเป็นคนพาเข้าจวน ต่อให้ต้องใช้ชีวิตก็จะปกป้องอีกฝ่ายสุดความสามารถอย่างแน่นอน
อวี๋หวั่นพยักหน้าให้อิ่งลิ่ว
อิ่งลิ่วจึงส่งเสียงอื้มตอบรับ และลงไปจากรถม้าอย่างไม่เต็มใจนัก
รถม้าแล่นเข้าไปในจวนรัชทายาท
ในฐานะคนสนิทที่น่าเชื่อถือที่สุดของเยี่ยนไหวจิ่ง ในจวนจวินฉางอันมีสถานะไม่ธรรมดา รถม้าแล่นไปจนสุดทาง ถึงประตูที่สองและหยุดที่เรือนของหานจิ้งซู
จวินฉางอันจัดการทุกอย่างแล้ว ไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ๆ อวี๋หวั่นและชุยเฒ่าเดินเข้าไปในเรือนของหานจิ้งซูอย่างราบรื่น
แต่ที่นี่มีคนเฝ้าอยู่
จวินฉางอันเอ่ย “หมอเทวดาชุยมารักษาพระชายารัชทายาทแล้ว พวกเจ้าถอยไปเถอะ อย่าได้รบกวนหมอเทวดาชุย”
“เจ้าค่ะ!” พวกเขาทราบข่าวแล้วว่าหมอเทวดาชุยจะมา จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะถอยออกไปอย่างรู้ความ
ยามนี้เหลือสาวใช้เพียงคนเดียวในห้องของหานจิ้งซู
ลวี่เอ้อเป็นสาวใช้คนสนิทของหานจิ้งซู หลังจากไปแจ้งข่าวที่จวนอัครมหาเสนาบดีก็กลับมาเฝ้าอยู่ข้างเตียงของหานจิ้งซูไม่ห่างไปไหน
“ลวี่เอ้อ หมอเทวดาชุยมาถึงแล้ว” จวินฉางอันกล่าวที่ประตู
ลวี่เอ้อหันกลับมาคำนับด้วยดวงตาแดงก่ำ “หมอเทวดาชุย”
สายตาของนางจับจ้องสตรีอวบอ้วนหลังชุยเฒ่า “นางคือ…”
จวินฉางอันเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เป็นสาวใช้ของหมอเทวดาชุย หมอเทวดาชุยอาจต้องอยู่ในเมืองหลวงสักสองสามวันเพื่อสังเกตอาการของพระชายา เจ้าไปหาเรือนก่อนเถิด อีกครู่จะให้หมอเทวดาชุยพักอาศัย”
กล่าวเช่นนี้ลวี่เอ้อก็เข้าใจแล้ว นางรีบไปจัดเตรียมเรือนให้ชุยเฒ่า
แน่นอนว่าพวกเขาอยู่พักไม่ได้ แต่หากไม่พูดเช่นนั้น จะอธิบายพฤติกรรมแปลกๆ ที่พาสาวใช้ติดตามเข้ามาได้อย่างไร?
ภายในห้องไม่มีคนอื่นแล้ว ชุยเฒ่าก็หยุดเสแสร้ง และพูดกับอวี๋หวั่น “เอาละ มาคลายกู่กันเถอะ!”
อวี๋หวั่นวางตะกร้า และไปนั่งหน้าเตียง หันไปกล่าวกับจวินฉางอัน “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ดู! จะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าจะขโมยวิชาหรือไม่?”
จวินฉางอัน “…”
จวินฉางอันถอยกลับไปที่ประตูอย่างเงียบๆ
“ปิดประตู” อวี๋หวั่นพูด
จวินฉางอันมุมปากกระตุกและปิดประตู
“ใส่กลอน!” อวี๋หวั่นเอ่ยอีกครั้ง
ข้า……
จวินฉางอันหมดคำพูด
เขาอยู่ด้านนอก แต่กลอนประตูต้องใส่จากด้านใน!
ต้องกันเขาออกเช่นนี้เชียวหรือ? เขาเป็นนักดาบ! ไม่ใช่หมอ! จะรู้เรื่องได้อย่างไร!
ชุยเฒ่าใส่กลอนประตูเงียบๆ
จวินฉางอัน “…”
เจ้านั่นก็ไม่ต้องกันออกไปหรือ?
………………………