หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 473-2 ฉีกหน้ากากฮองเฮา (2) - novel-lucky

ตอนที่ 473-2 ฉีกหน้ากากฮองเฮา (2)

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากนั้นราชาเยี่ยหลัวก็สวมเสื้อคลุมกันลมลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงรั้วระเบียง เขายกแขนแข็งแรงขึ้นแล้วค้างอยู่กลางอากาศ

สนามประลองที่กำลังอึกทึกพลันเงียบสงัดลง

ราชาเยี่ยหลัวชี้ไปทางเฉียวเวย เอ่ยด้วยหน้าตาแจ่มใสออกไปประโยคหนึ่ง คนที่นั่งอยู่พากันส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี

เฉียวเวยยิ่งไม่เข้าใจหนักขึ้น

สายตาจีหมิงซิวครึ้มลงไป เขาหันไปมองเฉียวเวยแล้วมองฮองเฮาที่กำลังทำหน้ายิ้มเยาะ จังหวะนั้นเขาก็ได้เข้าใจว่าเฉียวเวยถูกฮองเฮาเล่นงานเสียแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นหรือ” เฉียวเวยเดินเข้าไปหาจีหมิงซิวพร้อมถามด้วยใจตุ๊มๆ ต่อมๆ

จีหมิงซิวบอกว่า “ราชาเยี่ยหลัวบอกว่า เจ้ารับปากที่จะลงไปสู้ในยกต่อไป”

เฉียวเวยตะลึงค้างพลางยกมือชี้หน้าตนเอง “ข้า ตั้งแต่เมื่อไร…”

ยังเอ่ยไม่ทันจบนางก็พลันเข้าใจ ฝีมือของสตรีนางนั้น!

มิน่าเล่าอยู่ๆ นางถึงได้เขยิบเข้ามาหา ซ้ำยังจับมือพร้อมสิ่งยิ้มหวานมาให้ ท่าทางเป็นกันเองเสียยิ่งกว่าอะไร ที่แท้…ก็จับนางไปขายนี่เอง!

เฉียวเวยกำหมัดแน่นจนได้ยินเสียง นางไม่กลัวการต่อสู้ แต่การถูกคนเล่นงานเช่นนี้ทำให้นางกล้ำกลืนความโกรธนี้ไว้ไม่ไหวจริงๆ

จีหมิงซิวเอ่ยว่า “เจ้ารับมือไปก่อนยกหนึ่ง ยกที่สองเดี๋ยวข้าให้เยี่ยเฟยเจวี๋ยลงไปแทน”

เฉียวเวยปฏิเสธ “ไม่ต้อง ข้าเป็นถึงจั๋วหม่าน้อยแห่งชนเผ่าลึกลับ สู้ๆ อยู่แล้วจะเปลี่ยนคนกลางทางนั้น คนเข้าใจคงคิดว่าข้ากลัวการต่อสู้ คนไม่เข้าใจคงคิดว่าต้าเหลียงกับชนเผ่าลึกลับไร้ซึ่งผู้กล้าแล้ว!”

จีหมิงซิวนิ่งไป แต่กลับไม่ได้เอ่ยโต้แย้ง เขาดึงมือนางไปจับแล้วเอ่ยอย่างใช้ความคิดว่า “เช่นนั้นก็ได้ เจ้าไปสู้ ไว้จบเรื่องแล้ว…ข้าจะจัดการเอง”

“อื้อ” เฉียวเวยพยักหน้าแล้วเดินลงไปโดยมีขันทีนำทาง

จีหมิงซิวสั่งการบางอย่างกับเยี่ยนเฟยเจวี๋ย พอเสร็จเยี่ยนเฟยเจวี๋ยก็ถอยออกไป

คนสู้กับสัตว์ไม่ใช่เรื่องหาดูได้ยากในเยี่ยหลัว แต่โดยมากมักเป็นทาสสตรีหรือไม่ก็ชายร่างบึกบึน เคยมีสตรีชั้นสูงอย่างฮูหยินขุนนางทูตมาร่วมด้วยเมื่อไรกัน แต่ด้วยเพราะไม่เคยมีมาก่อน ถึงได้ดูว่าแปลกใหม่เป็นพิเศษ

พอเฉียวเวยเปลี่ยนไปอยู่ในชุดทะมัดทะแมงแล้ว ทุกคนก็ดูจะตกตะลึงไป

ผอมบางเพียงนี้เชียวหรือ ตัวเล็กเพียงนี้เชียวหรือ

พระเจ้า สัตว์ในลานอ้าปากทีเดียวก็กินนางลงไปทั้งตัวได้แล้ว!

ตัวแรกที่ลงสนามคือเสือดำตัวเต็มวัยตัวหนึ่ง ลายของเสือดำคล้ายเสือดาว แต่รูปร่างกลับใกล้เคียงกับเสือโคร่ง รวดเร็ว ว่องไวและดุร้ายกว่าเสือดาวพันธุ์อื่นๆ อย่าว่าแต่สตรีเลย ต่อให้เป็นยอดฝีมือแห่งยุทธภพมาสู้กับมัน ก็ยังไม่ใช่คู่ฝีมือของมันแน่นอน

สถิติดีที่สุดที่มันเคยทำเอาไว้คือชนะรวดเดียวห้ายก กัดพวกเดียวกันตายไปหนึ่งตัว เสือโคร่งหนึ่งตัว สิงโตหนึ่งตัว กับนักรบมรณะขั้นสูงอีกสองคน ซึ่งทั้งหมด…สิ้นใจในเขี้ยวเดียว

ด้วยความสามารถของเฉียวเวยในตอนนี้ ยังไม่กล้าบอกด้วยซ้ำว่าสามารถสังหารนักรบมรณะขั้นสูงได้ในกระบวนท่าเดียว ดังนั้นนี่จึงถือเป็นการต่อสู้ที่ตึงมือเอามากๆ

ทุกคนพากันปาดเหงื่อให้ฮูหยินน้อยที่บอบบางผู้นี้

เฉียวเวยเหลือบตาขึ้นมองฮองเฮาที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์

บังเอิญว่าฮองเฮาก็มองลงมาที่นางพอดี ดวงตาของฮองเฮาโค้งลงน้อยๆ เป็นองศาที่น่ามอง

ดวงตาคู่นั้นนับว่าสวยจับตาจับใจมากจริงๆ หากเพียงสายตาของนางจะไม่ร้ายกาจเช่นนั้น

ขณะที่ฮองเฮามองไปที่เฉียวเวย จีหมิงซิวก็กำลังมองฮองเฮาอยู่ ในตอนนั้นสายตาของเขามีไอสังหารพวยพุ่งออกมาอย่างไม่ปิดบังสักนิด

หลังเสียงกลองดังขึ้น เสือดำก็ถูกปล่อยออกมาจากกรง

เดิมทีเพื่อการต่อสู้ในวันนี้ เสือดำถูกปล่อยให้หิวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เวลานี้พอได้เห็น “เหยื่อ” ตรงหน้า จึงแทบจะพุ่งเข้าใส่โดยไม่มีลังเลทันที!

ความเร็วของเสือดำ รวดเร็วอย่างที่ไม่อาจจินตนาการได้ ทุกคนยังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น เสือดำก็กระโจนเข้าไปตรงหน้าเฉียวเวยแล้ว

มันอ้าปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวที่คมกริบ—

พอได้ยินเสียงดังผัวะ เสือดำก็ถูกตบล้มลงไป

ทุกคนได้แต่เบิกตาโต

เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเขาไม่ได้ตาฝาดไปกระมัง พวกเขาเห็นภาพหลอนหรือนี่

ที่ล้มอยู่บนพื้นคือสตรีนางบางผู้นั้น ไม่ใช่เสือดำกระมัง

ทุกคนพากันขยี้ตา กะพริบตาปริบๆ แล้วขยี้ตาอีกที พอมั่นใจว่าตนไม่ได้มองผิดไป ในลานก็พลันเกิดเสียงอื้ออึง!

เฉียวเวยหันไปส่งยิ้มให้สามีของตน จากนั้นก็หันไปส่งยิ้มให้ฮองเฮาด้วย

รอยยิ้มของฮองเฮาดูจางลง

ตัวต่อมาที่ลงสนามคือสิงโตลายเสือตัวเขื่อง ในสถานที่เช่นนี้มีสิงโตลายเสือที่หายากให้เห็นด้วยหรือนี้ นับว่าได้เปิดโลกใหม่แล้ว

สิงโตลายเสือเป็นสัตว์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ ตัวของมันจะใหญ่กว่าทั้งเสือและสิงโต เพียงแต่อายุไม่ยืนยาว พลังสังหารก็สู้เสือกับสิงโตธรรมดาไม่ได้ แต่สิงโตลายเสือที่อยู่ตรงหน้าดูจะไม่มีจุดอ่อนเช่นนั้น

มันเดินทีละก้าวเข้ามาหาเฉียวเวย แต่ประกายคมกล้าในสายตาก็ดุดันยิ่งกว่าเสือดำตัวเมื่อครู่ไม่รู้ตั้งเท่าไรแล้ว

คนในสนามประลองพากันมองลงมาอย่างทนไม่ไหว คนที่เคยมีประสบการณ์ล้วนรู้ว่านี่สิงโตลายเสือตัวนี้เป็นสัตว์ที่ดุร้ายที่สุดของราชวงศ์ หลังจากผ่านการฝึกปรืออย่างเข้มงวดมาแล้ว ฝีมือของมันเรียกได้ว่าสูสีกับนักรบมรณะดาบยาวเลยทีเดียว

แต่ความอันตรายที่มากกว่านับรบมรณะดาบยาวของมันก็คือมันเป็นสัตว์

สัญชาตญาณของสัตว์น่ากลัวกว่านักรบมรณะมากนัก

จีหมิงซิวกำหมัดแน่น

สิงโตลายเสือวิ่งตรงเข้ามาหาเฉียวเวย

เฉียวเวยสะบัดมือตบ!

เฉียวเวยมั่นใจในพละกำลังของตนยิ่งนัก ไม่ว่าจะเสือดำก็ดี สิงโตก็ดี หากถูกนางตบเข้าไปก็ไม่มีทางลุกขึ้นมาได้อีกแน่นอน

แต่กระนั้นที่เหนือความคาดหมายก็คือ ทั้งๆ ที่ฝ่ามือของนางตบใกล้จะฟาดถูกตัวคู่ต่อสู้แล้ว แต่อีกฝ่ายกลับพลิกตัวกลิ้งได้อย่างพริ้วไหว จนหลบหลีกฝ่ามือของนางไปได้

การเคลื่อนตัวที่ว่องไวเช่นนี้ ช่างน่า—

เฉียวเวยไม่มีเวลาตกใจ เพราะสัตว์ตัวนั้นได้เคลื่อนตัวมาอยู่ข้างหลังนางแล้ว มันกางกรงเล็บที่แหลมคมขึ้น เตรียมจะตะปบเข้าใส่ลำคอของเฉียวเวย!

นี่เป็นถึงกรงเล็บของสิงโตลายเสือเชียวนะ

หัวคงได้หลุดจากบ่า…

ทุกคนพากันขวัญผวา

แต่ก่อนที่อุ้งมือของสิงโตตัวนั้นจะตะปบเข้าที่คอของเฉียวเวย เฉียวเวยก็ขยับพลิกตัวแล้วปล่อยหมัดเข้าใส่ศีรษะของมัน!

แต่มันไม่เพียงงุนงงไปเพราะหมัดนั้น แต่ยังมีแรงเหลือหันมาสู้ต่ออีกด้วย!

มันกำลังจะลุกขึ้นมาแล้ว!

เฉียวเวยมีหรือจะเปิดโอกาสให้มันได้พลิกตัวกลับขึ้นมา

นาวก้าวเข้าไป ใช้สองมือบีบคอมันไว้แน่น แล้วจับมันกระแทกเข้ากับพื้นหินที่ทั้งแข็งและเย็นยะเยือก

มันดิ้นรนสุดแรงพร้อมกับคำรามข่มขวัญออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่มันคำรามอยู่ได้ไม่เท่าไรก็ถูกเฉียวเวยจับตัวยกขึ้นมา

ทุกคนแทบจะอ้าปากค้าง!