หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 488 ประลองฝีมือลับๆ (2)
ตอนที่ 488 ประลองฝีมือลับๆ (2)
ซานหูพลันพยักหน้าตอบกลับ “บ่าวเข้าใจแล้ว ฮูหยินวางใจเถอะเจ้าค่ะ”
เหยาเฟิ่งเกอกำชับด้วยเสียงทุ้มต่ำอีกครั้ง “รีบไปรีบกลับเถอะ หากน้องสาวไม่อยากพูดเรื่องบางอย่าง เจ้าก็ดูว่าจะไปสืบเรื่องนี้จากฮูหยินรองแม่ทัพเฮ่อได้หรือไม่ ถามสถานการณ์ตอนนี้ว่าเป็นเช่นไรกันแน่ บอกว่าข้ายังอยู่ในช่วงไว้อาลัย ตอนนี้ออกไปไหนมาไหนไม่ได้ เลยช่วยอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเงินแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้อีก”
ซานหูพลันตอบกลับ หมุนตัวออกไปด้านนอกทันที กลับเจอกับเฟิงฮูหยินน้อยที่เดินมาอย่างเร่งรีบ ดังนั้นเลยรีบโค้งคำนับ “ฮูหยินมาแล้วหรือ”
“เจ้ารอเดี๋ยวเดียว” เฟิงฮูหยินน้อยรั้งซานหูไว้ แล้วเดินไปด้านใน
เหยาเฟิ่งเกอลุกขึ้นไปต้อนรับแล้ว พอเห็นหีบที่เฟิงฮูหยินน้อยอุ้มไว้ จึงเอ่ยถาม “พี่สะใภ้ใหญ่มีเรื่องอะไรหรือ”
“ข้าได้ข่าวว่าโรงงานกระจกของน้องรองเกิดเรื่องแล้ว” เฟิงฮูหยินน้อยพูดไป ก็ถอนหายใจเบาๆ พลางวางหีบไว้บนโต๊ะ “ที่ข้ามีของสะสมไม่มาก แต่ก็ถือว่าสินน้ำใจของข้า”
เหยาเฟิ่งเกอพลันพูด “ขอบคุณสำหรับความหวังดีของพี่สะใภ้ใหญ่ เพียงแต่ว่าตอนนี้ข้าก็ไม่รู้สถานการณ์ว่าเป็นเช่นไร หรือไม่ก็อาจไม่ต้องใช้เยอะขนาดนี้ มิเช่นนั้นให้พี่สะใภ้ใหญ่กลับไปก่อนเถอะ หากต้องการใช้จริงๆ ข้าจะขอพี่สะใภ้ใหญ่อีกครั้ง”
“ไม่ว่านางได้ใช้หรือไม่ นี่ก็ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ ของข้า ก็ไม่ได้มากเท่าใด” เฟิงฮูหยินน้อยพูดไป ก็เปิดหีบพวกนั้นออก จากนั้นก็เอาเครื่องประดับและตั๋วเงินออกมาหนึ่งปึก
เหยาเฟิ่งเกอกวาดสายตามองไป ของเหล่านี้อย่างน้อยก็มีมูลค่าหมื่นตำลึงอยู่แล้ว ดังนั้นจึงพูดอย่างเกรงใจ “ให้ซานหูเอาตั๋วเงินไป ส่วนเครื่องประดับก็เอาไว้ก่อนเถอะ หากนางต้องการจริงๆ ข้าจะเอ่ยขอกับพี่สะใภ้ใหญ่เอง”
เฟิงฮูหยินน้อยเห็นเหยาเฟิ่งเกอดื้อดึงเช่นนี้ ทำได้เพียงตกลง เหยาเฟิ่งเกอนำตั๋วเงินขึ้นมาดู มีจำนวนทั้งหมดหกพันตำลึง พอรู้จำนวนเงินในใจแล้ว เหยาเฟิ่งเกอก็ยืนไปให้ซานหูทันที “เจ้าไปถึงก็บอกน้องรองว่านี่เป็นน้ำใจจากเฟิงฮูหยินน้อย หากยังไม่พอ ก็ให้นางบอกมาตรงๆ”
ซานหูตอบกลับพลางรับตั๋วเงินทันไว้ จากนั้นโค้งคำนับให้ทั้งสอง “หากเฟิงฮูหยินน้อยและฮูหยินไม่มีอะไรแล้ว บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”
เหยาเฟิ่งเกอพยักหน้า “ไปเถอะ รีบไปรีบกลับ ดูว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรกันแน่ กลับมารายงานพวกเราที จะได้สบายใจหน่อย”
เห็นซานหูออกไป เฟิงฮูหยินน้อยก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา “นึกไม่ถึงจริงๆ อยู่ดีๆ เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร! เกรงว่าคงมีคนอิจฉา ถึงได้เล่นสกปรกลับๆ เช่นนี้หรือเปล่า”
เหยาเฟิ่งเกอเปรยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “บอกแน่นอนไม่ได้เลยจริงๆ ท่านย่าและท่านแม่ของข้ามาเมืองหลวง ยังไม่ทันเข้าเมืองก็เจอผู้ร้าย ตอนนี้แม้แต่ผู้ร้ายคนเดียวยังหาไม่เจอ โรงงานกระจกของน้องสาวก็เกิดเรื่องขึ้นอีก ว่าไปแล้วเรื่องนี้ช่างน่าแปลกนัก”
“เพียงแต่เสียดายที่ตอนนี้ตระกูลพวกเราเป็นเช่นนี้ ก็ช่วยสืบหาความจริงไม่ได้” เฟิงฮูหยินน้อยจนหนทางจริงๆ “ทว่าใต้เท้าเหยาเป็นขุนนางระดับหนึ่งในราชสำนัก ฝ่าบาทคงไม่นั่งนิ่งดูดายกับเรื่องนี้หรอก”
ทางฝั่งเฟิงฮูหยินและเหยาเฟิ่งที่กำลังนั่งถอนหายใจกัน ตรงมุมสงบในสวนบุษบาหลังจวนโหว เฟิงซิ่วอวิ๋นและซุนฮูหยินน้อยกำลังนั่งพูดคุยความในใจ
“พี่สาวกลับนำเงินหลายพันตำลึงให้เหยาเยี่ยนอวี่ แล้วยังมีเครื่องประดับที่นางยังไม่กล้านำออกมาสวมใส่ในวันปกติให้เหยาเยี่ยนอวี่อีก” เฟิงซิ่วอวิ๋นพร่ำบ่นด้วยความประหม่า “ไม่รู้จริงๆ ว่าพี่สาวไปติดค้างอะไรกับนาง กลับปฏิบัติดีกับนางเช่นนี้”
ซุนฮูหยินน้อยคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “คำพูดนี้เจ้ากล่าวได้ไม่ถูกต้องแล้ว ตอนนั้นเฟิงฮูหยินน้อยแท้งบุตรและเกือบจะสิ้นใจไป แต่ยังดีที่มีหมอหลวงเหยาช่วยชีวิตนางไว้ ตอนนี้ให้เงินนางเพียงไม่กี่พันตำลึงก็ถือว่าไม่มากแล้ว”
เฟิงซิ่วอวิ๋นยิ้มจางๆ พลางพึมพำ “ไม่ใช่ว่านางได้รับการตอบแทนแล้วหรือไร ไม่เพียงแต่ฝั่งนี้ แม้กระทั่งฮูหยินของตระกูลข้ายังเคยส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้นางไปแล้ว บุญคุณครั้งนี้ ชาตินี้ก็จะตอบแทนไม่หมดเลยหรือ”
“นี่ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” ซุนฮูหยินน้อยยิ้มเหมือนกำลังมีความสุขบนความทุกข์คนอื่น “ไม่ใช่ของของเจ้า เจ้าจะเสียดายไปไยกัน”
“ข้ามีอะไรน่าเสียดายเล่า” เฟิงซิ่วอวิ๋นยกมือลูบท้องน้อยที่ยังไม่โต พลางเปรยว่า “ข้าเพียงแต่เศร้าใจแทนบุตรชายที่น่าสงสารของข้าเท่านั้น”
ซุนฮูหยินน้อยมองท้องของเฟิงซิ่วอวิ๋นเพียงปราดเดียวพลางยิ้มจางๆ “ก็ถูกของเจ้า ตอนเจ้าแต่งเข้าจวนก็ตกลงกันไว้แล้ว หากมีบุตรชายก็ต้องกลายเป็นบุตรที่อยู่ภายใต้การดูแลของฮูหยิน เมื่อเป็นเช่นนี้ ฮูหยินก็คือมารดาผู้ให้กำเนิดของเด็กคนนี้ ทรัพย์สินของนางนอกจากให้เป็นสินเดิมเจ้าสาวของยัยหนูอวิ๋นในภายภาคหน้าแล้ว ทุกอย่างล้วนตกเป็นของบุตรชายของเจ้า”
เฟิงซิ่วอวิ๋นเม้มปากไม่พูดไม่จา คำพูดของเฟิงฮูหยินน้อยแทงใจนางมาก เพียงแต่ว่าเรื่องที่นางกลุ้มใจ ไม่ได้มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว
เฟิงฮูหยินน้อยมองสีหน้าของนาง พลางพูดยิ้มๆ “จริงๆ ข้าแค่อยากเตือนเจ้าว่าอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป สกุลเฉินก็มีอายุครรภ์เท่าเจ้า ไม่แน่นางอาจจะคลอดบุตรก่อนเจ้าก็ได้ หากนางได้บุตรชายก่อนเจ้า เกรงว่าฮูหยินคงไม่สนใจทารกในครรภ์ของเจ้าแล้ว”
เฟิงซิ่วอวิ๋นยิ้มจางๆ “นี่คงเป็นไปไม่ได้หรอก สกุลเฉินย่อมไม่มีทางเหนือกว่าข้าอยู่แล้ว” นางเป็นอนุภรรยาที่ได้รับการแต่งตั้ง ฐานะต่ำต้อยกว่าภรรยาเอกเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนสกุลเฉินเป็นเพียงอนุภรรยาไร้ศักดินา ต้นตระกูลเป็นเพียงพ่อค้า จะมีดีกว่าตระกูลเฟิงได้อย่างไร
ซุนฮูหยินน้อยพูดยิ้มๆ “ว่าด้วยฐานะนางคงไม่อาจเทียบเทียมกันเจ้าอยู่แล้ว ทว่าหากว่านางมีบุตรชาย แล้วเจ้ามีบุตรี…”
เฟิงซิ่วอวิ๋นไม่รอให้ซุนฮูหยินน้อยพูดจบก็เงยหน้ามองนางทันที พร้อมปั้นหน้าไม่พอใจ “ไม่มีทาง!”
ซุนฮูหยินน้อยยกยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร เฟิงซิ่วอวิ๋นก็รู้สึกว่าตนเองทำเกินไป จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นลง “มารดาของข้าให้คนดูฤกษ์แล้ว วันที่ข้าตั้งครรภ์เป็นฤกษ์มีบุตรชาย”
“จริงหรือ เช่นนั้นก็ยินดีกับเจ้าด้วย” ซุนฮูหยินน้อยยิ้มจางๆ สายตาเคล้าด้วยการเยาะเย้ย คำพูดแสดงความยินดีนี้ฟังแล้วเย้ยหยันยิ่งนัก
สีหน้าของเฟิงซิ่วอวิ๋นแปรเปลี่ยนไป ท้ายที่สุดก็ยังไม่พูดไม่จา
“พอเถอะ พวกเรานั่งนานแล้ว ควรกลับได้แล้ว” ซุนฮูหยินน้อยยืนขึ้นพลางยิ้มจางๆ “หลายวันมานี้เซวียนเอ๋อร์ร้องไห้ไว้อาลัยจนเสียงแหบแล้ว ข้าต้องกลับไปต้มน้ำสมุนไพรให้เขาดื่มชุ่มคอหน่อยแล้ว”
เฟิงซิ่วอวิ๋นเป็นเพียงอนุภรรยาผู้สูงศักดิ์ คงเทียบกับซุนฮูหยินน้อยที่เป็นภรรยาเอกไม่ได้อยู่แล้ว พอเห็นนางลุกขึ้น ก็ยืนขึ้นพลางโค้งคำนับเล็กน้อย “ฮูหยินน้อยรองกลับดีๆ ข้าก็ควรกลับแล้วเหมือนกัน”
ซุนฮูหยินน้อยสะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือหนึ่งที พลางทิ้งท้ายคำหนึ่ง “ไว้เจอกันใหม่” จากนั้นก็เดินจากไปตามลำพัง เฟิงซิ่วอวิ๋นยืนอยู่ที่นั่นจนกว่าไม่เห็นเงาของนาง ถึงจะถ่มน้ำลายหนึ่งครั้ง หันหลังเดินกลับทางเดิม
ตำหนักองค์หญิงคังผิง ณ ลานขนาดเล็กที่อยู่ในเรือนทิศตะวันตก
องค์หญิงคังผิงกำลังดูหมอหลวงทายาให้หัวแก้วหัวแหวนในเรือนของหยาจวิ้น บาดแผลบนใบหน้าของหยาจวิ้นแทบจะมองไม่เห็นแล้ว ยาสมานแผลภายนอกของหมอหลวงเหยาดียิ่งนัก เพียงผ่านไปสี่ห้าวัน แผลของเขาก็หายดีแล้ว แทบจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นใดๆ ไว้ด้วย
แต่กระดูกข้อมือและน่องเล็กนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก
หมอหลวงให้ใช้ยาทาของสำนักหมอหลวง องค์หญิงคังผิงทรงรับสั่งโดยตรง แน่นอนว่าต้องให้ยาที่ดีที่สุดอยู่แล้ว และหลายวันผ่านไป ข้อมือของหยาจวิ้นยังคงบวมเหมือนหมั่นโถว น่องขาก็บวมแดงอยู่ หลายวันผ่านไปก็ยังไม่หายปวด ทั้งยังปวดหนักกว่าเดิมจนนอนไม่หลับ