หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 363 เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (4)
ตอนที่ 363 เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (4)
“ฮื้อ!” องค์ชายใหญ่ถลึงตามองเยี่ยลี่ร์ต้าสือด้วยสายตาเลือดเย็นเพียงชั่วพริบตา แล้วพูดขึ้น “หากใครคิดจะฝังเข็มให้เสด็จพ่อ ข้าจะฆ่าคนนั้นเดี๋ยวนี้!”
เยี่ยร์ลี่ต้าสือหันไปมองเหยาเยี่ยนอวี่แล้วพูดขึ้น “หมอหลวงเหยาไม่ใช่บอกว่ายังมีอีกหนึ่งวิธีหรือ”
เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้น ไม่ต้องใช้เข็ม กินยาก็ได้เช่นกัน ที่ข้ามียาเม็ด ให้ท่านอ๋องลองดูก็ได้ แน่นอน หากท่านไม่ไว้วางใจ ท่านอ๋องจะไม่กินก็ได้” กล่าวจบ นางก็หันหลังเดินไปตรงกล่องยา แล้วเอาขวดยากระเบื้องขึ้นมาหนึ่งขวด พร้อมยื่นให้เยี่ยร์ลี่ร์ต้าสือ “ในนี้มียาทั้งหมดสิบสองเม็ด กินทุกเช้าและกลางคืนติดต่อกันหกวัน หากเห็นผล ท่านอ๋องสามารถส่งคนมาขอเพิ่มที่ค่ายทหารต้าอวิ๋น”
เยี่ยลี่ร์ต้าสือจึงรับขวดยากระเบื้องไปด้วยสีหน้าที่กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆ
เยี่ยลี่ร์เชี่ยประสานมือกล่าวขอบคุณเหยาเยี่ยนอวี่ “ขอบคุณหมอหลวงเหยาจริงๆ”
“หากไม่มีอะไร เช่นนั้นพวกเราขอตัวก่อน” เหยาเยี่ยนอวี่แย้มยิ้มเพื่อสื่อให้ชุ่ยเวยเก็บข้าวของ
เว่ยจางยื่นมือไปดึงเหยาเยี่ยนอวี่ไว้ในอ้อมกอด และหันหลังเดินออกไปด้านนอก หันซังเกอ ถังเซียวอี้ และทหารคนอื่นๆ ก็ติดตามไป เยี่ยลี่ร์เชี่ยก็ส่งพวกเขามาด้านนอก เยี่ยลี่ร์ก่วงใช้สายตาเย็นชาจับจ้องทุกคน แววตาของเขาร้ายกาจอย่างยิ่ง ราวกับว่าจะเอาดาบไปทำร้ายคนอื่น
ตอนเว่ยจางเดินออกจากประตูกระโจมจึงหันไปมองอย่างฉับพลัน แล้วจับจ้องเยี่ยลี่ร์ก่วงด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมและเลือดเย็นประดุจคมดาบ
ออกจากค่ายทหาร ทหารกองทัพนกอินทรีจึงรีบเดินหน้ามาคุ้มกันพวกเขา
หันซังเย่ว์มองเยี่ยลี่ร์ก่วงด้วยสายตาเย็นชา แล้วบอกเตือนขึ้น “หากหูอ๋องกินยาของพวกเราแล้วดีขึ้น หวังว่าพวกเจ้าจะทำตามคำสัญญา”
เยี่ยลี่ร์เชี่ยประสานมือแล้วพูดยิ้มๆ “ท่านแม่ทัพหันวางใจเถอะ แค่เสด็จพ่อของพวกเราหายดี แน่นอนว่าต้องทำตามคำมั่นสัญญาอยู่แล้ว”
“ดี เช่นนั้นข้าขอตัว” หันซังเกอคารวะเยี่ยลี่ร์เชี่ย แล้วเขาและเว่ยจางก็ประกบซ้ายขวาของเหยาเยี่ยนอวี่พลางเดินออกไปด้านนอก
เยี่ยลี่ร์เชี่ยส่งพวกเขาออกจากค่ายทหารหูจนถึงริมแม่น้ำถูหมู่ ถึงจะคารวะพลางพูดยิ้มๆ “วันนี้ลำบากหมอหลวงเหยาแล้ว”
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ แล้วหันหลังกำลังจะขึ้นหลังม้า จู่ๆ ก็มีเสียงสิ่งของแหลมคมฝ่าอากาศทันที สัญชาตญาณของนางบอกให้หลบเลี่ยง และเว่ยจางที่กำลังพยุงนางอยู่ด้านข้างก็ได้ชักดาบออกมาบังไว้ตั้งนานแล้ว
‘ติ๊ง’ เสียงเดียว ลูกดอกหน้าไม้หนึ่งดอกก็ตกลงบนพื้น
“คุ้มกันคุณหนู!” หันซังเย่ว์ตะโกนเสียงสูง เหล่าทหารนกอินทรีรีบล้อมรอบคุณหนูและสตรีทั้งสี่ไว้
เว่ยจางเห็นทิศทางของลูกดอกหน้าไม้อย่างชัดเจน จึงปาลูกดอกออกไปสามดอก
เสียงอุทานดังขึ้นตรงกองหิมะทางฝั่งโน้น เลือดแดงสดซึมเข้าไปในหิมะ แล้วค่อยๆ กระจายออกเป็นวงกว้าง ขณะเดียวกัน กองหิมะโดยรอบต่างระเบิดออกมาอย่างรุนแรง คนชุดขาวหลายสิบคนโผล่ออกมาจากกองหิมะอย่างฉับพลัน ในมือของทุกคนจับหน้าไม้ไว้หนึ่งอัน และกำลังยิงลูกดอกมาทางนี้ไม่หยุด
เยี่ยลี่ร์เชี่ยตวาดด้วยความโมโห เขาสบถหยาบอะไรก็ฟังไม่รู้ความ แล้วก็โบกมือสั่งการคนของตัวเอง “เร็วเข้า! จับพวกมันไว้! อย่าให้หนีรอดไปแม้แต่คนเดียว!”
ทันใดนั้น สถานการณที่แม่น้ำถูหมู่ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
ทหารนกอินทรีเอาอาวุธในมือไปขวางลูกดอกเหล่านั้นไว้ คนของเยี่ยลี่ร์เชี่ยล้อมรอบคนชุดขาวที่มาลอบสังหารพวกนั้นไว้รอบทิศ แค่ว่าคนเหล่านั้นว่องไวเกินไป ระหว่างที่พวกเขากำลังหลบอาวุธอย่างมีไหวพริบ ยังคงมีเวลายิงลูกดอกหน้าไม้มาฝั่งนี้ไม่หยุด
หันซังเย่ว์ร่ายดาบยาวในมือแล้วกระโดดพุ่งทะยานไปสังหารคนที่ยิงลูกดอกมาฝั่งนี้ที่กำลังหลบอยู่ด้านหลังสหายของเขา
เหยาเยี่ยนอวี่สังเกตเห็นว่าคนเหล่านี้เป็นพวกเดียวกับคนที่มาลอบสังหารพวกเขากลางป่าเหมันต์เมื่อครั้งก่อน นางหลบอยู่ด้านหลังน้าตู้ซาน แล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “คนพวกนั้นเองหรือ”
“อืม” เว่ยจางขมวดคิ้วมองน้าตู้ซานเพียงชั่วพริบตา แล้วสั่งการ “ปกป้องคุณหนูของเจ้าไว้ให้ดี!”
“เจ้าค่ะ” น้าตู้ซานจึงขวางหน้าเหยาเยี่ยนอวี่ไว้
เว่ยจางมองเหยาเยี่ยนอวี่เพียงปราดเดียวอีกครั้ง แล้วถือดาบกระโดดขึ้น พร้อมใช้วิชาตัวเบาไปสังหารกลุ่มคนชุดขาวอีกกลุ่ม
เพราะว่าเยี่ยลี่ร์เชี่ยแค่มาส่งพวกเขา จึงพาทหารมาไม่มาก ตอนนี้ทหารของเขาก็เสียชีวิตไปครึ่งหนึ่งแล้ว คนชุดขาวพวกนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องฆ่าให้หมด คนของเขาจึงไม่กล้าบุ่มบ่ามอีก แค่คุ้มกันอยู่รอบตัวเยี่ยลี่ร์เชี่ยเท่านั้น
พอเป็นเช่นนี้ ทางฝั่งเหยาเยี่ยนอวี่ก็ยิ่งอันตรายกว่าเดิม น้าตู้ซานไม่กล้าอยู่แต่ที่เดิม จึงดึงเหยาเยี่ยนอวี่มาไว้ในอ้อมกอด แล้วมุ่งหน้าไปริมแม่น้ำถูหมู่ภายใต้การคุ้มกันของทหารนกอินทรี “คุณหนู พวกเราไปฝั่งโน้นเถอะ”
เหยาเยี่ยนอวี่ก็รู้ว่าหากข้ามแม่น้ำไปให้เร็วที่สุด ถึงจะยิ่งทำให้ตัวเองปลอดภัย ดังนั้น จึงไม่กล้ามากความ แค่ติดตามน้าตู้ซานวิ่งไปริมแม่น้ำ
แค่ว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีลูกดอกหนึ่งฝ่าผ่านอาวุธของเหล่าทหาร จึงพุ่งทะยานใส่น่องของน้าตู้ซาน น้าตู้ซานร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เรือนร่างซวนเซไปด้านข้าง
“น้าตู้ซาน!” เหยาเยี่ยนอวี่พลันดึงนางไว้
“คุณหนูระวัง!” ชุ่ยเวยเดินหน้ามาบังเหยาเยี่ยนอวี่ไว้ แล้วพยุงน้าตู้ซานขึ้นมาพร้อมกัน
“เร็ว! คุ้มกันคุณหนู!” น้าตู้ซานเจ็บจนสีหน้าแปรเปลี่ยน กลับผลักชุ่ยเวยอย่างเต็มแรง “อย่ามาสนใจข้า! รีบไป!”
ขณะที่สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ทางฝั่งนี้ก็ยากที่จะตัดสินใจ เว่ยจางและหันซังเย่ว์ต่างก็ถูกคนชุดขาวสามสี่คนคอยขวางทางไว้ ทันใดนั้นจึงมาสนใจฝั่งนี้ไม่ได้ แค่ต่างก็กระวนกระวายใจเท่านั้น
เหยาเยี่ยนอวี่ดื้อดึงที่จะพาน้าตู้ซานไปด้วย กลับนึกไม่ถึงว่ามีลูกดอกอีกดอกฝ่าอากาศมายิงเข้าไปด้านหลังและทะลุมาที่ตำแหน่งหัวใจของน้าตู้ซาน
“คณหนู…” จู่ๆ เหยาเยี่ยนอวี่รู้สึกหนักแขน ทั้งเรือนร่างของน้าตู้ซานทรุดลงบนพื้น
“น้าตู้ซาน!” เหยาเยี่ยนอวี่สะดุ้งตกใจอย่างมาก จึงนั่งลงไปอุ้มน้าตู้ซานขึ้น แล้วเอ่ยถามอย่างต่อเนื่อง “เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง! น้าตู้…”
“คุณหนู…รีบไป!” น้าตู้ซานใกล้จะสิ้นลมหายใจ เลือดแดงกระอักออกมาจากปากไม่หยุด กลับผลักน้าเหยาเยี่ยนอวี่อย่างไร้เรี่ยวแรง “คุณหนูรีบไป อย่า…อย่ามาสน…”
“น้าตู้ซาน!” น้ำตาของเหยาเยี่ยนอวี่ไหลพรากลงมาทันที ต่อให้เป็นเช่นไรก็ไม่ยอมปล่อยมือ
“เยี่ยนอวี่รีบไป!” เว่ยจางเร่งร่ายดาบในมือให้เร็วมากขึ้น หลังจากสังหารคนชุดขาวไปหนึ่งคน ก็รีบกระโดดพุ่งทะยานมาที่นี่อย่างว่องไว
ขณะที่เว่ยจางรีบพุ่งทะยานมาทางนี้ จู่ๆ ด้านหลังของเขาก็มีคนยิงลูกดอกมา เหยาเยี่ยนอวี่มองอย่างอกสั่นขวัญเสียจนวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง พร้อมทั้งตะโกนใส่เขาทันที “ระวัง! ระวัง!”
ทหารนกอินทรีที่อยู่ข้างๆ จึงรีบยิงลูกดอกของตนไปกระแทกใส่ลูกดอกที่กำลังพุ่งมา และยิงใส่คนชุดขาวทันที
“แม่ทัพ! รีบพาพี่สะใภ้ข้ามแม่น้ำเถอะ!” ถังเซียวอี้เห็นเว่ยจางมุ่งมาฝั่งนี้ จึงยืนขึ้นแล้วใช้วิชาตัวเบาบินขึ้นกลางอากาศประดุจนกเหยี่ยว ในมือร่ายดาบยาวไว้ แล้วกำลังสังหารคนชุดขาวที่ยิงลูกดอกมาให้ตาย
“ไป!” เว่ยจางดึงเหยาเยี่ยนอวี่ขึ้น
“น้าตู้ซาน!” เหยาเยี่ยนอวี่หันไปมองน้าตู้ซานที่ล้มลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ทันใดนั้นก็นางเหมือนคนไร้วิญญาณ นางผลักเว่ยจางออกพลางวิ่งไปหาน้าตู้ซานอีกครั้ง
เว่ยจางจึงหันไปคุ้มกันนางไว้อย่างจนปัญญา พอเห็นคนชุดขาวหลายสิบคนเหลือเพียงสี่คน จึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แล้วสั่งการทหาร “พวกเจ้าไปจู่โจมกับคนที่เหลือพร้อมกัน! ต้องจับตัวพวกมันกลับตัวเป็นๆ ให้ได้!”
ทหารนกอินทรีที่อยู่โดยรอบต่างขานรับอย่างพร้อมเพียง ต่างก็ถืออาวุธเดินหน้าไปล้อมรอบคนชุดขาวสี่คนที่เหลือไว้