หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 341 พบกันใหม่ที่เมืองเฟิ่ง (4)
ตอนที่ 341 พบกันใหม่ที่เมืองเฟิ่ง (4)
“ถอดเสื้อออกแล้วให้ข้าดู” เหยาเยี่ยนอวี่พูดด้วยเสียงเย็นชา
“ข้าทำแผลไปแล้ว นี่เวลาก็ล่วงเลยไปมาก เจ้าก็คงเหนื่อย…”
“เงียบเลย!” คุณหนูเหยาถลึงตามองคนด้วยความเย็นชาเพียงพริบตาเดียว จากนั้นก็หันไปสั่งคนนอกประตู “ชุ่ยเวย! เอากล่องยาของข้ามา!”
ชุ่ยเวยมาถึงตั้งแต่ตอนที่พวกเขาสองคนกอดกัน เหตุเพราะสังเกตเห็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นจึงเฝ้าอยู่ตรงประตูไม่ยอมไปไหน กลัวว่าจะมีใครเข้ามาเห็น ครั้งนี้พอเห็นคุณหนูเหยาสั่งการ จึงตอบกลับพลางเลิกม่านเข้าไปในห้องนอน
“เจ้าจะถอดเสื้อเอง หรือจะให้ข้าใช้กรรไกรตัดทิ้ง” เหยาเยี่ยนอวี่เอ่ยถามผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
“อ้อ…ถอดสิ” นี่เป็นเสื้อผ้าตัวใหม่ที่ฉังเหมาเพิ่งเอามาให้ตน เขาเพิ่งอาบน้ำแต่งกายเสร็จ ถ้าให้ตัดทิ้งคงจะน่าเสียดายเกินไป
คุณหนูเหยาพึงพอใจมาก นางตั้งใจทำหน้าบึ้งตึง คางเชิดไปยังทิศทางที่ตั้งของตั่งไม้ แล้วสั่งการผู้ได้รับบาดเจ็บ “ไปนั่งฝั่งโน้น”
เว่ยจางเม้มปาก แล้วหันไปนั่งลงบนตั่งไม้ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบๆ ภายในใจกำลังคิดว่าแค่พูดถึงการได้รับบาดเจ็บ สีหน้าของฮูหยินเขาก็ยังคงรักษาความนิ่งสงบไว้ไม่เปลี่ยน สมเป็นกับเป็นหมอเซียนจริงๆ เฮ้อ นางช่างไม่น่าเกลียดน่าชังเอาเสียเลย อย่างไรหน้าตาที่ดูอ่อนแอเมื่อครู่นี้ดูน่าเอ็นดูมากกว่า
ชุ่ยเวยยกกล่องยามา จากนั้นก็เดินเข้าไปช่วยแม่ทัพเว่ยถอดเสื้อ เว่ยจางยกมือขัดขวาง จากนั้นก็ยื่นมือไปปลดที่รัดเอวออกด้วยตนเอง
ไม่ให้คนปรนนิบัติ? ชุ่ยเวยหันไปมองเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยความแปลกใจเพียงชั่วพริบตา
เหยาเยี่ยนอวี่มองเขาที่ถอดเสื้อด้วยมือข้างเดียวอย่างคล่องแคล่ว จึงไม่ได้พูดอะไรออกมา ชุ่ยเวยเห็นนายหญิงของตนไม่พูดไม่จา จึงถอยไปอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ แล้วเปิดกล่องยาออก จากนั้นก็เอาเหล้าต้มเดือด ยา มีดเล็ก และอื่นๆ ออกมาวางไว้
เว่ยจางถอดเสื้อคลุมของตนเองลง แล้วใช้มือข้างเดียวถอดเชือกผูกเสื้อ จากนั้นถอดแขนเสื้อด้านซ้ายออก ทำให้เห็นผิวสีน้ำผึ้งที่มีผ้าสีขาวพัน บนผ้าเห็นเลือดเล็กน้อยตรงหัวไหล่ เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วใช้กรรไกรตัดผ้าพันแผลออกเป็นชั้นๆ
นี่เป็นแผลที่ถูกธนูบาด ธนูยิงและเฉียดผ่านแขนของเขา ทำให้ผิวหนังได้รับบาดเจ็บ ทว่าแผลก็ถือว่าลึกพอสมควร มันลึกหนึ่งฉื่อกว่า หากยังลึกกว่านี้อีกนิดก็คงกลายเป็นบาดแผลที่ทะลุทะลวงไปด้วย คำพูดเช่นนั้น ต่อให้กระดูกไม่ได้รับบาดเจ็บ ทว่าเส้นเลือดใหญ่และเส้นเอ็นอาจได้รับบาดเจ็บได้ ดังนั้น บาดแผลลึกประมาณนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีแล้ว
แม้จะผ่านการทำแผล ทว่ากลับเป็นการทำแผลแบบลวกๆ ก็แค่ทาแผลแล้วห่อด้วยผ้าเท่านั้น
อีกอย่างแผลเช่นนี้ไม่ได้น่ากลัวมากเกินไป ทว่าสิ่งที่น่ากลัวคือแผลที่โดนน้ำเย็นจึงทำให้เน่าเปื่อย น่าจะเป็นเพราะแช่อยู่ในน้ำนานเกินไป และทำแผลช้าไปหน่อย หากไม่รีบรักษา ก็อาจทำให้เซลล์ผิวหนังติดเชื้อได้ ผลที่ตามมาคงคาดคิดไม่ถึงแน่นอน
สีหน้าของเหยาเยี่ยนอวี่บูดบึ้งขึ้นมาทันที คนผู้นี้ช่างบังอาจยิ่งนัก ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ กลับยังคิดจะปิดบังตัวเองอีก!
เว่ยจางลอบมองสีหน้าของนาง ภายในใจรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที แม่นางผู้นี้โกรธจริงๆ หรือ ดังนั้นเขายื่นมือไปคว้ามือนาง แล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “ไม่เป็นเช่นไร เส้นเอ็นกับกระดูกไม่ได้รับบาดเจ็บเสียหน่อย อีกอย่างข้าทายาไปแล้ว…”
“เงียบเลย!” เหยาเยี่ยนอวี่ถลึงตามองเขา แล้วยกมือฝังเข็มเงินเพื่อทำให้เขารู้สึกเหน็บชาตรงแขน ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะสั่งสอนเขาในฐานะที่ตนเองเป็นแพทย์ “อากาศหนาวเช่นนี้ เจ้ากลับปล่อยให้แผลโดนน้ำหรือ! เจ้ารู้ไหมแผลอาจเปื่อยและติดเชื้อจนต้องตัดชิ้นเนื้อนี้ออก นี่มันรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้นะ!”
“อ้อ…” เว่ยจางโตป่านนี้ นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาถูกสตรีสั่งสอนเช่นนี้ ภายในใจจึงเกิดความรู้สึกแปลกๆ ถือว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่เลวอยู่เหมือนกัน
เหยาเยี่ยนอวี่เอาผ้าเช็ดมีดผ่าตัด แล้วใช้ปลายมีดเตรียมกรีดลงแผลของเว่ยจางหนึ่งที กลับสังเกตเห็นว่ามือของตนเองสั่น นางเม้มปากเบาๆ แล้วหลับตาลง จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ นางพยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอง ทว่ากลับสังเกตเห็นว่านี่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด
การเผชิญกับบาดแผลของเขา นางสงบสติอารมณ์ไม่ได้ แม้กระทั่งตอนที่ยิ่งอยากจะสงบสติอารมณ์ก็ยิ่งทำให้นางกระวนกระวายใจ และรู้สึกเจ็บปวดในใจ มีดที่ถือไว้กรีดไม่ลงจริงๆ ดังนั้นนางเลยโยนมีดในมือทิ้ง แล้วสั่งชุ่ยเวยด้วยเสียงเย็นชา “เจ้ามากรีด”
“ข้า?” ชุ่ยเวยชี้หน้าตนเองพลางมองเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยความแปลกใจ
ชาติก่อนเหยาเยี่ยนอวี่ไม่ทำการผ่าตัดให้ญาติของตน ก่อนหน้านี้นางยังเคยคิดว่า ทำอย่างไรถึงจะหลบเลี่ยงเคสของผู้ป่วยที่เป็นญาติของตนเอง มิเช่นว่าหากตนเองไม่เป็นคนลงมือก็จะรู้สึกวางใจหรือ ตอนนี้นางเพิ่งจะรู้ ไม่ว่าจะมีฝีมือด้านการแพทย์มากเพียงใด ก็มิอาจลงมือผ่าตัดให้กับญาติได้ รู้สึกว่าเรื่องเช่นนี้ มันไม้ได้เกี่ยวกับทักษะฝีมือว่าดีหรือไม่ดีเลย
“ให้เจ้าลงมือก็ทำไปสิ แผลเน่าเปื่อยพวกนั้นต้องตัดออกให้หมด จากนั้นค่อยใช้ยาห้ามเลือด” เหยาเยี่ยนอวี่ถลึงตามองชุ่ยเวยเพียงปราดเดียว
ชุ่ยเวยมิกล้าแสดงความเห็นอื่น จึงรีบเอาเหล้าต้มล้างมือตนเอง แล้วใช้มีดผ่าตัดเล็งตรงจุดที่มีเนื้อเป่าเปื่อย จากนั้นก็ค่อยๆ ตัดออกมา
เหยาเยี่ยนอวี่แทบทนดูไม่ได้ แค่แอบหันไปมองหน้าเว่ยจาง บังเอิญเขาก็กำลังมองมาที่นางเช่นกัน หางตาของเขาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ดังนั้นนางจึงถลึงตามองเขาเพียงพริบตาเดียว แล้วยกมือจับเข็มเงินขึ้นมาหนึ่งเข็มพลางหมุนเบาๆ นางใช้พลังลมปราณในร่างกายของตนถ่ายโอนไปยังร่างกายของเขาผ่านเข็มเงิน ทำให้รับประกันได้ว่าร่างกายของเขาจะรู้สึกชาและไร้ความรู้สึกจริงๆ
เว่ยจางยื่นมือออกไปจับมือซ้ายของนางอย่างเบามือ
เหยาเยี่ยนอวี่หันไปมอง ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ็บ?
เว่ยจางส่ายหัวเบาๆ แล้วดึงมือของนางไปตรงมุมปาก จากนั้นก็ขบนิ้วมือของนางเบาๆ หนึ่งที
ดวงหน้าของคุณหนูเหยาแดงระเรื่อขึ้นมาทันที นางกำลังระบายความโกรธ ทว่าชุ่ยเวยยังอยู่ข้างๆ อีกอย่างเขากำลังทำแผลอยู่ นางไม่ระบายความโกรธ คนชั่วนี่กลับกล้าอมมือของตนเองไว้ไม่ยอมปล่อย!
ชั่วช้าจริงๆ!
ถึงแม้การทำแผลเช่นนี้ไม่ได้ยากอะไรสำหรับชุ่ยเวย ทว่าอีกฝ่ายคือท่านแม่ทัพ! อีกอย่างคุณหนูยืนมองอยู่ข้างๆ…ชุ่ยเวยจึงรู้สึกว่าตนเองกดดันมาก!
แม่ทัพเว่ยสัมผัสได้ว่าสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ เคร่งเครียด เพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น เว่ยจางจึงปล่อยนิ้วมือของคุณหนูเหยาแล้วถอนหายใจเสียงเบา เอ่ยว่า “ทหารยอดฝีมือที่ข้าคัดเลือกมาสี่สิบกว่าคน ตอนนี้หายไปสี่คน”
“รบจนสิ้นชีพ?” เหยาเยี่ยนอวี่รู้สึกกังวลใจขึ้นมา ทหารยอดฝีมือสี่สิบนายเคยฝ่าฟันอุทกภัยมาด้วยกัน ถือเป็นมิตรภาพที่เคยผ่านร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน ไม่รู้ว่าสี่คนนั้นที่สิ้นชีพไปคือใครบ้าง
“อืม” เว่ยจางถอนหายใจ แล้วพูดขึ้น “ครั้งนี้ข้าพาพวกเขาข้ามแม่น้ำเพื่อจับคนเกาหลีทำการค้าอย่างหนึ่ง ถึงแม้จะจัดการเรื่องนั้นได้ราบรื่น ทว่ากลับเสียทหารยอดฝีมือไปสี่นาย” สี่คนนี้เป็นทหารที่ไปคัดเลือกมาจากที่แดนไกล! และก็เสียเวลาและเสียแรงฝึกฝนฝีมือของพวกเขาจนถึงขั้นนี้
ภายในใจของเหยาเยี่ยนอวี่ ชีวิตของคนมีคุณค่าที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรแลกมาก็ไม่คุ้มค่า ดังนั้นจึงเอ่ยถามด้วยคิ้วขมวด “การค้าขายอะไร ต้องเสียสละมากเพียงนี้เลยหรือ”
เว่ยจางยิ้มจางๆ แล้วก้มหน้ามองสตรีที่อยู่ใกล้ๆ พร้อมพูดด้วยเสียงเบา “หน้าไม้เหล็กหนึ่งพันกระบอก ชาวเกาหลีไปซื้อมาจากชาวตงไอ่”
เหยาเยี่ยนอวี่มองแววตาลึกลับของเขา จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “มันเกี่ยวข้องกับข่าวคราวที่เจ้าหายตัวไปกระนั้นหรือ”
“แน่นอนว่าเป็นซ้อนกลสิ พวกเขาตั้งใจส่งข่าวให้ข้า เพื่อที่จะให้ข้าไปติดกับดับ ข้าจะทรยศในความหวังดีของพวกเขาได้อย่างไรกันล่ะ” เว่ยจางยิ้มจางๆ สายตาดูไม่แยแส