หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 526 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย (4)
ตอนที่ 526 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย (4)
เจิ้นกั๋วกงก็คล้อยตามกันไป “เฉิงอ๋องตรัสได้ถูก ฝ่าบาทได้โปรดทรงพระอนุญาตให้หมอหลวงเหยาไปพักฟื้นร่างกายที่นอกเมืองเถอะ หากร่างกายของหมอหลวงเหยาดีขึ้น ถึงจะรักษาพระเนตรของฝ่าบาทได้”
“เหยาเยี่ยนอวี่ไปพักฟื้นร่างกายเถอะ แค่ว่าเว่ยจางจะไปด้วย…” ไท่สื่อลิ่งเหลียงซือเชียนที่ไม่ได้พูดอะไรตลอดมาก็พูดอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ “แม่ทัพเว่ยเป็นแม่ทัพฝู่กั๋ว มีหน้าที่ดูแลทหาร เขาขอลากิจเช่นนี้…เหมือนไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่า”
หันซังเกอได้ยินคำพูดนี้ก็หันกลับไป พอเห็นสายตาของเหลียงซือเชียนเป็นประกาย จึงพูดด้วยเสียงเรียบ “ใต้เท้าเหลียง เฉิงอ๋องคอยดูแลเรื่องทางการทหารอยู่แล้ว ภายในใจของท่านอ๋องรู้ดี ใต้เท้าไม่ต้องกังวลใจไป”
“หน้าที่ของเว่ยจางในค่ายทหาร น้องเจ็ดหาคนมารับหน้าที่แทนชั่วคราวเถอะ หากเจิ้นแค่อนุญาตให้หมอหลวงเหยาไปพักฟื้นตัวตามลำพัง เกรงว่าแม่ทัพใหญ่ของเจิ้นก็คงไม่มีสมาธิทำงานในค่ายทหารต่อ ให้เขาไปด้วยกันไม่ดีกว่าหรือ” ฮ่องเต้กลับได้รับการเตือนสติจากเหลียงซือเชียน
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทได้โปรดวางพระทัยเถอะ กระหม่อมต้องจัดการให้เหมาะสมแน่นอน” ท่านอ๋องตอบกลับไป ก็เหลือบสายตาเย็นชาใส่เหลียงซือเชียน คนคนนี้วางแผนได้ดียิ่งนัก แค่นึกว่าทำเช่นนี้แล้วจะถีบเว่ยจางออกมาวงการทหารหรือไร
ฮ่องเต้ทรงพระราชทานราชานุญาตให้เหยาเยี่ยนอวี่ไปพักฟื้นร่างกายนอกเมืองหลวง เว่ยจางรู้สึกดีใจยิ่ง เขาวางธุระทางการทหารไปเลยทีเดียว คิดดูว่าตั้งแต่ที่พวกเขาแต่งงานกันมา ไม่ว่าตัวเขาที่ยุ่งจนไม่ค่อยอยู่ในจวน ก็เป็นฮูหยินที่ยุ่งจนหายตัวไปเลย ทั้งสองแทบจะไม่มีเวลาให้เวลาด้วยกัน
ข้าวใหม่ปลามันคู่อื่นยังมีเวลาได้ใช้ชีวิตร่วมกันที่จวน พวกเขาสองคนรู้แต่ยุ่งกับเรื่องงานด้านนอก วันนี้ ท้ายที่สุดก็ได้ใช้ชีวิตที่สงบสุข โดยไม่ต้องคอยกังวลราชกิจแล้ว
เว่ยจางก็ไม่ได้คิดจะไปไกลมาก แค่จะไปเหยาเยี่ยนอวี่ไปบ้านสวนวัวจวูเท่านั้น ที่นั่นติดกับบ้านสวนมู่เย่ว์ ตอนนี้กลายเป็นพื้นที่ปลูกยาสมุนไพรทั้งหมด เป็นหัวแก้วหัวแหวนของฮูหยินเลย อีกอย่างสิ่งปลูกสร้างยังอยู่กลางป่าพงไพร ลมเย็นๆ พัดโชย ไม่ได้รู้สึกร้อนอบอ้าวแม้แต่น้อย เป็นสถานที่เหมาะแก่การพักร้อนที่สุดแล้ว
เหยาเยี่ยนอวี่พิงมองเซียงหรู อูเหมย ปั้นซย่า และไม่ตงเดินยุ่งกับการเก็บของ จึงอดยิ้มไม่ได้
มีคำคำหนึ่งกล่าวได้ดีมาก ใครก็ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น เหยาเยี่ยนอวี่ครุ่นคิดด้วยความดีใจ ถือโอกาสยังไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ไปใช้ชีวิตดั่งปรารถนากับสามีที่รักของตนเองจะดีกว่า
“พี่สาว! พี่สาว!” ซูอวี้เหิงตะโกนไปด้วยเดินเข้าประตูมาด้วย จนเกือบจะเดินชนกับเซียงหรูแล้ว
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจนหนทาง แล้วพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “เจ้าจะใจร้อนมากเช่นนี้ไปไยกัน เดินเข้ามาดีๆ ไม่ได้หรือไร”
“พี่หัน! พี่หันใกล้คลอด…” ซูอวี้เหิงวิ่งเข้ามาตรงหน้าเหยาเยี่ยนอวี่ นางเคยชินกับการวิ่งเข้ามาหาเหยาเยี่ยนอวี่ไปแล้ว รอให้นางเดินมาถึงตรงหน้า ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ตอนนี้แม้กระทั่งตัวพี่เหยาเอง นางก็ยังไม่สนใจ แล้วจะไปสนใจคนอื่นได้อย่างไร ฉะนั้นหลังจากถอนหายใจไปหนึ่งที ถึงจะกลืนคำสุดตอนท้ายเข้าไป
“พี่หันเป็นอะไรไป” เหยาเยี่ยนอวี่มองสีหน้าของซูอวี้เหิงไม่ออก จึงถามด้วยคิ้วขมวด
“หมอตำแยบอกว่านางค่อนข้างคลอดยาก” ซูอวี้เหิงถอนหายใจอย่างจนหนทาง “เหมือนตำแหน่งของทารกไม่ค่อยตรง ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
“องค์หญิงใหญ่ล่ะ” เหยาเยี่ยนอวี่คิดว่าองค์หญิงใหญ่หนิงหวารักใคร่บุตรีมากเพียงนั้น น่าจะหาหมอตำแยที่มากประสบการณ์หรือเปล่า
“องค์หญิงใหญ่ก็อยู่ในจวนโหว และสั่งให้หมอตำแยหลายคนมาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว แค่ว่า…เฮ้อ!” ซูอวี้เหิงถอนหายใจอย่างประหม่า “หมอตำแยก็บอกว่าจนปัญญาแล้ว”
“สั่งคนเตรียมเกี้ยวแล้วยกข้าไปดูอาการนางที” เหยาเยี่ยนอวี่พูดไป ก็ดื้อดึงที่จะลุกขึ้นนั่ง
จู่ๆ เว่ยจางเลิกม่านเข้ามา แล้วมองซูอวี้เหิงด้วยสายตาเย็นชา พร้อมพูดเสียงเรียบ “แม้แต่เดินยังไม่ไหว ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร”
“มีชุ่ยเวยและชุ่ยผิงอยู่ก็พอแล้ว” เหยาเยี่ยนอวี่เงยหน้ามองเว่ยจาง พร้อมพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “พี่หันดีกับข้าตลอดมา ข้าไม่อาจเห็นนางเป็นอะไรไปได้”
“องค์หญิงใหญ่หนิงหวาสั่งให้หมอหลวงเลี่ยวมาแล้ว ทั้งยังมีหมอตำแยสี่คนในวังหลวง พวกเขาต้องมีวิธีอยู่แล้ว” เว่ยจางพูดไป ก็เหลือบมองซูอวี้เหิงอีกครา สายตาเย็นชาคู่นั้นกำลังโทษนาง
ซูอวี้เหิงตกใจจนถอยไปด้านหลังสองก้าว แล้วเกลี้ยกล่อม “จริงด้วย พี่เหยาอย่ากังวลใจไปเลย หมอหลวงเลี่ยวเป็นหมอเซียนด้านนรีเวชวิทยาแน่ะ มีเขาอยู่ พี่หันไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว”
เหยาเยี่ยนอวี่หลับตา พยายามสงบสติ อันที่จริงตำแหน่งทารกไม่ตรงกลับไม่มีอะไรน่ากลัว แค่กลัวว่าสายสะดือจะพันคอทารก เช่นนั้นก็อาจจะทำให้ทารกเสียชีวิตได้
สตรีตั้งครรภ์มาสิบเดือนนั้นไม่ง่ายเลย หากคลอดบุตรที่แข็งแรงออกมาอย่างราบรื่นไม่ได้ นั่นคงเป็นเรื่องที่แย่มากไม่ใช่หรือ แต่คำพูดเหล่านี้ นางไม่อาจพูดออกมาในตอนนี้ได้
เว่ยจางมองเหยาเยี่ยนอวี่มีสีหน้าลำบากใจ เดินหน้าสองก้าวนั่งยองๆ ตรงหน้านาง พร้อมพูดด้วยเสียงต่ำ “ครั้งที่แล้ว เจ้าสลบหมดสติเพราะรักษาราชครูเซียว เจ้ารู้สีหน้าในตอนนั้นของจิ้งไห่โหวฮูหยินหรือไม่ ตอนนั้นนางรู้สึกเสียใจมาก ทั้งยังคอยพูดไม่หยุดว่า รู้เช่นนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ นางคงไม่มีทางเชิญเจ้าไป เจ้าทำให้นางเสียใจไปหนึ่งครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็อย่าไปเลย ข้าคิดว่านางก็คงไม่ให้เจ้าไปยุ่งหรอก”
“ข้าไม่ต้องลงมือเอง หากคลอดบุตรออกมาไม่ได้จริงๆ ชุ่ยเวยและชุ่ยผิงช่วยได้อยู่แล้ว เจ้ายังจำตอนนั้นที่พวกนางรักษาแผลให้ข้าตอนอยู่เมืองเฟิ่งหรือไม่ หากคลอดทารกออกมาอย่างราบรื่นไม่ได้ พวกนางสองคนยังใช้วิธีผ่าตัดและวิธีสูบเลือด เรื่องพวกนี้ พวกนางไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ข้าแค่ไปเฝ้า แล้วคอยชี้แนะพวกนางเท่านั้น”
เว่ยจางขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วไม่พูดไม่จาอีก
“อีกอย่าง ก็อาจไม่ได้เป็นไปตามที่ข้าพูดก็ได้ ประเดี๋ยวรอให้ข้าไปถึง นางอาจคลอดบุตรออกมาอย่างราบรื่นแล้วก็ได้” เหยาเยี่ยนอวี่พูดไป ยื่นมือจับหน้าของเว่ยจาง พร้อมพูด “หากเป็นเฮ่อซี เซียวอี้ และเก๋อไห่ ใครก็ตามที่กำลังประสบอันตราย และเจ้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีโอกาสหลบหนีไปได้ เจ้าจะทิ้งพวกเขาไปหรือ”
“ไม่มีทาง” เว่ยจางตอบกลับโดยที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ดังนั้น ข้าก็ไม่อยากทิ้งสหายคนสนิทในเวลานี้เช่นเดียวกัน” เพราะว่าเหยาเยี่ยนอวี่ไม่มีเรี่ยวแรง ดังนั้นเสียงก็แผ่วเบามาก เหมือนขนนกที่สัมผัสหัวใจของเขาอย่างอ่อนโยน
“ข้าแค่ไปดูเท่านั้น มีข้าอยู่ ชุ่ยเวยและชุ่ยผิงจะได้ไม่กระวนกระวายเกินไป”
“ดูจากสภาพของข้าแล้ว ต่อให้อยากทำอะไร ก็คงทำไม่ได้ มิใช่หรือ” เหยาเยี่ยนอวี่บอกเว่ยจางด้วยความอดทน
เว่ยจางหันไปมองซูอวี้เหิงอีกครา นางเดินถอยหลังอีกสองก้าว สีหน้าของแม่ทัพย่ำแย่นัก ซูฮูหยินไม่กล้าสบตาเขาโดยตรง และรู้สึกเสียใจที่วิ่งมาบอกเรื่องนี้ในตอนนี้
“เจ้ามองน้องซูไปไย เจ้าจะโทษนางที่มาบอกข้าหรือ ต่อให้นางไม่บอก แล้วข้าจะไม่รู้เรื่องนี้หรือไร หากพี่หันและทารกของนางเกิดอะไรขึ้นจริง เจ้าคิดว่าข้าจะสบายใจหรือ” เหยาเยี่ยนอวี่มองเว่ยจางด้วยความนิ่งเฉย นิ้วมือลูบริมฝีปากที่เม้มเป็นเส้นตรงของเขาเบาๆ
“ทหาร!” เว่ยจางกำหมัดแน่น แล้วหันไปด้านนอก พร้อมสั่งการ “เตรียมรถ! ไปจวนจิ้งไห่โหว”