หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 521 เหนือการคาดหมาย (3)
ตอนที่ 521 เหนือการคาดหมาย (3)
ตอนที่เหยาเยี่ยนอวี่เห็นเสื้อผ้าของตนเองก็อดตะลึงงันไม่ได้ ภายในใจคิดว่าบิดาคงรู้เรื่องทางฝั่งนี้แล้ว ดังนั้นถึงได้ให้คนคิดหาวิธีส่งเสื้อผ้าพวกนี้เข้ามาที่นี่ แค่ไม่รู้ว่าบิดาและพี่รองจะเร่งรีบเช่นนี้ พอคิดๆ ดูแล้วก็ควรหาวิธีส่งสารให้คนในตระกูลสบายใจหน่อย
ตอนที่กำลังลังเล เว่ยจางก็เข้ามาจากด้านนอก เห็นเหยาเยี่ยนอวี่ที่กำลังถือเสื้อผ้าแล้วเหม่อลอยอยู่ จึงสั่งให้นางกำนัลที่อยู่ด้านข้างออกไป พร้อมพูดด้วยเสียงต่ำ “เจ้าวางใจเถอะ ข้าติดต่อกับพ่อตาแล้ว จวนเหยาและจวนแม่ทัพมีเขาคอยดูแล ต้องไม่เกิดอะไรขึ้นอยู่แล้ว เจ้าแค่รักษาฝ่าบาทให้สุดความสามารถ ส่วนเรื่องอื่นก็ไมจำเป็นต้องไปใส่ใจ”
เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้า วันนี้ทุกอย่างชัดเจนอย่างมาก หากรักษาฮ่องเต้จนหาย นางคงจะมีชีวิตที่ดีมาก หากรักษาไม่หาย เกรงว่าชีวิตของทั้งตระกูลคงไม่สงบสุข
“ข้าจะไปดูพระอาการของฝ่าบาท เมื่อคืนใครเฝ้าหรือ”
“จางจือหลิง ย่วนลิ่ง เมื่อคืนองค์หญิงใหญ่เสด็จมา ทว่าตอนนั้นเจ้าหลับไปแล้ว องค์หญิงใหญ่เลยไม่ให้คนไปรบกวนเจ้า” เว่ยจางยกมือสวมชุดคลุมสีชมพูฟ้าด้านนอกให้เหยาเยี่ยนอวี่ ขณะคาดที่คาดเอวก็พูดว่า “เมื่อคืนข้าก็เฝ้าอยู่ข้างกายฝ่าบาท ฝ่าบาทหลับอย่างสงบ ลมหายใจทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้เยอะ การรักษาของเจ้าน่าจะเห็นผล ไม่ต้องเร่งรีบหรอก ทำในสิ่งที่ทำได้ก็พอแล้ว”
“ข้าเข้าใจแล้ว” เหยาเยี่ยนอวี่กุมมือเว่ยจาง รับเสียงเบา
“ไป ข้าจะไปส่งเจ้า” ถึงแม้เว่ยจางไม่ได้หลับทั้งคืน ทว่าก็ไม่เห็นว่าเขาจะเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย นี่ทำให้อารมณ์ของเหยาเยี่ยนอวี่สงบนิ่งมากขึ้น
เห็นเหยาเยี่ยนอวี่เดินเข้ามา เจิ้นกั๋วกงก็ถอนหายใจเบาๆ “หมอหลวงเหยาตื่นเช้าจริงๆ”
“เหยาเยี่ยนอวี่ถวายบังคมท่านอ๋องและท่านกั๋วกงเพคะ” ไม่ว่าเวลาใด ก็ควรทำความเคารพ
“ลุกขึ้นเถอะ เข้าไปจับชีพจรให้ฝ่าบาทก่อนเถอะ” เฉิงอ๋องยกมือ แล้วพูดขึ้น
“เพคะ” เหยาเยี่ยนอวี่เดินหน้าทูลกลับ คุกเข่าลงจับชีพจรให้ฮ่องเต้ตรงหน้าตั่งไม้
อาการของชีพจรดีขึ้นก่อนหน้านี้จริงๆ แต่ยังไม่ค่อยสู้ดีนัก ดูเหมือนว่าวันนี้คงจะยังฟื้นขึ้นมาไม่ได้! สีหน้าของเหยาเยี่ยนอวี่ค่อยๆ เคร่งขรึม นี่ควรทำอย่างไรดี
“ใต้เท้าเหยา เป็นเช่นไรบ้างแล้ว” จางจือหลิงยังตื่นเต้นกว่าเหยาเยี่ยนอวี่ ราวกับว่าหากฮ่องเต้ไม่ฟื้นขึ้นมาจริง ท่านอ๋อง ท่านกั๋วกง และเหล่าองค์ชาย รวมไปถึงฮองเฮาจะนำตัวเขาไปสังหาร
“ข้าจะฝังเข็มให้ฝ่าบาทต่อ” เหยาเยี่ยนอวี่พูดไป ก็เอากระเป๋าเข็มเงินออกมา เปลี่ยนเป็นเข็มเงินหัวแบน หลังจากใช้สำลีเช็ด พลางมองพระพักตร์ของฮ่องเต้ที่กำลังหลับใหล ก็เปลี่ยนเป็นฝังเข็มตรงจุดขมับ
สำหรับความอัศจรรย์ของการฝังเข็มแบบไท่อี่ ล้วนเป็นที่นับถือของคนในสำนักหมอหลวงทั้งหมดในแคว้นต้าอวิ๋น อีกอย่างหมอหลวงอาวุโสที่มีความรู้สึกทางการแพทย์อย่างลึกซึ้งแล้ว ก็ยิ่งเคารพนับถือในวิชานี้ จางจือหลิงก็คือหนึ่งในหมอหลวงอาวุโส
การฝังเข็มครั้งนี้ยาวนานกว่าเมื่อวานสองเท่า
เมื่อคืน ก่อนที่เหยาเยี่ยนอวี่จะหลับก็ได้ดื่มยาต้มอันเซิน จึงหลับสนิทเป็นพิเศษ ดังนั้นวันนี้จึงมีชีวิตชีวามาก มีกำลังภายในอย่างล้นหลาม อีกอย่าง ถึงแม้วันนี้นางจะทำอย่างสุดความสามารถก็รักษาฮ่องเต้ให้หายไม่ได้ แต่นางก็ทำสุดความสามารถแล้ว
หลังจากดึงเข็มกลับ ร่างกายเหยาเยี่ยนอวี่ก็เข้าสู่สภาพที่เหน็ดเหนื่อยอีกครั้ง เฉิงอ๋องสั่งให้ไหวเอินยกโสมร้อยปีสูตรเข้มข้นมาหนึ่งถ้วย
ตอนที่องค์หญิงใหญ่หนิงหวาเสด็จมาเยี่ยมฮ่องเต้ ฮองเฮาก็กำลังมาพอดี ทั้งสองเจอกันตรงหน้าประตูตำหนัก องค์หญิงใหญ่หนิงหวาค้อมตัวเล็กน้อย แล้วขานเรียก “พี่สะใภ้”
“น้องหนิงหวา” สีพระพักตร์เฟิงฮองเฮาไม่ค่อยดูดีนัก เหตุเพราะพระชันษามากและมีเรื่องกลุ้มพระทัยมากมาย รวมไปถึงหลายวันมานี้บรรทมไม่ค่อยสนิทและเสวยไม่ค่อยลง แล้วสีพระพักตร์จะดีได้อย่างไรกัน
“สีพระพักตร์ของพี่สะใภ้ไม่ค่อยสู้ดีนัก เสด็จพี่ทรงประชวร ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของราชสำนัก พี่สะใภ้ยังต้องดูแลแคว้นต้าอวิ๋น รักษาพระวรกายให้แข็งแรงจึงสำคัญที่สุด” องค์หญิงใหญ่หนิงหวากล่าว
ฮองเฮาไม่ได้บีบบังคับใครเหมือนเมื่อวานแล้ว เหตุเพราะที่นี่มีบิดารักษาการณ์ด้วยตนเอง ตอนนี้นางจึงกลายเป็นกุลสตรีที่มีจิตใจงดงาม จึงแย้มพระสรวลเบาๆ “องค์หญิงใหญ่กล่าวถูก ทว่าฝ่าบาทรับโองการสวรรค์ ย่อมเกษมล้ำยิ่งฟ้าอยู่แล้ว ครั้งนี้เป็นเพียงภัยพิบัติเล็กๆ เท่านั้น มีหมอหลวงเหยาอยู่ ฝ่าบาทต้องฟื้นวันนี้แน่นอน องค์หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วง”
องค์หญิงใหญ่หนิงหวาตะลึงงัน ด้วยเหตุนี้จึงถาม “เหยาเยี่ยนอวี่ทูลว่าเสด็จพี่จะฟื้นวันนี้หรือ”
ฮองเฮายิ้มจางๆ แล้วไม่ได้ตรัสอะไรต่ออีก
จางชางเป่ยเดินมาจากด้านหลังพอดี จึงถวายบังคมให้ฮองเฮาและองค์หญิงใหญ่หนิงหวา หลังจากนั้นก็ทูลด้วยเสียงดังกังวาน “เมื่อครู่กระหม่อมได้ยินองค์หญิงใหญ่ถามไถ่เกี่ยวกับพระอาการของฝ่าบาท เป็นเช่นนี้ เมื่อวานกระหม่อมทูลว่า หากกระหม่อม จางย่วนลิ่งและหมอหลวงเหยาร่วมมือกันรักษา ฝ่าบาทอาจทรงฟื้นขึ้นมาในวันนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“ที่แท้จางย่วนลิ่งเป็นคนทูลนี่เอง” องค์หญิงใหญ่หนิงหวาทอดพระเนตรไปยังฮองเฮาเพียงชั่วพริบตา แล้วตรัสเสียงเรียบ “จางย่วนลิ่งปรนนิบัติฝ่าบาทสามสิบกว่าปี พระวรกายของฝ่าบาทเป็นเช่นไร ก็คงจะรู้ดีที่สุดอยู่แล้ว”
ฮองเฮามองจางชางเป่ยด้วยความตะลึงงัน แล้วถามว่า “จางย่วนลิ่งก็ฝึกการฝังเข็มแบบไท่อี่กับศิษย์ที่รักของเจ้าด้วยหรือ
จางย่วนลิ่งไม่ได้ฟังคำพูดเย้ยหยันของฮองเฮาเลย แค่ยิ้มจางๆ แล้วประสานมือคารวะ “ฮองเฮาเหนียงเหนียง องค์หญิงใหญ่ หากไม่มีสิ่งใดจะบัญชาแล้ว กระหม่อมอยากเข้าไปดูพระอาการของฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”
“ไปเถอะ” องค์หญิงใหญ่หนิงหวาพูดขึ้นก่อน
ฮองเฮายังอยากจะเย้ยหยันสองสามคำ กลับถูกคำพูดของหนิงหวาขัด จางชางเป่ยเกียจคร้านมองสตรีสองคนทะเลาะเบาะแว้งกัน จึงค้อมลำตัวเข้าไปในตำหนักใหญ่
เหยาเยี่ยนอวี่พยุงมือชุ่งผิงเดินออกมาจากด้านใน จึงเดินสวนจางฉางเป่ยพอดี จางฉางเป่ยเห็นสีหน้าของเหยาเยี่ยนอวี่ก็รู้ว่านางฝังเข็มให้ฝ่าบาทอีกแล้ว ดังนั้นจึงถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่”
“อาจารย์วางใจเถอะ” เหยาเยี่ยนอวี่ส่ายหน้าเบาๆ ฮ่องเต้ยังไม่ฟื้น นางยังไม่กล้าหมดสติไปก่อน
จางฉางเป่ยถอนหายใจเบาๆ ผายมือให้เหยาเยี่ยนอวี่รีบไปพักผ่อน ตนเองเลิกมุ้งขึ้นมองฮ่องเต้
วันนี้ผ่านไปโดยที่ทุกคนรู้สึกกระวนกระวายใจ ส่วนเหยาเยี่ยนอวี่ก็เหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก
เมื่อเห็นแสงอัสดง ดวงอาทิตย์กำลังลับฟ้า ความมืดเริ่มคืบคลายเข้ามา ฮองเฮาเหนียงเหนียงที่นิ่งเงียบมาทั้งวันก็เริ่มตรัสเสียที “เหตุใดฝ่าบาทถึงยังไม่ฟื้น จางชางเป่ยล่ะ”
จางชางเป่ยขานรับ “กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”
“เมื่อใดฝ่าบาทถึงจะฟื้น ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้บอกว่าวันนี้จะฟื้นขึ้นมาหรือ ตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้ว! อีกอย่างเปิ่นกงเห็นหมอหลวงเหยาไม่มีกำลังแล้วยังจะฝังเข็มให้ฝ่าบาทอีกหรือ” สายพระเนตรอันเย็นชาของเฟิงฮองเฮากวาดไปยังองค์หญิงใหญ่หนิงหวาเพียงปราดเดียว สายพระเนตรดูยั่วยุชวนโมโห
องค์หญิงใหญ่หนิงหวาไม่ได้เงยพระพักตร์ ไม่ได้สนใจการยั่วยุของฮองเฮาแม้แต่น้อย ในมุมมองของนาง ฮ่องเต้จะฟื้นขึ้นมาในคืนนี้ พรุ่งนี้หรือมะรืนก็เช่นเดียวกัน ฝ่าบาทแค่ฟื้นขึ้นมาภายในสิบวันก็พอ ทุกอย่างคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ต่อให้เฟิงฮองเฮาอยากถือโอกาสหาเรื่อง ก็ต้องดูว่าตระกูลเฟิงของพวกนางมีปัญญาเช่นนั้นไหม