หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 365 ได้รับชัยชนะกลับเมืองหลวง ให้บำเหน็จตามความชอบ (1)
ตอนที่ 365 ได้รับชัยชนะกลับเมืองหลวง ให้บำเหน็จตามความชอบ (1)
เว่ยจางจับจ้องหันซังเย่ว์ไว้ แล้วมองเลือดแดงสดค่อยๆ ไหลเข้าไปในร่างกายของสตรีที่ตนหมายปอง นัยน์ตาดูซับซ้อนยิ่งนัก
หันซังเย่ว์ยิ้ม พูดขึ้นอย่างจนปัญญา “เสี่ยนจวิน อย่าใช้สายตาเช่นนั้นมองข้าสิ!”
เว่ยจางเม้มปากแล้วหันหน้าไป สีหน้าทั้งลำบากและไม่ได้รับความเป็นธรรม
หันซังเย่ว์ขมวดคิ้วด้วยความประหม่าแล้วหันหลังไป ไม่กล้ามองภาพเหตุการณ์ที่แดงฉานเช่นนี้
ชุ่ยเวยใช้มีดตัดเสื้อของเหยาเยี่ยนอวี่ ทำให้เห็นถึงแผลด้านใน จากนั้นก็เอาเข็มเงินแทงเพื่อให้เหยาเยี่ยนอวี่รู้สึกชา
เหยาเยี่ยนอวี่ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับลูกดอกที่แทงตัวเองไว้ จนมือของนางแปดเปื้อนด้วยเลือดแดงสด
“คุณหนู ปล่อยมือเถอะ” ชุ่ยเวยค่อยๆ เอามือของเหยาเยี่ยนอวี่ออก จากนั้นก็เอามือจับลูกดอกไว้ แล้วใช้มืออีกข้างจับมีดผ่าตัดพลางกรีดลงบนตรงแผลเบาๆ เพื่อที่จะผ่าลูกดอกออกมา ชุ่ยผิงจึงรีบเอาคีมพร้อมสำลีห้ามเลือดไว้ชั่วคราว
“เปิด…เปิดแผลออกเล็กน้อย แล้วให้ข้าดูหน่อย…”
มือของชุ่ยเวยสั่นเทาเล็กน้อย ถึงแม้นางพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองไว้ ทว่าพอแผลอยู่บนเรือนร่างของเหยาเยี่ยนอวี่ นางจะควบคุมอย่างไรก็ควบคุมไม่อยู่ เหยาเยี่ยนอวี่จึงมองมือทั้งสองข้างที่กำลังสั่นเทาเล็กน้อยของนางผ่านกระจก แล้วถอนหายใจอย่างประหม่า พร้อมพูดขึ้น “ชุ่ยเวย ข้ายืนอยู่ข้างเจ้า คนที่ได้รับบาดเจ็บคือคนอื่น”
“เจ้าค่ะ” ชุ่ยเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วทำใจให้สงบอีกครั้ง
“เปิดแผลให้ข้าดูที”
“เจ้าค่ะ” ชุ่ยเวยจึงใช้สองมือที่เปื้อนเลือดเปิดแผลออกอย่างเบามือ ชุ่ยผิงรีบเอาสำลีไปทำความสะอาดเลือดที่อยู่ด้านใน
โดนมดลูก เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วค่อยๆ หลับตาลง พร้อมพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “โดนแค่ผนังมดลูก โชคดีที่ลูกดอกไม่มีพิษ ทำตามที่ข้าเคยบอกพวกเจ้า เย็บผนังมดลูกก่อน แล้วค่อยเย็บแผลด้านนอก ใช้ไหมธรรมชาติ…”
“เจ้าค่ะ” น้ำตาของชุ่ยเวยไหลรินลงมาหนึ่งหยด
ชุ่ยผิงถอนหายใจ แล้วรีบเอาสำลีหนึ่งแผ่นทายาให้นาง
เว่ยจางหันหน้าไปทางอื่นทันที มือที่ยกกระจกสั่นงันงกไม่หยุด ทั้งตัวแทบจะยืนไม่ไหว
“ไม่ต้องส่องกระจกแล้ว เจ้า…ออกไปก่อนเถอะ”
“ไม่” เว่ยจางวางกระจกลง แล้วเดินไปตรงหน้าเตียงไปครึ่งก้าว แล้วจับมือที่เปื้อนเลือดของเหยาเยี่ยนอวี่ไว้
ชุ่ยเวยและชุ่ยผิงตึงเครียดมาก ทว่ารู้ดีว่าหากตัวเองทำพลาดก็อาจจะทำให้นายหญิงของตัวเองถึงกับสิ้นใจได้ ดังนั้นจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ
และโชคดีที่ปกติเหยาเยี่ยนอวี่สอนพวกนางมาเป็นอย่างดี สาวใช้สองคนนี้ก็เคยผ่านการผ่าตัดในค่ายทหารพักฟื้นอยู่หลายครั้ง จึงถือว่าพอมีประสบการณ์มากพอ
พวกนางใช้เวลาเย็บแผลอยู่นานจริงๆ หันซังเกอ ถังเซียวอี้ และคนอื่นๆ คอยอยู่นอกฉากกั้น กลับไม่มีใครสะดวกเข้ามาด้านใน
เหยาเยี่ยนอวี่รู้สึกเริ่มทนไม่ไหว จึงสะลึมสะลือ ดังนั้นเลยสั่งการก่อนที่สลบไป “ไม่ต้องถ่ายเลือดให้ข้าแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว” จากนั้นนางก็ค่อยๆ หลับตาลง
ท้ายที่สุดชุ่ยเวยก็เย็บเข็มสุดท้ายจนเสร็จ จึงตัดไหมให้สั้นลง จากนั้นก็เอายามาทาแผล ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนล้มลงไปที่พื้น
ชุ่ยผิงรีบเดินมาเอากระบอกถ่ายเลือดออกทันที หันซังเย่ว์ยกมือหยุดการกระทำของนาง “ถ่ายให้นางอีกหน่อยเถอะ ข้ายังทนไหว”
“คุณหนูสั่งบ่าวแล้วเจ้าค่ะ คนเราเสียเลือดมากเกินไปไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้แผลก็เย็บเสร็จแล้ว คุณหนูไม่เสียเลือดแล้ว ดังนั้นท่านแม่ทัพได้โปรดวางใจเจ้าค่ะ” ชุ่ยผิงกล่าวขึ้น ขณะเดียวกันก็ดึงเข็มออกจากแขนของหันซังเกอ แล้วใช้สำลีกดแผลของเขาไว้
หันซังเย่ว์กดแขนของตนเองแล้วค่อยๆ ลุกขึ้น จากนั้นก็หันไปมองเหยาเยี่ยนอวี่ที่สลบหมดสติ จึงเปรยด้วยเสียงเบา “เวลาเช่นนี้คงไม่สะดวกที่จะย้ายนางกลับไป รายงานพี่ใหญ่สักคำเถอะ ให้คุณหนูเหยาพักฟื้นตัวที่นี่ต่อ”
“ขอบคุณท่านแม่ทัพอย่างยิ่ง ตอนนี้แขนของแม่ทัพยังมีแผล ให้บ่าวทำแผลให้ท่านเถอะ” ชุ่ยผิงรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของหันซังเย่ว์
“ไม่จำเป็น พวกเจ้าปรนนิบัติคุณหนูเหยาดีๆ เถอะ” หันซังเย่ว์มองเหยาเยี่ยนอวี่อีกครั้ง แล้วขมวดคิ้วเดินออกมา
ชุ่ยเวยล้างมือและจับชีพจรให้เหยาเยี่ยนอวี่ พอแน่ใจว่านางพ้นจากขีดอันตรายแล้ว จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
เว่ยจางยังคงคุกเข่าและกุมมือเหยาเยี่ยนอวี่ไม่ไปไหน ชุ่ยผิงลองดึงมือที่เปื้อนเลือดของเหยาเยี่ยนอวี่ออกจากมือของเขา เพื่อทำความสะอาดคราบเลือดที่ติด ทว่าเขากลับจับไว้ไม่ยอมปล่อย
ชุ่ยผิงมองชุ่ยเวยเพียงชั่วพริบตาดอย่างจนปัญญา ชุ่ยเวยส่ายหน้า ทั้งสองเก็บของแล้วออกไปด้านนอก
เว่ยจางเฝ้าอยู่ข้างกายเหยาเยี่ยนอวี่จนถึงกลางดึก จากนั้นก็มองนางอย่างใจจดใจจ่อ แล้วปล่อยมือนางพลางลุกขึ้นเดินออกมาด้านนอก
ด้านนอก หันซังเกอ เซียวหลิน อวิ๋นคุนและคนอื่นๆ ก็ได้ปรึกษาหารือกับหันซังเย่ว์และถังเซียวอี้จนถึงกลางดึก ทุกคนต่างก็คิดว่าผู้ร้ายพวกนั้นต้องเป็นชาวเกาหลี ชาวเกาหลีน่าจะได้ข่าวว่าเยี่ยลี่ร์จี๋ตั้งใจถอยทัพ ดังนั้นจึงเลือกลอบสังหารในเขตแดนของชาวหู เพื่อที่จะสร้างปัญหาให้ต้าอวิ๋นและเป่ยหูให้เข้าใจผิดกัน และเพื่อทำลายการเจรจาสงบศึก
เว่ยจางเดินออกมาจากด้านหลัง กลุ่มคนที่กำลังปรึกษาหารือกันจึงตะลึงงันทันที
“นางกำลังหลับ” น้ำเสียงของเว่ยจางแหบเป็นพิเศษ ทำให้คนได้ยินแล้วรู้สึกไม่สบายใจ
หันซังเกอถอนหายใจ แล้วเกลี้ยกล่อมขึ้น “เจ้าก็ไปพักเถอะ สภาพเช่นนี้ของเจ้าคงจะไม่ไหวแล้ว”
“ท่านแม่ทัพ” เว่ยจางประสานมือคารวะ แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าหันซังเกอ
“เสี่ยนจวิน?!” หันซังเกอกุมมือของเขาไว้ แล้วขมวดคิ้ว “มีอะไรก็ว่ามาเถอะ”
สีหน้าเว่ยจางไร้อารมณ์ พูดด้วยเสียงต่ำและแหบพร่า “ข้าน้อยขอรบ”
“ขอรบ?” หันซังเกอพยักหน้าอย่างคาดคิดไม่ถึง
“ข้าน้อยจะพาทหารยอดฝีมือไปกำจัดชาวเกาหลี”
หันซังเกอนิ่งงันไปสักพัก แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงต่ำ “เสี่ยนจวิน เรื่องนี้เจ้าคิดดีแล้วหรือ”
“ขอรับ”
“ได้!” หันซังเกอสะบัดชุดออกรบแล้วหันหลังเดินไปตรงหน้าแผนที่ พร้อมทั้งยกมือชี้ไปยังแม่น้ำถูหมู่ แล้วพูดขึ้น “เช่นนั้นข้าจะให้ทหารยอดฝีมือสองหมื่นนายกับเจ้า เจ้าพาพวกเขาไปที่นี่ แล้วทำลายช่องทางติดต่อระหว่างชาวเกาหลีและชาวหู หันซังเย่ว์ เจ้าพาทหารม้าห้าพันนายจู่โจมค่ายทหารหูโดยตรง อวิ๋นคุนพาคนไปจู่โจมซึ่งหน้า บัญชีนี้ในวันนี้ ต้องเอากลับมาทั้งต้นและดอกเบี้ย!”
“ขอรับ!” พวกเขาขานรับคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง
โคมไฟในค่ายหทารต้าอวิ๋นยังคงส่องสว่าง แม่ทัพแต่ละท่านไปนับทหารของตนเองตอนกลางดึก
เว่ยจางพาทหารสองหมื่นนายข้ามแม่น้ำถูหมู่แล้วบุกไปที่เขตแดนของชาวเกาหลีโดยตรง ตลอดทางทุกคนต่างเต็มไปด้วยพลังแห่งความอาฆาต จึงสังหารชาวเกาหลีไปสามวันสามคืน โดยไม่คิดจะหยุดพัก หิมะถูกย้อมด้วยสีเลือด ผืนป่าอันกว้างใหญ่นี้เต็มไปด้วยกลิ่นคาวของเลือด
บุรุษชาวเกาหลีถูกสังหารไปเก้าส่วน เหลือเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนเหล่าสตรีและเด็กต่างถูกจับ
หลังจากผ่านศึกสงครามครั้งนี้ ชนเผ่า ‘เกาหลี’ นี้ จะไม่หลงเหลืออยู่ในแผ่นดินนี้อีกต่อไป
ส่วนทางฝั่งหันซังเย่ว์และอวิ๋นคุนก็ร่วมมือกัน และบุกรุกไปรวดเร็วจนเกินต้านทาน บุกสังหารจนเยี่ยลี่ร์จี๋ถึงกับต้องถอยหลังไปหนึ่งร้อยกว่าลี้ หลังจากหลบไปในภูเขาไท่ไป๋ถึงจะยอมหยุดการจู่โจม
และหูอ๋องผู้เฒ่าที่ป่วยอยู่ก็ป่วยหนักเพราะศึกครั้งนี้ หลังจากหลบไปในภูเขาไท่ไป๋เพียงสองวันก็สิ้นใจไปแล้ว
บุตรชายทั้งสี่ของเขา เหตุเพราะแย่งตำแหน่งอ๋องกันจึงมีเรื่องบาดหมาง องค์ชายใหญ่เยี่ยลี่ร์ก่วงและคุณชายสามเยี่ยลี่ร์เชี่ยสู้กันจนทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส องค์ชายสี่เยี่ยลี่ร์ต้าสือถือโอกาสนี้ควบคุมทหารยอดฝีมือของหูอ๋องทั้งหมด อำนาจทางการทหารของเป่ยหูตกอยู่ในมือของเขาเป็นการชั่วคราว จากนั้นค่อยมอบให้องค์ชายรองเยี่ยลี่ร์กงส่งศพของหูอ๋องกลับไปที่ราชวัง