หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 486 ถือโอกาสโต้กลับ (3)
ตอนที่ 486 ถือโอกาสโต้กลับ (3)
แผลจากการเผาไหม้เป็นแผลที่ได้รับบาดเจ็บที่สุด ยิ่งแผลที่กว้างขนาดนี้ก็ยิ่งทุกข์ทรมานมากกว่าเดิม ความทุกข์ทรมานนี้มักจะปลุกผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในตื่นตลอดเวลา ต่อให้อยู่ในสภาพที่สะลึมสะลือก็ยังเป็นทุกข์
เหยาเยี่ยนอวี่ทำได้เพียงใช้การรมยาแบบไท่อี่รักษาความเจ็บปวดให้เขา แล้วยังสั่งให้เซียงหรูใช้น้ำผึ้งทาแผลก่อน จากนั้นค่อยจ่ายยาให้อูเหมยไปเอายาสมุนไพรต่างๆ ที่หลังเรือนเยี่ยนอาน แล้วปรุงยาสดๆ กลางสถานที่รักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
ทางนี้กำลังทำแผลให้เฝิงโหย่วฉุนจนเสร็จ บ่าวไพร่ในจวนส่งคนงานที่ได้รับบาดเจ็บคนอื่นมา ปั้นซย่า ไม่ตง เซียงหรูและอูเหมยต่างเริ่มวุ่นวาย ส่วนสาวใช้และผัวจื่อคนอื่นก็เป็นผู้ช่วย เหยาเยี่ยนอวี่สอนทุกคนบดยาแล้วปรุงยาทาอย่างไร ขณะเดียวกันก็ใช้การรมยาแบบไท่อี่รักษาอาการแสบร้อนของผู้ป่วยแผลสาหัสคนอื่น
นางทำการรักษาเช่นนี้ไปทีละคนจนถึงกลางดึกถึงจะเสร็จสิ้น คิดๆ ดูแล้วตั้งแต่กลับจวนจนถึงตอนนี้ เหยาเยี่ยนอวี่ไม่ได้ดื่มน้ำแม้แต่คำเดียว เสื้อผ้าบนเรือนร่างเปียกโชกด้วยเหงื่อไปนานแล้ว พอมองคนงานได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ในเรือนหลายสิบคน ความโมโหภายในใจก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมาทันที
“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสืบหาสาเหตุของเรื่องนี้อย่างชัดเจน!” เหยาฮูหยินมองผู้ดูแลโรงงานกระจกที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จึงกัดฟันกรอด
“ขอรับ ฮูหยิน” เฝิงโหย่วฉุนผ่านช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานที่สุดแล้ว ได้ยินคำพูดของเหยาเยี่ยนอวี่ เขาที่กำลังนอนคว่ำบนเตียงก็ตอบกลับ “ตามที่บ่าวเห็น สาเหตุของเรื่องนี้ต้องเกิดจากน้ำมือคนแน่นอน ฮูหยินวางใจเถอะ บ่าวต้องสืบหาเรื่องนี้จนน้ำลดตอผุดแน่นอน”
เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้า สายตาจับจ้องไปยังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่ง
คนพวกนี้หยุดร้องทุกข์ทรมานแล้ว บางคนก็หมดแรงจนหลับใหลไปแล้ว ทว่าคนส่วนใหญ่ต่างก็มองนางด้วยความซาบซึ้ง ดีมาก เหยาเยี่ยนอวี่ลอบครุ่นคิดในใจ ถ้ากล้าก็ลอบเข้ามาในจวนฝู่กั๋วสิ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าผู้มีความสามารถ
ชุ่ยเวยและชุ่ยผิงรีบกลับมาจากสำนักแพทย์ และเอายาทาที่ต้องใช้ในวันข้างหน้ามา เซียงหรูรีบเข้ามาจากด้านนอก แล้วตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “ฮูหยิน ท่านเซียวโหวและฮูหยินมาเยือน บ่าวบอกว่าท่านเพิ่งจัดการเสร็จและกำลังจะไปอาบน้ำ…”
“ไป” เหยาเยี่ยนอวี่ไม่ได้ลังเล จึงรีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะสภาพตอนนี้ของนางเจอหน้าใครไม่ได้
เพียงแต่สิ่งที่คาดคิดไม่ถึง เซียวหลินกำลังดื่มชาอยู่ในเรือนข้างส่วนหน้า ส่วนหันหมิงชั่นก็เข้ามาดูเหยาเยี่ยนอวี่ในเรือนเยี่ยนอานโดยตรง เหยาเยี่ยนอวี่เข้าประตูด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพื่อต้อนรับหันหมิงชั่น ภายในใจรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก
“เหตุใดถึงปล่อยให้ตนเองตกอยู่ในสภาพเช่นนี้!” หันหมิงชั่นเดินหน้ามากุมมือเหยาเยี่ยนอวี่ไว้ พร้อมถอนหายใจด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เช้านี้ข้าบอกว่าจะมาเยี่ยมเจ้า ทว่าเมื่อคืนท่านแม่เดินไม่ระวังจนขาพลิก เลยต้องรีบไปดูอาการนาง เพิ่งออกจากประตูตำหนักองค์หญิงก็ได้ยินว่าโรงงานกระจกเกิดเรื่องขึ้น คิดว่าเจ้าต้องรู้สึกกระวนกระวาย ถึงรีบมาเยี่ยมเจ้า…กลับนึกไม่ถึงว่าเจ้ากลับ…เฮ้อ!”
“พี่หัน ข้าไม่เป็นไร ก็แค่เหน็ดเหนื่อยเกินไป” เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มขมขื่นพลางส่ายหน้า
หันหมิงชั่นพลันพูด “ได้ เจ้าไปอาบน้ำก่อนเถอะ ให้สาวใช้นวดไหล่ให้เจ้าหน่อย ข้าสั่งให้ซูอิ่งไปทำอะไรให้เจ้ากินที่โรงครัวเล็กหน่อย”
เหยาเยี่ยนอวี่ไม่ได้เกรงใจหันหมิงชั่น พยักหน้าพลางพยุงแขนของเซียงหรูไปในสุขาที่อยู่ด้านหลัง รอให้นางได้แช่น้ำอุ่นแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา ซูอิ่งก็ทำอาหารพิถีพิถันสี่อย่าง ของว่างสองอย่าง แล้วยังมีน้ำแกงโสมฉงเฉ่าที่หันหมิงชั่นเอามาจากตำหนักองค์หญิงใหญ่
ถึงแม้เหยาเยี่ยนอวี่ไม่อยากกินอาหารอะไรเลย ทว่าเห็นแก่น้ำใจของหันหมิงชั่น เลยดื่มน้ำแกงไปครึ่งถ้วยและของว่างไปสองชิ้น
หันหมิงชั่นปลอบโยนนางไปสองสามคำ แล้วพูดว่า “เรื่องที่เจ้าเจอผู้ร้ายทำร้ายก็มีความน่าสงสัยอยู่แล้ว วันนี้โรงงานกระจกเกิดเรื่องอีก ทำให้เห็นได้ชัดว่ามีคนจ้องทำหาเรื่องเจ้า ท่านโหวบอกว่าจะไปสืบเรื่องที่เกิดในโรงงานกระจกเอง เรื่องนี้เกรงว่าคงไม่ได้ผลสรุปทันทีหรอก ตอนนี้ข้าแค่กังวลความปลอดภัยของเจ้า ข้างกายข้ามีสาวใช้ที่เป็นวรยุทธ์อยู่สี่คน จะให้มาติดตามเจ้าสองคนก่อน ประเดี๋ยวข้าจะเลือกคนที่เหมาะสมมาให้เจ้า”
“ทางฝั่งพี่หันก็ต้องการคนดูแลเช่นกัน ที่ข้ายังมีทหารคอยคุ้มกันอยู่”
“เจ้าเป็นอะไรไปข้าก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไร ข้าย่อมปลอดภัยกว่าเจ้าอยู่แล้ว พวกเขาคะนึงถึงฐานะของข้าก็คงไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก เจ้าน่ะ! ไม่รู้จักดูแลตัวเองเลยจริงๆ เสี่ยนจวินก็เป็นคนหยาบกระด้าง รู้แต่ยุ่งกับงานทางการทหารของเขา ไม่มีทางใส่ใจเรื่องพวกนี้ของเจ้าหรอก” หันหมิงชั่นพูดไป ก็หันไปเรียกคนที่อยู่ด้านนอก “พวกเจ้าสองคนเข้ามาเถอะ”
ประตูม่านดังขึ้น สตรีร่างผอมบางสองคนเข้ามาด้านใน
เหยาเยี่ยนอวี่มองพวกนางสองคนมีหน้าตาที่ธรรมดา เครื่องแต่งกายก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก มีเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้คนตกตะลึงก็คือสตรีทั้งสองคนนี้กลับมีหน้าตาคล้ายคลึงกันมาก นอกจากหนึ่งคนที่มีไฝแดงจางๆ อยู่ตรงหางคิ้วแล้ว ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
“สองคนนี้เป็นฝาแฝดกัน” หันหมิงชั่นชี้ไปยังคนที่มีไฝแดงตรงหางคิ้วแล้วพูด “นางนามว่าอวี้กั่วเป็นพี่สาว นั่นเป็นน้องสาวนามว่าไป๋โค่ว พวกนางสองคนเป็นคนซีหนาน เป็นสตรีกล้าหาญชาญชัย ดังนั้นข้าถึงได้ตั้งชื่อเช่นนี้ให้พวกนาง หากน้องสาวไม่โปรดปราน ก็เปลี่ยนชื่อเถอะ”
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ โต้วโค่วมีทั้งสีขาวและสีแดง โต้วโค่วสีแดงตั้งชื่อเป็นอวี้กั่ว ส่วนโต้วโค่วสีขาวเรียกว่าไป๋โค่ว ไม่ใช่ว่าทั้งหอมและเผ็ดหรือไร ดังนั้นพูดขึ้นยิ้มๆ “ชื่อนี้ดีมากแล้ว ข้าชอบ ไม่ต้องแก้หรอก” พูดไป ก็ลุกขึ้นเดินไปล้อมคำนับให้หันหมิงชั่น “ขอบคุณพี่สาวมาก”
“เจ้ายังเป็นเช่นนี้กับข้าอีกหรือ!” หันหมิงชั่นยื่นมือดึงนางมานั่งข้างๆ แล้วสั่งอวี้กั่วและไป๋โค่ว “วันข้างหน้าเหยาฮูหยินก็คือนายหญิงของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้านสองคนต้องดูและคุ้มกันอย่างใกล้ชิด ปรนนิบัตินางเหมือนข้า ห้ามคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”
สตรีทั้งสองรีบคุกเข่าลงต่อหน้าเหยาเยี่ยนอวี่ พลางพูดด้วยเสียงพร้อมเพรียง “บ่าวสาบานว่าจะคุ้มกันฮูหยินเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ”
เหยาเยี่ยนอวี่รีบพูดขึ้น “ลุกขึ้นเถอะ วันหลังติดตามข้าแล้ว พวกเจ้าสองคนไม่ต้องกลัวว่าไม่มีเวลาว่าง”
“ขอบคุณฮูหยินที่เอ็นดูเจ้าค่ะ การรับใช้ฮูหยินเป็นหน้าที่ของบ่าว” ทั้งสองก้มกราบเหยาเยี่ยนอวี่สามครั้ง ถือว่านับเป็นนายหญิงแล้ว จากนั้นถึงจะลุกขึ้น
เหยาเยี่ยนอวี่หันไปแล้วกำลังจะขอบคุณหันหมิงชั่น นอกประตู จู่ๆ ก็มีสาวใช้พูดด้วยความตกใจ “ท่านแม่ทัพกลับมาแล้วเจ้าค่ะ! เอ่อ น้อมคำนับท่านโหว”
ทางฝั่งนี้ต่างก็ตะลึงงัน ม่านประตูเลิกขึ้น เว่ยจางสาวเท้าเข้าไป พอเห็นหันหมิงชั่นก็พยักหน้าเท่านั้น แล้วจับจ้องไปที่เหยาเยี่ยนอวี่ สายตาไม่ละไปทางอื่นแม้แต่น้อย เซียวหลินที่ติดตามเข้ามาทีหลังก็ยิ้มให้หันหมิงชั่น “เรื่องของฮูหยินเสร็จหรือยัง พวกเราควรกลับได้แล้ว”
หันหมิงชั่นลุกขึ้นไปหาเซียวหลินด้วยรอยยิ้มเบิกบาน กลับหันไปมองเหยาเยี่ยนอวี่ เหยาเยี่ยนอวี่ถูกสายตาที่แผ่วร้อนของเว่ยจางจ้องจนหวาดผวา พร้อมลุกขึ้นยืนพลางเอ่ยถามด้วยความซื่อตรง “แม่ทัพกลับมาแล้วหรือ กินมื้อค่ำหรือยัง”
เว่ยจางมองหันหมิงชั่นอีกครั้ง แล้วไม่พูดไม่จาเหมือนเดิม
หันหมิงชั่นหลุดยิ้ม “เอาเถอะ เวลาก็สายมากแล้ว ข้าก็ควรกลับแล้ว”
“ข้าไปส่งพี่หันเอง” เหยาเยี่ยนอวี่เหลือบตามองเว่ยจางด้วยความประหลาดใจ คนคนนี้ไม่แม้แต่ทักทายคนอื่นเช่นนี้ ช่างไร้มารยาทยิ่งน!
เว่ยจางเม้มปากแน่นแล้วโค้งลำตัวลงให้หันหมิงชั่น ถือว่าเป็นการส่งนางแล้ว เซียวหลินพยุงหันหมิงชั่นออกประตูเรือน หันหมิงชั่นรีบหันกลับไปพลางผลักเหยาเยี่ยนอวี่หนึ่งที พร้อมพูดด้วยเสียงเบา “คนเขาคงจะเป็นห่วงเจ้าน่าดู เจ้ารีบกลับไปปลอบเขาหน่อยเถอะ ข้าไปแล้ว”