หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 482 ปกป้องอย่างดี ศัตรูเคลื่อนทัพ (3)
ตอนที่ 482 ปกป้องอย่างดี ศัตรูเคลื่อนทัพ (3)
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร!” เก๋อไห่ถอนหายใจอย่างจนปัญญา “ก็แค่บ่าวที่องค์หญิงคังผิงโปรดปรานไม่ใช่หรือไร”
“คนคนนั้นไม่ธรรมดาเลย” จ้าวต้าเฟิงพูดด้วยเสียงต่ำ “จำตอนไปเมืองเฟิ่งที่ฮูหยินโดนยิงไหม”
“ให้ตายเถอะ!” เก๋อไห่รีบกระโดดทันที “เจ้าพูดเรื่องจริงหรือ”
“อืม” จ้าวต้าเฟิงพยักหน้า “แม่ทัพบอกข้าแล้ว คนคนนั้นน่าจะเป็นลูกหลานของราชวงศ์ชาวเกาหลี แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีหลักฐานพิสูจน์อะไร ดังนั้นเลยเป็นฝ่ายถูกกระทำ”
“แล้วจะเอาหลักฐานอะไรมาพิสูจน์เล่า! ว่ากันว่ายอมสังหารคนผิดหนึ่งพันคน ก็จะไม่ยอมปล่อยคนเดียวไปมิใช่หรือ!” เก๋อไห่กำหมัดแน่น ร่างของเขาแผ่ซ่านความโหดเหี้ยมออกมาทันที
“เจ้านึกว่าท่านแม่ทัพไม่อยากสังหารเขาหรือไร ทว่าสังหารไปแล้ว องค์หญิงคังผิงจะยอมง่ายๆ หรือ” จ้าวต้าฟิงยกถุงหนังใส่สุราขึ้น แล้วกรอกเหล้าใส่ปากหนึ่งคำ
“หากฆ่าซึ่งหน้าไม่ได้ ก็ลอบฆ่าไปสิ”
“ไม่ได้ง่ายเช่นนั้น คนของพวกเราจับตามองตลอดเวลา หากมีโอกาสก็คงลงมือไปแล้ว”
เก๋อไห่ทำเสียงฮึดฮัดด้วยความโหดเหี้ยม “อย่าปล่อยให้มันตกอยู่ในกำมือข้า”
เรือตระกูลเหยามาถึงท่าเรือตะวันออกของเมืองหลวงอวิ๋นในสองวันถัดจากนี้อย่างที่คาดไว้ เหยาเหยียนอี้จึงหาเวลาว่างตั้งแต่เช้า พาเหยาเยี่ยนอวี่ไปต้อนรับท่านย่าและมารดาที่ท่าเรือ หนิงฮูหยินน้อยเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับฮูหยินผู้เฒ่าและฮูหยินในจวน
ตั้งแต่ที่ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งได้ดื่มน้ำแกงบำรุงร่างกายที่เหยาเยี่ยนอวี่จัดให้ ร่างกายค่อยๆ ฟื้นฟู ทุกวันนี้แข็งแรงกว่าก่อนหน้านี้ นั่งเรือมายี่สิบกว่าวัน ทว่าสภาพกลับไม่ดูเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย พอเห็นหน้าเหยาเหยียนอี้และเหยาเยี่ยนอวี่ ก็ดึงมือสองพี่น้องด้วยรอยยิ้มเบิกบานพร้อมเปรยว่า “ได้เจอหน้าพวกเจ้าเสียที! คิดถึงพวกเจ้าจวนตายแล้ว”
เหยาเหยียนอี้มองมารดาที่อยู่ด้านข้างด้วยความรื่นเริง พร้อมหันไปมองหวางฮูหยิน “ฮูหยินผู้เฒ่านั่งเรือมาหลายวันเช่นนี้ คิดว่าคงเหนื่อยน่าดู ท่านพ่อให้หลานสะใภ้เตรียมงานเลี้ยงต้อนรับ ท่านย่าและท่านแม่ได้โปรดขึ้นรถม้าก่อนเถอะ พวกเรากลับจวนก่อนค่อยคุยกัน”
“ดี ดี!” ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งตบมือเหยาเหยียนอี้ แล้วหันไปมองหวางฮูหยิน “พวกเราขึ้นรถม้าก่อนเถอะ ข้าก็อยากเจอเหลนแล้ว”
พอพูดถึงบุตรชายของเหยาเหยียนอี้ หวางฮูหยินรู้สึกดีใจอย่างมาก “เป็นเช่นนั้น หลายวันมานี้ตอนอยู่บนเรือ ข้ายังฝันถึงเขาอยู่เลย เสียดายที่มองไม่ชัดเจนว่าหน้าตาของหลานเหมือนใคร เลยอยากจะเจอหน้าเต็มทนแล้ว”
“เป็นเช่นนั้น!” ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งกุมมือเหยาเยี่ยนอวี่ลงจากเรือ แล้วมองซ้ายมองขวา สุดท้ายก็ขึ้นรถม้าคันที่ใหญ่ที่สุด
เหล่าข้ารับใช้ของจวน เจียงหนิง จือจ้าว ต่างน้อมคำนับให้เหยาเยี่ยนอวี่ ตอนนี้เหยาฮูหยินเป็นฮูหยินเก๊ามิ่งระดับสองแล้ว ทั้งยังเป็นหมอหลวงระดับสามอีก ตามกฎระเบียบแล้ว นอกจากฮูหยินผู้เฒ่าซ่งและหวางฮูหยินแล้ว คนอื่นๆ ล้วนต้องเป็นฝ่ายน้อมคำนับนางก่อน
เพียงแต่ว่าบนท่าเรือมีคนสัญจรไปมากันเยอะ เหยาเยี่ยนอวี่ยกมือให้พวกนางลุกขึ้น แล้วสั่งให้ข้ารับใช้ที่ติดตามนางมาคอยดูแลให้คนที่มาเยือน
เหยาเหยียนอี้มองฮูหยินผู้เฒ่านั่งลงบนรถม้าแล้ว ก็หันไปพยุงหวางฮูหยิน พลางพูดยิ้มๆ “ท่านแม่ รถม้าของท่านอยู่ทางโน้น”
หวางฮูหยินไม่ได้เจอบุตรชายมานาน จึงกุมมือเขาไม่อยากปล่อย เหยาเหยียนอี้พูดด้วยความรื่นเริง “ท่านแม่ ให้ลูกพยุงท่านขึ้นรถม้าเถอะ นั่นเป็นรถม้าของเยี่ยนอวี่ ด้านในจัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างครบครันแล้ว”
“ดี” หวางฮูหยินพยักหน้าด้วยความปลาบปลื้มใจ แล้วตามเหยาเหยียนอี้และเหยาเยี่ยนอวี่ขึ้นรถม้าด้านหลัง
เหล่าสาวใช้และผัวจื่อต่างลงจากเรือตามมา เหยาเยี่ยนอวี่สั่งให้เหล่าสาวใช้ของตนพาคนพวกนั้นขึ้นรถม้าของตนเอง เหยาเยี่ยนอวี่ส่งหวางฮูหยินขึ้นรถม้าแล้ว หวางฮูหยินดึงมือนางด้วยรอยยิ้ม “เจ้าก็ขึ้นมาสิ”
“ให้พี่รองนั่งกับท่านแม่เถอะ ข้าจะไปนั่งคันด้านหลังเจ้าค่ะ” เหยาเยี่ยนอวี่ยกยิ้มจางๆ พลางพูด
หวางฮูหยินพูดด้วยรอยยิ้ม “รถม้าคันนี้กว้างจะตาย พวกเจ้าสองพี่น้องนั่งด้วยกันเถอะ”
เหยาเยี่ยนอวี่กำลังจะพูดอะไร ก็ได้กลิ่นหอมที่มาพร้อมสายลมด้านหลัง พร้อมกับเสียงอันรื่นเริง “พี่รอง!”
“น้องสาม” เหยาเยี่ยนอวี่หันไป ก็เห็นเหยาเชวี่ยหวาที่สูงขึ้นครึ่งคืบ จึงยิ้มจางๆ “เดินทางลำบากแล้ว”
“คุณหนูรอง” สกุลเถียนปรากฎตัวด้านหลังเหยาเชวี่ยหวา พลางโค้งคำนับให้เหยาเยี่ยนอวี่
“เถียนอี๋เหนียง” เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ “ทุกคนอย่ามัวแต่ยืนคุยกันที่นี่เลย ขึ้นรถม้าเถอะ”
เหยาเหยียนอี้หันไปมองสกุลเถียนและเหยาเชวี่ยหวาขึ้นรถม้าด้านหลัง แล้วพยักหน้าให้เหยาเหยียนอี้ จากนั้นขึ้นรถม้าที่นั่งมาก่อนหน้านี้ ภายในรถม้า เซียงหรูและอูเหมยกำลังรินน้ำชาและจัดขนม หลังจากวางของว่างเสร็จ หนึ่งคนนวดไหล่ให้นาง และอีกคนยกน้ำชาให้เหยาเยี่ยนอวี่ดื่ม
“ฮูหยินเหนื่อยแย่แล้วใช่ไหม” แรงนวดของเซียงหรูยิ่งอยู่ก็ยิ่งดีขึ้น
“ค่อยยังชั่ว” เหยาเยียนอวี่แย้มยิ้ม รับถ้วยชาปาเป่าที่อูเหมยยื่นมาให้จิบเบาๆ หนึ่งคำ
อูเหมยรับถ้วยชาวางลงบนโต๊ะด้านข้าง พลางปูผ้าเช็ดหน้าไว้บนขาแล้วนวดให้เหยาเยี่ยนอวี่
“ก่อนแม่ทัพจากไปก็บอกว่าอีกสามสี่วันจะกลับมา ไม่รู้ว่าวันนี้จะกลับมาหรือยัง” เซียงหรูครุ่นคิดพลางพูด
อูเหมยพูดต่อด้วยยิ้มจางๆ “แม่ทัพบอกว่าสามสี่วัน วันนี้ก็วันที่สาม ต่อให้วันนี้ไม่กลับมา พรุ่งนี้และมะรืนก็น่าจะกลับมาแล้ว”
“พวกเจ้าสองคนพอเถอะ” เหยาเยี่ยนอวี่ยกมือจับเกาทัณฑ์ตรงข้อมือ ค่อยๆ หลับตาลงพิงบนหมอนด้านข้าง รถม้าโยกเยกไปมา เหยาเยี่ยนอวี่พักผ่อนสายตาพลางนึกถึงบุรุษที่มัดเกาทัณฑ์ให้ตนเอง
ตอนรถม้าหยุดกะทันหันอย่างรุนแรง เหยาเยี่ยนอวี่เกือบจะหลับใหลไปแล้ว
การตอบสนองแรกของเซียงหรูคือรีบขยับมาคุ้มกันเหยาเยี่ยนอวี่ อูเหมยก็ปกป้องเหยาเยี่ยนอวี่
“เกิดอะไรขึ้น!” เหยาเยี่ยนอวี่จับเกาทัณฑ์แน่นขึ้น
ด้านนอกเกิดสถานการณ์วุ่นวาย เหล่าทหารต่างตะโกนด้วยความกระวนกระวาย “ปกป้องฮูหยินผู้เฒ่า! ปกป้องฮูหยิน!”
“ปกป้องคุณหนูรอง!”
“ปกป้องฮูหยิน!” เหยาเยี่ยนอวี่ได้ยินเสียงอันโหดเหี้ยมของจ้าวต้าเฟิงดังขึ้นจากนอกรถม้า
เหยาเยี่ยนอวี่ได้ยินเสียงธนูและโล่ที่ดังที่มาพร้อมเสียงตะโกน หัวใจของเหยาเยี่ยนอวี่เต้นแรงจนแทบกระดอนออกมาด้านนอก เซียงหรูและอูเหมยประกบหน้าและหลังของนางไว้ พวกนางตกใจจนเหงื่อท่วมตัว
หลังจากต่อสู้กันไปไม่นาน ฝ่ายตรงข้ามเพียงยิงธนูสร้างสถานการณ์วุ่นวายไปเรื่อย แม้กระทั่งหน้ายังไม่ปรากฎให้เห็นก็หลบหนีไปแล้ว
ที่นี่เป็นเขตนอกเมือง แม้จะมีชาวบ้านอาศัยอยู่ ทว่ากลับไม่ได้ครึกครื้น ถนนทั้งสองฟากเต็มไปด้วยต้นไม้ มีชาวบ้านไม่น้อยที่เพาะปลูกพืชในฤดูใบไม้ผลินี้ เดิมทีคนพวกนี้ปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา พอเห็นว่าไม่อาจชนะการต่อสู้ครั้งนี้ จึงหลบไปในป่าแล้วหายตัวทันที เหล่าทหารรักษาการณ์จะไล่ตามไป จ้าวต้าเฟิงโบกมือ “ไม่ต้องไล่ตามแล้ว! คุ้มกันฮูหยินถึงจะสำคัญที่สุด”
ทุกคนต่างเก็บอาวุธ ทหารที่ได้รับบาดเจ็บต่างแยกย้ายไปทำแผล จ้าวต้าเฟิงรีบเดินไปใกล้รถม้าแล้วถาม “ฮูหยิน! เป็นเช่นไรบ้างขอรับ”