หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 398 กลั่นแกล้งสหาย เปิดโปงคดีลับ (1)
ตอนที่ 398 กลั่นแกล้งสหาย เปิดโปงคดีลับ (1)
เหยาเยี่ยนอวี่พูดขึ้นยิ้มๆ “สุขภาพร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่าแข็งแรง ก็คือลาภอันประเสริฐของบุตรหลานแล้วเจ้าค่ะ” ภายในใจกลับพร่ำบ่นว่า ท่านไม่ได้ป่วย แล้วจะมาหาข้าที่นี่ไปไยกัน จะมาพูดคุยเล่นกับข้าหรือไร
“วันนี้ข้ามีเรื่องน่ายินดีอยากจะคุยกับเจ้า” เฟิงฮูหยินผู้เฒ่ามองเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยรอยยิ้มแล้วพูดขึ้น
ฮูหยินที่อายุเยอะแต่ละคนล้วนสนใจในการเป็นแม่สื่อ ต่อให้สูงส่งถึงขั้นที่เป็นพระมารดาของฮ่องเต้ หรือแม้กระทั่งเป็นแม่เฒ่าต่ำต้อยที่ขายผักในท้องตลาด แต่ละคนล้วนมีใจเด็ดเดี่ยวที่จะเป็นแม่สื่อ
“ไม่ทราบว่าฮูหยินผู้เฒ่าหมายถึงเรื่องน่ายินดีอะไรกัน” ตอนนี้เหยาเยี่ยนอวี่คิดถึงแต่เรื่องที่ราชครูเซียวมาเข้าพักอาศัยในสำนักแพทย์ ไม่ได้อยากจะคาดเดาเรื่องน่ายินที่ฮูหยินผู้เฒ่าคนนี้เอ่ยถึงแม้แต่น้อย
“ข้ามาเพื่อยัยหนูสามตระกูลซู” เฟิงฮูหยินผู้เฒ่ายังคงแย้มยิ้ม
“ตระกูลซู? ยัยหนูสาม?” แววตาเหยาเยี่ยนอวี่เป็นประกาย แล้วรู้สึกชื่นชมยินดียิ่งนัก “ฮูหยินผู้เฒ่าหมายถึงเหิงเอ๋อร์หรือเจ้าคะ”
“เป็นเช่นนั้น” เฟิงฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าอย่างมีความสุข
เหยาเยี่ยนอวี่ครุ่นคิดอย่างละเอียด ท้ายที่สุดก็นึกถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่าท่านนี้มีความสัมพันธ์อะไรกับซูอวี้เหิง มารดาเอกของซูเอวี้เหิงเป็นหลานสาวของแม่เฒ่าท่านนี้ พวกนางทั้งสองต่างมีแซ่ว่าเหลียง เหมือนว่าใต้เท้าเหลียงจะเป็นต้นตระกูลเดียวกับพวกนาง
อืม เหยาเยี่ยนอวี่ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกว่าแม่เฒ่าท่านนี้ค่อนข้างน่าสงสาร ต้นตระกูลถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก กลับยังพูดคุยเล่นกับตนอย่างมีความสุขเช่นนี้ได้ นี่นางรู้จักปล่อยวางเกินไปหรือเปล่า ทว่าอันที่จริงเหยาเยี่ยนอวี่คิดมากเอง ไท่ฉังซื่อชิงหรือใต้เท้าเหลียงใกล้จะสิ้นใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าตนเองติดคุกเพราะคุณชายรองเหยาเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
“มารดาของเหิงเอ๋อร์โปรดปรานรองแม่ทัพถังที่อยู่ในจวนของพวกเจ้า จึงอยากจะให้เด็กสองคนนี้เกี่ยวดองกัน ทว่าตอนนี้รองแม่ทัพถังไม่มีบิดามารดาคอยช่วยตัดสินใจ ซ้ำยังอาศัยอยู่ในจวนแม่ทัพเว่ย ดังนั้นแม่เฒ่าอย่างข้าถึงได้นึกถึงหมอหลวงเหยา”
“นี่เป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ” เหยาเยี่ยนอวี่ตกตะลึงจริงๆ สองสามวันก่อนนางกำลังคิดว่าจะหาใครไปสู่ขอที่ตระกูลซู ถึงจะเป็นการให้เกียรติครอบครัวนายท่านรองจวนติ้งโหว กลับนึกไม่ถึงว่าฮูหยินรองแห่งจวนติ้งโหวกลับจัดการเรื่องนี้ก่อนนาง
ช่างดียิ่งนัก!
“ไหนๆ หมอหลวงเหยาก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องน่ายินดี เช่นนั้นแม่เฒ่าอย่างข้าก็ไม่ถือว่ามาเสียเที่ยวแล้ว” เฟิงฮูหยินผู้เฒ่าพูดขึ้นยิ้มๆ
“ข้าต้องขอบคุณท่านถึงจะถูก” เหยาเยี่ยนอวี่พูดไปก็ลุกขึ้นเดินไปน้อมคำนับให้เฟิงฮูหยินผู้เฒ่าจากใจจริง “ข้าพูดจากใจจริง ข้าเห็นเหิงเอ๋อร์เป็นน้องสาวทางสายเลือดของข้า ส่วนเซียวอี้ ก็คือสหายแท้ของสามีข้า หากพวกเขาสองคนครองรักกันจริงๆ ได้ เช่นนั้นก็คือเรื่องที่ข้าอยากเห็นที่สุดแล้วเจ้าค่ะ”
“ไหนๆ ก็เป็นเช่นนี้ กลับไปพวกเราหาเวลานั่งเสวนาเรื่องนี้กันดีหรือไม่”
เหยาเยี่ยนอวี่ขานรับเต็มปากเต็มคำ “เจ้าค่ะ! ทุกอย่างก็ให้เป็นไปตามที่ท่านกำหนด”
“เช่นนั้นพวกเราตกลงกันแล้ว หากข้าเลือกวันเวลาได้แล้วจะสั่งให้คนไปบอกเจ้า”
“เจ้าค่ะ” เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้าอีกครั้ง
“เช่นนั้น วันนี้ข้าจะไม่พูดเรื่องส่วนตัวในสำนักแพทย์ของเจ้าอีกแล้ว” เฟิงฮูหยินผู้เฒ่าพูดไป ก็ใช้ไม้เท้าช่วยยันให้ลุกขึ้น
เหยาเยี่ยนอวี่พลันเดินไปพยุง แล้วยิ้มระรื่น “ลำบากท่านแล้ว”
“ข้าทำตามคำแนะนำของเจ้า ตอนที่มีเวลาว่างก็จะออกไปเดินเล่นข้างนอก ดีกว่าอุดอู้อยู่ในเรือน” ขณะที่เฟิงฮูหยินผู้เฒ่าพูด ก็ออกจากประตูห้องโถงแล้ว “นี่เป็นสถานที่ราชการของเจ้า อย่างไรข้าไม่ควรรบกวนเวลาว่าราชการของเจ้า เจ้ายุ่งกับงานเถอะ ข้าจะกลับแล้ว”
เหยาเยี่ยนอวี่ส่งแม่เฒ่าท่านนี้ถึงหน้าประตูใหญ่ มองนางขึ้นรถม้าถึงจะหันหลังเดินกลับเข้าไป
ชุ่ยเวยเห็นนางมีสีหน้ารื่นเริงยินดีจึงเอ่ยถามยิ้มๆ ด้วยเสียงต่ำ “ฮูหยินผู้เฒ่าคุยเรื่องอะไรถึงจะได้ทำให้คุณหนูดีอกดีใจเช่นนี้”
“นางมาคุยเรื่องสู่ขอเหิงเอ๋อร์” เหยาเยี่ยนอวี่พูดด้วยเสียงดีใจ “นึกไม่ถึงว่าฮูหยินรองแห่งจวนติ้งโหวจะมีดวงตาที่เฉียบคมเช่นนี้”
ชุ่ยเวยพูดยิ้มๆ “ท่านรองแม่ทัพถังไม่เลวจริงๆ อีกอย่างคุณหนูสามซูแต่งงานกับรองแม่ทัพถัง มีคุณหนูอยู่ นางไม่มีทางถูกเอารัดเอาเปรียบแน่นอน”
เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้า แล้วถอนหายใจยาวๆ “เฮ้อ! ช่วงนี้ไม่ใช่คนนี้ป่วยก็คนนั้นป่วย วันนี้มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นเสียที ตอนค่ำต้องกลับไปฉลองหน่อยแล้ว”
เฟิงฮูหยินผู้เฒ่ายังจากไปได้ไม่นาน หันหมิงชั่นก็พาคนจัดเรือนของผู้เฒ่าเซียวจนเสร็จ เหยาเยี่ยนอวี่จึงรั้งนางไว้ แล้วพูดเรื่องที่เฟิงฮูหยินผู้เฒ่ามาคุยเรื่องสู่ขอ
หันหมิงชั่นหน้าตาระรื่น “ข้ากลับลืมเรื่องนี้ไปเลย ข้านึกขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าจะให้พี่สะใภ้ของข้าไปคุยเรื่องนี้”
“ข้ายังรู้สึกแปลกใจ ตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่าบอกว่ามาหาข้าเพราะมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น หลังจากนางเอ่ยถึงเหิงเอ๋อร์ ข้านึกตั้งนานก็นึกไม่ออกว่าพวกนางมีความสัมพันธ์อะไรแอบแฝง”
หันหมิงชั่นตบหลังมือของเหยาเยี่ยนอวี่เบาๆ แล้วเปรยว่า “เจ้านี่ ในสมองนอกจากนึกถึงเรื่องยาสมุนไพร เข็มและมีดของเจ้าแล้ว เจ้าจะมีเวลาไปสนใจความสัมพันธ์จากการแต่งงานอันซับซ้อนพวกนี้ได้อย่างไร”
“พูดถึงเรื่องนี้ ข้านึกเรื่องหนึ่งได้พอดี พี่หันต้องช่วยข้า”
“เรื่องอะไร เจ้าแค่บอกข้ามาก็พอ” หันหมิงชั่นขานรับด้วยความเต็มใจ
“ทางฝั่งเหิงเอ๋อร์มีทั้งบิดามารดา ญาติและสหาย ส่วนทางฝั่งถังเซียวอี้กลับมีแค่ข้าและแม่ทัพ แล้วก็เหล่าสหายสองสามคน ตอนนี้เฮ่อฮูหยินตั้งครรภ์ ข้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหล่านี้ อนาคตเรื่องพิธีสมรสของพวกเขาและพวกสินสอดทองหมั้นก็ต้องรบกวนพี่หันคอยจัดการเสียแล้ว”
หันหมิงชั่นพูดขึ้นยิ้มๆ “เรื่องนี้เจ้ายังต้องพูดอีกหรือ ปล่อยให้ข้าจัดการเองก็พอ”
เหยาเยี่ยนอวี่พูดด้วยรอยยิ้ม “หลังจากงานเสร็จสิ้นไป ข้ากับแม่ทัพจะไปขอบคุณเจ้าอย่างดีเลย”
“พวกเขาจะขอบคุณข้าหรือไม่ ข้าไม่สนใจ ข้าเพียงหวังว่าถังเซียวอี้จะจริงใจต่อเหิงเอ๋อร์”
“พี่หันวางใจเถอะ ตอนนี้เขาไม่ได้สมดั่งใจปรารถนาจนกินไม่อิ่ม นอนไม่หลับเชียวแน่ะ” เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ จากนั้นครุ่นคิดถึง เหล้าเต็กปี่ในวันแรกของการแต่งงาน คืนนั้นตนดิ้นไปดิ้นมาจนถึงฟ้าสว่าง กลับทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน
ความแค้นนี้จะชำระเมื่อใดกัน
หันหมิงชั่นและเหยาเยี่ยนอวี่เสวนาถึงเรื่องแต่งงานของถังเซียวอี้และซูอวี้เหิง แล้วก็เดินตรวจความเรียบร้อยเรือนของผู้เฒ่าเซียวเสร็จ พอเห็นว่าฟ้าใกล้มืดแล้ว ต่างฝ่ายต่างอำลาแล้วแยกย้ายกัน
หลังจากกลับจวน เหยาเยี่ยนอวี่เห็นพ่อบ้านเอกฉังเหมาก็พูดว่า “วันนี้รองแม่ทัพถังอยู่จวนหรือไม่”
ฉังเหมาพยักหน้าตอบกลับ “กลับมาแล้วขอรับ ตอนนี้อยู่ห้องอักษรทางฝั่งใต้ ฮูหยินมีธุระใดกับรองแม่ทัพถังขอรับ”
“ไม่มีอะไร เตรียมอาหารอะไรบ้างสำหรับมื้อค่ำ”
ฉังเหมาจึงแจ้งรายการอาหารทันที ล้วนเป็นอาหารที่เหยาเยี่ยนอวี่โปรดปราน เหยาฮูหยินฟังจบก็พูดว่า “สั่งโรงครัว เพิ่มอาหารที่รองแม่ทัพถังชื่นชอบ ตอนค่ำเชิญเขามาดื่มสุราด้วยกันเสียสองจอก”
“ขอรับ” พ่อบ้านเอกฉังเหมาลอบมองสีหน้าที่เจ้าเล่ห์ของฮูหยิน ภายในใจครุ่นคิดว่า ไม่รู้รองแม่ทัพถังไปผิดใจอะไรกับฮูหยิน สุราคืนนี้ต้องไม่ปกติแน่นอน!
เนื้อปั้นตุ๋นกะหล่ำปลี ปีกไก่ตุ๋นเกาลัด หมูสามชั้นตุ๋นเห็ด น้ำแกงเนื้อแกะตุ๋น ถังเซียวอี้มองอาหารบนโต๊ะล้วนเป็นของชอบของตน จึงยิ้มแฉ่งทันที “พี่สะใภ้ใหญ่รักและเอ็นดูข้าที่สุดแล้ว”
เว่ยจางมองเหยาเยี่ยนอวี่เพียงพริบตาเดียวแล้วไม่พูดไม่จา จากนั้นชูจอกเหล้าของตนไปที่ถังเซียวอี้ สหายสองคนชนจอกกัน
เหยาเยี่ยนอวี่ยื่นมือไปคีบปีกไก่ไปใส่ในชามถังเซียวอี้ แล้วแย้มยิ้ม “กินเยอะๆ หน่อย”