หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า - บทที่ 27 อย่าสร้างปัญหา!
บทที่ 27 อย่าสร้างปัญหา!
บทที่ 27 อย่าสร้างปัญหา!
ใช้เวลาเดินมากกว่าสิบนาทีจากช็องเซลิเซ่ ลานติง วิลล่า ไปยังโรงเรียนอนุบาลนานาชาติเหิงปางซื่อที่ถังเหมียวเหมี่ยวศึกษาอยู่
โจวอี้เกลี้ยกล่อมลูกสาวให้ทานอาหารเช้า จากนั้นจึงหยิบกระเป๋าใบเล็ก ๆ ของเธอมาพร้อมกับจูงมือเล็ก ๆ เพื่อพาเธอไปโรงเรียนด้วยการเดินเท้า!
หน้าประตูโรงเรียนมีรถหรูมากมายจอดเรียงรายอยู่…
เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ราวกับเสียงระฆังเงิน ความห่วงใยและคำแนะนำของผู้ปกครอง และเสียงทักทายอรุณสวัสดิ์อันอบอุ่นของครูดังออกมาให้ได้ยินอย่างแจ่มชัด
โจวอี้จูงมือลูกสาวเดินไปที่ประตู เขามองดูเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คน และพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนว่า “พี่ใหญ่ คราวก่อนพวกเราเกิดการเข้าใจผิดต่อกัน ตราบใดที่คุณไม่หยุดผมไว้แบบนั้น ตอนนี้เราก็คงจะมีช่วงเวลาที่ดีด้วยกัน…”
“พ่อแม่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปหากไม่มีเหตุผลพิเศษ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสูงวัยที่เคยถูกโจวอี้ทำร้ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ผมมีนัดกับผู้อำนวยการเฉินเยว่ฉิน” โจวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนต่างมองหน้ากัน
หลังจากที่พวกเขารู้ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว โจวอี้ก็มาที่โรงเรียนอนุบาลเพื่อตามหาเฉินเยว่ฉิน แต่พวกเขาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีนัดกับเฉินเยว่ฉินอีกครั้งในวันนี้
ไม่ใช่คู่รักกันสักหน่อย จะมาเจอกันบ่อยไปไหม?
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนบ่นในใจ แต่หลังจากติดต่อ เฉินเยว่ฉินแล้ว โจวอี้ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในโรงเรียนอนุบาล
“พ่อจ๋าเก่งมาก ขนาดพ่อแม่คนอื่นยังเข้าโรงเรียนไม่ได้!” ถังเหมียวเหมี่ยวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและกล่าวด้วยความเคารพ
“บอกแล้วไงว่าพ่อคือซูเปอร์แมน!” โจวอี้ยิ้มให้ลูกสาว
“ซูเปอร์แมนผู้มีเวทมนตร์!” ถังเหมียวเหมี่ยวหัวเราะ
โจวอี้ปลื้มลูกสาวของเขามาก จึงอุ้มเธอขึ้นมาและส่งเธอจนถึงประตูห้องเรียน
จากนั้นเขาก็วางถังเหมียวเหมี่ยวลง และมองดูเธอเดินถือกระเป๋าใบเล็ก ๆ เข้าไปในห้องเรียน
ครู่ต่อมา…
โจวอี้มาที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ ขณะที่เขากำลังจะเคาะประตูก็พบว่าประตูสำนักงานถูกดึงเปิดออกจากด้านใน
ผู้หญิงในชุดทำงานและรองเท้าส้นสูงเดินออกมา อีกฝ่ายตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นเขา…
“โจวอี้?”
“คุณคือใคร?” เขามั่นใจว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน
“ฉันคือผู้จัดการส่วนตัวของถังหว่าน เฉินอ้ายหลิน”
“คุณคือพี่อ้ายหลิน! ช่วงนี้ผมได้ยินชื่อคุณบ่อย! ผมรู้ว่าคุณดูแลเสี่ยวหว่านของเราอย่างดี ผมว่าจะไปเยี่ยมคุณเพื่อกล่าวขอบคุณอย่างเป็นทางการ! แต่ก็ไม่คิดว่าคุณจะอยู่ที่นี่แล้ว!”
โจวอี้ได้ยินชื่อเฉินอ้ายหลินมาจากเหม่ยหลาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเฉิยอ้ายหลินได้ยินคำพูดของโจวอี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีดำทะมึนและบิดเบี้ยว แววตาของเธอแสดงถึงความโกรธ
เธอปั้นถังหว่านมาอย่างดี และได้กลายเป็นนักปั่นเงินของฮวนหยิง เอนเตอร์เทนเมนต์ และตอนนี้ถังหว่านกำลังโด่งดังในฐานะศิลปิน!
แต่เมื่อโจวอี้ปรากฏกาย เรื่องของถังหว่านก็อาจถูกเปิดเผยในวงกว้าง มันจะต้องส่งผลกระทบอย่างมากต่อถังหว่าน และนำความสูญเสียครั้งใหญ่มาสู่เธอและบริษัท
เธอมาที่โรงเรียนอนุบาลในครั้งนี้ก็เพื่อจัดการกับผลที่ตามมา และแก้ไขเรื่องของโจวอี้ที่เกิดในโรงเรียนอนุบาลเมื่อไม่กี่วันก่อน…
“โจวอี้ คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณ ถังหว่านเป็นนักร้องที่ได้รับการฝึกฝนโดยฮวนหยิงเอนเตอร์เทนเมนต์ และพวกเราเหมาะสมแล้วที่จะดูแลเธอ” เฉินอ้ายหลินกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “แต่การปรากฏตัวของคุณเท่านั้นที่สร้างปัญหาให้กับเธอและบริษัท”
“ปัญหาอะไร?” รอยยิ้มบนใบหน้าของโจวอี้พลันมืดมน
“ถังหว่านประกาศว่าเธอโสด และถึงกับซ่อนเหมียวเหมี่ยวเอาไว้ แต่เมื่อคุณเป็นที่รู้จักจากสื่อ มันจะผลักเธอให้เจอมรสุมข่าวฉาว แฟน ๆ จำนวนมากจะทิ้งและโจมตีเธอ เรื่องราวทั้งหมดก็จะแพร่กระจายออกไป” เฉินอ้ายหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ผมเข้าใจ” โจวอี้พยักหน้าช้า ๆ
แม้คำพูดของเฉินอ้ายหลินจะหยาบคาย แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเธอ
เขาไม่ใช่คนที่ไม่รู้ข่าวคราวอะไร เขาสามารถดูทีวีในหมู่บ้านโจวที่ภูเขา แม้ว่าเนื้อหาจำนวนมากในละครโทรทัศน์เหล่านั้นจะเกินจริง แต่ก็ไม่ได้แยกออกจากความเป็นจริงมากนัก
เขารู้ว่าแฟน ๆ มีความสำคัญต่ออาชีพในวงการนี้มาก
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ดาราชายและหญิงจำนวนมากไม่กล้าเปิดเผยเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ รวมถึงการแต่งงานและลูก ๆ เพราะกลัวว่าแฟน ๆ จะพากันโกรธเคืองและไม่ติดตามดาราในดวงใจอีก ชื่อเสียงของพวกเขาก็คงจะลดลง
แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับสถานการณ์ในวงการบันเทิงเช่นนี้ และคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับดาราคือผลงาน แต่หากถังหว่านได้รับผลกระทบจากเขา เขาก็จะโทษตัวเองด้วยเช่นกัน
“ในเมื่อเข้าใจแล้ว ทำไมคุณถึงต้องมาที่โรงเรียนและทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขึ้น? แล้วทำไมคุณถึงยังไปซื้อบ้านข้าง ๆ ถังหว่าน ?” เฉินอ้ายหลินขุ่นเคือง
“ผมมาที่โรงเรียนอนุบาลเพื่อตามหาลูกสาวของผม แต่ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และตอนนั้นผมก็ไม่ได้ตระหนักมากพอ ส่วนเรื่องพาลูกสาวไปและกลับจากโรงเรียน ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มีคนไม่มากที่รู้จักตัวตนของเหมียวเหมี่ยว ผมแค่มารับมาส่งเธอ ดีกว่าที่จะให้ถังหว่านมารับมาส่งเธอทุกวัน ส่วนเรื่องการซื้อบ้านก็ไม่เกี่ยว เพราะไม่ใช่การอยู่ร่วมกัน ไม่ต้องกลัวหรอก” โจวอี้ตอบด้วยเหตุผล
“ไม่กลัวว่าคนอื่นเขา….”
“ถ้าคุณกลัว คุณไม่ควรปล่อยให้เธอเข้าสู่วงการบันเทิง” โจวอี้ไม่ยอมแพ้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงลึกล้ำว่า “ผมรู้ว่าคุณหมายถึงอะไร ผมจะใส่ใจกับการรักษาความลับ เพราะผมไม่ต้องการให้ลูกสาวของผมเป็นจุดสนใจก่อนเวลาอันควรเหมือนกัน!”
“ถ้าคุณเข้าใจก็ดี” แม้เฉินอ้ายหลินจะโกรธ แต่คำตอบของโจวอี้ก็ไม่สามารถหักล้างได้เช่นกัน
“ถังหว่านเป็นดารา และอาชีพของเธอสำคัญมากสำหรับเธอ แต่ครอบครัวของเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอเช่นกัน เนื่องจากคุณเป็นผู้จัดการส่วนตัวของถังหว่าน ผมบอกได้ชัดเจนว่าเธอเต็มใจที่จะร้องเพลงในอนาคต และผมจะสนับสนุนเธอ และถ้าเธอไม่เต็มใจที่จะร้องเพลงอีกต่อไป ผมก็สามารถสนับสนุนเธอได้เช่นกัน ผมเคารพทางเลือกของเธอ แต่ผมหวังว่าคุณจะเคารพชีวิตของเธอด้วย”
โจวอี้เดินผ่านเฉินอ้ายหลินอย่างเย็นชา จากนั้นก็เข้าไปในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียน
ในขณะที่เฉินอ้ายหลินหันไปจ้องตามแผ่นหลังของโจวอี้ด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเดินจากไป
ภายในสำนักงาน…
เฉินเยว่ฉินเผยรอยยิ้มบนใบหน้า และถามว่า “ถ้าคุณทำให้เธอขุ่นเคือง คุณไม่กลัวว่าเธอจะสวมรองเท้าเล็ก*[1] ให้คุณถังเหรอ?”
“ถ้าเธอสร้างเรื่องลำบากใจให้ถังหว่านเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ผมไม่คิดว่าถังหว่านจะต้องพบปะกับเธออีกในอนาคต แค่ไปที่บริษัทอื่น หรือกลับบ้านไปดูแลสามีของเธอและลูก ๆ” โจวอี้ยิ้ม
“ถ้าคุณถังกลับบ้านไปดูแลสามีและลูก คุณจะช่วยเหลือพวกเขาได้ไหม?” เฉินเยว่ฉินถามแซว
“แน่นอน เพราะผมได้งานแล้ว”
“งานอะไร?” เฉินเยว่ฉินนึกสงสัย
“โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง ผมเป็นที่ปรึกษาทางการแพทย์” โจวอี้ยิ้ม
“คุณ…”
เฉินเยว่ฉินดูประหลาดใจ เธอคุ้นเคยกับโรงพยาบาลนี้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่เข้ายากมาก
แล้วโจวอี้เข้าได้อย่างไร? เขาเพิ่งออกมาจากภูเขาไม่ใช่เหรอ?
“จริงเหรอ?” เธอถามซ้ำเพื่อต้องการให้แน่ใจ
“จริง ๆ ครับ” โจวอี้พยักหน้า
เมื่อเฉินเยว่ฉินได้ยินดังนั้นก็โล่งใจขึ้นมา
เธอตกลงที่จะให้โจวอี้รักษาให้เธอ เธอกังวลว่าอีกคนจะสร้างปัญหา แต่เนื่องจากโจวอี้สามารถทำงานในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าทักษะทางการแพทย์ของเขาย่อมดีแน่นอน
“วันนี้คุณจะรักษาที่ไหน?” เฉินเยว่ฉินถาม
“ตอนนี้ผมอยู่ที่นี่แล้ว มารักษาที่นี่กันเลยเถอะ!” โจวอี้ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้เมื่อพูดจบ เขายกมุมปากขึ้นทันทีและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมคิดว่าการเลี้ยงดูภรรยาและลูกไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผมเพียงแค่รักษาคุณอย่างง่าย ๆ เท่านี้ผมก็สามารถมีรายได้ถึงสองหมื่นหยวนแล้ว ดูเหมือนว่าผมจะทำเงินได้ง่าย ๆ เชียวล่ะ”
“…”
[1] “สวมรองเท้าเล็ก” (chuānxiǎoxié) หมายถึง สร้างความลำบากหรือสร้างปัญหาให้กับผู้อื่น