หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า - บทที่ 203 วางกับดัก
บทที่ 203 วางกับดัก
บทที่ 203 วางกับดัก
ตามขั้นตอนการประมูลและข้อบังคับ แขกทุกคนที่เข้าร่วมการประมูลต้องไปที่หลังเวทีเพื่อจ่ายเงินหลังจากประมูลได้
แต่โจวอี้ไม่ต้องทำแบบนั้น
ก่อนเข้าร่วมการประมูลวัตถุดิบยา เขาบอกกับหนานกงหลู่แล้วว่าเขาจะจ่ายเงินหลังจากการประมูลทั้งหมดจบสิ้นลง
เวลาล่วงเลยไปกว่าสองชั่วโมงอย่างรวดเร็ว
วัตถุดิบยาที่นำขึ้นมาประมูลก็มีค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ โจวอี้ได้เข้าร่วมการประมูลหลายครั้ง แต่วัตถุดิบยาทั้งหมดที่เขาชอบได้ถูกกั๋วฉินเซิงผู้น่าตายคนนั้นซื้อไป
“วัตถุดิบยาที่จะประมูลต่อไปเรียกว่า รากไม้หงส์ทองนิล โดยปรมาจารย์แพทย์แผนจีนนำมาประมูล มูลค่าของมันสูงเกินความคาดหมายของหลายคนอย่างแน่นอน ตอนนี้ฉันขอประกาศว่าราคาเริ่มต้นประมูลของมันคือยี่สิบล้านหยวน และการเพิ่มราคาแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านหยวน การประมูลเริ่มได้!” พิธีกรหูหลานผิงกล่าวประกาศ และดวงตาของเธอก็มองไปที่โจวอี้และกั๋วฉินเซิงโดยไม่ได้ตั้งใจ
เธอหวังว่าทั้งสองจะต่อสู้แบบตัวต่อตัว และประมูลราคาต่อไป
โจวอี้นั่งไขว่ห้างกอดอก และใบหน้าของเขายังคงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ตอนที่รากไม้หงส์ทองนิลปรากฏบนโต๊ะประมูล กั๋วฉินเซิงรีบหันไปมองโจวอี้ และตัดสินใจอย่างลับ ๆ ว่าแม้ไอ้สารเลวนี้จะสร้างปัญหา แต่เขาก็จะต้องซื้อรากไม้หงส์ทองนิลมาให้ได้
“สามสิบล้าน” ชายชราเคราสีขาวเป็นคนแรกที่เสนอเสียงดัง
แขกที่เฝ้าดูต่างแสดงความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ทันตั้งตัว แต่ชายชราคนนี้เพิ่มราคามาอีกสิบล้านในคราวเดียว
แต่ทุกคนก็ต้องการมันเหมือนกัน!
จากนั้นการแข่งราคาก็เริ่มขึ้น
“สามสิบสองล้าน”
“สามสิบห้าล้าน”
“สี่สิบล้าน”
“…”
ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาประมูลของรากไม้หงส์ทองนิลจึงเพิ่มขึ้นเป็น 80 ล้านในเวลาเพียงห้านาที
“หนึ่งร้อยล้าน!” จู่ ๆ โจวอี้ก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมาตะโกน
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวน” ชายชราเคราขาวมองไปที่โจวอี้ และขึ้นราคาอีกครั้ง
“หนึ่งร้อยหกสิบล้าน” ดวงตาของโจวอี้มีประกายเจ้าเล่ห์
“น้องชาย แน่ใจนะว่านายอยากได้รากไม้หงส์ทองนิล?” ชายชราคนนั้นไม่รีบเร่งที่จะขึ้นราคา แต่มองไปที่โจวอี้
“สุดท้ายผมอาจจะไม่ไหวก็ได้นะ ผมจน” โจวอี้ยิ้ม
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็ ร้อยแปดสิบล้าน!” ชายชราเคราขาวผู้นั้นตะโกนขึ้น
โจวอี้ไม่รีบเร่งที่จะขานราคาต่อ แต่หันไปมองกั๋วฉินเซิงแทน
กั๋วฉินเซิงยังไม่ขานราคาเช่นกัน เขายังคงนั่งเงียบต่อไป แต่ชายหัวโล้นกลับยกมือขึ้นก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอฉันร่วมสนุกด้วยสิ สองร้อยล้านหยวน!”
เมื่อพิธีกรได้ยินว่าราคาของรากไม้หงส์ทองนิลได้เพิ่มขึ้นเป็นสองร้อยล้านแล้ว รอยยิ้มสดใสก็ปรากฏบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ หลังจากรอนานกว่าสิบวินาที เมื่อไม่มีใครขานราคาสู้อีก เธอก็ยิ้มและพูดว่า “ถ้าไม่มีใครขานราคาสู้แล้ว ฉันจะนับถอยหลัง? สองร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง สองร้อยล้านครั้งที่สอง สองร้อยล้านครั้งที่…”
“250 ล้าน!” กั๋วฉินเซิงตะโกนขึ้นมาทันที
ทันใดนั้น ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่กั๋วฉินเซิง
ราคาของวัตถุดิบยาที่สามารถเกินสองร้อยล้านหยวนนั้นหายากอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้มันถูกเพิ่มราคาโดยไม่คาดคิดอีกห้าสิบล้านหยวน นี่จึงถือเป็นเรื่องใหญ่
“251 ล้าน” โจวอี้พูดด้วยรอยยิ้ม
แน่นอนว่าการสู้ราคาอย่างกะทันหันของโจวอี้ทำให้ทุกคนตะลึง
ละครที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น
“สามร้อยล้าน!” แม้ว่ากั๋วฉินเซิงต้องการที่จะฉีกโจวอี้เป็นชิ้น ๆ แต่รากไม้หงส์ทองนิลเป็นวัตถุดิบยาล้ำค่าที่เขาต้องการอย่างเร่งด่วน ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมแพ้
แต่เขาก็ค่อนข้างกลัวโจวอี้บ้างแล้ว
ชายหนุ่มในวัยราว ๆ ยี่สิบคนนี้สามารถใช้เงินสองร้อยล้านหยวนเพื่อซื้อวัตถุดิบยาชนิดหนึ่ง แสดงว่าอีกฝ่ายต้องร่ำรวยและไม่ธรรมดา
“สามร้อยหนึ่งล้าน” โจวอี้ยิ้มกว้าง
“ไอ้สารเลว! แกจะบาดหมางกับฉันให้ถึงจุดที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เลยใช่ไหม!?” กั๋วฉินเซิงไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้อีกแล้ว เขายืนขึ้นและตะโกนใส่โจวอี้
“คุณตาแก่ นี่คืองานประมูลนะ อย่าแสดง ‘ท่าทางแย่ ๆ’ ของคุณแบบนี้สิ ก่อนหน้านี้คุณแย่งแมงมุมผีเสื้อของผมไปไม่ได้ ตอนนี้คุณยังคิดอยู่อีกเหรอว่าจะสามารถแย่งรากไม้หงส์ทองนิลซึ่งเป็นสมบัติหายากไปได้?” โจวอี้แสดงความเย้ยหยันและดูถูกอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
“แก!!! แก… 400 ล้าน!” กั๋วฉินเซิงคำราม “ถ้าแกแน่พอ แกก็เพิ่มราคาสู้มาสิ! ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าแกมีดีแค่ไหน!”
ทันใดนั้น สถานที่จัดงานประมูลนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยอื้ออึง
ราคาเริ่มประมูลของรากไม้หงส์ทองนิลนั้นเพียง 20 ล้านหยวน แต่ราคาของมันตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านหยวนแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า
“ไอ้แก่โง่เอ๊ย สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่รากไม้หงส์ทองนิลเลย แต่เป็นวัตถุดิบยาชิ้นต่อไปต่างหาก ในเมื่อคุณมีเงินมากพอจะเผาทิ้งได้แบบนี้ งั้นก็เชิญซื้อรากไม้หงส์ทองนิลราคาสุดแพงนี้ไปเถอะ ฮ่าฮ่าฮ่า!” โจวอี้หัวเราะ
วัตถุดิบยาชนิดต่อไป?
วัตถุดิบยาชนิดใด?
รายการวัตถุดิบยาที่จะถูกนำมาขึ้นประมูลต้องถูกปิดเป็นความลับไม่ใช่เหรอ?
แล้วชายหนุ่มคนนี้รู้ล่วงหน้าได้อย่างไร?
กั๋วฉินเซิงตกตะลึง เมื่อมองไปที่สีหน้าเบิกบานของโจวอี้ เขาก็แทบจะกระอักเลือดออกมา เมื่อมองไปที่โต๊ะประมูล เขาก็รีบตะโกนออกไปว่า “สมาคมแพทย์แผนจีนฮัวเซียของคุณกำลังโกงเหรอ รายชื่อวัตถุดิบยาที่จะนำขึ้นมาประมูลต้องเป็นความลับสิ แต่ทำไมไอ้เด็กเวรนี่ถึงรู้ว่าวัตถุดิบยาต่อไปคืออะไร!”
ที่โต๊ะประมูล หูหลานผิงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อรากไม้หงส์ทองนิลถูกขายในราคาสี่ร้อยล้านหยวน แต่เธอต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินคำถามของกั๋วฉินเซิง
“ตาแก่เอ๊ย ไม่ผิดเลยที่ผมจะบอกว่าคุณโง่ คุณนี่มันโง่จริง ๆ ผมไม่รู้หรอกว่าจะมีการประมูลวัตถุดิบยาอะไรต่อไป แต่ไม่เห็นเหรอว่าการประมูลวัตถุดิบยาใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว และตามปกติแล้ว ของดีที่สุดจะเก็บไว้ท้ายงานประมูลไม่ใช่รึไง? เด็กทารกยังรู้เรื่องนี้เลย แต่คุณกลับไม่รู้เนี่ยนะ แถมยังไปโทษคนอื่นอีก?” โจวอี้กล่าวด้วยเสียงอันดัง
สีหน้าของกั๋วฉินเซิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเขาถูกโจวอี้แกล้ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
คนอื่น ๆ ในงานประมูลหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ
พวกเขาคิดว่าคำอธิบายของโจวอี้นั้นเหมาะสมที่สุด ทุกครั้งที่มีการประมูลวัตถุดิบยา ผู้จัดงานจะนำวัตถุดิบยาที่มีค่าที่สุดออกมาเป็นรายการประมูลสุดท้าย
นั่นจึงเป็นเรื่องงี่เง่าที่ชายชราคนนี้ตั้งคำถามถึงความเป็นกลางของสมาคมแพทย์แผนจีนฮัวเซียต่อหน้าสาธารณะชน
พิธีกรหูหลานผิงมองไปที่โจวอี้อย่างลึกซึ้ง จากนั้นส่งสายตาไปที่กั๋วฉินเซิงและพูดเสียงเรียบ “แขกผู้นี้ หากคุณคิดว่าทางพวกเราผู้จัดงานไม่น่าเชื่อถือ คุณสามารถออกจากที่นี่ได้ทันที การประมูลนั้นยุติธรรมเสมอ ส่วนเรื่องที่คุณซื้อรากไม้หงส์ทองนิลในราคาสูงนั้นเป็นเพราะคุณประมูลราคามาเอง ไม่ใช่เราที่เป็นฝ่ายบังคับคุณ”
กั๋วฉินเซิงตัวสั่นด้วยความโกรธ
เขาอยากจะลุกขึ้นและจากไป แต่เขาคิดว่าวัตถุดิบยาชิ้นสุดท้ายในการประมูลจะต้องเป็นวัตถุดิบยาที่ดีที่สุด เขาต้องกลืนความภาคภูมิใจของเขาและค่อย ๆ นั่งลง
หูหลานผิงเย้ยหยันในใจ แต่ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะกล่าวว่า “ผู้มีเกียรติหนุ่มคนนั้นพูดถูกแล้ว วัตถุดิบยาที่ดีที่สุดจริง ๆ จะถูกประมูลเป็นรายการสุดท้าย ในเมื่อทุกคนรอไม่ไหวแล้ว เช่นนั้นฉันจะหยุดพูดเรื่องไร้สาระและขอให้เจ้าหน้าที่ของเรานำมันขึ้นมาบัดเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้น ผลไม้หลิงหลงสามผลก็ถูกส่งขึ้นมาที่โต๊ะประมูล
เมื่อผ้าไหมสีทองถูกยกขึ้น มันก็ปรากฏต่อหน้าทุกคนทันที
“ผลหลิงหลง! พระเจ้า! เป็นผลหลิงหลงที่สุกเต็มที่แล้ว แถมมีอยู่ตั้งสามผล?”
“ฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า? นี่เป็นผลไม้หายากอันดับแปดในรายการผลไม้ศักดิ์สิทธิ์! กี่ปีแล้วที่จีนไม่เห็นผลไม้หายากสิบอันดับแรกในรายการผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แบบนี้!”
“น่าจะผ่านมาหลายสิบปีเป็นอย่างน้อย ผมจำได้ว่าในยุค 80 มีการประมูลผลไม้หายากที่ติด 10 อันดับแรก ตอนนั้นดูเหมือนว่าจะขายได้ราคาสูงมหาศาล”
“เป็นผลไม้ที่งดงามจริง ๆ พระเจ้าช่วย ได้ยินมาว่าไม่ต้องเอามันไปทำยาด้วยซ้ำ แค่กินมันก็สามารถล้างไขกระดูกและชำระชีพจรได้ ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น และจะไม่เจ็บป่วยไปครึ่งชีวิต”
“โชคดีจริง ๆ ที่ได้เห็นผลหลิงหลงของจริงในชีวิตนี้”
“น่าทึ่งมาก…”
ด้วยเสียงร้องแห่งความประหลาดใจ กั๋วฉินเซิงก็ลุกยืนขึ้นอีกครั้ง
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโลภ เขาจ้องมองผลหลิงหลงสามผลและสาบานว่าจะต้องได้มันมา!