หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 530 เจ้ามีหน้าที่เอาแต่ใจ ข้ามีหน้าที่เอาใจ (3)
ตอนที่ 530 เจ้ามีหน้าที่เอาแต่ใจ ข้ามีหน้าที่เอาใจ (3)
“เอ๊ะ? เหตุใดแม่ทัพเว่ยและฮูหยินยังไม่กลับมาอีก” เถียนหลัวมองป่าพงไพรที่แม่ทัพเว่ยอุ้มเหยาเยี่ยนอวี่ไปเมื่อครู่นี้ “คงไม่เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“เงียบปากพล่อยๆ ของเจ้าไปเลย!” เซียงหรูถลึงตามองเขาทันที “มีแม่ทัพอยู่จะเกิดเรื่องอะไรได้อย่างไร อีกอย่างนี่เป็นบ้านนาของพวกเรา ไม่ว่าจะอยู่ด้านในหรือด้านนอกก็เป็นคนของพวกเราทั้งหมด จะเกิดเรื่องอะไรได้อย่างไร”
“ข้าหมายความว่า…” หากในป่ามีสุนัขป่าหรือ…ก็ได้ เถียนหลัวจึงกลืนคำพูดด้านหลังเอาไว้ในปาก เพราะรู้ตัวว่าไม่ควรพูดออกมา หากสุนัขป่าเห็นแม่ทัพ เกรงว่าคงรอแต่ความตายหรือเปล่า
เพียงแต่ว่าจัดการกับปลาและเผาไฟเสร็จแล้ว นี่จะเผาหรือไม่เผาปลาดี สาวใช้และเสี่ยวซือต่างมองหน้ากัน แล้วเริ่มรู้สึกยากลำบาก
หากไม่เผา รออีกสักพักฮูหยินกลับมาคงจะบอกว่าหิวแล้ว หากเผาตอนนางมาก็กลัวจะไม่ทัน
หากเผา ขืนเผาปลาเสร็จแล้วฮูหยินและแม่ทัพยังไม่กลับมาล่ะ ปลาตัวนี้ต้องเย็นไปแล้วแน่นอน ต่อให้เป็นฤดูร้อน แต่แม่ทัพใส่ใจในฮูหยินมาเพียงใด ต้องไม่ยอมให้นางกินอาหารที่เย็นแล้วแน่นอน
ตอนที่กำลังลำบากใจ เซินเจียงเห็นแม่ทัพเว่ยอุ้มฮูหยินเดินออกจากป่าอีกด้าน ดังนั้นจึงพูดทันที “เอาเถอะ ฮูหยินและแม่ทัพกลับมาแล้ว เริ่มเผาได้แล้ว”
ดังนั้นหลายคนเริ่มเอาปลาที่หมักแล้ววางลงบนตะแกง
พอเห็นแม่ทัพเว่ยและฮูหยินเข้าศาลาไม้ เซียงหรูและอูเหมยรีบลุกขึ้น เพิ่งสังเกตเห็นว่าสีหน้าของฮูหยินแดงระเรื่อ หางตามีคราบน้ำตาติด และมุมปากกลับเม้มแน่นๆ เหมือนกำลังไม่สบอารมณ์อย่างมาก ดังนั้นสาวใช้ทั้งสองเงียบปากไป รีบเดินหน้าไปพยุงฮูหยินพิงบนเก้าอี้สาน แล้วเอาผ้ามาคลุมให้นาง
แม่ทัพเว่ยวางฮูหยินอย่างเงียบๆ แล้วหันไปเผาปลา
เซียงหรูและอูเหมยสบตากัน ทั้งสองไม่กล้าถามมาก หนึ่งคนอยู่เอาผ้าเปียกเช็ดมือให้ฮูหยิน ส่วนอีกคนเอาจานไปตักปลามาให้ฮูหยิน
แม่ทัพเว่ยเผาปลาไนหางแดงตัวอ้วนให้ฮูหยินด้วยตัวเอง ยกมาให้นางราวกับถวายให้บรรพบุรุษ มิหนำซ้ำยังแกะเนื้อปลาให้นางด้วยความอดทน
แม่ทัพใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทรายตอนออกรบ เลยไม่ค่อยมีปัญหาด้านการทำอาหาร มีเพียงอย่างเดียวที่ทำไม่ดีก็คือแกะเนื้อปลา เขาพยายามทำให้สุดความสามารถจนปลาตัวนั้นถูกแยกร่างไปสี่ห้าส่วน สุดท้ายก็ได้เนื้อปลาแหลกละเอียด แล้วใช้ช้อนเงินป้อนฮูหยินที่อยู่ตรงหน้า
เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปมองเว่ยจาง ท้ายที่สุดก็อ้าปากกิน เนื้อปลานอกจากมีหน้าตาที่ไม่ค่อยสวยแล้ว อย่างอื่นก็ยังถือว่าไม่เลว เนื้อปลาสดและหวาน ความเค็มกำลังพอดี เป็นรสชาติที่เหยาฮูหยินโปรดปราน
เห็นฮูหยินกินอย่างเอร็ดอร่อย แม่ทัพเว่ยที่ปั้นหน้าบึ้งก็ดูดีขึ้นเยอะ “อร่อยไหม”
เหยาฮูหยินยังคงกลอกตามองบนใส่เขา ไม่พูดไม่จา เจ้าหมอนี่ทำเอาท่อปัสสาวะของตนเกือบใช้งานไม่ได้ นั่งเฝ้าจนปัสสาวะไม่ออก หลังจากนั้นยังดื้อดึงที่จะคาดเข็มขัดให้นาง เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนที่คอยปรนนิบัติผู้อื่นอยู่แล้ว แล้วจะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร
ไม่ให้เขายุ่งเกี่ยว ก็เอาเขาไม่อยู่ หลังจากที่แย่งกันไปแย่งกันมา ทำให้นางยังรู้สึกอับอาย
กางเกงตัวกลางสกปรกจนใส่ไม่ได้อีก ตอนนี้ด้านในกระโปรงของเหยาฮูหยินมีเพียงกางเกงชั้นในเท่านั้น!
ให้ตายเถอะ! พอนึกถึงพวกนี้ เหยาฮูหยินเหมือนตลึงตามองผู้ร้าย
“อย่าโกรธอีกเลย” แม่ทัพเว่ยให้ป้อนเนื้อปลาอีกคำ แล้วกล่าวคำขอโทษด้วยเสียงต่ำ “เห็นแก่อาหารมื้อนี้ อืม? ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก ครั้งนี้ที่ปรนนิบัติคน ก็ไม่มีประสบกาณ์ในการดูแลคน วันข้างหน้าคงจะดีขึ้นหน่อยแน่นอน”
“ตาบ้า!” เหยาฮูหยินถลึงตามองเขาอย่างโหดเหี้ยม “เจ้ารีบเงียบปากไปเดี๋ยวนี้!”
“ได้ๆ ข้าไม่พูดแล้ว เจ้าอ้าปาก ดีไหม” แม่ทัพเว่ยยื่นเนื้อปลาในมือไปข้างปากของฮูหยิน แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำต่อ “ต้องกินอาหารก่อน ร่างกายถึงจะดีขึ้น จากนั้นจะได้ดูแลตัวเองได้ ไม่เช่นนั้น วันข้างหน้าพาเจ้าออกไป ข้ายังต้องรับใช้เจ้า”
“ข้าบอกให้เจ้าเงียบปากไปเดี๋ยวนี้!” เหยาฮูหยินเครียดจนนัยน์ตาแดงระเรื่อ แล้วลอบมองเหล่าข้ารับใช้ที่เผาปลาอยู่นอกศาลา แล้วหันมองถลึงตามองเขาอย่างร้ายกาจต่อ
“ได้ๆ ข้าจะหยุดพูดแล้ว” แม่ทัพเว่ยยอมแพ้ในที่สุด “ไม่พูดแล้ว” เพื่อไม่กลั่นแกล้งฮูหยินจนนางกระวนกระวาย แม่ทัพเว่ยจึงเงียบปากไป แค่ตั้งใจป้อนเนื้อปลาที่เอาก้างออกไปแล้ว
ทางฝั่งโน้น เซียงหรูใช้หม้อดินตุ๋นน้ำแกงปลาไนเห็ดป่า เถียนหลัวไปเด็ดพวกกระเทียมต้นหอมจากสวนของคนอื่น ตอนออกจากหม้อก็โรยด้วยต้นหอมซอย สีน้ำแกงขาวขุ่น ต้นหอมสีเขียว ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกอยากอาหาร
ตักน้ำแกงใส่ในถ้วยแก้วใส เหยาฮูหยินยิ่งมองยิ่งชอบ ดังนั้นพอชอบแล้วก็ดื่มไปเยอะ จากนั้นอุ้มท้องเดินเข้าไปพิงอยู่บนเก้าอี้สาน “โทษเจ้าคนเดียวเลย เหตุใดถึงไม่เตือนข้าหน่อย ทำให้ข้ากินจนท้องจะแตกแล้ว”
แม่ทัพเว่ยที่นั่งบนเก้าอี้ไม้ไผ่สานป้อนฮูหยินกินอิ่มถึงเริ่มกินข้าวต่อ ได้ยินคำพร่ำบ่นนี้จึงรู้สึกว่าคนอื่นเข้าใจผิดในตัวเองเกินไปแล้ว จึงเงยหน้ามองฮูหยินพลางหรี่ตาลงดั่งเด็กเกียจค้าน ต่อให้รู้สึกไม่ได้รับความธรมก็ไม่เป็นไรแล้ว “ได้ ครั้งหน้าข้าจะจดจำไว้ ครั้งนี้ต้องขอให้ฮูหยินอภัยให้กับสามีที่ไม่รอบคอบหน่อยเถอะ”
เหยาเยี่ยนอวี่ตีเว่ยจางหนึ่งที เขากลับไม่เอาคืน สบถหยาบใส่เขาก็ยังไม่สวนกลับใดๆ เขาถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกลับไม่โต้แย้งกลับใดๆ พฤติกรรมพวกนี้ของเขาช่างแปลกมาก นางอยากลองท้าทายขีดกำจัดความอดทนของเขา ดังนั้นถึงแกล้งทำเป็นไม่เต็มใจ แล้วพูดว่า “ครั้งหน้าเถอะ ครั้งนี้ข้าแน่นท้องจนทรมานมาก”
“ได้” เว่ยจางทิ้งปลาที่กินไปครึ่งตัว เอาผ้าเช็ดมือให้สะอาด แล้วดึงเก้าอี้ไปด้านหน้า นั่งลงข้างฮูหยินพลางนวดท้องให้นางย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น
ครั้งนี้เหยาฮูหยินทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงรีบส่ายหัว “เจ้าไปกินก่อนเถอะ กินเสร็จค่อยทำก็ได้”
“ไม่ต้อง รับใช้ฮูหยินเสร็จแล้วค่อยว่ากัน” แม่ทัพเว่ยหรี่ตามองนาง
เหยาเยี่ยนอวี่จับมือใหญ่ของเขาไว้ แล้วผลักออกแล้วไร้เรี่ยวแรง “นี่ มีใครที่เป็นเหมือนเจ้าบ้าง ประเดี๋ยวจะทำให้เหล่าสาวใช้ขบขันเอา”
“บ่าวที่ไหนกล้ารู้สึกขบขันเจ้านายตัวเองบ้าง ขืนเป็นเช่นนั้นแผ่นดินคงพลิกไปแล้ว!” แม่ทัพเว่ยไม่ยอมเชื่อฟัง แล้วเอามือของฮูหยินออก จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างนวดท้องให้ฮูหยินต่อ
“พอเถอะๆ!” เหยาเยี่ยนอวี่รอให้เขานวดไปสองสามที แล้วรีบพูดด้วยเสียงต่ำ “ข้าไม่รู้สึกแน่นท้องแล้ว เจ้ารีบไปกินต่อเถอะ”
“จริงหรือ” แม่ทัพเว่ยมองฮูหยินด้วยความสงสัย ครุ่นคิดพลางพูดขึ้น “นวดอีกสักพักเถอะ ขืนอาหารไม่ย่อย ตอนกลางคืนเจ้าจะหาข้ออ้างไม่กินข้าวอีก”
เหยาเยี่ยนอวี่ไร้คำบรรยายจริงๆ ถ้ารู้ตั้งแต่เนิ่นๆ คงไม่ยุ่งกับแกล้งทำดีกว่า
หลังจากกินและดื่มจนอิ่ม เว่ยจางนวดท้องให้นางไปสักพักแล้ว ก็รู้สึกง่วงนอนอีกแล้ว เว่ยจางมองนางหลับใหลไป ใบหน้าที่เคล้าด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนของเขาค่อยๆ หายไป กลับมามีสีหน้าเย็นชาเหมือนเดิม
ตอนบ่าย แม่ทัพเว่ยเฝ้าอยู่ข้างกายฮูหยิน เซียงหรูและคนอื่นๆ แยกย้ายกันไปเก็บเห็ดป่า ผักป่าในป่า แล้วยังมีคนไปเด็ดสมุนไพร เพื่อเตรียมให้เหยาเยี่ยนอวี่ได้กินเป็นยาบำรุง
ยามอัสดง แม่ทัพเว่ยอุ้มฮูหยินกลับเรือน เถียนหลัวและเซินเจียง แล้วยังมีชาวสวนเจ็ดแปดคนช่วยกันยกข้าวของกลับไป แล้วยังมีปลาสดหนึ่งถังที่ยังกินไม่หมด