หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 419 วันพักผ่อน (2)
ตอนที่ 419 วันพักผ่อน (2)
โรงครัวจัดเตรียมอาหารมื้อค่ำไว้แต่เนิ่นๆ ก่อนหน้านี้ยังนึกว่าเหยาฮูหยินจะให้เหยาเฟิ่งเกออยู่กินมื้อค่ำ ดังนั้นรอคำสั่งมาตลอด หลังจากเห็นว่าเหยาเฟิ่งเกอจากไป เซียงหรูก็เข้ามาถาม “ฮูหยินเจ้าคะ อาหารค่ำเสร็จแล้ว จะให้ท่านแม่ทัพมาร่วมรับประทานไหมเจ้าคะ”
เหยาเยี่ยนอวี่กำลังจะบอกว่าให้เชิญมา เว่ยจางก็เลิกม่านเข้ามาเองแล้ว เซียงหรูได้ยินเสียงจึงรีบหันหลังไป “อ้าว ท่านแม่ทัพกลับมาแล้ว เช่นนั้นบ่าวจะรีบสั่งให้พวกเขามาตั้งโต๊ะเดี๋ยวนี้”
เว่ยจางผายมือให้เซียงหรูออกไป แล้วถึงเดินเข้าไปนั่งข้างเหยาเยี่ยนอวี่ พลางเอ่ยถาม “ไม่ได้เชิญแขกอยู่กินข้าวด้วยกันหรือ”
“ทางฝั่งจวนโหวกำลังเกิดสถานการณ์วุ่นวาย พี่สาวจะมีกะจิตกะใจอยู่กินข้าวที่นี่ได้อย่างไร” เหยาเยี่ยนอวี่ยื่นน้ำชาของตนให้เว่ยจาง แล้วเอ่ยถาม “วันนี้เจ้ากลับมาเร็วนัก งานด้านนอกไม่ค่อยยุ่งหรือ”
“ทุกอย่างราบรื่นดี ไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายแล้ว” เว่ยจางจิบชา แล้วยื่นมือไปอุ้มฮูหยินคนโปรดมาไว้บนตัก เอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ “พรุ่งนี้ข้าพักผ่อน อยู่เป็นเพื่อนเจ้าหนึ่งวัน”
“ทว่าพรุ่งนี้ข้าไม่ได้พักผ่อน ยังต้องไปสำนักแพทย์”
“เช่นนั้นข้าจะไปกับเจ้า จะได้เชิญหมอหลวงเหยาตรวจอาการให้ข้า…” เว่ยจางพูดไป ก็นวดเอวของตนเองอย่างเสแสร้างแกล้งทำ “อั๊ยโย หลายวันมานี้แผลเก่าของข้ากำเริบอีกแล้ว จึงอยากขอให้หมอหลวงเหยาจ่ายยาอะไรดีๆ หน่อยได้หรือไม่”
“เสแสร้ง!” เหยาเยี่ยนอวี่ยกมือจับแขนเขา แขนของแม่ทัพเป็นมีดกล้ามแข็งแรงมาก นางจับไม่อยู่ ดังนั้นยื่นไปจับแก้มแทน
เว่ยจางขยับศีรษะไปด้านหลัง แล้วอ้าปากกัดนิ้วนางพร้อมยิ้มอย่างภูมิใจ
“เจ้าเกิดปีจอหรือ” นางรู้สึกปวดนิ้วเล็กน้อย เหยาเยี่ยนอวี่ถลึงตามองทันที
เว่ยจางเลียปลายนิ้วของนางเบาๆ จากนั้นยิ้มอย่างเบิกบาน “ไม่ ข้าเกิดปีวิฬาร”
“เหลวไหลไปกันใหญ่! ดูว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร!” เหยาฮูหยินใช้สองมือผลักไหล่แม่ทัพเว่ย เว่ยจางล้มไปตามแรงผลัก นอนลงบนตั่งไม้
เหยาเยี่ยนอวี่พลันโน้มตัวลงไปจับและจี้เอวของเขา
“ฮ่าๆ!” แม่ทัพเว่ยผู้ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลับกลัวโดนจี้เอว ดังนั้นจึงยื่นมือไปจับมือของฮูหยินไว้ พร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเติม “ข้าเกิดปีวิฬาร! แต่เป็นวิฬารที่กินคน! ฮ่าๆ…”
เซียงหรูและปั้นซย่าพาคนไปยกหีบใส่อาหาร พอเดินถึงใต้ชายคาระเบียงก็ได้ยินเสียงหัวเราะและอ้อนวอนของแม่ทัพ ดังนั้นเพียงผายมือ จากนั้นก็ให้สาวใช้ชั้นล่างที่อยู่ด้านหลังชะงักฝีเท้าลง
พี่ชุ่ยเวยบอกแล้ว เวลานี้ไม่ควรเข้าไป ทว่าหากไม่เข้าไป มื้อค่ำนี้จะล่าช้าไปถึงเวลาใดกัน
เซียงหรูและปั้นซย่าสบตากันแล้วถอนหายใจด้วยความลำบากอย่างยิ่ง ภายในใจก็อดเฝ้าคะนึงถึงชุ่ยเวยและชุ่ยผิงที่เฝ้าอุปกรณ์ทางการแพทย์อันล้ำค่าของฮูหยินที่สำนักแพทย์ หน้าที่ของสาวใช้คนสนิทของนายหญิง ช่างเป็นงานที่ลำบากจริงๆ!
โชคดีที่มีคนมาช่วยเซียงหรูและปั้นซย่าแก้ปัญหา
“เหตุใดพวกเจ้าถึงมายืนอยู่ตรงนี้” ถังเซียวอี้มองสาวใช้สองคนที่กำลังหิ้วหีบใส่อาหารจึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“ท่านเซียวโหวมาแล้ว!” เซียงหรูก้าวไปด้านหน้าด้วยสีหน้าเบิกบาน “น้อมคำนับท่านรองแม่ทัพเจ้าค่ะ”
“อืม พี่ใหญ่กำลังหัวเราะอะไรอยู่ ถึงได้มีความสุขปานนี้” ถังเซียวอี้พูดไปก็เลิกม่านเดินเข้าไปด้านใน
เซียวหรูแอบภาวนาอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ หวังว่าท่านรองแม่ทัพจะไม่ทำให้แม่ทัพโมโห
เว่ยจางที่อยู่ด้านในได้ยินเสียงของถังเซียวอี้ จึงอุ้มเหยาเยี่ยนอวี่ที่ทับอยู่บนร่างเขาไปไว้ด้านข้าง แล้วลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย หลังจากถังเซียวอี้เข้าประตูก็เห็นท่านแม่ทัพใหญ่เป็นแต่งกายเป็นระเบียบเรียบร้อย
“เพิ่งกลับมาหรือ” เว่ยจางมองถังเซียวอี้ที่แต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบจึงเอ่ยถาม
“ขอรับ” ถังเซียวอี้นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามตั่งไม้อุ่น แล้วถอนหายใจ “เบี้ยเลี้ยงทหารข้าก็แจกไปแล้ว ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการได้รับเบี้ยเลี้ยงมากกว่าหนึ่งเท่า ทุกอย่างทำตามความต้องการของท่านแม่ทัพแล้ว”
“อืม เช่นนั้นก็ดี” เว่ยจางพยักหน้า “เจ้ายังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม สั่งให้คนส่งอาหารมาเถอะ กินด้วยกันที่นี่แหละ”
ถังเซียวอี้ยิ้มร้ายกาจแล้วมองเหยาเยี่ยนอวี่ “เมื่อครู่ข้าเห็นเหล่าสาวใช้ยกหีบอาหารรออยู่ใต้ชายคาระเบียง นึกว่าพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้จะคุยเรื่องสำคัญอะไรเสียอีก จึงไม่ได้ให้พวกนางเข้ามา”
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ แล้วไม่ได้พูดอะไร แค่สั่งเซียงหรูโดยตรง “ตั้งโต๊ะเถอะ”
เซียงหรูไม่กล้าชักช้า จึงพาเหล่าสาวใช้ชั้นล่างยกอาหารมาจัดวางให้แต่ละคน ส่วนสาวใช้อีกคนยกกะละมังมา แล้วเอาสบู่และผ้ามาปรนนิบัตินายทั้งสามล้างมือ
ทั้งสามนั่งลง เว่ยจางจับตะเกียบคีบอาหารให้เหยาเยี่ยนอวี่ก่อน เหยาเยี่ยนอวี่เอาถ้วยของเว่ยจางมาตักน้ำแกงให้เขา ถังเซียวอี้ที่มองอยู่ด้านข้างก็รู้สึกว่าตาของตนใกล้จะบอดแล้ว ดังนั้นจึงจับตะเกีบบและยกถ้วยขึ้น ก้มหน้าก้มตากินข้าวตามลำพัง
เว่ยจางและถังเซียวอี้ต่างก็กินข้าวรวดเร็ว ส่วนเหยาเยี่ยนอวี่ก็กินมื้อค่ำได้น้อยอยู่แล้ว ดังนั้นผ่านไปเพียงเค่อเดียว ทั้งสามก็ทยอยกันใช้น้ำชาบ้วนปากแล้ว เซียงหรูพาสาวใช้ชั้นล่างเข้ามาเก็บถ้วยชาม แล้วยกน้ำชาหอมกรุ่นมาใหม่ เหลือเพียงปั้นซย่าและตงเหมยที่อยู่รับใช้ด้านใน คนอื่นต่างออกจากเรือนกันหมด
“พี่สะใภ้” ถังเซียวอี้ดื่มชาไปหนึ่งคำแล้วมองเหยาเยี่ยนอวี่อย่างเคร่งขรึม “ข้ามีเรื่องอยากจะขอคำปรึกษาจากท่าน”
“ว่ามาเถอะ” เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ
ถังเซียวอี้ก็ไม่ได้มากความ เอ่ยถามโดยตรง “ได้ยินว่าท่านกำหนดงานมงคลของข้าแล้วหรือ กลับไม่รู้ว่าเป็นคุณหนูจากจวนใด”
เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้วอย่างจนใจ ไม่ตอบกลับ ทว่ากลับเอ่ยถาม “หรือว่าเจ้าไม่เชื่อสายตาของข้า”
“ไม่ๆ ข้าจะไม่เชื่อสายตาของพี่สะใภ้ได้อย่างไร” ถังเซียวอี้รีบคลี่ยิ้มทันที ช่างน่าขบขันสิ้นดี ต่อหน้าพี่ใหญ่ยังกล้าฉงนสงสัยในสายตาการมองคน? นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มอย่างอิ่มเอมใจ “เช่นนั้นก็ดี” เจ้าก็รอเป็นเจ้าบ่าวเถอะ อย่างไรพี่สะใภ้ก็ไม่มีทางทำไม่ดีกับเจ้าแน่นอน”
รองแม่ทัพถังหันไปมองแม่ทัพเว่ยพลางยิ้มอย่างขมขื่น นี่พี่สะใภ้ไม่ใช่ว่ากำลังทำไม่ดีกับข้าอยู่หรือ ให้ข้าเป็นเจ้าบ่าว โดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าสาวของข้าคือใครกระนั้นหรือ
เว่ยจางมองเขาด้วยสายตาดูหมิ่น โง่เง่าดักดานจริงๆ! เรื่องแค่นี้ก็ยังไม่กระจ่างอีกหรือ แม่ทัพที่ชาญฉลาดอย่างข้า เหตุใดถึงมีสหายที่โง่เขลาเยี่ยงนี้ ขืนพูดออกมาก็คงเป็นที่อับอายขายหน้า!
ศักดิ์ศรีของรองแม่ทัพถังถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง พอออกจากเรือนเยี่ยนอานก็ไปหาฉังเหมาทันที วันนี้อย่างไรก็ต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่าง! มิเช่นนั้นจะอยู่ต่อในจวนแม่ทัพได้อย่างไร ไม่ว่ากล่าวถึงว่าจะได้เรื่องอะไรจากพี่ใหญ่ แต่อย่างไรก็ต้องไปถามเก๋อไห่ให้ชัดเจน!
พ่อบ้านเอกฉังเหมาถูกรองแม่ทัพถังซักถามจนรู้สึกอึดอัดใจ “ท่านแม่ทัพ บ่าวไม่รู้จริงๆ เรื่องนี้บ่าวก็ค่อนข้างแปลกใจ ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าสตรีแบบไหนถึงจะคู่ควรกับแม่ทัพ ทว่า…บ่าวถามผู้เฒ่าเฝิงมาแล้ว ผู้เฒ่าเฝิงก็บอกว่าไม่ทราบเช่นกันขอรับ”
ถังเซียวอี้ครุ่นคิด จึงเปลี่ยนวิธีอื่น “เช่นนั้นช่วงนี้พี่สะใภ้มัวแต่ยุ่งกับอะไรอยู่ และไปเจอใครมา”
ฉังเหมาเปรยอย่างลำบากใจ “นี่…ทุกวันนี้ฮูหยินไปสำนักแพทย์ตั้งแต่เช้า ตอนมืดถึงจะกลับมา บ่าวก็ไม่ใช่คนที่คอยติดตามฮูหยิน ช่วงนี้ฮูหยินยุ่งกับอะไร บ่าวก็ไม่ทราบเหมือนกัน! เอ๊ะ ใช่แล้ว มิเช่นนั้นบ่าวลองไปถามเซินเจียงและเถียนหลัวดูเถอะ พวกเขามักจะติดตามฮูหยินไปไหนมาไหนอยู่บ่อยๆ”
ถังเซียวอี้นัยน์ตาเป็นประกายแล้วสั่งการทันที “ไป รีบไปตามพวกเขามา!”
ฉังเหมาลอบถอนหายใจเงียบๆ แล้วออกไปตามคำทันที เถียนหลัวและเซินเจียงได้ยินว่าท่านรองแม่ทัพตามไปพบ จึงไม่กล้าชักช้า