หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม - บทที่ 25 ราชาต้าเป่า!
อีกอย่างอวี๋หวั่นก็รู้สึกว่าชุดของคนเหล่านี้ดูคุ้นตา
อวี๋หวั่นหันมองโจวจิ่นที่เยี่ยนจิ่วเฉาอุ้มอยู่ “ท่านรู้สึกหรือไม่ว่าชุดของพวกเขาดูเหมือนกัน?”
เยี่ยนจิ่วเฉาก็รู้สึกเช่นนั้นนานแล้ว โจวจิ่นสวมเสื้อผ้าเหมือนคนนิกายศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ชุดที่โจวจิ่นสวมให้เยี่ยนเสี่ยวซื่อก็เป็นชุดของนิกายศักดิ์สิทธิ์ด้วย เห็นได้ว่าโจวจิ่นกับนิกายศักดิ์สิทธิ์ต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกัน?
“ตลอดเวลาที่โจวจิ่นหายตัวไป อาจจะอยู่กับนิกายศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?” อวี๋หวั่นกระซิบ
เยี่ยนจิ่วเฉาพยักหน้า “ก็เป็นไปได้”
“เช่นนั้นเราจะช่วยพวกเขาหรือไม่?” อวี๋หวั่นเอ่ย พลางมองเหล่านิกายศักดิ์สิทธิ์ที่เผชิญหน้ากับเผ่ามารอยู่กลางอากาศ
อันที่จริงอวี๋หวั่นไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับวรยุทธ์มากนัก แต่เธอก็ยังรู้สึกได้ว่าพลังของเผ่ามารเหนือกว่านิกายศักดิ์สิทธิ์
บางทีอาจเป็นตามที่จิ้งอู๋โจ้วกล่าว ด้วยเหตุผลต่างๆ ยอดฝีมือนิกายศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจส่งกองกำลังมาได้อย่างเต็มที่
“พวกเขารอให้อาจารย์ปู่ออกจากการบำเพ็ญก่อนไม่ได้หรือ?” อวี๋หวั่นกระซิบ
“มันอาจจะเกี่ยวข้องกับโจวจิ่น” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยพลางมองใบหน้าที่หลับใหลของโจวจิ่น
“เช่นนั้นเราจะช่วยพวกเขาหรือไม่?” อวี๋หวั่นถาม
“เจ้าอยากช่วยหรือไม่?” เยี่ยนจิ่วเฉาถาม
อวี๋หวั่นถูมือเงียบๆ “ข้าคิดว่า…ต่อให้อยากช่วย เราก็ช่วยไม่ได้”
โจวจิ่นก็ถูกพามาพัวพันกับที่นี่ หากเอ่ยสิ่งที่ไม่ควร เดิมทีนี่เป็นความแค้นระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์กับเผ่ามาร ไม่เกี่ยวกับพวกเขาหรือโจวจิ่นแม้แต่น้อย พวกเขาไม่จำเป็นต้องช่วย นี่คือเหตุผลหนึ่ง
สอง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แปลกเกินไป แม้พวกเขาจะมั่นใจ ทว่าไม่อวดดี อีกอย่างพวกเขายังต้องมีชีวิตไปตามหาไข่น้อยทั้งสาม หากพวกเขาสละชีวิตเพื่อคนสำนักใหญ่ผู้ชอบธรรมกลุ่มนี้ แล้วผู้ใดจะเลี้ยงดูบุตรของพวกเขา?
ระหว่างที่สองคนสนทนา ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มปะทะกันบนฟ้า
วุ่นวายเพียงใด อวี๋หวั่นไม่เอ่ยถึง เธอไม่ใช่แนวหน้าที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทว่ายามนั้นได้แต่ดูแลผู้บาดเจ็บในกระโจม น้อยนักที่จะเห็นคนสังหารกันอย่างจริงจัง ที่หมิงตูกับเผ่าพ่อมดเคยเห็นสองสามครั้ง แต่พลังการต่อสู้ของคนเหล่านั้น เทียบได้กับพลังการต่อสู้ของนิกายศักดิ์สิทธิ์กับเผ่ามารหรือ?
การระเบิดของพลังแต่ละครั้ง ราวกับโคมไฟดอกไม้ไฟที่ระเบิดในท้องฟ้ายามค่ำคืน อวี๋หวั่นตื่นตา แทบจะบอกไม่ได้ว่าใครเป็นใคร
เวลานี้เอง เยี่ยนจิ่วเฉายัดโจวจิ่นใส่ในอ้อมแขนของจิ้งอู๋โจ้วและตะโกนว่า “อย่ากลัวเลยสหายนิกายศักดิ์สิทธิ์ ข้ามาช่วยแล้ว!”
เขาเอ่ยแล้วก็เหาะขึ้นไปอยู่ข้างผู้บำเพ็ญหนุ่ม ในอ้อมแขนเขาอุ้มเด็กคนหนึ่งไว้ ไม่อาจใช้พลังได้ ถูกยอดฝีมือเผ่ามารตรึงไว้อย่างน่าอนาถ
ความแข็งแกร่งของเขาสูงสุดในบรรดายอดฝีมือนิกายศักดิ์สิทธิ์ เขาถูกตรึงไว้ ซึ่งก็หมายความว่าความสามารถในการต่อสู้โดยรวมลดลงอย่างมาก
เยี่ยนจิ่วเฉาเตะยอดฝีมือเผ่ามารคนหนึ่งที่ลอบโจมตีและเอ่ยกับเขาว่า “ส่งเด็กมาให้ข้า! เจ้าใช้พลังต่อสู้ศัตรูให้เต็มที่!”
สุ่ยเยว่ชิงเหลือบมองเยี่ยนจิ่วเฉาปราดหนึ่งกลางความวุ่นวาย
เขาไม่รู้จักเยี่ยนจิ่วเฉาเป็นที่แน่นอน แต่ด้วยใบหน้าที่น่าเชื่อถือของเยี่ยนจิ่วเฉา งดงามราวกับเทพเซียน ไม่เหมือนไอ้สารเลวที่จะลักพาตัวเด็กหนีไป
เยี่ยนจิ่วเฉามีท่าทางน่าเกรงขาม อารมณ์เคร่งขรึมและดวงตาที่จริงจัง
สุ่ยเยว่ชิงพยักหน้าและมอบเด็กให้เขา “ขอบใจสหาย ท่านถอยไปก่อน ไม่อยากให้บาดเจ็บ ข้าจัดการพวกเขาเอง! หากสหายมีกำลังเหลือ โปรดช่วยเหล่าศิษย์น้องข้าจัดการทหารด้านล่างนั่น”
แม้กองกำลังที่นิกายศักดิ์สิทธิ์ส่งมาในครั้งนี้ไม่อาจสู้เผ่ามาร ทว่าระดับของสุ่ยเยว่ชิงนับว่าสูงและด้วยอาวุธเวทนิกายศักดิ์สิทธิ์ที่มีในตัว เขามั่นใจเจ็ดในสิบส่วนว่าสามารถเอาชนะยอดฝีมือเผ่ามารกลุ่มนี้ได้
และสิ่งที่สุ่ยเยว่ชิงไม่คิดไม่ฝัน หลังจากบุรุษดุจเทพเซียนผู้นั้นรับเด็กไป ก็อุ้มเด็กหนีไปจริงๆ!!!
สุ่ยเยว่ชิง “…”
สุ่ยเยว่ชิง “!!!”
ไหนว่ามาช่วยเขา? มาลักพาตัวเด็กชัดๆ?!
เด็กผู้นี้ก็คือเสี่ยวเจา
เยี่ยนจิ่วเฉาถอดเสื้อคลุมของทหารเผ่ามารคนหนึ่งมาฉีกเป็นสองส่วน สะพายเสี่ยวเจาไว้บนหลัง สะพายเยี่ยนเสี่ยวซื่อไว้ที่อก ส่วนโจวจิ่นยังคงให้จิ้งอู๋โจ้วแบกไว้บนหลัง
อันที่จริงจิ้งอู๋โจ้วมาเพื่อฉวยประโยชน์ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันดุเดือดเช่นนี้ ไม่รู้ว่าทำสมบัติหล่นไว้มากมายเท่าใด เก็บกลับไปขายคงได้ราคาดีไม่น้อยเลย!
จิ้งอู๋โจ้วกัดฟัน ชะงักก้าว จะส่งโจวจิ่นคืนให้เยี่ยนจิ่วเฉา “ข้าว่าเราแยกกันตรงนี้เถอะ!”
เยี่ยนจิ่วเฉากับอวี๋หวั่นหยุดชะงัก ขณะนั้นทหารเผ่ามารคนหนึ่งแวบมาด้วยความเร็ว
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ตื่นตระหนก ใช้ฝ่ามือตบเขาจนลอยไป และหยิบอาวุธของเขามาวางบนคอของจิ้งอู๋โจ้ว “เจ้าปลิวไปแล้ว? หรือว่าข้าปรมาจารย์เซียนจิ่วเฉาถือดาบไม่ได้?”
จิ้งอู๋โจ้ว “…”
พวกเขาไม่ได้หนีจากวังมารในทันที อย่างไรก็ยังไม่พบไข่น้อยทั้งสาม พวกเขายังไม่สามารถออกจากที่นี่ได้ในตอนนี้ พวกเขามาถึงเรือนที่ค่อนข้างเงียบสงบ
เยี่ยนจิ่วเฉาให้จิ้งอู๋โจ้ววางโจวจิ่นลงและถามอวี๋หวั่นว่า “ยังมียาหรือไม่?”
“มี” อวี๋หวั่นหยิบยาฉิงซินสองเม็ดจากแขนเสื้อ ป้อนใส่ปากโจวจิ่นและหลัวช่าน้อย
ที่ท้องของหลัวช่าน้อยมีรอยแผล ดูเหมือนว่าพวกเขาเพิ่งลงมีดหลัวช่าน้อย ทว่าคนจากนิกายศักดิ์สิทธิ์ก็มาถึงทันเวลาและช่วยหลัวช่าน้อยออกมาได้
ความลังเลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอวี๋หวั่น
เยี่ยนจิ่วเฉาเข้าใจความคิดของเธอ และเอ่ยกับเธอว่า “เจ้าไม่ต้องขอบคุณคนจากนิกายศักดิ์สิทธิ์นักหรอก มีคนถูกจับมามากมายเช่นนั้น พวกเขาช่วยเสี่ยวเจาคนเดียว ไม่ใช่เพราะพวกเขาชื่นชอบเสี่ยวเจา แต่เพราะเสี่ยวเจามีประโยชน์ต่อประมุขมารมาก การช่วยเสี่ยวเจาก็เท่ากับทำให้ประมุขมารอ่อนแอลง นี่คือเป้าหมายของพวกเขา”
อวี๋หวั่นพยักหน้า ภายในใจพลันรู้สึกดีขึ้น
หลัวช่าน้อยมีพลังการฟื้นฟูที่แข็งแกร่ง เมื่อคู่กับยาฉิงซินของอวี๋หวั่น เขาก็ยิ่งฟื้นเร็วกว่าโจวจิ่น เขาลืมตาขึ้น ทันทีที่เห็นอวี๋หวั่น ก็ตกใจกระโดดโหยง!
อวี๋หวั่นหัวเราะคิกคัก เดินเข้าไปอุ้มหลัวช่าน้อยที่กระโดดขึ้นโต๊ะหินลงมา เหมือนกับอุ้มไข่น้อยทั้งสาม มืออ่อนนุ่มลูบไล้ใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน “ยังจำข้าได้หรือไม่?”
หลัวช่าน้อยพยักหน้า
อวี๋หวั่นเปิดเสื้อผ้าของเขาและดูที่ท้องเล็กๆ “ยังเจ็บอยู่หรือไม่?”
อันที่จริงเธออยากรักษาบาดแผลให้หลัวช่าน้อย แต่พวกเขาออกมาตามหาเยี่ยนเสี่ยวซื่อ ไม่คิดว่าจะเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์โดยบังเอิญ ไม่ได้นำยามามากนัก มีเพียงยาฉิงซินที่เธอมักจะพกติดตัว
หลัวช่าน้อยมองลงไปที่ท้องของเขา
หลัวช่าน้อยไม่กลัวความเจ็บปวด
อวี๋หวั่นรู้สึกปวดใจมาก
ไม่รู้ว่านึกถึงสิ่งใด หลัวช่าน้อยหันมองไปรอบๆ “น้อง…สาว…”
ความประหลาดใจพาดผ่านดวงตาของอวี๋หวั่น หลัวช่าน้อยพูดได้แล้ว ดีจริงๆ!
“น้อง…สาว…” หลัวช่าน้อยบิดตัวมองหาเยี่ยนเสี่ยวซื่อที่อยู่ในอ้อมแขนของอวี๋หวั่น
“น้องสาวอยู่ตรงนั้น นางหลับอยู่” อวี๋หวั่นชี้ไปที่อกของเยี่ยนจิ่วเฉา “เมื่อครู่เจ้าอยู่กับน้องสาวหรือ?”
หลัวช่าน้อยพยักหน้า
อวี๋หวั่นอุ้มหลัวช่าน้อยเดินไป
หลัวช่าน้อยในอ้อมแขนของอวี๋หวั่นแสดงออกเหมือนเด็กทั่วไป นอกจากผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดวงตาที่โตสักหน่อย การพูดไม่คล่องนัก และความชั่วร้ายในสายเลือดของเขาได้ถูกวิชาอายุวัฒนะควบคุมไว้ ดังนั้นยามนี้จิ้งอู๋โจ้วจึงไม่รู้เลยว่าเสี่ยวเจาคือหลัวช่าโลหิต
จิ้งอู๋โจ้วรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนอายุเท่าทั้งสองจะให้กำเนิดเด็กโตอย่างโจวจิ่น แต่สองคนนี้พอเป็นไปได้
ยังหนุ่มยังสาวเช่นนี้ มีบุตรสองคนแล้ว มีได้มีดีเสียจริง!
หลัวช่าน้อยไม่เห็นเยี่ยนจิ่วเฉาในสายตา เอาแต่จ้องมองเพียงน้องสาวในอ้อมแขนเยี่ยนจิ่วเฉา “น้อง…สาว…”
ดวงตาของเขาอ่อนโยนมาก ต่างจากสิ่งชั่วร้ายตัวน้อยที่เขาเห็นในตอนแรก
อวี๋หวั่นรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง
อวี๋หวั่นกำลังจะถามเขาว่าเขารู้ที่อยู่ของไข่น้อยทั้งสามหรือไม่ ก็เห็นหลัวช่าน้อยชี้ขึ้นไปบนฟ้า “บิน…บิน…”
สิ่งที่หลัวช่าน้อยต้องการบอก คือไข่น้อยทั้งสามนั่งนกตัวใหญ่บินหนีไปแล้ว
แต่ก่อนที่อวี๋หวั่นจะเข้าใจความหมาย ไข่น้อยทั้งสามก็นั่งนกตัวใหญ่บินกลับมาแล้ว!
หลังจากโจวจิ่นสูญเสียพลังเวทไปกับนกหลวนศักดิ์สิทธิ์ ต้าเป่าก็ให้นกหลวนศักดิ์สิทธิ์บินกลับทันที เขาไม่รู้ว่าบิดามารดาได้มาที่นี่ ทั้งยังช่วยทุกคนที่เขาต้องการช่วยออกมาด้วย
เขาขี่นกหลวนศักดิ์สิทธิ์ขนาดมหึมาบินไปยังสนามรบที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างไม่เกรงกลัว
“เจา!”
เขาใช้เสียงนกออกคำสั่ง นกหลวนศักดิ์สิทธิ์อ้าปากพ่นเปลวไฟรุนแรงและลุกโชน
เปลวเพลิงตกลงบนร่างของทหารเผ่ามาร และเริ่มเผาไหม้วรยุทธ์และจิตวิญญาณของพวกเขา
เหล่าทหารเผ่ามารกรีดร้องล้มลงกับพื้น
เสี่ยวเป่าและเอ้อร์เป่ายังคงพยายามอย่างไม่ลดละ ยึดหลักความพากเพียรที่ไม่มีวันสูญเปล่า กินผลไม้และเมล็ดต่อไป
นกหลวนศักดิ์สิทธิ์ที่ทำได้เพียงพ่นไฟโดดเด่นจนเยี่ยนจิ่วเฉาไม่อาจไม่สนใจ
กระทั่งเมื่อเห็นไข่น้อยทั้งสามที่สีหน้าเย็นชา ไร้เทียมทาน ร่วมกันทำลายเผ่ามารอยู่บนหลังนก เยี่ยนจิ่วเฉาก็รู้สึกปวดฟันจี๊ด!
……………………
Comments for chapter "บทที่ 25 ราชาต้าเป่า!"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Jiaza
555ขนาดจิ่วเฉายังรู้สึกปวดฟัน