หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 23-3 เย่ว์หวาเจ็บหนัก
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 23-3 เย่ว์หวาเจ็บหนัก
ตอนที่ 23-3 เย่ว์หวาเจ็บหนัก
ชายหนุ่มใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดข่มความต้องการฆ่าในใจลงไป เขากุมท้อง ดึงประตูห้องแล้วหนีออกจากเรือนฟางชุ่ยหยวนโดยไม่เหลียวหลังกลับมา
ฮองเฮาเยี่ยหลัวย่อมไม่รู้ว่า ‘ยิ่นอ๋อง’ ถูกนางวางยาพิษใส่เสียแล้ว นางคิดว่ายิ่นอ๋องโกรธที่ตนเองทำลายความตั้งใจดีของเขา อุตส่าห์ได้พบหน้าบุตรชายอีกครั้งทั้งที แต่กลับจบลงด้วยสภาพเช่นนี้
ฮองเฮาเยี่ยหลัวหยิบใบชากล่องนั้นขึ้นมา “เป็นความผิดของเจ้า! หากไม่ใช่เพราะเจ้า เขาก็คงไม่โกรธข้า!”
กล่าวจบก็กัดฟันกรอด โยนใบชาลงไปในส้วมอย่างโมโหโทโส
ประมุขเย่ว์หวายังไม่รู้ว่าใบชาที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งพบจุดจบอันน่าอนาถไปแล้ว หากเขารู้เข้าเกรงว่าคงจะโกรธตายอยู่ตรงนั้นเป็นแน่แท้
ประมุขเย่ว์หวาผู้ยกทัพออกไปพ่ายแพ้ลากร่างที่เกือบจะพิการคลานกลับขึ้นมาบนรถม้าอย่างอเนจอนาถ
บาดเจ็บหนนี้ ไม่มีสิบวันครึ่งเดือนเกรงว่าคงจะรักษาไม่หาย
ฝั่งเรือนฟางชุ่ยหยวน พวกเฉียวเจิงไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย แม่ทัพน้อยมู่เห็นป้ายหยกที่เยี่ยนเฟยเจวี๋ยนำกลับมาก็ลูบคลำภาพอันคุ้นเคยบนป้ายหยก ลำคอของเขาปวดบวม “คว้ามาจากตัวของนางจริงหรือ”
เยี่ยนเฟยเจวี๋ยตอบว่า “ข้าคว้ามาเองกับมือ! เอ๋ ใช่น้องสาวของเจ้าหรือ”
แม่ทัพน้อยมู่กำป้ายหยกตอบว่า “ตั้งแต่นางเกิดก็ได้รับป้ายหยกตระกูลมู่ชิ้นหนึ่ง ทว่าตอนนางอายุหกขวบนางไม่ระวังทำมันแตก ข้าจึงมอบชิ้นใหม่ให้นาง นั่นก็คือชิ้นนี้”
เยี่ยนเฟยเจวี๋ยลูบคาง “หากพูดเช่นนี้ ก็คงเป็นน้องสาวของเจ้าจริงๆ”
แม่ทัพน้อยมู่ตลบผ้าห่มจะลงไปที่พื้น “ข้าจะไปตามหานาง”
เฉียวเจิงกดตัวเขาเอาไว้ “สภาพเจ้าเป็นเชนนี้ แม้แต่ประตูใหญ่ก็คงเดินไปไม่พ้น!”
เยี่ยนเฟยเจวี๋ยกล่อม “เจ้าอย่าไปเลย ดึกป่านนี้ ผู้ใดจะรู้ว่านางหนีไปที่ใดแล้ว หากไล่ต้อนนางจนร้อนรน นางอาจจะหาที่มิดชิดสักแห่งซ่อนตัวแล้วไม่ออกมาอีกก็ได้ ถ้าเช่นนั้นคงยิ่งจัดการยากแล้ว”
ไห่สือซานเห็นด้วย “ใช่แล้ว หนนี้นางยังไม่รู้ว่าพวกเราตั้งใจมาตามหานาง คิดว่าพวกเราเพียงผ่านทางพบความอยุติธรรมจึงชักดาบช่วยเหลือเท่านั้น รอผ่านพ้นคืนนี้ไปแล้ว นางก็คงผ่อนคลายความระวัง วันพรุ่งนี้พวกเราค่อยหาวิธีใหม่ตามหานางอย่างไม่ให้รู้ตัว”ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
วันต่อมาไห่สือซานออกความคิดให้ทำเป็นว่าจั๋วหม่าน้อยทำสัตว์เลี้ยงหายแล้วแปะประกาศอย่างเอิกเกริกในเมือง ให้รางวัลคนที่ตามหาเสี่ยวไป๋พบ ส่วนกองทหารรักษาพระองค์ก็ถือภาพวาดของเสี่ยวไป๋ออกไปสอบถามตามถนนตรอกซอกซอย
ตกกลางคืนเยี่ยนเฟยเจวี๋ยกับไห่สือซานก็ถือภาพเหมือนของเสี่ยวไป๋ไล่ถามไปทีละบ้านบ้าง
เมื่อถามมาถึงร้านเครื่องประทินโฉมแห่งหนึ่งที่ถนนเหนือ ประสาทสัมผัสอันว่องไวของเยี่ยนเฟยเจวี๋ยก็สัมผัสได้ว่ามีกลิ่นอายที่คุ้นเคยแต่ก็แปลกพิกลอยู่ไม่ไกล
เขาแอบหยิบกระจกที่เตรียมเอาไว้ก่อนแล้วออกมาส่องดูด้านหลัง พบว่าเป็นสตรีที่ได้พบเมื่อคืนวานจริงๆ นางเหมือนจะมองเห็นพวกเขาแล้วเช่นกัน ทว่านางไม่ได้ลนลานเท่าใดนัก เพียงดึงปีกหมวกลงบังใบหน้าของตนเองแล้วหมุนตัวเดินเข้าไปในตรอกอีกเส้นหนึ่ง
เยี่ยนเฟยเจวี๋ยส่งสายตาให้ไห่สือซาน ไห่สือซานเข้าใจจึงหันไปสั่งทหารรักษาพระองค์ที่อยู่ด้านข้างว่า “พวกเจ้าตามหาด้านนี้ต่อ พวกข้าจะไปดูทางด้านนั้น!”
กล่าวจบก็หมุนตัววิ่งตัดผ่านตรอกอีกเส้นหนึ่งไปเฝ้าถนนที่อีกฝ่ายอาจจะเดินผ่านเอาไว้
วันนี้เยี่ยนเฟยเจวี๋ยเอาอย่างไห่สือซาน ก่อนออกจากจวนเขาไปขอฉี่เด็กผู้ชายจากจิ่งอวิ๋นมาหนึ่งถุงบ้าง ครานี้เขาไม่สนสี่สนแปดใดๆ ทั้งสิ้น ดึงจุกถุงน้ำออกแล้วก้าวพรวดเข้าไปสาดใส่อีกฝ่ายทันที
เยี่ยนเฟยเจวี๋ยกับไห่สือซานสกัดด้านหน้ากับด้านหลังปิดตาย แต่เดิมคิดว่าต้องจับตัวอีกฝ่ายได้แน่ แต่พวกเขาไม่คิดไม่ฝันว่าฉี่เด็กผู้ชายที่พวกเขาสาดออกไปถุงนี้กลับกลายเป็นการตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น
เยี่ยนเฟยเจวี๋ยมองเงาสีเทาที่เหินข้ามท้องฟ้ามาร่างนั้นแล้วตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “ชางจิว!”
ชางจิวมองเยี่ยนเฟยเจวี๋ยอย่างเยาะหยัน เขาทิ้งนักรบมรณะดาบยาวล้อมพวกเขาไว้ ส่วนตนเองก็คว้าตัวศิษย์พี่รองผู้ถูกฉี่เด็กผู้ชายราดจนไร้กำลังตอบโต้แล้วใช้วิชาตัวเบาออกไปจากที่แห่งนั้นทันที
ยอดเขาชังมั่วถูกทำลายแล้ว ยอดเขาเชียนหลวนก็ถูกเผาวอดวาย ชางจิวกับประมุขเย่ว์หวาจึงเป็นคนที่ไม่มีบ้านให้กลับ ได้แต่กลับมายังลัทธิศักดิ์สิทธิ์
แต่เดิมลัทธิศักดิ์สิทธิ์ก็มีที่พักของพวกเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าที่นั่นเป็นอิสระได้เท่าข้างนอกเสียที่ไหน
ประมุขเย่ว์หวาบาดเจ็บกลับมาก็เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกมา พอได้ยินว่าชางจิวมาขอพบ แต่เดิมเขาก็ไม่อยากพบ ทว่าเห็นแก่หน้าเหยาจีจึงยอมให้เขาเข้ามา
ห้องที่ประมุขเย่ว์หวาพักอยู่งามวิจิตรยิ่งกว่าห้องของสตรี ตั้งแต่พรมปูพื้นจรดม่านหน้าต่าง รวมไปถึงเครื่องเรือนภายในห้อง ไม่มีชิ้นใดไม่ใช่ผลงานของช่างฝีมือชั้นยอด
ชางจิวมองพรมที่งดกว่าของในตำหนักบรรทมของฮองเฮาสามส่วน แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยกล้าเหยียบเท่าไรนัก
ด้านหลังฉากกันลม ประมุขเย่ว์หวาถามเสียงทะมึน “วันนี้เจ้ามาหาด้วยเหตุใด”
ชางจิวเหยียบรองเท้าที่เต็มไปด้วยดินโคลนและหิมะลงบนพรมนุ่มนิ่มสะอาดสะอ้าน
เขาเดินมาถึงหน้าฉากกันลม นี่ไม่ใช่หนแรกที่เขาถูกขวางด้วยฉากกันลม แม้เขาจะสงสัย แต่ไม่กล้าถามอันใดมาก เขาคำนับอย่างนอบน้อมแล้วเอ่ยว่า “เรียนประมุขเย่ว์หวา ข้าจับตัวคนมาได้คนหนึ่ง”
“ผู้ใด” ประมุขเย่ว์หวาถามเรียบๆ
ชางจิวตอบว่า “ขอประมุขเย่ว์หวาอนุญาตให้ข้าพานางเข้ามา”
“อืม” ประมุขเย่ว์หวาขานตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ชางจิวเดินออกไปนอกห้องแล้วพาศิษย์พี่รองที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบปัสสาวะของเด็กผู้ชายเข้ามา
เสียงเหอะอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ของประมุขเย่ว์หวาดังออกมาจากหลังฉากกันลม
ชางจิวคำนับหนึ่งหนแล้วบอกว่า “ล่วงเกินท่านประมุขแล้ว คนผู้นี้คือร่างพิษ ต้องใช้ฉี่เด็กผู้ชายจำนวนหนึ่งถึงพอจะควบคุมเอาไว้ได้”
ประมุขเย่ว์หวามองลอดช่องว่างของฉากกันลมมาสำรวจอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วน แล้วเอ่ยอย่างประหลาดใจ “ร่างหยินบริสุทธิ์หรือ”
เพื่อเป็นการพิสูจน์อะไรบางอย่างเขาจึงดีดเส้นด้ายสีแดงเส้นหนึ่งออกมารัดตรงเอวของอีกฝ่ายไว้แล้วตรวจสอบจุดตันเถียนของอีกฝ่าย ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ดึงเส้นด้ายกลับมาแล้วพึมพำว่า “ก่อกำเนิดยาพิษแล้วเสียด้วย แต่ข้าไม่สนใจการฝึกราชันอสูร คนผู้นี้มอบให้ข้าก็ไร้ประโยชน์”
ชางจิวตอบว่า”สตรีนางนี้ไม่ใช่ร่างพิษธรรมดา นางคือน้องสาวของแม่ทัพน้อยมู่ ท่านประมุขอาจไม่ทราบ แม่ทัพน้อยมู่มีไมตรีต่อจั๋วหม่าน้อยยิ่งนัก เขาไม่เพียงยกกริชเฟิ่นเทียนอันเป็นสมบัติตกทอดในตระกูลให้แก่จั๋วหม่าน้อย แต่ยังมีบุญคุณกับจั๋วหม่าน้อยอยู่หลายครั้ง หนนี้หากไม่ได้เขาบังลูกธนูให้จั๋วหม่าน้อย อีกทั้งยังแลกชีวิตปกป้องจั๋วหม่าน้อยยามพลัดตกหน้าผา จั๋วหม่าน้อยก็อาจจะตายพร้อมกับลูกในท้องไปแล้ว แม่ทัพน้อยมู่เป็นผู้มีพระคุณของจั๋วหม่าน้อยกับตระกูลจี เขาตามหาตัวน้องสาวของเขามาตลอด หากจั๋วหม่าน้อยกับคนตระกูลจีทราบว่าน้องสาวของแม่ทัพน้อยมู่อยู่ในมือของท่านประมุข พวกเขาจะต้องมาไถ่ตัวคนอย่างไม่เสียดายว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดแน่นอน”
ประมุขเย่ว์หวาหัวเราะหยัน “เหตุใดเจ้าไม่พูดว่าพวกเขาจะมาแย่งชิงคนกลับไปอย่างไม่เสียดายว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดเล่า”
“ข้าย่อมไม่กลัว” ประมุขเย่ว์หวาหัวเราะหยัน “เจ้ามีเป้าหมายอันใด ข้าพอจะเข้าใจแล้ว ข้าจะไม่สังหารเจ้า เพราะข้าเองก็เหมือนกับเจ้า ต้องการชำระแค้นให้เหยาจีด้วยมือตนเอง”
ชางจิวค้อมกาย “ท่านประมุขชาญฉลาดยิ่ง”
ประมุขเย่ว์หวาหัวเราะหยัน “คนผู้นี้ ข้าจะเก็บเอาไว้ เจ้าเดินทางไปจวนมู่อ๋อง บอกอวิ๋นจูกับคนตระกูลจีว่าน้องสาวของแม่ทัพน้อยมู่อยู่ในกำมือของข้า พวกเขาจะส่งคนมาแย่งชิงก็ได้ แต่ข้าจะไม่เหลือคนเป็นไว้ให้พวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาจะเลือกมาไถ่ตัวคนกลับไปก็ได้เช่นกัน หากต้องการไถ่ตัวคนกลับไปอย่างปลอดภัย ก็ให้อวิ๋นจูมาประลองฝีมือกับข้าที่เขาชังมั่วเจ็ดวันให้หลัง”
ชางจิวถามอย่างสงสัย “อวิ๋นจู…จะมาหรือขอรับ”
ประมุขเย่ว์หวาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับมุมปากอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าจงบอกนางว่า ไม่ว่าชนะหรือแพ้ ข้าจะคืนคนให้”
ชีวิตของสตรีนางนี้แต่เดิมก็ไม่มีอะไรสำคัญอยู่แล้ว สิ่งที่เขาต้องการคือชีวิตของอวิ๋นจู!
ตอนแรกคิดจะทำลายจีหมิงซิวก่อนค่อยไล่ต้อนอวิ๋นจูให้ธาตุไฟเข้าแทรก ทว่าดูจากสถานการณ์ตอนนี้ คงจะใช้วิธีการนี้ไม่ได้แล้ว ถ้าเช่นนั้นก็สังหารอวิ๋นจูไปตรงๆ เลยก็แล้วกัน!
ชางจิวเชื่อมั่นในฝีมือของประมุขเย่ว์หวาอย่างไม่คลางแคลงใจแม้แต่น้อย “เหตุใดต้องรอเจ็ดวันเล่าขอรับ สังหารอวิ๋นจูตอนนี้เลยจะไม่ดีกว่าหรือ”
ประมุขเย่ว์หวาตอบว่า “ข้าได้รับบาดเจ็บมาเล็กน้อย”
ชางจิวขมวดคิ้ว “ท่านประมุข…”
“อุบัติเหตุเท่านั้น เจ้าไม่ต้องถามแล้ว รีบไปจัดการเรื่องสำคัญเสีย” ประมุขเย่ว์หวาสั่ง ก่อนจะกางแขนขวาออกมานิ่งๆ แล้วรวบแขนเสื้อกว้าง
ฉากกันลมขนาดไม่ใหญ่ เมื่อเขายกแขนขึ้นมาเช่นนี้ มือขวาก็โผล่ออกมาจากด้านข้างของฉากกันลม
ชางจิวเห็นมือที่มีรอยเหี่ยวย่นเต็มไปหมดข้างนั้นก็ตกใจจนนัยน์ตาหดวูบ เขาก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว “…ขอรับ!”
ชางจิวนำข่าวไปแจ้งจวนมู่อ๋องอย่างรวดเร็วยิ่งนัก
เยี่ยนเฟยเจวี๋ยเห็นคนถูกพาตัวไปกับตาตนเอง เขาย่อมเชื่อเรื่องที่คนตกอยู่ในมือชางจิวกับโจรเฒ่าเย่ว์หวาอย่างไม่สงสัยสักนิด
เขาคิดไม่ถึงว่าโจรเฒ่าเย่ว์หวาจะมาแก้แค้นไวปานนี้ ลงมือทีเดียวก็กำจุดตายของแม่ทัพน้อยมู่เอาไว้อย่างแม่นยำ
หากเขาเร็วกว่านั้นอีกเพียงก้าวเดียว ชางจิวก็คงชิงเอาความได้เปรียบไปไม่ได้แล้ว
ทว่าตอนนี้พูดสิ่งใดไปก็ไร้ประโยชน์ โจรเฒ่าเย่ว์หวาเคยเสียท่าเพราะตัวประกันไปแล้วหนหนึ่งแล้ว หากพวกเขากล้าไปปล้นคนอีก เขาจะต้องสังหารศิษย์พี่รองก่อนอย่างแน่นอน
เยี่ยนเฟยเจวี๋ยกระแอมแล้วหันไปมองอวิ๋นจู ถามเสียงอ่อนว่า “อวิ๋นฮูหยิน หากท่านกับโจรเฒ่าเย่ว์หวาสู้กัน มีโอกาสชนะมากหรือไม่”
ไห่สือซานเตะเขาจากใต้โต๊ะ หากเย่ว์หวาไม่มีค่าให้กลัว กงซุนฉางหลีจะถ่อมาเตือนได้อย่างไรกัน ยิ่งไปกว่านั้นโจรเฒ่าเย่ว์หวาก็บอกแล้วว่าไม่ว่าชนะหรือแพ้ก็จะปล่อยคน นี่หมายความว่าอย่าไง มันก็หมายความว่าเขามั่นใจเต็มร้อยว่าจะสังหารอวิ๋นจูได้น่ะสิ
“ไม่อย่างนั้น…พวกเราไปขโมยคนกลับมาดีหรือไม่” เยี่ยนเฟยเจวี๋ยเสนอ
ไห่สือซานพยักหน้า “แอบๆ ไปขโมยแล้วก็ออกมา”
เฉียวเวยมองทั้งสองคน “พวกเจ้าคิดว่าอยู่ที่ยอดเขาเชียนหลวนหรืออย่างไร ลัทธิศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เข้าไปง่ายดายขนาดนั้นเสียหน่อย”
ตอนนั้นเองอวิ๋นจูก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ข้าจะไป”
เฉียวเวย เยี่ยนเฟยเจวี๋ยกับไห่สือซานหันขวับไปมองนาง
เฉียวเวยเรียกอย่างอึ้งๆ “ท่านยาย”
อวิ๋นจูพูดอีกครั้ง “ข้าจะไปไถ่ตัวนางกลับมาเอง”