หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 423 ข้าหลวงเหยาเลื่อนตำแหน่ง ตระกูลลู่ถูกตรงหน้า (2)
ตอนที่ 423 ข้าหลวงเหยาเลื่อนตำแหน่ง ตระกูลลู่ถูกตรงหน้า (2)
“ลงไปเถอะ” เหยาเยี่ยนอวี่ผายมือให้พ่อบ้าน แล้วเดินเข้าไปในเรือนโดยเร็ว
เว่ยจางเดินตามหลังเข้าไป พอเห็นเหยาเยี่ยนอวี่เดินเข้าไปอย่างเร่งรีบ ก็ถอนหายใจเบาๆ…นางมัวแต่เป็นกังวลใจถึงหร่วนฮูหยินเช่นนี้ ไม่ได้เป็นเพราะธุระส่วนตัวของตัวเองเสียหน่อย!
“แม่ทัพขอรับ!” พ่อบ้านเห็นแม่ทัพเว่ยก็สบายใจขึ้นมาทันที
เว่ยจางพยักหน้า แล้วกวาดสายตามองข้ารับใช้ที่มีท่าทางกระวนกระวายรอบๆ แล้วสั่งการ “อืม ฮูหยินของข้ามาแล้ว ฮูหยินของพวกเจ้าน่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าไปสั่งให้คนในจวนอย่าตื่นตระหนก ควรทำอะไรก็ทำสิ่งนั้น”
“ขอรับ” พ่อบ้านขานรับแล้วหันหลังจากไป
เหยาเยี่ยนอวี่เข้าไปในเรือนของจวนเฮ่อ คนที่มาต้อนรับนางคือน้าหร่วน น้าหร่วนเดินหน้ามาน้อมคำนับแล้วถูกเหยาเยี่ยนอวี่รั้งไว้ “น้าหร่วนไม่ต้องมากพิธี ตอนนี้เฮ่อฮูหยินเป็นเช่นนี้บ้างแล้ว”
“ปวดจนทนไม่ไหวเจ้าค่ะ” น้าหร่วนเปรย “สตรีทุกคนต้องผ่านด่านนี้ไป เรื่องนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ มีหมอตำแยสองคนคอยปรนนิบัติอยู่ด้านใน จึงไม่เป็นเช่นไรไปชั่วคราว ฮูหยินได้โปรดเชิญเข้าไปนั่งด้านในเถอะ”
ในสายตาของน้าหร่วน แม่ทัพใหญ่ฝู่กั๋วคือแม่ทัพที่เฮ่อซีอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา เหยาฮูหยินมาเยือนก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติมากแล้ว อีกทั้งนางที่เป็นสตรีไม่เคยตั้งครรภ์มีบุตร จึงไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้อยู่แล้ว
เหยาเยี่ยนอวี่กลับไม่สนใจน้าหร่วน มุ่งหน้าไปเรือนคลอดบุตรโดยตรง “ข้าไปดูเสียหน่อย”
น้าหร่วนอยากจะเอ่ยถามว่าท่านจะไปดูอะไร ทว่าพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากเรือนร่างของเหยาฮูหยิน ทำเอานางไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปาก
เหยาเยี่ยนอวี่เห็นหร่วนฮูหยินพิงอยู่บนตั่งไม้ที่ปูด้วยหญ้า ดวงหน้าปวดจนซีดเซียว ทั้งเนื้อทั้งตัวเคล้าด้วยเม็ดเหงื่อ จึงอดขมวดคิ้วถามหมอตำแยไม่ได้ “เป็นเช่นไรบ้างแล้ว”
หมอตำแยเห็นเหยาเยี่ยนอวี่ที่อยู่ในชุดเครื่องแบบหมอหลวง จึงเข้าใจทันทีว่าคือใคร ดังนั้นพลันเข้าไปคุกเข่าลง “เรียนใต้เท้า ทารกในครรภ์ไม่กลับหัว ทำให้คลอดค่อนข้างยากเจ้าค่ะ”
“มีวิธีใดไหม” เหยาเยี่ยนอวี่ถามโดยตรง
“พวกบ่าวพยายามปรับตำแหน่งทารกแล้ว ทว่า…สายเกินไป”
เหยาเยี่ยนอวี่เอ่ยถามอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าสองคนไม่ใช่ว่าเข้าจวนมาปรนนบัตินางเมื่อสองเดือนที่แล้วแล้วหรือ เหตุใดถึงเพิ่งมารู้ตอนนี้ว่าทารกในครรภ์ไม่กลับหัวเล่า!”
“เป็นข้อผิดพลาดของพวกบ่าวเอง นึกว่าก่อนจะคลอด ทารกคงจะกลับหัวได้…”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้แล้ว ไม่ว่าพวกเจ้าจะใช้วิธีอะไร ต้องเอามาประกันว่าสองแม่ลูกจะปลอดภัย มิเช่นนั้น อย่าคิดว่าจะกลับจวนแม่ทัพ ข้ามีวิธีลงโทษพวกเจ้าแน่นอน”
“เจ้าค่ะ!” หมอตำแยสองคนจึงรีบรวบรวมกำลังทั้งหมด “บ่าวต้องทำสุดความสามารถแน่นอน”
“รีบลุกขึ้นเถอะ อย่ามัวอึ้งอยู่ที่นี่!” เหยาเยี่ยนอวี่ตวาดด้วยเสียงเคร่งขรึม
ผัวจื่อทั้งเรือนจึงตื่นตกใจเพราะเสียงตวาด ต่างแยกย้ายไปทำงานตนเองทันที
เหยาเยี่ยนอวี่เดินไปถึงหน้าเตียงอีกครั้งแล้วกุมมือหร่วนฮูหยินไว้ พร้อมปลอบโยนด้วยเสียงแผ่วเบา “เจ้าวางใจเถอะ มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไรแน่นอน”
“ขอบคุณ…ฮูหยินเจ้าค่ะ” หร่วนฮูหยินเห็นเหยาเยี่ยนอวี่ก็สบายใจขึ้นมาก
“ขอบคุณอะไรกันเล่า เจ้าอย่าลืมว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน” เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ แววตานิ่งเฉยของนาง ทำให้คนรู้สึกสบายใจอย่างมาก
หร่วนฮูหยินพยักหน้าเล็กน้อย ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ปวดขึ้นมาอีกครั้ง นางขมวดคิ้วทันที จับมือเหยายเยี่ยนอวี่ไว้แน่น
สถานการณ์เช่นนี้คงต้องสู้เต็มที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหร่วนฮูหยินหรือเหยาเยี่ยนอวี่เองก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่ กลิ่นคาวเลือดในเรือนทำให้เหยาเยี่ยนอวี่เวียนศีรษะ ทว่านางยังนั่งลงข้างกายหร่วนฮูหยินแล้วจับมือนางไม่จากไปไหน
หมอตำแยทั้งสองก็พยายามเต็มที่ พวกนางใช้วิธีที่สืบทอดมานานช่วยหร่วนฮูหยินปรับตำแหน่งของทารก ในเหมันตฤดูนี้ เหงื่อกลับท่วมตัวทั้งสองคน ดูๆ แล้วพวกนางไม่ได้สบายไปกว่าหร่วนฮูหยินเลย
หลังจากลำบากมาทั้งคืน ตอนที่หร่วนฮูหยินคลอดบุตรคนโตให้เฮ่อซีได้ มือขวาของเหยาเยี่ยนอวี่ก็ถูกหร่วนฮูหยินบีบจนฟกซ้ำ
เหยาเยี่ยนอวี่เฝ้ามองหร่วนฮูหยินดื่มน้ำแกงสมุนไพรบำรุงร่างกายสิบชนิดแล้ว หลับใหลไปช้าๆ ถึงจะอุ้มทารกที่ห่อผ้าไปหาเว่ยจาง
เว่ยจางเห็นทารกน้อยก็มีความสุขยิ่งนัก ทว่าเหยาเยี่ยนอวี่ยื่นให้เขาอุ้ม เขากลับแบมือปฏิเสธ ช่างน่าขบขัน นี่เป็นบุตรของคนอื่น ทารกยังอ่อนและเล็กแบบนี้ ขืนตนเองอุ้มไม่ถูกแล้วเกิดปัญหาขึ้นมาจะทำอย่างไร
“เฮ่อฮูหยินกล่าวว่า ก่อนที่รองแม่ทัพเฮ่อไปประจำการที่เขตตอนเหนือ หากได้บุตรชาย ก็ขอให้ท่านแม่ทัพตั้งนาม” เหยาเยี่ยนอวี่มองเว่ยจางด้วยความรื่นเริง แล้วพูดว่า “เจ้าตั้งนามให้เด็กคนนี้เถอะ”
เว่ยจางลูบคางของทารก แล้วมองเด็กน้อยที่กำลังหลับสนิท จึงพูดยิ้มๆ “ข้าไม่ค่อยมีความรู้ด้านอักษร คงตั้งนามอะไรที่เหมาะสมไม่ได้หรอก มิเช่นนั้นเจ้าเป็นคนตั้งไหม”
“ไม่ได้หรือเปล่า นี่คือความปรารถนาของแม่ทัพเฮ่อ ข้าจะก้าวก่ายได้อย่างไร”
แม่ทัพเว่ยครุ่นคิด แล้วพูดว่า “เจ้าคิด ข้าจะช่วยเจ้าเลือกเอง เช่นนี้ก็ถือว่าข้าเป็นคนตั้ง ว่าอย่างไรบ้าง”
“นี่โกงกันชัดๆ” เหยาฮูหยินถลึงตามอง
แม่ทัพเว่ยดึงฮูหยินตนเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอย่างหน้าด้าน แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “พวกเราสองสามีภรรยาเป็นคนเดียวกันแล้ว แล้วจะเรียกว่าโกงได้อย่างไร
ทว่าการตั้งนามเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เด็กผู้ชายก็ไม่เท่าเด็กผู้หญิง นามเรียกสำคัญอย่างมาก อนาคตขืนมีชื่อเสียงขึ้นมา หากไม่มีนามเรียกที่ไพเราะและมีความหมายก็จะเป็นที่อับอาย และยิ่งไปกว่านั้นยังต้องหาพระอาจารย์มาทำนายแปดอักษร ดูว่าดวงชะตาของเขาเป็นเช่นไร จะได้ตั้งนามเสริมโชคลาภ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ทันการแล้ว
ทางฝั่งนี้กำลังคิดว่าจะตั้งนามให้บุตรชายของเฮ่อซีอย่างไรดี ทางฝั่งสำนักแพทย์ก็กำลังประลองฝีมือกันอย่างดุเดือด
เก๋อไห่นึกว่าคืนนี้คนที่จะนำคนมาบุกรุกคือเว่ยจาง ดังนั้นออมแรงไว้ตลอด เพื่อรอรับมือกับคนที่แข็งแกร่งที่สุด ทว่ากลับนึกไม่ถึงว่าจะถูกถังเซียวอี้อาศัยช่องโหว่ ตอนที่ถังเซียวอี้ที่สวมชุดดำลอบบุกเข้าในเรือนของราชครูเซียว ตอนนั้นเขากำลังใช้ดาบยาวชี้ไปยังราชครูที่กำลังหลับสนิทบนตั่งไม้ เก๋อไห่ถึงจะรู้ตัวว่า…ที่แท้พี่ใหญ่ของเขาไม่คิดจะมาตั้งแต่แรก
“ข้าคิดไว้แล้วว่าพี่ใหญ่ต้องทำเช่นนี้ ทุกครั้งที่เจ้าออมแรงไว้สู้กับเขา กลับทำสุดความสามารถไม่ได้ จากนั้นก็พ่ายแพ้อย่างน่าประหลาด พี่ใหญ่ให้ข้ามาบอกเจ้า ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องพยายามสุดความสามารถ ห้ามดูหมิ่นฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาด มิเช่นนั้นเจ้าจะชนะไม่ได้ตลอดกาล”
เก๋อไห่ทำปากขมุบขมิบ “รู้แล้วน่ะ”
ถังเซียวอี้คลี่ยิ้มแล้วนั่งข้างเขา มองพระจันทร์บนฟากฟ้าพลางพูด “นี่ ข้าจะบอกเจ้า วันนี้พี่เฮ่อได้เป็นบิดาแล้ว”
“จริงหรือ” เก๋อไห่ถามอย่างไม่คิดไม่ฝัน
“อืม พี่ใหญ่และฮูหยินต่างก็อยู่ในจวนของพี่เฮ่อ ตอนที่ข้ามา พี่สะใภ้เฮ่อยังไม่คลอด ไม่รู้ว่าตอนนี้คลอดหรือยัง นี่ เจ้าว่า พี่สะใภ้เฮ่อจะได้บุตรีหรือบุตรชาย”
เก๋อไห่พูดยิ้มๆ “ไม่ว่าจะเป็นบุตรีหรือบุตรชาย อย่างไรพวกเราก็พลอยได้ผลประโยชน์ไปด้วย จะได้เป็นท่านอาแล้ว”
“เป็นเช่นนั้น!” ถังเซียวอี้ถอนหายใจยาวๆ
“เจ้าก็ใกล้จะแต่งงานแล้ว หลังแต่งงานจะได้เป็นบิดา แล้วจะถอนหายใจไปไยกัน”
“ก็ไม่รู้ว่าฮูหยินที่ข้าจะสู่ขอมาเป็นเมียคือใครน่ะสิ เจ้าคิดเหมือนกันไหม งานแต่งของข้า เหตุใดถึงได้ลึกลับเช่นนี้!”