หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 18 อานุภาพแห่งราชาพ่อมด!
นี่เป็นสถานการณ์ที่โจวจิ่นไม่เคยคาดคิด น่าประหลาดใจเสียยิ่งกว่าการที่เขามาอยู่ที่โลกฝั่งนี้อย่างไม่ทราบสาเหตุ ถ่านน้อยทั้งสามไม่สนใจเขาแต่วิ่งไปหาสิ่งชั่วร้ายตัวน้อย? แล้วเรียกสิ่งชั่วร้ายตัวน้อยว่าอะไรนะ?
น้องชาย?
พวกเจ้ารู้จักกันหรือ?!
หากไม่ใช่เพราะโจวจิ่นรู้ว่าอวี๋หวั่นมีบุตรชายเพียงสามคน เกรงจะถามว่าสิ่งชั่วร้ายตัวน้อยคงมิใช่เลือดเนื้อของพี่หวั่นหรอกกระมัง?
เมื่อเห็นถ่านน้อยทั้งสามวิ่งไปหาเขา ดูเหมือนจะชื่นชอบเขามาก
โจวจิ่นรู้สึกถูกทอดทิ้ง
ลืมไปแล้วหรือว่าพี่ชายที่พวกเจ้าเคยชอบเช่นนี้มาก่อนอยู่ตรงหน้าพวกเจ้า?
เมื่อทั้งสามกระโจนเข้าหาหลัวช่าน้อย หลัวช่าน้อยก็ทิ้งการป้องกันทั้งหมดไปอย่างสิ้นเชิง จึงถูกไข่น้อยทั้งสามทำให้ล้มกลิ้งไปกับพื้น แต่แม้จะถูกทำให้ล้มลงก็ไม่ปล่อยให้เยี่ยนเสี่ยวซื่อในอ้อมแขนตนถูกกดทับไปด้วย
เขาเหยียดแขนเล็กยกเยี่ยนเสี่ยวซื่อขึ้นเหนือศีรษะ
“น้องชาย!”
“น้องชาย!”
น้องชาย!
ไข่น้อยทั้งสามกอดหลัวช่าน้อยอยู่พักหนึ่ง หลัวช่าน้อยก็ไม่ขัดขืน ปล่อยให้ไข่ทั้งสามล้มทับ ดวงตาเบิกกว้างดูน่ารักน่าชัง
หลังจากอยู่กับสิ่งชั่วร้ายตัวน้อยมานาน นี่เป็นครั้งแรกที่โจวจิ่นเห็นมันดูเชื่อฟังและล้มคว่ำง่ายเช่นนี้ ยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน รักใคร่ห่วงใยน้องสาวตนยังพอว่า แต่ให้ถ่านน้อยพวกนี้ล้มทับมันเรื่องใดกัน?
ทั้งยังทับแน่นิ่งเช่นนี้กลับไม่ต่อต้านขัดขืนแม้แต่น้อย
อันที่จริง ไข่น้อยทั้งสามก็เคยพุ่งเข้าหาโจวจิ่นเช่นนี้ แต่ก็ถูกโจวจิ่นปฏิเสธอย่างไร้ความปรานี บัดนี้จู่ๆ โจวจิ่นก็นึกเสียดายความรู้สึกที่ถูกถ่านน้อยทั้งสามล้มทับ…แต่ก็ไม่ได้เสียใจถึงเพียงนั้น ดูสิ่งชั่วร้ายตัวน้อยแล้วก็เพลิดเพลินดีมิใช่หรือ?
ไข่น้อยทั้งสามไม่ได้พบน้องเสี่ยวเจามานาน ในที่สุดก็ได้พบกัน แน่นอนว่าไม่อาจระงับความตื่นเต้นในใจได้ หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนเสี่ยวซื่อละเมอออกมา ทั้งสามก็คงไม่รู้ว่าทับน้องเสี่ยวเจามานานเพียงใดแล้ว
“หือ? น้องสาว?” เสี่ยวเป่าลุกขึ้นยืน
ต้าเป่าและเอ้อร์เป่าก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว คนหนึ่งเข้าไปกอดน้องสาว อีกคนก็ดึงน้องเสี่ยวเจาขึ้น
โจวจิ่นสังเกตว่าเวลาต้าเป่าเข้าไปกอดทารกหญิง เจ้าสิ่งชั่วร้ายตัวน้อยไม่โกรธและมอบมันให้เขาแต่โดยดี
โจวจิ่นขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เหตุใดน้องสาวเจ้าถึงให้ต้าเป่ากอดได้? ไม่ให้ข้ากอด?
ไข่น้อยทั้งสามรู้จักหลัวช่าน้อย เช่นนั้นจะรู้จักน้องสาวของหลัวช่าน้อยก็ไม่แปลก เรียกหลัวช่าน้อยว่าน้องชาย เรียกน้องสาวของหลัวช่าน้อยว่าน้องสาวก็เป็นเรื่องปกติ
แต่ไม่รู้เหตุใดโจวจิ่นกลับรู้สึกว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“เจ้าเปลี่ยนชุดให้น้องสาวหรือ?” เอ้อร์เป่ากล่าว
โจวจิ่นยืดเอว กำลังคิดจะบอกว่าข้าเปลี่ยนเอง ก็ได้ยินเอ้อร์เป่ามุ่ยปากด้วยความรังเกียจ “ดูไม่ได้เลย!”
ลูกศรนับหมื่นทิ่มแทงหัวใจของโจวจิ่น “…”
“น้องชาย เจ้าพบน้องสาวที่ใดหรือ?” เสี่ยวเป่าถาม
โจวจิ่นกล่าวในใจ ข้าเป็นคนเจอ!
หลัวช่าน้อยยกมือเล็กๆ ชี้ขึ้นด้านบน
ด้านบนนั้นกว้างขวางและเป็นนามธรรมมาก แต่เสี่ยวเป่าไม่ใช่ผู้ใหญ่ เขาเป็นเด็ก คำตอบที่เป็นนามธรรมก็เพียงพอแล้ว
เมื่อโจวจิ่นเห็นพวกเขาทักทายกันไม่สนใจตน ใบหน้าเล็กก็อึมครึมลงเล็กน้อย เขาเดินเข้าไปถามว่า “ต้าเป่า เอ้อร์เป่า เสี่ยวเป่า พวกเจ้ายังจำข้าได้หรือไม่?”
“จำได้สิ พี่เล็กไง!” เอ้อร์เป่าพยักหน้า แล้วเดินไปดึงมือหลัวช่าน้อย “น้องชาย เจ้าไปที่ใดมา? เหตุใดไม่มาหาเราบ้าง?”
“ใช่ๆ! เราคิดถึงเจ้าทุกวันเลย!” คราวนี้ปากของเสี่ยวเป่าเอ่ยคำหวานยิ่งกว่าเอ้อร์เป่า
โจวจิ่นถูกทอดทิ้งอีกครั้ง
จิตใจเด็กหนุ่มของโจวจิ่นสั่นคลอน!
ทว่าสั่นคลอนเพียงไม่นาน เขาเป็นถึงราชาพ่อมดน้อย
โจวจิ่นมองไปยังเหล่าเด็กน้อยและเอ่ยว่า “ต้าเป่า เอ้อร์เป่า เสี่ยวเป่า พวกเจ้าสนิทกันมากเลยหรือ? ข้าไม่เคยได้ยินพวกเจ้าเอ่ยถึงมาก่อน”
“เขาคือน้องเสี่ยวเจา! น้องชายจากหมิงตู!” เสี่ยวเป่ากล่าว
“หมิงตูหรือ…” นั่นเป็นทางที่พี่หวั่นกับเยี่ยนจิ่วเฉาไปยังเผ่าพ่อมด ว่ากันว่าเป็นบ้านเกิดอีกแห่งของพี่หวั่น
โจวจิ่นกล่าว “เช่นนั้นเสี่ยวเจา…กับน้องสาวของเขาก็มาจากหมิงตู”
ไข่น้อยทั้งสามหันมองเขาอย่างพร้อมเพรียง!
“อะไรรึ? ข้าพูดอะไรผิด?” โจวจิ่นถามด้วยความสงสัย
เสี่ยวเป่าเอ่ยว่า “น้องเสี่ยวเจามาจากหมิงตู แต่น้องสาวไม่ใช่! เรามาจากเมืองเยี่ยน! น้องสาวก็เหมือนกัน!”
โจวจิ่นผงะ มองเยี่ยนเสี่ยวซื่อที่กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของต้าเป่า และหลัวช่าน้อยที่เอ้อร์เป่ากับเสี่ยวเป่าจับมือ “ช้าก่อน นี่ไม่ใช่น้องสาวของเขาหรือ?”
“น้องสาวของเรา!” เสี่ยวเป่ากระทืบเท้า
“อา…” บัดนี้โจวจิ่นอึ้งไปอย่างสิ้นเชิง เจ้าหนูติดคนนี่เป็นเลือดเนื้อของพี่หวั่น? โจวจิ่นไม่รู้จะพูดอะไร
ไม่แปลกเลยที่เมื่อครู่หลัวช่าน้อยตามเขามาตลอดทาง ที่แท้ชายชราที่ถูกจับมาก็ไม่ใช่คนที่เขาตามหา แต่เป็นไข่น้อยทั้งสาม!
ไข่น้อยทั้งสามและราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยอยู่ใกล้กับตนเช่นยามนี้ แต่ตนกลับไม่รู้สึกถึงพลังปราณของพวกเขา
เขารู้ว่าหลังจากราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยเกิดมาก็สามารถปกปิดพลังปราณราชาศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นอย่างดี แต่ความสามารถนี้มีผลกับคนอื่นเท่านั้น เขาเป็นราชาพ่อมด ควรจะสัมผัสได้ ทว่าเรื่องจริงไม่เป็นเช่นนั้น
โจวจิ่นมองมือของตน ราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยจงใจซ่อนพลังปราณจากเขาหรือพลังเวทของเขาเริ่มเสื่อมลงแล้วจริงๆ?
เขารู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่อย่างแรก
ความจริงแล้วตั้งแต่พลังประมุขศักดิ์สิทธิ์มีขึ้นในร่างกายของเขาอย่างไม่รู้สาเหตุ เขาก็รู้สึกว่าพลังเวทค่อยๆ หายไป ดูเหมือนว่าพลังประมุขศักดิ์สิทธิ์จะครอบงำเกินไป ไม่อาจหลอมรวมกับพลังอื่นได้
นี่คือเหตุผลที่โจวจิ่นไม่ชอบโลกฝั่งนี้ พลังเวทคือพลังโดยกำเนิดของเขา เป็นหลักฐานว่าเขาเคยมีตัวตนอยู่ในประเทศมรกตและเผ่าพ่อมด หากพลังนี้หายไป เขากลัวว่าตนเอง…จะไม่แน่ใจแล้วว่าตัวตนของเขาก่อนหน้านี้เคยมีอยู่จริงๆ หรือไม่
ถึงเวลานั้นเขาจะยังคงเป็นโจวจิ่นหรือไม่? จะใช่หรือไม่?
“ใครน่ะ?!”
ทันใดนั้นเสียงตะโกนเคร่งขรึมของทหารเผ่ามารก็ดังมาจากทางเข้า
โจวจิ่นหันไป เห็นว่าทหารเผ่ามารสองสามคนกำลังนำเครื่องสังเวยประมุขมารอีกชุดมาทางนี้ ดูเหมือนเครื่องสังเวยเหล่านั้นถูกวางยาก่อนออกมาแล้ว ท่าทางมึนงง ถูกทหารเผ่ามารขับให้ไปข้างหน้าราวกับซากศพเดินได้มายังสุสานอย่างล่องลอยไร้สติ
แม้แต่เสียงตะโกนรุนแรงเมื่อครู่ก็ยังไม่อาจกระตุ้นอารมณ์ใดๆ ของพวกเขา พวกเขายังคงเดินไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า
ทหารเผ่ามารทั้งสี่เห็นโจวจิ่นในชุดสีดำยืนอยู่ภายใต้แสงสลัว เด็กหนุ่มร่างกายผอมเพรียว งดงามอย่างหาใดจะเปรียบได้ เขาอายุเพียงสิบเอ็ดปีแต่กลับมีรูปโฉมดั่งทวยเทพ อีกทั้งลักษณะพิเศษที่ไม่ธรรมดา
ดวงตาของเขาสงบเยือกเย็น หันกลับมาราวเทพบุตรใต้แสงจันทร์
ทหารเผ่ามารสี่คนผงะไปตามๆ กัน
พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าถูกสิ่งใดของบุรุษหนุ่มผู้นี้ดึงดูด ดูเหมือนเพราะกลิ่นอายของเขา และดูเหมือนเพราะความงดงามของเขาเช่นกัน
ขณะที่พวกเขากำลังตกอยู่ในภวังค์ จู่ๆ โจวจิ่นก็ร่ายพลังเวทอันทรงพลัง เข้าสู่จิตสำนึกของทุกคน เห็นเพียงคนสี่คนที่กู่ร้องเข่นฆ่าทำร้ายคนเมื่อวินาทีก่อน สูญเสียจิตวิญญาณไปในชั่วพริบตา มีสภาพไม่ต่างจากเครื่องเซ่นสังเวยที่พวกเขาได้วางยา
สิ่งที่ต่างคือเครื่องสังเวยยังคงเดินไปยังจุดหมายของตนอย่างช้าๆ แต่พวกเขากลับนิ่งงันอยู่กับที่
“ฆ่ามัน!” โจวจิ่นเอ่ยออกมาอย่างสบายๆ
ทั้งสี่ต่างชักดาบออกมาฟันสหายข้างหน้าของตน
ทหารเผ่ามารสี่คนล้มลงกับพื้นแทบในทันที เลือดสดสาดกระเซ็น พวกเขาไม่สามารถหลุดพ้นจากพลังเวทของโจวจิ่นได้
ทว่าในขณะที่ทหารทั้งสี่สิ้นใจ จู่ๆ โจวจิ่นก็ทรุดลงบนหลุมฝังศพ
ไข่น้อยทั้งสามวิ่งเข้ามาดูเขาด้วยความกังวล
เอ้อร์เป่าถามว่า “พี่เล็กเป็นอะไร? ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
ยามที่เขาออกกระบวนท่าเมื่อครู่ ได้ใช้ร่างกายบังสายตาของไข่น้อยทั้งสามไว้ พวกเขาจึงไม่เห็นฉากการเข่นฆ่า เพียงแต่รู้ว่าเวลานี้พวกเขาล้มลงแล้ว
โจวจิ่นอ่อนแรงอย่างมาก
เพียงแค่ควบคุมทหารเผ่ามารทั้งสี่ เขาก็ดูเหมือนจะหมดแรง
เวทมนตร์ของเขา…กำลังหายไปจริงๆ
แต่เดิมพลังเวทสามารถฟื้นฟูได้ ทว่าตั้งแต่เขามาที่นี่ ใช้พลังเวทไปเพียงครั้งเดียว แล้วมันก็ลดน้อยลง ไม่อาจฟื้นฟูได้อีก
ไข่น้อยทั้งสามไม่รู้ว่าเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น เหตุใดทหารเผ่ามารที่มาจับพวกเขาถึงล้มลงเสียเอง แต่พวกเขาต่างก็คิดเหมือนกัน ว่าโจวจิ่นล้มลงกับพื้น ใบหน้าซีดเผือดเช่นนี้เพราะหวาดกลัวทหารเผ่ามารเหล่านั้น
เอ้อร์เป่าเอ่ยเบาๆ “พี่เล็ก ไม่ต้องกลัว เราจะปกป้องท่านเอง!”
พลังประมุขศักดิ์สิทธิ์ในร่างของโจวจิ่นได้ฟื้นฟูชี่ดั้งเดิมของเขาอย่างรวดเร็ว เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเขาก็กลับมามีกำลังวังชาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง แต่พลังเวทของเขากลับยังคงไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนมา
สิ่งนี้ไม่อาจทำให้เขารู้สึกดีได้
เขาเอาแต่คิดว่าหากพลังเวทหายไป เขาอาจสูญเสียตัวตนเมื่อก่อนไป เขาดูเหมือนกับค่อยๆ กลายเป็นคนอื่น…เขาไม่อยากกลายเป็นคนอื่น!
เขาคือราชาพ่อมดโจวจิ่น!
เขาต้องหาทางออกจากโลกฝั่งนี้ให้เร็วที่สุดและกลับไปยังที่ของตัวเองอีกครั้ง
…………………