หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า - บทที่ 102 คอนเสิร์ต
บทที่ 102 คอนเสิร์ต
บทที่ 102 คอนเสิร์ต
เวลาพลบค่ำ
โจวอี้พาลูกสาวไปที่ศูนย์กีฬาโอลิมปิก
ตรงหน้าพวกเขามีคิวยาวหลายแถวกำลังเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ พวกเขาคือกลุ่มแฟนคลับที่กำลังต่อคิวเพื่อเข้าไปในสถานที่จัดคอนเสิร์ต
“พ่อคะ คนเยอะมากเลย” ถังเหมียวเหมี่ยวที่ถูกอุ้มไว้ในอ้อมแขนของโจวอี้มองเห็นแถวยาวแล้วก็พูดขึ้น
“เยอะมากจริง ๆ” โจวอี้รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาเคยเห็นแต่ในทีวีมาก่อน ไม่เคยมาที่นี่ด้วยตัวเองสักครั้ง
ในไม่ช้า โจวอี้ก็พบช่อง VIP
หลังจากตรวจตั๋วแล้ว เขาก็พาลูกสาวเข้าไปในฮอลล์คอนเสิร์ตอย่างราบรื่น
“ผม…ผมต้องไป” สถานที่จัดคอนเสิร์ตมีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งฮอลล์มีที่นั่งราว ๆ หกหมื่นหรือเจ็ดหมื่นที่นั่ง ตอนนี้ที่นั่งประมาณ 80% ได้ถูกแฟน ๆ ครอบครองไว้แล้ว และยังมีแฟนคลับคนอื่นกำลังทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ภาพนี้นับว่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
โจวอี้เคยเห็นสถานที่ที่จอแจที่สุดมาก่อนนั่นก็คือสถานีรถไฟ แต่เมื่อเทียบกับภาพตรงหน้าเขาในตอนนี้แล้ว ผู้คนในสถานีรถไฟก็ไม่มีอะไรให้พูดถึง
“A2024 A2025”
โจวอี้เจอโซน A ตามหมายเลขที่นั่งบนตั๋ว เขาเดินมาที่นั่งตรงกลางในแถวที่สอง
น่าประหลาดใจมากที่ตำแหน่งนี้ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ด้านหน้าหันเข้าหาเวที เมื่ออู๋หมิ่นหรูหรือถังหว่านขึ้นมาร้องเพลง สองพ่อลูกจะสามารถรับชมพวกเธอได้ใกล้ ๆ
“ว้าว สาวน้อยน่ารักจังเลย” เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเห็นถังเหมียวเหมี่ยวอยู่ในอ้อมแขนของโจวอี้ เธอก็อุทานเกินจริงในทันทีและตะโกนว่า “สุดหล่อคะ นี่น้องสาวของคุณเหรอ เธอสวยมาก”
“เธอเป็นลูกสาวของผมครับ” โจวอี้หัวเราะ
“ใช่ค่ะ เขาเป็นพ่อของหนู” ถังเหมียวเหมี่ยวยิ้มกว้าง
พ่อกับลูกสาว?
ผู้หญิงหลายคนที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างแสดงความประหลาดใจออกมา
หมายเลขที่นั่งของจ้าวเสี่ยวเสียน คือ A2026 ซึ่งอยู่ใกล้โจวอี้และถังเหมียวเหมี่ยวมากที่สุด ใบหน้างดงามของเธอก็แสดงความประหลาดออกมาใจเช่นกัน
“เธอเป็นลูกสาวของคุณจริง ๆ เหรอคะ? ดู ๆ ไปแล้วคุณน่าจะอายุพอ ๆ กับเรานะคะ? คุณมีลูกสาวโตขนาดนี้ได้ยังไง?” จ้าวเสี่ยวเสียนเอ่ยถามอย่างลังเล
“คนจากภูเขามักจะแต่งงานและมีลูกเร็วเสมอ” โจวอี้ยิ้ม
จ้าวเสี่ยวเสียนและเพื่อนร่วมห้องหลายคนหันมองหน้ากัน แต่พวกเขาก็คิดว่าโจวอี้พูดถูก เท่าที่รู้มา คนหนุ่มสาวจำนวนมากในชนบทและบนภูเขามักจะแต่งงานกันเร็วอยู่แล้ว
“น้องสาว ขอกอดหน่อยได้ไหมเอ่ย” จ้าวเสี่ยวเสียนรู้สึกว่าเด็กน้อยคนนี้น่ารักเกินไป เธอจึงยื่นมือออกแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เอา พ่อกอดหนูสบายที่สุดแล้ว” ถังเหมียวเหมี่ยวส่ายหัวทันที
“เข้าใจแล้วจ้ะ” น้ำเสียงจ้าวเสี่ยวเสียนดูผิดหวัง
ถังเหมียวเหมี่ยวมองท่าทางของจ้าวเสี่ยวเสียน ทันใดนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า “แต่หนูให้พ่อกอดพี่สาวได้นะ! อ้อมกอดพ่อของหนูอบอุ่นม๊ากมาก”
“แค่ก… เหมียวเหมี่ยวอย่าพูดเรื่องไร้สาระ” โจวอี้ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
จ้าวเสี่ยวเสียนมองถังเหมียวเหมี่ยวด้วยรู้สึกอายเล็กน้อย แต่พอเห็นโจวอี้ เธอก็หันสายตาไปทางอื่นทันที ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องหลายคนรอบตัวเธอปิดปากและหัวเราะออกมาเบา ๆ
โจวอี้วางถังเหมียวเหมี่ยวไว้บนที่นั่งว่างข้าง ๆ เขา จากนั้นก็หยิบอมยิ้มออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เธอ
“พ่อคะ เมื่อไหร่แม่จะออกมาร้องเพลง” เธอเอ่ยถามขณะที่เอาอมยิ้มเข้าปาก แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ไม่รู้สิ แต่อีกไม่นานหรอก!” โจวอี้ยิ้ม
“อื้ม!” ถังเหมียวเหมี่ยวพยักหน้า
จ้าวเสี่ยวเสียนที่อยู่ข้าง ๆ เผยท่าทีประหลาดใจ เธอหันกลับมามองแล้วถามว่า “แม่ของคุณเป็นดาราดังเหรอ อู๋หมิ่นหรู?”
“ไม่ใช่!” ถังเหมียวเหมี่ยวส่ายหัวทันที
“…”
จ้าวเสี่ยวเสียนพูดไม่ออก
นี่คือคอนเสิร์ตของราชินีชื่อดังอู๋หมินหรู ถ้าแม่ของลูกไม่ใช่อู๋หมิ่นหรูแล้วจะยังเป็นใครได้อีก? เด็ก ๆ ที่ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อที่เป็นชาวภูเขาคงจะชอบพูดเรื่องไร้สาระสินะ
โจวอี้ไม่ต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์ของเขากับถังหว่าน และก็ไม่อยากปล่อยให้คนอื่นรู้ว่าลูกสาวของถังหว่านคือถังเหมียวเหมี่ยวด้วย ดังนั้นเขาจึงหยุดหัวข้อนี้ทันทีและถามด้วยรอยยิ้ม “พวกคุณเป็นแฟนคลับของอู๋หมิ่นหรูเหรอครับ? มาจากไหนกันเหรอ?”
“พวกเราเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยสื่อจินหลิง”
“พวกคุณสุดยอดมากที่เข้าวิทยาลัยสื่อจินหลิงได้!” โจวอี้แสร้งทำเป็นแปลกใจและพูดว่า “ผมก็เคยสอบเข้าที่นั่นแต่ได้คะแนนไม่ดี แถมความสามารถก็ไม่มากด้วย ผมอยากเรียนที่นั่นแต่พวกเขาไม่ต้องการผม”
“พ่อพูดไร้สาระ พ่อเป็นซูเปอร์แมนและก็เก่งมากอยู่แล้วด้วย” ถังเหมียวเหมี่ยวพูดขัดขึ้น
“…”
โจวอี้ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อได้ยินลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักของเขากำลังยืนหยัดปกป้องตนเช่นนี้
เวลาหนึ่งทุ่มตรง คอนเสิร์ตก็เริ่มต้นขึ้น
ฮอลล์แสดงคอนเสิร์ตซึ่งจุคนได้มากกว่าหกหมื่นคนได้เต็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อแสงไฟสลัวลง เสียงเพลงอันไพเราะก็ดังขึ้นในสถานที่จัดงาน และเมื่อแสงไฟส่องลงมาบนเวทีอีกครั้ง โจวอี้ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดกระโปรงผ้าโปร่งสีขาวนั่งอยู่บนชิงช้า เธอค่อย ๆ ลงมาจากกลางอากาศ
ใบหน้าทรงเสน่ห์ของเธอสวยมากยิ่งขึ้นเมื่อมีรอยยิ้มประดับอยู่ มือของเธอมือถือไมโครโฟนไว้และร้องเพลงแรกเพื่อเปิดคอนเสิร์ต
“อู๋หมิ่นหรู!”
“พวกเรารักคุณ!”
“…”
เสียงอึกทึกพลันเปลี่ยนจากความยุ่งเหยิงกลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อย
แฟนคลับเกือบทั้งหมดที่มาชมคอนเสิร์ตยืนขึ้นทีละคน พวกเขามือโบกแท่งไฟและป้ายไฟในมือ ทั้งยังตะโกนออกมา
โจวอี้อุ้มลูกสาวของเขาจากที่นั่งข้าง ๆ และยืนขึ้นพร้อมกับทุกคน จากนั้นจึงมองอู๋หมิ่นหรูที่ค่อย ๆ ลงมาบนเวที เขาแอบชื่นชมความนิยมของเธอไม่น้อย
นักร้องที่สามารถทำให้แฟน ๆ ชื่นชอบเธอได้มากแบบนี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่าผลงานของเธอยอดเยี่ยม แต่ยังต้องมีเสน่ห์มากอีกด้วย
จบไปแล้วหนึ่งเพลง
อู๋หมิ่นหรูถือไมโครโฟนไว้ในมือข้างหนึ่ง และยกมืออีกข้างเพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ
หลังจากผ่านไปไม่นาน เสียงอึกทึกในหมู่ผู้ชมก็ค่อย ๆ เงียบลง
“ขอบคุณมากที่มาชมคอนเสิร์ตของฉัน และขอบคุณสำหรับความรักที่พวกคุณมีให้ฉัน”
“ฉันอยากจะบอกกับทุกคนว่า ฉันรักพวกคุณทุกคน!”
“ต่อไปฉันขอมอบเพลง ‘ความสุขเมื่อได้อยู่กับเธอ’ ให้กับทุกคนค่ะ”
เสียงร้องของอู๋หมิ่นหรูนั้นไพเราะมาก ในท่วงทำนองของดนตรี เธอร้องเพลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งทำให้แฟน ๆ ร้องเพลงเสียงดังไปกับเธอนับครั้งไม่ถ้วน แล้วบรรยากาศในฮอลล์ทวีความอบอุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
และแล้วในที่สุด
หลังจากที่อู๋หมิ่นหรูเล่นเพลงที่ห้าของเธอเสร็จสิ้น แทนที่จะรีบกลับไปที่หลังเวทีเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอกลับหยิบไมโครโฟนไปที่ด้านหน้าเวทีแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เชิญเพื่อนคนหนึ่งมาที่นี่ในฐานะนักร้องรับเชิญของฉัน”
“เธอสวยมาก ไม่มากเกินไปที่จะอธิบายว่าเธอเป็นนางฟ้า”
“เธอร้องเพลงได้ไพเราะมาก ราวว่ากับมันคือเสียงของธรรมชาติ”
“แฟน ๆ บางคนเรียกเธอว่า สาวงามภูเขาน้ำแข็ง ในขณะที่คนอื่น ๆ เรียกเธอว่าเทพีแห่งความเย่อหยิ่ง”
“ฉันชอบเธอมาก ชอบตัวตนของเธอ และชอบเพลงของเธอ…”
“ทุกคน เดาซิว่าเธอเป็นใคร”
ผู้ชมมากกว่าหกหมื่นคนพลันตะโกนชื่อดาราหญิงที่พวกเขาชื่นชอบ จากคำอธิบายของอู๋หมิ่นหรูนั้น คนส่วนใหญ่ตะโกนชื่อ ‘ถังหว่าน’ ออกมา
อู๋หมิ่นหรูคลี่ยิ้มสดใสบนใบหน้า จากนั้นเธอก็พูดผ่านไมโครโฟนว่า “หลายคนคาดเดาตัวตนของเธอได้แล้ว ใช่ค่ะ เธอคือเพื่อนของฉัน ถังหว่าน!”
“วันนี้ถังหว่านกับฉันจะร้องเพลง ‘พี่น้องที่รัก’ ให้ทุกคนฟังค่ะ”