หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า - บทที่ 77 ของขวัญที่ไม่ได้มอบ
บทที่ 77 ของขวัญที่ไม่ได้มอบ
บทที่ 77 ของขวัญที่ไม่ได้มอบ
เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่อยู่ใกล้กับสรรพสิ่งที่สุด
ด้วยเงินจำนวนมหาศาลที่ส่งโอนบัญชีของโจวอี้ โจวเงินล้านกลายเป็นโจวร้อยล้าน แต่ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้และความกำกวมยังคงคาใจเขา
แน่นอน
บุคคลที่มีความสุขที่สุดคือหลินเวย
เธอไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้รับส่วนแบ่งโดยไม่ต้องออกเรี่ยวแรงสักนิด จำนวนเงินที่เธอได้รับนั้นเท่ากับโจวอี้ หวงไห่เทา และเฉิงฮ่าว
ในลานจอดรถ
“ศิษย์น้อง ถ้ารับเงินไป ฉันคงรู้สึกไม่สบายใจ” หลินเวยยืนอยู่หน้าโจวอี้และเอ่ยขึ้น
“คุณยังเป็นหนึ่งในกองกำลังหลักในการปกป้องหม้อระงับวิญญาณ หากคุณไม่ลงมือ เราอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังเหล่านั้น” โจวอี้คลี่ยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะตบไหล่อีกฝ่ายแล้วพูดต่อ
“ตามกฎของสำนักโอสถ หากเราต้องทุ่มเทกระทำสิ่งใด เราย่อมได้รับสิ่งตอบแทน แม้จะเป็นการรักษาโรคหรืออาการบาดเจ็บก็เช่นกัน ดังนั้นอย่างสร้างภาระให้จิตใจตัวเองเลย”
“อื้ม!”
แม้ว่าหลินเวยไม่มีความชำนาญในการรักษา แต่เธอก็รู้กฎของสำนักโอสถดี
“ตกลง! ตอนนี้ผมมีอย่างอื่นต้องทำ เอาไว้พวกเราค่อยติดต่อกัน” โจวอี้ยิ้ม
“ศิษย์น้อง ฉันว่าจะลาออก” หลินเวยพูดขึ้นทันที
“เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณ คุณต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง” โจวอี้โบกมือและกำลังจะเข้าไปในรถ ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงถามออกไป
“คุณเคยคิดบ้างไหมว่าคุณจะทำอะไรหลังจากลาออก”
“เปิดร้านกาแฟ” หลินเวยยิ้ม
“โอเค ถ้าเปิดร้านแล้วอย่าลืมบอกผม แล้วผมจะแวะไปอุดหนุน” โจวอี้ยิ้มและเข้าไปในรถ
ตอนเย็น
โจวอี้กลับไปที่ย่านช็องเซลิเซ่ ลานติง วิลล่า พร้อมกล่องของขวัญสองกล่องที่ถูกบรรจุอย่างสวยงาม และยังมีกระเป๋าหนังสีดำหนึ่งใบ
ถังหว่านไม่ได้บอกเขาว่าพ่อแม่ของเธอชอบอะไร เขาจึงต้องขอคำแนะนำจากหวงไห่เทาและ เฉิงฮ่าว เมื่อพวกเขารู้ว่าโจวอี้ต้องการไปพบพ่อแม่ของภรรยา พวกเขาจึงให้ความสนอกสนใจ
หลังจากปรึกษาหารือแล้วพวกเขาพาไปที่ตลาดของเก่า จากนั้นไปที่ตลาดยา และในที่สุดก็เลือกของขวัญมาหนึ่งอย่าง
“พ่อ…”
ภายในห้องโถงของวิลล่า ถังเหมียวเหมี่ยวที่ดูโทรทัศน์อยู่เห็นว่าโจวอี้กำลังเข้ามาก็กุลีกุจอโยนรีโมททิ้ง ก่อนจะอ้าแขนกว้างวิ่งปรี่เข้าไปหาอีกฝ่าย
“ลูกสาวที่รัก พ่อคิดถึงลูกมาก” โจวอี้วางของลงและอุ้มลูกสาวขึ้นไว้ในอ้อมแขน และยกเธอขึ้นสูงหลายครั้ง เด็กหญิงตัวน้อยส่งเสียงหัวเราะดังร่า โจวอี้จึงเอ่ยถาม “เหมียวเหมี่ยวคิดถึงพ่อไหม”
“คิดถึง คิดถึงมาก ๆ เลย” ถังเหมียวเหมี่ยวพยักหน้าหงึกหงัก จากนั้นก็โอบรอบคอผู้เป็นบิดาแน่น และหอมแก้มเขาฟอดใหญ่
การกระของลูกสาวตัวน้อยทำให้หัวใจของโจวอี้สั่นไหว มันอ่อนหวานเสียหัวใจเขาแทบละลาย
ถังหว่านปรากฏตัวขึ้นนอกประตูห้องครัว รอยยิ้มฉายชัดในดวงตา “คุณกลับมาแล้วเหรอ? ทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ?”
“เรียบร้อยแล้วครับ” โจวอี้ยิ้ม
“ถ้างานเสร็จแล้วก็อยู่เล่นกับเหมียวเหมี่ยวในห้องนั่งเล่นก่อน อาหารใกล้จะเสร็จแล้ว” ถังหว่าน พูดจบก็หมุนกายกลับเข้าไปในครัว
โจวอี้อุ้มลูกสาวเดินไปที่ประตูห้องครัว เขาพบว่าพ่อแม่ของถังหว่านไม่อยู่ที่นั่น แม้แต่เหม่ยหลานพี่เลี้ยงของเหมียวเหมี่ยวก็ไม่อยู่
“พ่อแม่คุณล่ะ?” โจวอี้ถาม
“พวกเขารับสายเมื่อเช้าแล้วก็รีบกลับไปทันที” ถังหว่านกล่าว
“กลับ? พวกเขาไม่อยากพบผมเหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงกลับไปแบบนั้นล่ะ?”
“ยายของฉันโทรมาบอกว่าเธอมีอาการแน่นหน้าอกและรู้สึกเวียนหัว พ่อกับแม่เลยรีบกลับไปเพื่อพาคุณยายไปโรงพยาบาลตรวจร่างกาย” ถังหว่านอธิบาย
เมื่อได้ยินเช่นนี้โจวอี้ก็พูดไม่ออก
เขาใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายไปอย่างเปล่าประโยชน์ ดังนั้นจึงไม่สามารถมอบของขวัญที่ซื้อมาให้พวกเขาได้
“พวกท่านไม่ได้บอกเหรอว่าจะกลับเมื่อไหร่” โจวอี้ถามขึ้นอีกครั้ง
“วันนี้คุณยายของฉันไปตรวจร่างกายและพบว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ฉันคิดว่าพวกเขาจะกลับมาในอีกสองสามวัน”
ในอีกไม่กี่วัน?
โจวอี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ผมคิดว่าเราควรกลับไปเยี่ยมคุณยายนะ ผมจะได้ไปเจอพ่อตาแม่ยายเลยทีเดียว พวกเขาจะได้ไม่ต้องเดินทางไปเดินทางมา”
ถังหว่านได้ยินคำพูดนั้นแล้วก็พลันเงียบลง
เธอไม่ต้องการพาโจวอี้กลับบ้านในตอนนี้ เพราะเธอคิดว่าเมื่อพาโจวอี้กลับบ้านไปพบพ่อแม่ นั่นจะกลายเป็นว่าเธอยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาโดยสิ้นเชิง
“คุณว่างรึเปล่า” โจวอี้ถาม
“ช่วงนี้งานฉันค่อนข้างยุ่ง”
“ถ้างั้นก็ช่างมันเถอะ” โจวอี้เอ่ยอย่างเสียดาย
ไม่นานอาหารก็พร้อม ทักษะการทำอาหารของถังหว่านนั้นธรรมดา แต่โจวอี้กลับกินด้วยความเอร็ดอร่อย
การอยู่กับภรรยาและลูกอย่างอบอุ่นนับว่าเป็นอีกหนึ่งความฝันของเขา
“ผมจะล้างจานเอง”
หลังจากกินดื่มจนอิ่มหมีพีมันแล้ว โจวอี้พยายามยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในฐานะสามี แต่สุดท้ายกลับถูกถังหว่านปฏิเสธ
“คุณเล่นกับเหมียวเหมี่ยวไปก่อน ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ” ถังหว่านกล่าวขณะทำความสะอาดจาน
“ได้สิ พูดมาเลย”
“มะรืนนี้อู๋หมิ่นหรูจะจัดคอนเสิร์ตที่จินหลิง เธอขอให้ใครสักคนส่งตั๋วคอนเสิร์ตมาให้ฉันสองสามใบ ฉันจะไปร่วมคอนเสิร์ตในฐานะนักร้องรับเชิญ คุณอยากไปคอนเสิร์ตไหม?”
“ได้สิ! มะรืนนี้ … เดี๋ยวนะ ดูเหมือนผมจะมีงาน”
“คอนเสิร์ตมีตอนเย็น”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะพาลูกสาวไปด้วย”
“ตกลง งั้นตอนนี้คุณก็พาลูกกลับไปเล่นที่บ้านคุณเถอะ! ฉันจะต้องไปงานเลี้ยงการกุศล แล้วเดี๋ยวซุนเหมิงจะมารับฉัน”
“ได้!”
โจวอี้พาลูกสาวกลับมาบ้านของตนเองที่อยู่หลังถัดไป สองพ่อลูกเล่นสนุกกันอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็เตรียมสอนลูกสาวคัดลายมือที่ห้องทำงาน เป็นผลให้นกแก้วสองตัวตรงระเบียงของห้องทำงานตัวหนึ่งพูดว่า “สวัสดี” และตัวหนึ่งพูดว่า “ยินดีต้อนรับ” ซึ่งเบนความสนใจของ ถังเหมียวเหมี่ยวไปทันที
“พ่อคะ พวกมันพูดได้จริง ๆ! พวกมันเก่งมากเลย!” ถังเหมียวเหมี่ยวร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ
“นั่นแหละ! พ่อบอกลูกแล้ว! อย่างน้อยภายในครึ่งเดือนพ่อสามารถสอนให้พวกมันพูดประโยคที่สมบูรณ์ได้” โจวอี้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“จริงเหรอคะ? พ่อเก่งที่สุดเลย และนกแก้วก็เก่งที่สุดด้วย” ถังเหมียวเหมี่ยวยิ้มร่าอย่างมีความสุข
โจวอี้คลี่ยิ้มและมองไปที่นกแก้วสองตัวนั้น
ตอนแรกเขาซื้อนกแก้วธรรมดาที่ร้องได้แต่พูดไม่ได้
ทว่าเขาใช้สมุนไพรเคี่ยวยาต้มให้มันดื่ม นกแก้วสองตัวดื่มทุกวัน ทำให้พวกมันเปิดปากเปล่งเสียงและเพิ่มไอคิวของพวกมันได้
ดังนั้น หากให้เวลาพวกมันมากขึ้น โจวอี้รับประกันได้ว่าถ้าเขาสอนพวกมันบ่อย ๆ เขาจะสามารถทำให้นกแก้วสองตัวร้องเพลงได้เลย
“พ่อคะ ทำได้ยังไง?” ถังเหมียวเหมี่ยวถามด้วยความสงสัย
“พ่อพบสูตรยาวิเศษในหนังสือการแพทย์โบราณมาก่อน พ่อจึงซื้อสมุนไพรจำนวนมากและเคี่ยวยาให้พวกมันดื่ม เมื่อดื่มยาแล้วมันก็สามารถพูดได้” โจวอี้หัวเราะ
“โอ้โฮ!”
ถังเหมียวเหมี่ยวไม่สนใจสูตรนั้น เธอชอบเล่นกับนกแก้วสองตัวนี้และชอบสอนให้พวกมันพูดมากกว่า
โจวอี้ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ เฝ้าดูลูกสาวของเขาโต้ตอบกับนกแก้วสองตัวและมีช่วงเวลาที่ดี ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
เขานึกถึงเจ้าเสือดำ
มันคือสุนัขล่าสัตว์ที่เขาเลี้ยงไว้
เจ้าเสือดำเป็นสุนัขที่แข็งแกร่ง มันครองโลกสุนัขของหมู่บ้านโจวเมี่ยวเป็นเวลาหกเจ็ดปี แม้แต่หมาป่าสองสามตัวบนภูเขาก็ยังสู้มันไม่ได้
น่าเสียดายที่เขาออกมาตามหาลูกสาวและทิ้งเจ้าเสือดำให้ฟาเสี่ยวดูแล