หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า - บทที่ 29 การรักษาร่วมกัน
บทที่ 29 การรักษาร่วมกัน
บทที่ 29 การรักษาร่วมกัน
“ชู่วว…!!”
ฉู่ซีซีส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายเงียบในทันที
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่ขโมย แต่เวลานี้เธอก็กำลังกระทำความผิด
“มันลึกลับขนาดนั้นเลยหรอ เกิดอะไรขึ้น?” หลี่เล่ยเล่ยไม่ได้นิ่งเงียบ แต่เสียงของเธอก็เบาลง
เธอทำตามฉู่ซีซีด้วยการเอาหูไปแนบที่ประตูสำนักงาน เพื่อแอบฟังเสียงบางอย่างในนั้น
เธอได้ยินเสียงร้องครวญครางอยู่ข้างใน
“พี่ซี อาจารย์ใหญ่ร้องทำไม?” หลี่เล่ยเล่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“ฉัน…” แก้มของฉู่ซีซีแดงขึ้นมา เธอรู้สึกละอายใจมากที่ตัวเองต้องการหาทางเข้าไป
หลี่เล่ยเล่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมฉู่ซีซีถึงมีท่าทีเช่นนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลกำลังร้องครวญครางอยู่ในสำนักงาน แต่ทำไมฉู่ซีซีถึงมีสีหน้าเขินอาย?
ขณะที่เธองุนงง จู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มดังออกมาว่า “ใจเย็น ๆ มันจะเจ็บในตอนแรก แต่เดี๋ยวก็สบาย”
ทันใดนั้นหลี่เล่ยเล่ยก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง…
เธออ้าปากค้างก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาปิดไว้
ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลกำลังอยู่ในห้องทำงานพร้อมกับผู้ชาย?!
“อันที่จริง คุณโจวกำลังรักษาอาจารย์ใหญ่อยู่” ฉู่ซีซีอธิบายในสิ่งที่ไม่ตรงกับความคิดในใจ
“คุณโจว คนไหน?” หลี่เล่ยเล่ยถามอย่างสงสัย
“คุณโจว พ่อของถังเหมียวเหมี่ยว ชายที่มาสร้างปัญหาที่โรงเรียนของเราเมื่อวันก่อน” ฉู่ซีซีกระซิบ
ตอนที่โจวอี้ปฏิบัติต่อเฉินเยว่ฉินในคราวนั้น หลี่เล่ยเล่ยเองก็อยู่ในที่เกิดเหตุเช่นกัน จึงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนช่วยชีวิตผู้อำนวยการไว้
แต่การจะรักษาคนไข้ ต้องพูดอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ?
หลี่เล่ยเล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผลักประตูสำนักงานให้เปิดออก และมองเข้าไปข้างในทันที
ในชั่วพริบตา เธอก็เห็นโจวอี้กำลังบิดคอของเฉินเยว่ฉิน
“บิดคอเหรอ?!!”
“นี่จะฆ่ากันเหรอ?!!”
หลี่เล่ยเล่ยตกตะลึง
“อย่า…”
ฉู่ซีซีไม่ได้คาดคิดว่าหลี่เล่ยเล่ยจะหุนหันพลันแล่นเปิดประตูเข้าไป เธอพุ่งตัวไปข้างหน้า ผลักประตูตามเข้าไปทันที!
โจวอี้หันศีรษะชำเลืองมองพวกเขา จากนั้นจึงกดมือบนกระดูกคอของเฉินเยว่ฉิน และเริ่มนวดต่อ
อย่าเสียสมาธิ!
ในขณะที่ฉู่ซีซีและหลี่เล่ยเล่ยเกือบจะปิดหน้าและวิ่งหนีออกจากประตูไปด้วยความอับอาย
นี่เข้าใจผิดไปเองงั้นเหรอเนี่ย!
“เข้ามาแล้วก็ปิดประตูจากข้างใน” โจวอี้สั่งด้วยเสียงที่ไม่จริงจังนัก
“อ่า…ได้!” พวกนางจึงรีบปิดประตู
มือสัมผัสกระดูกเป็นเทคนิคมหัศจรรย์ในการตรวจจับสภาพกระดูก นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการนวดที่ให้ผลดีอย่างมาก
โจวอี้จัดกระดูกของเฉินเยว่ฉินก่อน จากนั้นจึงนวดเธอ
ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เฉินเยว่ฉินผู้ซึ่งกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป เธอรู้สึกว่ากระดูกคอของเธออบอุ่นและสบายยิ่งขึ้น
ประมาณสิบนาทีต่อมา โจวอี้ก็หยุดนวด
เขาหยิบเข็มเงินออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็แทงลงไปที่กระดูกคอ และจุดฝังเข็มต่าง ๆ บนไหล่ของอีกฝ่ายทีละจุด แล้วใส่พลังปราณลงไปด้วย
จากนั้นเขาก็มองไปยังหญิงสาวที่มาใหม่ทั้งสองคน และถามว่า “คุณป่วยด้วยหรือเปล่า?”
“ไม่ เราไม่ใช่คนป่วย” ผู้หญิงสองคนโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อืม!” โจวอี้หันไปทำการรักษาต่อไป
ไม่กี่นาทีต่อมา โจวอี้ก็ดึงเข็มเงินออกจากเฉินเยว่ฉิน แล้วใส่กลับลงในกล่องไม้หลังจากผ่านการฆ่าเชื้อ จากนั้นก็นวดไหล่ของเฉินเยว่ฉินเพื่อฟื้นฟูอาการปวดเมื่อยของเธอ
“เอาล่ะ วันนี้การรักษาจบลงแล้ว” โจวอี้เก็บกล่องไม้ที่บรรจุเข็มเงินและถามด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไร?”
“สบายตัวมาก!”
เฉินเยว่ฉินยืนขึ้น ขยับคอและไหล่ของตัวเอง แววตาของเธอสดใสเป็นพิเศษ
เดิมทีเธอรู้สึกว่าไหล่ของเธอหนักมาก และกระดูกคอก็เหมือนจะกดทับเส้นประสาทของเธออยู่ แต่เมื่อรับการรักษาจากโจวอี้ เธอก็รู้สึกพอใจกับความรู้สึกผ่อนคลายที่หาใดเปรียบมิได้
“คุณโจว…หมอโจว คุณรักษาโรคกระดูกพรุนและกระดูกสะบักของฉันได้จริงเหรอ?” เฉินเยว่ฉินถามด้วยความไม่แน่ใจ
“อย่ากังวล! ตราบใดที่คุณให้ความสนใจมากขึ้น นั่งในท่ามาตรฐาน และออกกำลังกายบ่อย ๆ โรคกระดูกพรุนและกระดูกสะบักจะทำอะไรคุณไม่ได้อีก” โจวอี้พูดอย่างใจเย็น
“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะจำมันเอาไว้ให้ขึ้นใจ” เฉินเยว่ฉินกล่าวอย่างกระตือรือร้น
เธอแต่งตัวและมองไปที่ฉู่ซีซีและหลี่เล่ยเล่ยที่ยังอยู่ในห้อง แม้ว่าเธอจะไม่พอใจ แต่เธอก็ชี้ไปที่หลี่เล่ยเล่ย และพูดกับโจวอี้ว่า “หมอโจว ครูคนนี้คือหลี่เล่ยเล่ย เป็นอาจารย์ของเหมียวเหมี่ยว”
อาจารย์ของเหมียวเหมี่ยว?
โจวอี้ดูประหลาดใจ เขามองไปที่หลี่เล่ยเล่ยอีกครั้ง และกล่าวอย่างกระตือรือร้นทันทีว่า “สวัสดีครับ คุณหลี่ ผมคือพ่อของเหมียวเหมี่ยว ยินดีที่ได้รู้จักครับ!”
“สวัสดีค่ะ…สวัสดี…!” หลี่เล่ยเล่ยรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“คุณหลี่ ชะตาถูกกำหนดไว้แล้วว่าพวกเราจะได้พบกัน บังเอิญว่าผมเพิ่งรักษาคุณเฉิน ดังนั้นผมจะบอกคุณว่า… คุณควรดูแลปัญหากระดูกคอส่วนล่าง! ผมรู้ คุณครูเป็นกันเยอะ หลายคนมีกระดูกคอเสื่อมตั้งแต่อายุยังน้อย…แม้ว่าคุณจะดูสบายดี แต่ผมจะช่วยรักษาคุณ และมันจะดีขึ้นแน่นอน” โจวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่เล่ยเล่ยและฉู่ซีซีตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคิดฝันว่าโจวอี้จะเสนอการรักษาดังกล่าวให้กับพวกเธอในขณะนี้
ว่าแล้วตรงกระดูกส่วนคอก็…อึดอัดอยู่เล็กน้อย!
ดวงตาของสองสาวเหลือบไปที่เฉินเยว่ฉิน
เฉินเยว่ฉินใจกว้าง เธอพูดว่า “หมอโจวมีทักษะการนวดที่ดีมาก ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายที่สุด มันเป็นโอกาสที่หาได้ยาก ให้เขาช่วยพวกเธอเถอะ!”
โจวอี้ชี้ไปที่เก้าอี้ข้าง ๆ เขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มาเถอะ ถอดเสื้อนอกออก แล้วนั่งบนเก้าอี้ตัวนี้ ถ้ามันได้ผล อย่าลืมให้เงินผมคนละหนึ่งหยวน แต่ถ้ามันไม่ได้ผล คุณก็ไม่ต้องจ่าย”
หนึ่งหยวนต่อคน?
โจวอี้ดูเหมือนจะรับรู้ความคิดของสองสาว จึงอธิบายด้วยรอยยิ้ม “มันเป็นกฎการรักษาของเราที่เราต้องเรียกเก็บค่ารักษา หากเราเป็นคนกันเอง เราสามารถเรียกเก็บเพียงเล็กน้อยได้ แต่หากเป็นคนนอกก็จะมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่า”
กฎของการรักษา?
ทันใดนั้นหญิงสาวทั้งสองคนก็เริ่มขยับเขยื้อน หลี่เล่ยเล่ยถอดเสื้อแจ็กเก็ตออกแล้วนั่งลงบนเก้าอี้
โจวอี้ตรวจสอบกระดูกคอของเธอ และพบว่ามันมีปัญหาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงนัก จากนั้นเขาก็เริ่มต้นนวด
หลี่เล่ยเล่ยรู้สึกดีขึ้นมาทันทีที่อีกฝ่ายลงมือนวดให้
ทว่าปัญหากระดูกส่วนคอของฉู่ซีซีนั้นรุนแรงกว่าของหลี่เล่ยเล่ยเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถรักษาให้หายขาดได้หลังจากการนวดและการฝังเข็มของโจวอี้
“คุณเป็นยังไง รู้สึกยังไงบ้าง?” โจวอี้ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่รักษาจนเสร็จสิ้น
“สบายมากเลย! ก่อนหน้านี้ฉันปวดมาก และไหล่ก็หนักเหมือนกับแบกภูเขาสองลูกไว้ แต่ตอนนี้มันสบายขึ้นจริง ๆ” ฉู่ซีซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ใช่! สบายกว่าเดิมมาก” หลี่เล่ยเล่ยพยักหน้าเห็นด้วย
“ถ้าคุณพอใจก็จ่ายเถอะ! เราเป็นคนกันเอง คนละหนึ่งหยวน” โจวอี้ยิ้ม
“ได้!”
หญิงสาวทั้งสองหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อเข้าสู่ระบบ WeChat และเพิ่มโจวอี้เป็นเพื่อน จากนั้นก็ให้เงินเขาคนละหนึ่งหยวน
“เหมียวเหมี่ยวของผม รบกวนคุณเฉินและคุณหลี่ช่วยดูแลเธอด้วยนะครับ!” โจวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม