หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 421 วันพักผ่อน (4)
ตอนที่ 421 วันพักผ่อน (4)
“ได้! เช่นนั้นข้าจะเอาชนะท่านอย่างไม่เกรงใจแล้ว!” เก๋อไห่กัดฟันกรอด แล้วเร่งหนีไปเลือกทหารมากฝีมือทันที
เหยาเยี่ยนอวี่ส่งหันหมิงชั่นเสร็จ เพิ่งจะหันหลังกลับเข้าเรือนตน ก็ได้ยินเสียงลมพัดมาจากด้านข้าง เงยหน้าขึ้นก็เห็นบุรุษชุดนิลลอยจากฟ้าลงมาอยู่เคียงข้างนาง ดังนั้นนางจึงพูดยิ้มๆ “เหตุใดเจ้าถึงไปอยู่บนหลังคาได้”
“ไปคุยอะไรกับเก๋อไห่สักหน่อย” เว่ยจางพูดพลางยื่นมือไปกุมมือเหยาเยี่ยนอวี่พลางเดินเข้าเรือนพร้อมพร่ำบ่นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ออกมาก็ไม่พกถุงมือมาด้วย มือของเจ้าเย็นเป็นน้ำแข็งแล้ว”
“ข้าก็แค่ออกมาประเดี๋ยวเดียว จะกลับอยู่แล้วนี่ ข้าจะหนาวตายได้อย่างไร”
“ยังจะมาถกเถียงอีก?” เว่ยจางมองนางด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เจ้ามักจะบอกว่าผู้ป่วยหัวดื้อ อันที่จริงแล้วเจ้าเองนี่แหละที่ดื้อดึงที่สุด”
เหยาเยี่ยนอวี่เห็นเขาทำสีหน้าเช่นนี้ ทำได้เพียงยื่นมือเข้าไปหาความอบอุ่นในแขนเสื้อของเขา พร้อมกับพูดเสียงเบา “เอาน่ะ อย่างไรเจ้าก็มาถึงที่ทำงานของข้าแล้ว ก็ไว้หน้าข้าหน่อยมิได้หรือ ทุกครั้งเจ้าก็มักจะสั่งสอนข้าเหมือนทหารของเจ้า จะให้ข้าเอาหน้าไปไว้ไหนกัน”
“เหอะ” แม่ทัพเว่ยละสายตาไปทางอื่นด้วยความดื้อดั้น ทว่าสองมือกลับจับมือของเหยาเยี่ยนอวี่ไว้แน่น
“ข้าจะพาเจ้าไปดูผลงานวิจัยของข้า ไปเถอะ” เหยาเยี่ยนอวี่ดึงเว่ยจางเดินไปในเรือนทดลองด้านหลัง
ตรงนั้นมีชุ่ยเวยและชุ่ยผิงที่กำลังพาหมอหญิงราวๆ สิบคนทำงานวุ่นวายกันอยู่ พวกนางสวมชุดพร้อมหมวกกันน้ำสีฟ้าคราม ผมมวยเรียบร้อยอยู่ใต้หมวก ซ้ำยังสวมหน้ากากอนามัย มีเพียงดวงตาที่โผล่ออกมาให้เห็น ตอนนี้จึงมองไม่ออกว่าใครเป็นใครกันแน่
เหยาเยี่ยนอวี่ใช้ใบแปะก๊วยจำนวนมากมาสกัดตัวยา และค่อยผสมยาอื่นๆ เข้าไปทีหลัง จากนั้นก็ผลิตยาแปะก๊วยชนิดน้ำและชนิดเม็ด ยาที่วิจัยออกมานี้ประสบความสำเร็จ ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้สูงวัย
ไม่ต้องกล่าวถึงอย่างอื่น เพียงเอ่ยถึงอาการของราชครูเซียวในขณะนี้ สภาพร่างกายของเขาเหมือนย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้ว เขาที่ได้รับการรักษาจากเหยาเยี่ยนอวี่ หลังจากต้องสอนตำราให้กับเหล่าองค์ชายสองชั่วยามทุกวันแล้ว ก็ใช้เวลาครึ่งชั่วยามในการอ่านตำรา จากนั้นจะเดินเล่นกลางสวนสำนักแพทย์สองเค่อทุกวันเช้าเย็น อาการสายตายาวก็ย่อมต้องดีขึ้นอยู่แล้ว
เป็นเช่นนี้ อย่าว่าแต่มีชีวิตอยู่ต่ออีกหนึ่งปีเลย เกรงว่าอยากอยู่ต่ออีกสองปีก็คงไม่ใช่ปัญหา ในสายตาของผู้อื่น นี่นับว่าเป็นปาฏิหาริย์
แม้กระทั่งผู้เฒ่าจางฉางเป่ยก็ยังต้องยกหัวแม่มือ พร้อมทั้งเอ่ยชมลูกศิษย์ที่ทำให้เขาภาคภูมิใจ “ถึงแม้วิธีการรักษานี้จะไม่เคยได้ยินมาก่อน ทว่าต้องยอมรับว่ามีประสิทธิภาพมาก ช่างทำให้คนดีใจเกินคาด กล่าวว่าเจ้ามีวิชามือหมอคืนชีพนั้นเป็นคำพูดที่ไม่เกินจริงเลย”
เหตุเพราะเรือนทดลองมีกฎระเบียบ เหยาเยี่ยนอวี่ทำได้เพียงพาเว่ยจางยืนอยู่ตรงประตู จากนั้นค่อยพาเขาไปที่อื่น
เว่ยจางเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ “ทักษะฝีมือนี้ของเจ้า กลับปล่อยให้หมอหญิงเข้าไปเรียนรู้ ทว่าเจ้ากลับมีความลับกับข้า?”
เหยาเยี่ยนอวี่ยยิ้มจางๆ “ไม่ใช่มีความลับกับเจ้า เจ้าและข้าไม่ได้สวมชุดป้องกันต่างหาก บนร่างของพวกเรามีฝุ่นเกาะ หากไม่ระวังก็อาจส่งผลกระทบต่อผลการทดลองได้”
“อัศจรรย์เช่นนี้เชียวหรือ ไม่สวมชุดป้องกันก็จะเกิดปัญหา?”
“ก็ไม่แน่ อย่างไรระวังไว้หน่อยก็ไม่เสียหาย”
“ขืนมีคนจงใจก่อปัญหา เช่นนั้นงานของเจ้าก็คงจบกัน”
“ของพวกนี้ไม่ได้ล้ำค่าอะไรหรอก” เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มอย่างไม่แยแส “ก็เพียงอุปกรณ์ทดลองและพวกสมุนไพรเท่านั้น ของที่ล้ำค่าจริงอยู่ในนี้” ขณะที่พูด นางก็ชี้ไปตรงศีรษะตนเอง
แม่ทัพเว่ยเลิกคิ้วคมเข้มขึ้น วันนี้มีสองคนที่ชี้ศีรษะตัวเองต่อหน้าเขาอย่างมั่นอกมั่นใจ ดูท่าแล้วคนรอบกายเขาต่างก็แข่งกันมั่นใจในตัวเองเสียแล้ว
“ไปนั่งดื่มชากันเถอะ” เหยาเยี่ยนอวี่คล้องแขนเว่ยจาง ทั้งสองออกจากเรือนทดลอง ค่อยๆ เดินมุ่งหน้าไปเรือนน้ำชาตามทางระเบียง
“เอ๊ะ? นี่ไม่ใช่แม่ทัพเว่ยหรือ” องค์ชายสี่อวิ๋นจั๋วและเยี่ยนอ๋องซื่อจื่ออวิ๋นหังเดินมาจากฝั่งตรงข้าม ตรงมาหน้าเว่ยจาง
“ถวายบังคมจิ่งอวิ๋นอ๋องและท่านซื่อจื่อพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจางโค้งคำนับเล็กน้อยให้อวิ๋นจั๋วและอวิ๋นหัง
“ท่านแม่ทัพรีบลุกขึ้นเถอะ” อวิ๋นจั๋วพูดด้วยรอยยิ้มรื่นเริง “วันนี้ข้าก็แค่บังเอิญผ่านมา นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอแม่ทัพเว่ย ช่างบังเอิญนัก”
เว่ยจางยิ้มจางๆ “วันนี้กระหม่อมพักผ่อน ไม่มีอะไรทำในจวน และรู้สึกฉงนสงสัยในสำนักแพทย์มาโดยตลอด ดังนั้นถึงได้มาเยี่ยมชมพ่ะย่ะค่ะ”
“ดังนั้น ข้าเลยบอกว่าบังเอิญนัก!” อวิ๋นจั๋วชี้ไปเรือนน้ำชาด้วยรอยยิ้ม “นัดพบไม่เท่าบังเอิญเจอ ไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพจะให้เกียรติไปจิบชากับพวกเราหรือไม่”
“พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจางพยักหน้าเล็กน้อย
อันที่จริงจางฉางเป่ยเป็นคนจัดเรือนน้ำชานี้ ผู้เฒ่าคนนี้ติดตามฮ่องเต้มานาน ไม่ได้ติดนิสัยอย่างอื่นมา ทว่ากลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่ว่าจะกินหรือใช้อะไรก็ต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด การจิบชา ปลูกดอกไม้ ปรุงยาพิษ แก้พิษและรักษาโรค ลำดับที่กล่าวข้างต้น งานอดิเรกที่ผู้เฒ่าคนนี้ชื่นชอบที่สุดก็คือจิบชา
ม่านประตูสีนิลหนาหนักถูกเลิกขึ้น พวกเขาต่างเข้าไปด้านใน ในเรือนมีโต๊ะและเก้าอี้ไม้หวงฮวาหลีหนึ่งชุด ตรงกลางเป็นโต๊ะชงชาขนาดใหญ่ ไม้สลักลายอันประณีต ดูเป็นสถานที่จิบชาเรียบหรู เคล้าด้วยกลิ่นหอมชา
ผู้เฒ่าจางไม่อยู่ เหยาเยี่ยนอวี่จึงเดินไปนั่งลงตรงตำแหน่งหลักหน้าโต๊ะชงชา อวิ๋นจั๋ว อวิ๋นหัง และเว่ยจางต่างนั่งหันหน้าเข้าหานาง ถ่านในเตาดินแดงเหมือนใกล้จะดับ เหยาเยี่ยนอวี่จึงเติมถ่านเข้าไปอีกสองก้อน ทำให้ถ่านลุกไหม้อีกครั้ง จากนั้นค่อยใส่กาต้มน้ำบนเผาขนาดเล็ก
วันนี้อวิ๋นจั๋วไม่ได้มาร่ำเรียนตำรา ทว่ากลับมาเยี่ยมเยียนราชครูเซียวแทนฮ่องเต้ อวิ๋นหังก็ได้รับคำบัญชาจากอวิ๋นอ๋องว่าสำนักแพทย์ขาดแคลนสิ่งใดหรือไม่ เยี่ยนอ๋องบอกแล้ว ราชครูเซียวอาศัยอยู่ในสำนักแพทย์ ดังนั้นเครื่องใช้ต่างๆ ก็ไม่ควรละเลยเป็นอันขาด
ดังนั้นเหยาเยี่ยนอวี่ก็เสนอให้หมอหลวงขั้นที่หกที่คอยปรนนิบัติจางฉางเป่ย มอบของใช้และเงินส่วนกลางของสำนักแพทย์ทั้งหมดให้เขาเป็นคนจัดการ และขอให้เยี่ยนอ๋องหาคนที่รู้บัญชีมาทำงานคู่กับหมอหลวงคนนั้น หลังจากก่อตั้งหอการเงิน พวกเขาก็รับผิดชอบรายจ่ายทั้งหมดของสำนักแพทย์
ดังนั้น ตอนที่อวิ๋นหังมาเยือน ก็ได้ยินว่าหมอหลวงเหยากำลังยุ่ง จึงไปพูดคุยกับสองคนนั้นที่หอการเงินไปสองสามคำ ตอนที่เขากำลังจะไปเยี่ยมราชครูเซียว จึงเจอกับอวิ๋นจั๋วพอดี ทั้งสองชวนกันมาดื่มชาในเรือนน้ำชา จะได้รอจางหย่วนลิ่งหรือไม่ก็หมอหลวงเหยาเพื่อพูดคุยราชกิจ
หลังจากคุยราชกิจเสร็จ น้ำที่ต้มก็เดือดแล้ว
เหยาเยี่ยนอวี่ล้างใบชาแล้วค่อยชงชา ถึงแม้ฝีมือจะเทียบไม่ได้กับคนอื่น อย่างน้อยนางก็คือบุตรีของข้าหลวงเหยา หากทำเรื่องพวกนี้ไม่ได้ ก็คงเป็นที่อับอายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น บุรุษทั้งสามคนไม่ได้ใจจดใจจ่อกับการดื่มชา
“นี่เป็นชาตงเพี่ยนที่ฝ่าบาทพระราชทาน เตี้ยนเซี่ย ท่านซื่อจื่อ ได้โปรดลิ้มลองเพคะ” เหยาเยี่ยนอวี่ยื่นถ้วยชาให้อวิ๋นจั๋วก่อน แล้วค่อนยื่นให้อวิ๋นหังและเว่ยจาง
อวิ๋นจั๋วดมกลิ่นชาแล้วคุยกับอวิ๋นหังด้วยรอยยิ้ม “อืม! มีเพียงเสด็จพ่อและเสด็จแม่เท่านั้นที่มีชาตงเพี่ยน ตอนที่เสด็จย่าทรงอยู่ก็เคยพระราชทานสิ่งนี้ให้พวกเรา วันนี้ยิ่งอยู่ชาตงเพี่ยนนี้ก็ยิ่งผลิตออกมาน้อยลง ปีนี้กลับมีเพียงสองจินกว่าเท่านั้น พวกเราสองพี่น้องไม่ได้แตะต้องเลย นึกไม่ถึงว่าที่นี่กลับมีของล้ำค่านี้ วันนี้ช่างเป็นบุญปากนัก”
อวิ๋นหังพูดยิ้มๆ “เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาททรงโปรดปรานหมอหลวงเหยายิ่งนัก”
เหยาเยี่ยนอวี่พลันส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ท่านซื่อจื่อเข้าใจผิดแล้วเพคะ วันนี้พวกเราพลอยได้ประโยชน์จากอาจารย์ของหม่อมฉันเท่านั้น ชาชนิดนี้ ท่านอาจารย์ชื่นชอบที่สุด ปกติแม้กระทั่งข้ายังแตะต้องไม่ได้ วันนี้ เนื่องด้วยเตี้ยนเซี่ยสี่และท่านซื่อจื่อมาเยือน หม่อมฉันถึงกล้านำออกมาชงเพคะ!”