หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า - บทที่ 60 พี่เขย
บทที่ 60 พี่เขย?
บทที่ 60 พี่เขย?
คลินิกที่ปรึกษา
ตอนนี้โจวอี้ไม่มีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษา แต่เขาก็ไม่ได้เกียจคร้านแต่อย่างใด
เขากำลังขอให้เหลียนซานสอนวิธีใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ โดยเฉพาะฟังก์ชันการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ รวมถึงการจัดมุมที่เหมาะสมกับการถ่ายภาพ วิธีการใช้พื้นหลัง การปรับแสง ฟิลเตอร์ การทำให้ตัวดูผอมเพรียว
“สวัสดีหมอโจว ฉัน…หวังคั่น หัวหน้าแผนกแพทย์ผิวหนังของโรงพยาบาลเรา” แพทย์หญิงรายนี้พาครอบครัวใหญ่เข้ามาพบโจวอี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ฉันลงทะเบียนคนไข้แล้ว หวังว่าคุณจะช่วยดูอาการให้พ่อของฉันด้วยนะคะ”
“สวัสดีครับ หมอหวัง” โจวอี้วางโทรศัพท์มือถือลงพลางยิ้มและพยักหน้า สายตาของเขาจับจ้องไปยังชายชราที่มีชายสองคนพยุงตัวไว้อยู่
“ช่วยเล่าเรื่องคนไข้ให้ฟังหน่อยครับ”
“ได้…”
บริเวณทางเข้าคลินิกที่ปรึกษา
ถังหว่านปรากฏตัวพร้อมอาวุธครบมือ เธอปลอมตัวอย่างชำนาญ ดังนั้นคนอื่น ๆ จึงจำเธอไม่ได้
ตอนนี้เธอเห็นโจวอี้อยู่ที่โต๊ะคลินิก
เป็นเขาจริง ๆ เหรอ?!!
เขาเป็นหมอที่โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงจริงเหรอ?
รักษาผู้ป่วยได้ด้วยเหรอ?!
แม้แต่บางคนก็ขับรถมาตั้งหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อขอให้เขารักษา!
ดวงตาของถังหว่านเป็นประกายเมื่อเธอมองดูโจวอี้ซึ่งกำลังจับชีพจรชายชราและสอบถามเกี่ยวกับอาการ
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าผู้ชายที่ทำงานหนักแบบนี้ช่างดูมีเสน่ห์
“ใช่ไหมล่ะพี่หว่าน! เป็นพี่โจวจริง ๆ ด้วย!” ซุนเหมิงกระซิบ
“อืม เป็นหมอก็ดี” ถังหว่านตอบเสียงต่ำ
ทันใดนั้น เหลียนซานที่อยู่ในห้องบังเอิญหันมาเห็นพวกเธอเข้าพอดี
เธอเดินตรงไปหาซุนเหมิงและมองไปที่ถังหว่าน เพราะคิดว่าคงเป็นคนไข้ที่จะมารอรับการรักษา “คุณเป็นคนไข้รึเปล่า? ได้นัดไว้รึเปล่าคะ?”
“พี่หว่านไม่ใช่คนไข้ เรามาหาพี่เขยโจว” ซุนเหมิงรีบอธิบาย
อะไรนะ?
คนไข้มาทำอะไรที่นี่?
พี่เขยโจวคือใคร?
เหลียนซานขมวดคิ้วและมองทั้งคู่อย่างสงสัย
ถังหว่านมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าตอนนี้ไม่มีใครหันมาจับจ้องเธออยู่ เธอจึงพูดออกไปว่า “ฉันมาหาโจวอี้”
หาหมอโจว? พี่เขยโจว?
เหลียนซานจ้องซุนเหมิงสลับไปมองโจวอี้ จากนั้นเธอก็มองกลับมาอย่างสงสัยและมองไปที่ถังหว่านอีกที น่าเสียดายที่ถังหว่านสวมหน้ากากอยู่จึงทำให้เธอมองไม่เห็นใบหน้าได้ชัดเจน
“แล้วคุณเป็นใคร?” เหลียนซานถามกลับ
“สวัสดี ฉันคือถังหว่าน” ถังหว่านว่าพลางถอดแว่นกันแดดและหมวกที่อำพรางใบหน้าของเธอออก
เมื่อเห็นว่าดวงตาของเหลียนซานเบิกกว้าง เธอจึงรีบสวมมันกลับเข้าที่อีกครั้งและพูดว่า “ฉันมีนัดกับเขา”
หัวใจของเหลียนซานเต้นเร็วขึ้น
ดาราดังถังหว่าน! ดาราดังมาที่โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง!!
นอกจากนี้ หญิงข้าง ๆ ยังเรียกว่าพี่หว่าน แล้วพี่เขยโจวของเธอคือหมอโจว?
หมอโจวและดาราดังถังหว่าน เป็น…สามีภรรยากัน?
เหลียนซานคิดว่ามันแปลก แต่นี่ไม่ใช่เวลามาตั้งคำถาม เธอครุ่นคิดครู่หนึ่งและยิ้มออกมาพลางทักทาย “สวัสดีคุณถัง มากับฉันก่อนเถอะค่ะ คาดว่าหมอโจวต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเสร็จงาน”
“โอเคค่ะ ขอบคุณ” ถังหว่านพยักหน้า
โจวอี้ไม่ได้สังเกตเห็นการมาถึงของถังหว่าน เพราะตอนนี้เขาพบว่าชายชราได้สูญเสียเลือดและพลังงานอย่างร้ายแรง อีกทั้งอวัยวะภายในและร่างกายยังเต็มไปด้วยพลังงานหยิน
“หมอโจว พ่อฉันป่วยเป็นอะไร?” หวังคั่นรีบถาม
“ถ้าการวินิจฉัยของผมถูกต้อง เขาน่าจะเป็นโรคกลัวความเย็น[1] พ่อของคุณมักจะกลัวความหนาวรึเปล่า? เขามักจะกินอาหารที่มีแคลอรีสูงใช่ไหม? และเขายังมีอาการวิตกกังวลหรือแม้กระทั่งพฤติกรรมบีบบังคับในบางครั้ง” โจวอี้ถาม
“ใช่ นั่นแหละ! คุณมียารักษาไหมคะ?”
“ไม่มีปัญหา แต่ผมเกรงว่าจะใช้เวลานานหน่อย อย่างน้อยต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งปีในการฟื้นตัวร่างกายอย่างช้า ๆ อย่างแรก ผมจะฝังเข็มให้เขาเพื่อบรรเทาลมหายใจและกำจัดความเย็นในร่างกาย จากนั้นผมจะเขียนใบสั่งยาให้คุณ รวมถึงวิธีการเลือกทานอาหารเพื่อให้คุณดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี”
“ดีมากเลย ขอบคุณมากค่ะหมอโจว!” หวังคั่นขอบคุณด้วยความปีติ ขณะที่คนอื่น ๆ ก็รู้สึกทั้งขอบคุณและประหลาดใจอยู่ตลอดเวลา
ครึ่งชั่วโมงต่อมา…
หลังจากการรักษาเสร็จสิ้น ผู้ป่วยและครอบครัวของเขาก็ออกจากห้องไป
เหลียนซานที่เพิ่งมาถึงก็ถามว่า “หมอโจว ภรรยาของคุณ คุณถังหว่าน เป็นดาราใหญ่รึเปล่า?”
“คุณรู้ได้ยังไง?” โจวอี้ถามด้วยความประหลาดใจ
“จริง ๆ เหรอ?” เหลียนซานดูเหมือนจะค้นพบโลกใหม่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชม เธอยกนิ้วโป้งและพูดว่า “หมอโจว คุณเก่งมาก คุณแต่งงานกับผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมคนนี้ได้ ตอนนี้เธออยู่ที่ห้องข้าง ๆ แล้ว และบอกว่าต้องการพบคุณ”
“อย่ายกยอผมตลอดเวลาเลย มันฟังดูอึดอัด” โจวอี้ยิ้มและกระซิบต่ออีกว่า “อย่าลืมเก็บเป็นความลับ ผมไม่ต้องการทำให้เมืองนี้วุ่นวาย”
“แน่นอน ฉันรู้น่า” เหลียนซานยิ้ม
โจวอี้มองดูเวลาและพบว่าเหลือเวลามากกว่ายี่สิบนาทีก่อนที่เขาจะเลิกงาน “ไม่มีผู้ป่วยแล้ว เลิกงานก่อนได้ไหม ผมมีงานต้องทำ ต้องไปที่แผนกผู้ป่วยใน”
“ไม่เป็นไร ไปเถอะค่ะ” เหลียนซานพยักหน้า
โจวอี้จึงออกจากห้องและไปที่ห้องข้าง ๆ หลังจากเข้าไปแล้ว เขาก็พบว่าถังหว่านและซุนเหมิงกำลังสนทนากันอยู่ และบนโต๊ะยังมีตะกร้าผลไม้ที่บรรจุอย่างสวยงามอยู่ด้วย
“วันนี้คุณไม่ยุ่งเหรอ ผมคิดว่าคุณจะมาวันอื่น” โจวอี้ถอดเสื้อคลุมสีขาวออก ก่อนจะแขวนไว้บนผนังแล้วสวมเสื้อคลุมของตัวเองอีกครั้ง
“ไม่ยุ่งมาก” ถังหว่านยืนขึ้นตอบ
“ไปที่แผนกผู้ป่วยในกันเถอะ! หลังจากไปเยี่ยมทั้งสามคนแล้ว เราไปทานอาหารกลางวันด้วยกันไหม?” โจวอี้ถาม
“ไม่ต้องหรอก ฉันต้องไปอัดเพลงตอนบ่าย”
“งั้นไม่เป็นไร!” โจวอี้ยักไหล่
จากนั้นถังหว่านก็ตามโจวอี้ไปที่แผนกผู้ป่วยใน
ระหว่างทาง เธอรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าแพทย์หลายคนมักจะทักทายโจวอี้ และบางทีก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อมาทักทาย
โจวอี้พาเดินหลงอยู่ประมาณสิบนาทีก็มาถึงวอร์ดที่พวกอู๋ฉี่หางพักรักษาตัวอยู่
“คุณเพิ่งเคยมาโรงพยาบาลนี้เหรอ?” ถังหว่านถาม
“ผมมัวแต่รักษาเคสพิเศษ เลยไม่มีเวลาเดินชมในโรงพยาบาล” โจวอี้ยิ้ม
“…”
ถังหว่านถึงกับพูดไม่ออก
อันที่จริงเธอรู้ดีว่าสิ่งสำคัญที่สุดของการทำงานในโรงพยาบาลคือทักษะทางการแพทย์ที่เก่งกาจจึงจะทำให้ได้รับความเคารพนับถือจากผู้อื่น
โจวอี้ทำงานที่นี่เพียงไม่กี่วันแต่เขากลับทำเช่นนั้นได้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าทักษะทางการแพทย์ของเขานั้นทรงพลัง
แต่แพทย์แผนจีนที่เก่งกาจทุกคนก็ล้วนมีอายุมากไม่ใช่เหรอ? แล้วโจวอี้อายุเท่าไหร่เอง?
ดูเหมือนว่าเขาจะอายุน้อยกว่าเธอครึ่งปีเองนะ!
[1] โรคกลัวความเย็น Frigophobia เป็นลักษณะหนึ่งของโรคย้ำคิดย้ำทํา โดยมีความกลัวต่อความเย็น หมกมุ่นอยู่กับความเชื่อว่าความร้อนได้หมดไป กลัวลม ต้องสวมเสื้อหนา ๆ เพื่อป้องกันความหนาวของร่างกาย ดังนั้นจึงทําให้ผู้ป่วยกลัวและต้องทําให้ตนเองอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา