หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 47 ต้าเป่าที่สุดแห่งผู้แข็งแกร่ง หลงกลเด็กน้อย!
ผู้พิทักษ์ดาบเงินทั้งสองดูเป้ากางเกงตนเองที่กำลังถูกเผา
…น้องเล็ก ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล!
ผู้พิทักษ์ดาบเงินทั้งสองอยากตาย แม้พวกเขาจะขยับไม่ได้ แต่ประสาทสัมผัสของพวกเขาก็ยังใช้การได้อยู่ พวกเขาจะไหม้ตายอยู่แล้ว! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาเป็นบุรุษ! เผาที่ใดไม่เผา ต้องเผาไอ้นั่น! ! !
ต้าเป่าสูดจมูกดมกลิ่น
กลิ่นครั้งนี้แปลกจริงๆ ไม่เหมือนกับครั้งอื่นที่ผ่านมา
ต้าเป่าเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าว่างเปล่า
บนฟ้าก็มีหรือ?
หือ?
องุ่นติดไฟแล้วหรือ?
อันที่จริงจากมุมที่ต้าเป่าอยู่นั้น ไม่อาจมองเห็นเงาคนบนซุ้มองุ่น เพราะนี่ไม่ใช่ซุ้มองุ่นธรรมดา แต่เป็นทางเดินที่ทำจากหิน ส่วนบนเหมือนโครงกระดูก แน่นอนว่าโครงกระดูกหินย่อมหนากว่าซุ้มองุ่นทั่วไป บวกกับกิ่งใบองุ่นที่ซ้อนกัน ทำให้ต้าเป่าเห็นเพียงเปลวไฟสองกลุ่มที่กำลังลุกไหม้
แต่ผู้พิทักษ์ดาบเงินทั้งสองไม่คิดเช่นนั้น เด็กคนนี้เห็นพวกเขาแล้ว!
ขอเพียงเขาส่งเสียงร้องสักคำ ตำแหน่งของพวกเขาก็จะถูกเปิดเผย!
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ อย่าว่าแต่ต้าเป่ามองไม่เห็นพวกเขา ต่อให้เห็น ต้าเป่าก็ร้องไม่ได้ ในเมื่อต้าเป่าเป็นไข่ดำน้อยที่พูดไม่ได้!
ผู้ที่จะเป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ดาบเงินได้ย่อมมีท่าไม้ตาย หัวหน้าผู้พิทักษ์ดาบเงินมักเอาแต่พูดถึงลูกปัดที่มีขนาดเท่าเม็ดถั่ว ลูกปัดนี้ดูแล้วก็ไม่มีสิ่งใดพิเศษ หากไม่ระวังเผลอกลืนลงไปก็ไม่เป็นไร เพราะชั้นนอกของมันทำมาจากวัสดุพิเศษที่ไม่สามารถย่อยได้ ดังนั้นกลืนลงไปก็ไม่ส่งผลใดๆ ต่อร่างกาย
ทว่าสิ่งเล็กๆ เช่นนี้กลับมีกลไกที่ร้ายกาจซ่อนอยู่ภายใน
ไม่หักก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อใดที่กัดไปแล้ว ไม่นานกลไกจะควบแน่นเปลี่ยนเป็น ‘เข็มพิษ’ แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เข็ม มันไม่คม กลับยังค่อนข้างทื่อเสียด้วยซ้ำ แต่ด้วยกำลังภายในของผู้พิทักษ์ดาบเงินเพียงพอที่จะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นอาวุธสังหารได้
หัวหน้าผู้พิทักษ์ดาบเงินกัดลูกปัดหมายจะโจมตีต้าเป่าที่อยู่ด้านล่าง
เขามั่นใจว่าแม้ร่างกายจะขยับไม่ได้ แต่การปลิดชีวิตเด็กน้อยสักคนก็ไม่ใช่ปัญหา
เพียงแต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดคือ จู่ๆ ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในอ้อมแขนของเขาก็หล่นลงมา
เขาสะดุ้งตกใจ ‘เข็มพิษ’ ที่ตนควรเป็นคนยิงกลับปักเข้าที่ท้องของเขา
หัวหน้าผู้พิทักษ์ดาบเงิน “……!!!”
กลุกๆ
ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ตกลงบนพื้นกลิ้งไปที่เท้าของต้าเป่า
ต้าเป่าหยิบไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา
ลูกปัดนี้ช่างงดงามจริงๆ!
ต้าเป่าไม่รีรอเก็บลูกปัดใส่กระเป๋าของตน!
หัวหน้าผู้พิทักษ์ดาบเงิน “…”
“พี่ใหญ่…พี่ใหญ่ ลูกปัดถูกไข่ดำนั่นเก็บไปแล้ว…ทำอย่างไรดีละ?” เมื่อผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามหันมองพี่ใหญ่ของเขา ก็เห็นพี่ใหญ่หน้าม่วง ริมฝีปากคล้ำ จุดอิ้งถังเป็นสีดำ
นี่มัน…ติดพิษแล้วชัดๆ!
จากนั้นในเวลาเดียวกัน ผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามก็รู้สึกว่าร่างกายของตนสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว
เขาไม่ได้ดับไฟก่อนเป็นอย่างแรก แต่จับไหล่พี่ใหญ่เขย่าโคลงเคลง “พี่ใหญ่! ท่านเป็นอะไรไป?”
ปึก!
หัวหน้าผู้พิทักษ์ดาบเงินเองก็รู้สึกว่ากำลังภายในของตนค่อยๆ กลับคืนมาทีละน้อย จึงใช้แรงดันเข็มพิษออกมา ผลกลับถูกไอ้โง่เขย่าจนเข็มกลับเข้าท้องอีกครั้ง!
อ้าก!
ฆ่าเจ้าโง่นี่ทีได้ไหม! ! !
“พวกเจ้าดูสิ! ทางโน้น!”
องครักษ์นายหนึ่งสังเกตเห็นไฟที่ติดบนซุ้มองุ่น จึงพบสองร่างที่นอนอยู่ด้านบน
“แย่แล้ว! พี่ใหญ่! เราถูกพบแล้ว!” หลังจากดับไฟที่เป้าของทั้งสองด้วยวิธีที่โหดร้ายที่สุด ผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามก็รับรู้ได้ถึงอันตรายที่กำลังมา
หากทั้งสองเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แยกกันไปแย่งไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กลับมาก็ไม่ใช่ปัญหา ประเด็นอยู่ที่เวลานี้หัวหน้าผู้พิทักษ์ดาบเงินติดพิษ มือของผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามข้างหนึ่งจับเขา อีกข้างหนึ่งก็คว้าทารก หมดหนทางจะทำสิ่งอื่น
ทันใดนั้นเขาก็คิดวิธีขึ้นได้ เขาใช้ฟันกัดคาบต้าเป่าหนี!
เอ้อร์เป่าใช้ไม้เขี่ยไข่ดิบที่เผาสุกแล้วออกมาและหันไปมอง “เอ๋? ต้าเป่าละ?”
ผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามไม่รู้จักตัวตนของต้าเป่า หากรู้ว่าต้าเป่าก็เป็นคุณชายน้อยของจวนผู้สำเร็จราชการคงไม่บุ่มบ่ามทำเกินความจำเป็นเช่นนี้ และพาเยี่ยนเสี่ยวซื่อไปเพียงคนเดียว
“อย่าตามมา! ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเขาซะ!”
หลังจากทิ้งท้ายคำพูดที่ดุเดือดเหล่านี้ ผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามก็ใช้วิชาตัวเบาหายวับไปในความมืด
อิ่งสือซันมองดูแผ่นหลังที่ไกลออกไปด้วยสายตาเย็นชา
องครักษ์กล่าวอย่างร้อนใจ “องครักษ์เงา พวกเราจะไล่ตามหรือไม่?”
อิ่งสือซันมองเอ้อร์เป่าและเสี่ยวเป่าที่อยู่ใต้ซุ้มองุ่น ก็รู้ว่าบุรุษผู้นั้นไม่เพียงแต่จับคุณหนูเล็กไป แม้แต่ต้าเป่าก็จับไปด้วย
มันหนีไปแล้ว โกรธไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเจ้านายน้อยทั้งสอง
แต่……
อีกไม่นานเขาคงต้องเสียใจที่พาต้าเป่าไปด้วย หากจับไปเพียงคุณหนูเล็ก เกรงว่าคงตามไม่ถึงตัวเขา
ผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามพาพี่ใหญ่และเด็กทั้งสองกลับไปที่เรือน ชายสวมชุดคลุมรออยู่ที่นั่นนานแล้ว
“เหตุใดถึงไปนานเช่นนี้?” เมื่อชายสวมชุดคลุมได้ยินเสียงผลักประตูก็รีบหันไปมอง เห็นเขาหิ้วผู้พิทักษ์ดาบเงินอีกคนและทารกน้อยในห่อผ้า ในเวลาเดียวกัน ปากก็ยังคาบเด็กไว้อีกคน
“เกิดอะไรขึ้น?” ชายสวมชุดคลุมถาม
เยี่ยนเสี่ยวซื่อหลับไปแล้ว ยามนี้น้ำหนักตัวช่างเบา ไม่ก่อเรื่องใดๆ ให้เขามาตลอดทาง กลับกันเป็นไข่ดำน้อยที่เขาคาบมา ผู้ใดบอกเขาได้บ้าง เหตุใดเด็กสามสี่ขวบถึงได้หนักเช่นนี้?
ระหว่างทาง เขาต้องใช้กำลังภายในหอบกลับมา!
เขาใช้กำลังภายในจนหมด!
เพียงเพื่อเคลื่อนย้ายเด็กคนเดียว!
หากพูดไป…ผู้ใดจะเชื่อ?
ฟุ่บ!
ผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามทรุดลงกับพื้น
ต้าเป่าที่เขาคาบไว้ รวมถึงพี่ใหญ่และทารกที่เขาหิ้วก็ร่วงลงมา ต้าเป่าก็รีบคว้าน้องสาวไว้ทันที
ชายสวมชุดคลุมเห็นฉากนี้ก็รู้สึกสับสน
มีผู้พิทักษ์ดาบเงินเพียงสองคนที่กลับมา ทั้งยังเหมือนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้า ราวกับไม่อาจช่วยกลับมาได้อีกแล้ว อีกอย่าง เด็กสองคนนี้มันเรื่องใดกัน?
ทารกในห่อผ้าตัวเล็กจนน่าสงสาร เหมือนทารกแรกเกิด หรือว่า…นี่คือเลือดเนื้อของสตรีผู้นั้นกับผู้สำเร็จราชการ? แล้วไข่ดำน้อยที่ดำดีสีไม่ตกนี่ละ? เป็นเด็กที่ใดอีก?
หากบอกว่าเป็นคนรับใช้ ชายสวมชุดคลุมคงไม่มีทางเชื่อ ไม่ว่าเสื้อผ้าหรือรูปลักษณ์ล้วนหรูหราวิจิตรงดงามชั้นเลิศ นอกจาก…หัวโล้นน้อยๆ นี้
ทว่าความสงบระหว่างคิ้วกับกลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมาจากกระดูกของเขา ชวนให้รู้สึกว่าชาติกำเนิดของเขาไม่ธรรมดา
ได้ยินมาว่าผู้สำเร็จราชการมีบุตรชายสามคนซึ่งเป็นฝาแฝด ปีนี้อายุครบสามขวบ เด็กคนนี้คงไม่ใช่หนึ่งในฝาแฝดนั้นกระมัง?
ผู้พิทักษ์ดาบเงินไม่ได้ไปหาไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์หรอกหรือ? จับเด็กสองคนกลับมาด้วยเหตุใด?
ความสงสัยนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในใจของชายสวมชุดคลุม แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนไม่สำคัญเท่ากับไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
“ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ใด?” ชายสวมชุดคลุมดึงคอเสื้อผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามขึ้นมาถาม
ผู้พิทักษ์ดาบเงินคนที่สามชี้ไปที่ต้าเป่าอย่างไร้เรี่ยวแรง “อยู่…กับเขา…”
ชายสวมชุดคลุมปล่อยผู้พิทักษ์ดาบเงิน และเดินไปทางต้าเป่าด้วยท่าทางเย็นชา “ส่งไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มา”
เงาจากร่างสูงใหญ่ของเขาปกคลุมต้าเป่าจนมืดสนิทในทันที
เยี่ยนเสี่ยวซื่อนอนหลับสบายในอ้อมแขนของพี่ชาย
ต้าเป่าจ้องมองชายสวมชุดคลุมอย่างเลื่อนลอย อุ้มน้องสาวก้าวถอยหลัง
ชายสวมชุดคลุมสืบเท้าก้าวตาม ข่มขู่อย่างเย็นชา “ได้ยินหรือไม่? ส่งไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในมือเจ้ามา หากไม่เชื่อฟังคงต้องตีเจ้า”
ต้าเป่าส่ายหัว
ชายสวมชุดคลุมผงะ เด็กผู้นี้กล้าส่ายหัว? กำลังปฏิเสธเขาหรือ? ช่างกล้าหาญนัก?
ชายสวมชุดคลุมเข้าใจผิด ต้าเป่าไม่ได้ปฏิเสธเขา ต้าเป่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังพูดถึงอะไร!
“ส่งมา!” ชายสวมชุดคลุมไม่วายขู่เข็ญ
ต้าเป่าเอียงหัวมองอย่างไร้เดียงสา
ชายสวมชุดคลุมเข้าใจทันที เด็กคนนี้…เหมือนจะไม่เข้าใจความหมายของเขา?
ชายสวมชุดคลุมรีบเอ่ย “ลูกปัด ลูกปัดสีขาวที่ใหญ่ประมาณนี้!”
หือ?
ต้าเป่านั่งลงกับพื้น มือข้างหนึ่งอุ้มน้องสาว มืออีกข้างหยิบลูกปัดจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้ชายสวมชุดคลุม
ดวงตาของชายสวมชุดคลุมเป็นประกาย ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!
สมบัติของเผ่าศักดิ์สิทธิ์ที่หายไปนานหลายปี ในที่สุดเขาก็พบแล้ว!
อันนี้น่ะหรือ?
ต้าเป่าถามด้วยสายตา
ชายสวมชุดคลุมตื่นเต้น พยักหน้าราวกับโขลกกระเทียม “ใช่! นั่นละ! รีบส่งมาให้ข้า!”
โอ้
ต้าเป่าพูดในใจและนำลูกปัดใส่เข้าปากตนเองด้วยท่าทีสงบนิ่ง
ชายสวมชุดคลุม “…”
………………………