หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 32 ความจริงของเผ่าศักดิ์สิทธิ์!
สุดท้ายอวี๋หวั่นก็อดเงินหมื่นตำลึงทอง ทั้งคู่ถูกจวินฉางอันส่งออกจากจวน
แม้ในใจจวินฉางอันจะโกรธเคือง แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของอวี๋หวั่นกับชุยเฒ่า เขาไม่อาจระบายความโกรธกับคนทั้งสอง
เขาตระเตรียมรถม้าสองคันอย่างรอบคอบ คันหนึ่งพาอวี๋หวั่นกลับจวนคุณชาย อีกคันหนึ่งพาชุยผู้เฒ่ากลับหมู่บ้านเหลียนฮวา
แต่เมื่อรถม้าของชุยเฒ่าออกไปได้ครึ่งทาง ก็ถูกอวี๋หวั่นยึดครอง
อวี๋หวั่นพาชุยเฒ่ากลับจวนคุณชาย
หมื่นตำลึงทองปลิวหายไป ใบหน้าของอวี๋หวั่นก็เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ!
ชุยเฒ่าไม่กล้ายั่วโมโหเธอ แต่…ชุยเฒ่าก็ไม่กล้ายั่วโมโหเยี่ยนจิ่วเฉาด้วยเช่นกัน! หากคนเสียสตินั่นเกิดบ้าขึ้นมา ก็ไม่ได้ดีไปกว่าสตรีอ้วนเลย
“ยามนี้! บัดนี้! เดี๋ยวนี้! ไปทำยาถอนพิษให้เยี่ยนจิ่วเฉา!” อวี๋หวั่นเท้าเอวพูดอย่างดุดัน
ชุยเฒ่า “…”
นี่ข้าต้องพบกับมหันตภัยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวหรือ? ข้าทำให้เจ้าถูกคนอื่นชิงผลงานตัดหน้าไป? หรือข้าไม่ให้หมื่นตำลึงทองกับเจ้า?
ข้า…..
ชุยเฒ่ามุมปากกระตุก เมื่อครู่ที่เขาคิดอยากจะปกป้องเด็กสองคนนี้ สมองคงผิดปกติไปแล้วกระมัง เจ้าสองคนนี้น่ารำคาญยิ่งกว่าใคร สิ่งที่เขาต้องปกป้องจริงๆ น่าจะเป็นหัวใจของตนมากกว่า!
เขาสงสัยยิ่งนักว่าภายภาคหน้าจะได้แก่ตาย ป่วยตาย หรือว่าจะโกรธสองคนนี้จนตายกันแน่!
“ทำไม่ได้!” ชุยเฒ่ากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
“เหตุใดถึงทำไม่ได้? ยาที่ท่านต้องการ ท่านพ่อสามีของข้าก็หาให้ท่านหมดแล้ว! วัตถุดิบยาหลักก็ครบแล้ว! ต้องการเลือดสตรีศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่? เอาไปสิ!” อวี๋หวั่นยื่นนิ้วออกมาอย่างใจกว้าง จากนั้น เมื่อคิดบางอย่างได้ เธอก็ม้วนแขนเสื้อขึ้นอีกครั้ง “ต้องการเลือดจากนิ้วหรือเส้นเลือดดำ เก็บไปได้ตามใจ!”
เส้นอะไรนะ? เส้นเลือดดำ?
ข้าจะเอาเลือดจากเส้นเลือดดำเจ้าไปทำอะไร? ถึงไม่บอกว่าเลือดของเจ้าไม่มีประโยชน์ ต่อให้มีประโยชน์ ก็มีไม่พอถึงหนึ่งโอ่งใหญ่!
ไม่สิ เก็บเลือดอะไร? ปล่อยเลือดชัดๆ!
สตรีผู้นี้มักเอ่ยคำพูดแปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้ แม้แต่ตนก็ยังถูกนางทำให้ไขว้เขว
ในที่สุดชุยเฒ่าก็ยังอดทน ไม่บอกความจริงกับอวี๋หวั่น เพราะกลัวว่าหากบอกไป ฮูหยินน้อยผู้นี้จะโกรธจนเบ่งคลอดกะทันหัน ยามนี้ยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด เขาไม่อยากให้ราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยคลอดก่อนกำหนด
เขาเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “จริงๆ แล้ว เป็นเพราะเยี่ยนจิ่วเฉายังไม่สะดวก”
“เหตุใดเขาถึงไม่สะดวก?” อวี๋หวั่นดวงตากลมโต
ชุยเฒ่ากระแอม “แต่ละเดือนไม่ใช่เขามีเวลาเพียงสองสามวันหรอกหรือ? เจ้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้….”
อวี๋หวั่นคล้ายกับเข้าใจ “หากเรื่องนั้นจบแล้ว…จะจึงกินยาได้หรือ?”
ประกายวาบผ่านดวงตาของชุยเฒ่า และกล่าวอย่างมีเหตุผล “เอ่อ…ใช่แล้ว! ต้องให้เรื่องนั้นเสร็จก่อน! ยามที่เวลานั้นมาเยือน เขาอ่อนแอเช่นนั้น จะให้กินยาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้!”
บรรดาสาวใช้ในเรือนสาบานว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง! ความจริงเพราะฮูหยินน้อยกับหมอเทวดาชุยไม่ได้กันพวกนางออกไป!
ว่าแต่สิ่งที่หมอเทวดาชุยกับฮูหยินน้อยคุยกันหมายความว่าอย่างไร?
ทุกเดือนคุณชายจะมีเวลาเพียงสองสามวันที่ไม่สะดวก…
แล้วสองสามวันนั้นก็ยังอ่อนแอมาก ไม่อาจให้กินยาสุ่มสี่สุ่มห้า…
แม่เอ๊ย! คุณชาย…คุณชายคงไม่ได้เป็นเหมือนพวกนางที่จะมีแบบนั้นมาทุกเดือนกระมัง?
จะเป็นไปได้อย่างไร? คุณชายเป็นบุรุษ! แต่…หมอเทวดาชุยกับฮูหยินน้อยพูดเช่นนั้น ก็ไม่น่าเป็นเรื่องเท็จกระมัง! ! !
อวี๋หวั่นมองท้องฟ้า “แล้วก็ยังมาค่อนข้างตรงทุกเดือน คืนนี้ก็คงจะเริ่มไม่สบายแล้วกระมัง?”
คุณชายไม่เพียงมีแบบนั้นมา แต่ยังมาค่อนข้างตรงด้วย? เมื่อสาวใช้ได้ยินเช่นนี้ ก็แน่ใจแล้วว่าเยี่ยนจิ่วเฉาเป็นคนที่จะมีญาติมาหาเดือนละครั้ง
วันแรกของการไปท้องพระโรง เยี่ยนจิ่วเฉามีหลายสิ่งหลายอย่างต้องจัดการ สิ่งสำคัญคือการฟังขุนนางยกย่องชื่นชมตน ตั้งแต่รูปลักษณ์ไปถึงอารมณ์ ตั้งแต่เสื้อผ้าไปถึงจิตวิญญาณ เหล่าขุนนางล้วนพูดได้ดีและไม่ซ้ำกัน นับว่าเป็นที่น่าพอใจ
ผลคือเมื่อเขาเข้ามาที่เรือนก็สัมผัสได้ถึงร่องรอยความผิดปกติ
สายตาของผู้คนที่มองเขา คล้ายกับ…เต็มไปด้วยความรักและเห็นอกเห็นใจ
คิ้วของเยี่ยนจิ่วเฉาขมวดมุ่น
บนโต๊ะหินมีน้ำที่เหล่าไข่ดำน้อยยังดื่มไม่หมด เขากระหายน้ำพอดี จึงอยากจะหยิบขึ้นมาดื่ม ทว่าทันใดนั้น สาวใช้คนหนึ่งก็รีบเดินปรี่เข้ามา “คุณชาย! ดื่มน้ำเย็นไม่ได้นะเจ้าคะ!”
หากสิ่งนั้นมาแล้ว การดื่มน้ำเย็นจะทำให้ปวดท้อง!
เยี่ยนจิ่วเฉามองนางอย่างประหลาดใจ
เหล่าสาวใช้หวาดกลัวคุณชายเป็นที่สุด แต่พวกนางก็จงรักภักดีต่อคุณชายที่สุดเช่นกัน เห็นแก่สุขภาพร่างกายของคุณชาย พวกนางยอมเสี่ยงที่จะถูกขับไล่ออกจากจวน ขอเพียงได้ปกป้องดูแลคุณชาย!
ถึงสารทฤดูแล้ว ไม่อาจดื่มน้ำเย็นหรือ? เยี่ยนจิ่วเฉามองท้องฟ้าด้วยความประหลาดใจ
สาวใช้ฉวยโอกาสยามเขาใจลอย เสี่ยงชีวิตคว้าถ้วยของเขามาและยัดถ้วยน้ำที่ผสมด้วยตาลทรายแดงร้อนๆ ให้เขา!
หน่วนกงแก้ปวด! ดื่มมัน ดื่มมัน ดื่มมันเลย!
เยี่ยนจิ่วเฉา “…”
…
อวี๋หวั่นยังค้างคาใจเรื่องหมื่นตำลึงทองที่เสียไป เธอกอดหมอนสาบานในใจว่าต้องหาโอกาสนำทองหมื่นตำลึงนั้นกลับคืนมาให้ได้!
สิ่งที่เธอไม่รู้คือ แม้จะไม่ได้ทอง แต่กลับจับพลัดจับผลูพาตนเองหนีออกมาได้เสียอย่างนั้น
ยอดฝีมือเผ่าศักดิ์สิทธิ์ไม่ง่ายที่จะรับมือ เลี่ยเฟิงนั้นเป็นเพียงลูกน้องตัวเล็กๆ ความแข็งแกร่งของชายสวมชุดคลุมนั่นต่างหากที่ลึกล้ำเกินหยั่งถึง
ตอนนั้นสตรีพิษไปที่ห้องของหานจิ้งซู เพื่อรอให้อวี๋หวั่นปรากฏตัว และยืนยันต่อหน้าว่าอวี๋หวั่นเป็นสตรีน่ารังเกียจผู้ทำลายเผ่าศักดิ์สิทธิ์ ขโมยไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และกวาดล้างยอดฝีมือเผ่าศักดิ์สิทธิ์จนหมดสิ้น
น่าเสียดายที่หานจิ้งซูฟื้นขึ้นมา จวินฉางอันจึงไม่ยอมให้พวกอวี๋หวั่นเข้ามาอีก และส่งพวกเขาออกจากจวนไปทันที
สตรีพิษอยากถามข้อมูลของนายบ่าวคู่นั้น แต่แน่นอนว่าจวินฉางอันไม่มีทางบอกสิ่งใด แม้เหล่าข้ารับใช้จะรู้ว่าอีกฝ่ายแซ่ชุย เป็นหมอเทวดาท่านหนึ่ง สตรีอ้วนผู้นั้นเป็นสาวใช้ของเขา ทว่านอกเหนือจากนี้ล้วนไม่รู้
เบาะแสมาถึงที่แล้ว กลับถูกตัดจนขาดสะบั้น!
ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นสมบัติของเผ่าศักดิ์สิทธิ์ การฝึกฝนยอดฝีมือเผ่าศักดิ์สิทธิ์ล้วนขึ้นอยู่กับมัน หลังจากมันสูญหาย ยอดฝีมือเผ่าศักดิ์สิทธิ์ก็ขาดตอน ต่อให้เก่งกาจเพียงใด ทว่าหากไร้ชนรุ่นหลังที่สามารถสืบทอด เผ่าก็อยู่ห่างจากความเสื่อมถอยอีกไม่ไกลเท่าใดแล้ว
นี่คือเหตุผลที่พวกเขาต้องตามหาไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กลับมา และแน่นอนว่าต้องชำระแค้นการขโมยสมบัติ (โกนขน) ในครานั้นด้วย!
………………………