หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 541 ตักเตือน (5)
ตอนที่ 541 ตักเตือน (5)
หลังจากเก๋อไห่เอามีดประกายแสงออกมา เหยาเชวี่ยหวาไม่กล้าปากดีอีก ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง นั่งลงตรงมุมกำแพงและร้องไห้เสียดังทันที
ทางนี้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมมีคนไปรายงานแม่ทัพเว่ยอยู่แล้ว เว่ยจางรีบมุ่งหน้ามา เห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็อดตะโกนอย่างเย็นใจไม่ได้ “เจ้าสี่ ยิ่งอยู่เจ้าก็ยิ่งยอดเยี่ยมแล้วนะ!”
เก๋อไห่รีบหันหน้ากลับไป ก็เห็นเว่ยจางยิ้มอย่างร้ายกาจ แล้วฟ้องแม่ทัพด้วยความเกรี้ยวกราด “แม่ทัพ คุณหนูสามปากพล่อยยิ่งนัก บังอาจดูหมิ่นขุนนางในราชสำนัก ข้าจะสั่งสอนนางแทนฮูหยินเสียหน่อย วันหลังจะได้ไม่กล้าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยด้านนอก จะได้ไม่ต้องทำให้ชื่อเสียงของฮูหยินเสียหาย”
เว่ยจางโตมากับเจ้าหมอนี่ตั้งแต่เด็ก จะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนนิสัยอะไรได้อย่างไร ทว่าไม่ว่าจะอย่างไร สหายฉันท์พี่น้องย่อมเป็นไปตลอดกาล สำหรับสตรีที่นั่งร้องไห้ตรงมุมกำแพง? ขอโทษ แม่ทัพไม่เคยเห็นเขาเป็นน้องสาวภรรยา เพราะว่าคนที่ฮูหยินของเขาไม่โปรดปราน เขาต้องเกลียดกว่านางเป็นสิบเท่าแน่นอน
“ฮือๆ… พี่เขย!” เหยาเชวี่ยหวาเห็นเว่ยจาง ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจมากจากไหน จู่ๆ ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปกอดแขนของเว่ยจางไว้ แล้วงอแง “เขาน่ากลัวมาก…เขาจะฆ่าข้า! ฮือ…พี่เขยช่วยข้าด้วย!”
เว่ยจางนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเป็นเช่นนี้ สตรีอายุสิบสามสิบสี่ไม่ใช่เด็กแล้ว ทั้งคนโบร่ำโบราณจะสั่งสอนว่าเมื่อทุกคนมีอายุเจ็ดขวบแล้ว ชายหญิงควรรักษาระยะห่างซึ่งกันและกัน ในใจของเว่ยจาง บุตรีที่เหยาหย่วนจือสั่งสอนน่าจะไม่เลว ดูจากเหยาเฟิ่งเกอและเหยาเยี่ยนอวี่ก็รู้แแล้ว เหตุใดคนนี้ถึงไม่เหมือนพี่สาวทั้งสองเลยแม้แต่น้อย
ครั้งนี้เหยาเชวี่ยหวาตกใจแล้วจริงๆ ตกใจจนขาดสติไป แล้วจะสนใจว่าหนุ่มสาวควรรักษาระยะห่างได้อย่างไร นางแค่รู้ว่าเว่ยจางมาแล้ว เจ้าปีศาจร้ายที่น่ากลัวนี่คงหลบไปแน่นอน อีกอย่างปีศาจนี่เชื่อฟังคำสั่งของเว่ยจางเพียงคนเดียว เพื่อรักษาลิ้นของตนเองไว้ คุณหนูสามเหยาไม่พูดอะไรก็วิ่งไปกอดแขนแล้วฟ้องทันที
“ปล่อย!” เว่ยจางได้สติกลับมา จึงสะบัดแขนให้ปลาหมึกยักษ์ตัวนี้หลุดออก
“พี่เขย…!” เหยาเชวี่ยหวาจะต้านพลังยิ่งใหญ่ที่ผลักภูเขาพลิกแผ่นดินได้อย่างไร หลังจากโดนสะบัดออกไปหลายก้าว ก็ล้มลงบนพื้นด้วยเสียงกรีดร้อง นิ่งงันไปสักพัก
ทำเช่นนี้ แม่ทัพเว่ยยังรู้สึกไม่พอ ยกมือถอดเสื้อชั้นนอกโยนทิ้งบนพื้นด้วยความน่ารังเกียจ ก่อนจะจากไปก็มองปั้นซย่าเพียงปราดเดียว “พาแขกกลับไปดีๆ อย่าปล่อยมาเดินป้วนเปี้ยนไปเรื่อย!”
“เจ้าค่ะ” ปั้นซย่าเห็นสีหน้าโมโหของแม่ทัพจนชินแล้ว รู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน ดังนั้นก็ไม่กลัว แค่เดินหน้าไปเก็บเสื้อของแม่ทัพขึ้น หันไปน้อมคำนับเหยาเชวี่ยหวา แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ “คุณหนูสาม เวลาก็ล่วงเลยแล้ว ได้เวลากลับไปกินมื้อเที่ยงแล้วเจ้าค่ะ”
เหยาเชวี่ยหวาตกใจที่เกือบจะโดนตัดลิ้น หลังจากนั้นยังโดนพี่เขยรังเกียจจนสะบัดตนเองออก แม้กระทั่งเสื้อผ้ายังถอดทิ้งบนพื้น แล้วจะมีอารมณ์กินข้าวได้อย่างไร นางแค่ร้องห่มร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเหยาซื่อสี่
ปั้นซย่าจนปัญญา ทำได้เพียงรอให้คุณหนูสามร้องไห้จนพอถึงจะพูด ส่วนเหยาซื่อสี่กังวลอย่างมาก ก่อนหน้านี้ฮูหยินและคุณหนูน้อยรองกำชับว่าต้องดูแลคุณหนูสามให้ดี อย่าให้นางสร้างปัญหาเด็ดขาด ทำให้คุณหนูรองไม่พอใจไม่ว่า แล้วยังจะทำให้ตระกูลเหยาเสียชื่ออีก
เหยาซื่อสี่เกิดเป็นบ่าวที่เกิดในตระกูลเหยา วันนี้ก็ได้กลายเป็นหัวหน้าข้ารับใช้อีก นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดพบเจอบ่อย ดังนั้นจึงระมัดระวังมาตลอดทาง เกรงว่าคุณหนูสามจะทำเรื่องเช่นนั้นออกมาจริงๆ
ทว่าต่อให้นางระมัดระวังมากเพียงใด และครุ่นคิดอย่างรอบคอบมากแค่ไหน ก็นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้!
พูดถึงชุ่ยเวยที่เป็นเพียงสาวใช้ชั้นต่ำที่ตระกูลเหยาซื้อมาจากตลาดค้าทาส อันที่จริงเรื่องนี้ก็คือความจริง! ต่อให้เจ้าตัวอยู่ที่นี่แล้วโดนนินทาเช่นนี้ ก็คงทำอะไรไม่ได้หรือเปล่า รองแม่ทัพเก๋อเป็นอะไรไปเนี่ย!
แล้วยังมีแม่ทัพเว่ยอีกคนที่ทำให้คุณหนูสามตกใจแทบแย่ แค่แตะแขนเสื้อเขาหน่อยมิใช่หรือไร เหตุใดถึงต้องทำท่าทางรังเกียจมากเช่นนี้ ไม่เพียงแต่สะบัดสตรีตัวน้อยๆ ทิ้ง แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่สวมใส่ยังถอดทิ้งบนพื้น มือของคุณหนูสามพวกเขาสกปรกมากเช่นนั้นเลยหรือ
เกรงว่าอาหารมื้อนี้คงไม่ได้กินแล้ว! เหยาซื่อสี่กอดคุณหนูสามทั้งกล่อมเกลี้ยและปลอบโยนนาง ไม่ง่ายเลยที่จะปลอบโยนนางจนสำเร็จ เหยาเชวี่ยหวามาดึงมือนางพลางพูดด้วยเสียงสะอื้น “ข้าจะกลับบ้าน รีบกลับไปกันเถอะ!”
เหยาซื่อสี่ลูบผมที่ยุ่งเหยิงของเหยาเชวี่ยหวา แล้วปลอบโยนด้วยความอดทน “คุณหนูผู้แสนดี จะกลับก็กลับกันเถอะ แต่ท่านกลับสภาพเช่นนี้คงไม่เหมาะสม พวกเราไปล้างหน้าล้างตาแล้วค่อยกลับดีหรือไม่”
“จะล้างอะไรอีก! นี่ข้ายังอับอายขายหน้าไม่พออีกหรือ!” เหยาเชวี่ยหวาร้องไห้จนหมดแรง ทว่ายังคงมีแรงดูหมิ่นสาวใช้
ภายใต้ความประหม่า เหยาซื่อสี่ทำได้เพียงมองเสวี่ยเหลียน เสวี่ยเหลียนยิ้มอย่างจนปัญญา แล้วหันไปมองปั้นซย่า
ปั้นซย่าแค่ถอนหายใจเกลี้ยกล่อม “บ่าวจะไม่ขอปิดบังเรื่องวันนี้กับคุณหนูสาม พี่ชุ่ยเวยเป็นแม่นางที่รองแม่ทัพเก๋อหมายปอง และได้สู่ขอกับฮูหยินมาสองสามรอบแล้ว ทว่าฮูหยินยังไม่ตอบตกลง ว่าไปก็ถือเป็นการทดสอบรองแม่ทัพเก๋อ วันนี้พี่ชุ่ยเวยเป็นหัวแก้วหัวแหวนของเขาแล้ว ท่านต่อว่านางเช่นนั้น รองแม่ทัพเก๋อต้องไม่พอใจอยู่แล้ว อีกอย่าง รองแม่ทัพเก๋อยังถูกคนในค่ายทหารเรียกว่า ‘ปีศาจ’ ตอนฆ่าคนไม่เคยกะพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว ว่ากันว่ายังแล่เนื้อคนมาจิ้มเกลือกินดิบๆ”
ได้ยินเช่นนี้ เหยาเชวี่ยหวาตัวสั่นงันงกในอ้อมกอดของเหยาซื่อสี่อีกครั้ง
ปั้นซย่าพูดขึ้นต่อ “พวกเขาล้วนทำทุกอย่างอย่างโหดเหี้ยมมาโดยตลอด คุณหนูสามต้องไม่เคยเจอคนที่เหี้ยมเกรียมเช่นนี้อยู่แล้ว ดังนั้นถึงได้ทำเช่นนี้ ทว่าท่านดูสิ คำๆ เดียวของแม่ทัพเว่ย รองแม่ทัพเก๋อก็ปล่อยท่านแล้วมิใช่หรือ ดังนั้นเขายังไม่ถือว่าลงไม้ลงมือกับท่าน ท่านใจเย็นๆ หน่อยเถอะ ถือว่าเห็นแก่หน้าฮูหยินเถอะเจ้าค่ะ”
เหยาเชวี่ยหวาแค่นเสียงอย่างโกรธเคือง ทว่าท้ายที่สุดก็ไม่มีแรง ไม่รู้ว่าพูดเช่นไรดี
เหยาซื่อสี่ถือโอกาสเกลี้ยกล่อม “คุณหนูร้องไห้จนเหนื่อยแล้ว พวกเรากลับไปพักผ่อนและล้างหน้ากันเถอะ” ขณะที่กล่าว นางและเสวี่ยเหลียนช่วยกันพยุงเหยาเชวี่ยหวากลับไป
เซียงหรูเห็นคุณหนูสามที่จากไปอย่างรื่นเริง แต่กลับมาด้วยใบหน้าที่เคล้าด้วยคราบน้ำตา ราวกับถูกโจรปล้นมา ทันใดนั้นก็ทำให้นางตะลึงงันไป
ปั้นซย่าถลึงตาให้เซียงหรู เซียงหรูก็ไม่ใช่คนโง่ รีบยกน้ำมาหนึ่งกะละมัง ล้างหน้าหวีผมให้เหยาเชวี่ยหวาด้วยตัวเอง แล้วหาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้นาง ทั้งยังอธิบาย “นี่เป็นเสื้อผ้าของฮูหยินพวกบ่าว แต่ยังไม่เคยใส่ คุณหนูสามใส่กลับไปเถอะเจ้าค่ะ”
เหยาเชวี่ยหวาไม่พูดไม่จา ปล่อยให้พวกเหล่านี้ปรนนิบัติไป หลังจากแต่งกายเรียบร้อยและดื่มชาอุ่นๆ ไปหนึ่งคำ ถึงจะสงบสติอารมณ์ได้
ในเวลานี้ ภายในใจของนางคิดเพียงอย่างเดียว กลับไปจะฟ้องเรื่องที่บุรุษแซ่เก๋อทำร้ายตนเอง! แล้วยังแอบสาบานว่า หากแก้แค้นครั้งนี้ไม่ได้ ยังจะตายตาไม่หลับ
เพียงแต่นางไม่รู้ หลังจากเว่ยจางพาเก๋อไห่จากไป ก็รีบเขียนจดหมายให้เก๋อไห่นำจดหมายนี้ไปสารภาพความผิดกับเหยาหย่วนจือก่อน รอให้เหยาเชวี่ยหวานั่งรถม้ากลับเมืองหลวงอวิ๋นแล้ว ก็ร้องไห้ฟ้องเรื่องที่เกิดขึ้นกับซ่งฮูหยินผู้เฒ่า จากนั้นซ่งฮูหยินผู้เฒ่าสั่งให้หวางฮูหยินหาวิธีสั่งสอนไอ้คนแซ่เก๋อ ทว่าเหยาหย่วนจือได้บอกเรื่องนี้ให้หวางฮูหยินทราบก่อนแล้ว