หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 41-2 บิดาบุตรสาวพบหน้า (2)
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 41-2 บิดาบุตรสาวพบหน้า (2)
ตอนที่ 41-2 บิดาบุตรสาวพบหน้า (2)
ถั่วเคลือบน้ำตาลของจักรพรรดิอสูรหมดแล้ว แต่ในจานยังมีขนมถั่วเขียวอยู่อีกสองสามก้อน เขาชอบเจ้าสิ่งนี้เหมือนกัน เขามักจะจัดการขนมถั่วเขียวหลังจากกินถั่วเคลือบน้ำตาลหมดแล้ว แต่หนนี้เขากลับยกจานที่มีขนมอยู่เต็มจานขึ้นมา ไม่ยอมจับมันเข้าปากสักชิ้น
เฉียวเวยคิดว่าเขาไม่ชอบกินจึงคิดจะเข้าไปถามเขาว่าต้องการกินสิ่งอื่นหรือไม่ ทันใดนั้นนางก็เห็นเขาหันไปมองห้องของอวิ๋นจูด้วยสีหน้าสับสน สีหน้านั่นไม่เหมือนคนที่จำอวิ๋นจูได้ แต่ถึงแม้จะจำไม่ได้ เขาก็ยกขนมที่ตนเองอยากกินจนน้ำลายยืดเข้าไปในห้องของอวิ๋นจูอยู่ดี
…
เรื่องที่ ‘ท่านนักเวท’ คือจักรพรรดิอสูร เฉียวเวยใคร่ครวญดูแล้วก็เก็บงำไว้ไม่ยอมบอกลูกน้อยทั้งสองคน ส่วนคนอื่นก็เห็นพ้องต้องกันไม่ยอมแสดงออกว่ารู้ตัวตนของจักรพรรดิอสูรแล้ว นั่นก็เพราะหน้าบูดบึ้งของอวิ๋นจูแสดงออกอย่างชัดเจนว่าใครกล้าทำเป็นรู้จักเขา ข้าจะเชือดมันทิ้ง ทุกคนจึงได้แต่ยอมจำนน
ด้วยเหตุนี้จักรพรรดิอสูรจึงยังคงเป็นนักเวทศักดิ์สิทธิ์ต่อไป
ยังดีที่จักรพรรดิอสูรไม่มีนิสัยประหลาดอย่างราชันอสูรที่ต้องให้ทุกคนเรียกเขาว่าท่านราชัน เรียกเขาว่านักเวท เขาก็ไม่โมโห เรียกเขาว่าคุณชาย เขาก็ไม่ตอบรับ
เขาผูกมิตรกับผู้คนในจวนได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ตั้งแต่แม่เฒ่าวัยชราไปจนถึงสาวใช้ตัวน้อยที่ยังไม่ปักปิ่น ทุกคนต่างชมชอบวิญญูชนผู้มีมารยาทคนนี้ยิ่งนัก บางคนว่าเขาจิตใจดีจนแม้แต่มดก็ยังไม่กล้าเหยียบ บางคนว่าเขาถูกอบรมมาอย่างดี มีมารยาทแม้แต่กับพวกบ่าวรับใช้ บางคนก็บอกว่าเขามีความรู้กว้างขวาง ไม่มีตำราเล่มใดที่เขาอ่านไม่เข้าใจ ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
สรุปก็คือท่านจักรพรรดิอสูรผู้สังหารคนเป็นผักปลา เรือนกายสูงใหญ่กำยำ ไม่รู้จักตัวหนังสือสักตัว ใช้เวลาสั้นๆ เพียงสามวันห้าวันก็กลายเป็นเทพบุตรในใจของสตรีทั้งหลายแล้ว
อวิ๋นจูกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้เขาอยู่ในจวนอ๋องต่อไป
“เหตุใดเล่า ท่านยาย” ระหว่างที่อยู่กันในห้อง เฉียวเวยก็รินชาร้อนถ้วยหนึ่งให้อวิ๋นจูแล้วเอ่ยถาม
ฟู่เสวี่ยเยียนก็อยู่ด้วย นางมองอวิ๋นจูแล้วถามอย่างฉงน “นั่นสิเจ้าคะ ท่านยาย เหตุใดไม่ยอมให้ท่านตา…” โ
“อะแฮ่ม!” เฉียวเวยกระแอม
ฟู่เสวี่ยเยียนกลืนคำว่า ‘ท่านตาทวด’ คำนั้นลงไปแล้วเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ท่านจักรพรรดิอสูรอยู่ต่อเล่าเจ้าคะ เด็กน้อยทั้งสองคนชอบเขายิ่งนัก”
คำพูดนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก วั่งซูกับจิ่งอวิ๋นชอบจักรพรรดิอสูรมากทีเดียว
ดูแล้วทั้งจวน นอกจากอวิ๋นจูก็ไม่มีผู้ใดไม่ชอบเขาอีกแล้ว
ราชันอสูรที่แอบฟังอยู่ที่มุมกำแพง “…”
สือชีผู้แอบฟังอยู่ที่มุมกำแพง “…”
อวิ๋นจูถอนหายใจเอ่ยว่า “พวกเจ้าคิดว่าข้าไม่ยอมให้เขาอยู่ต่อเพราะไม่ชอบเขาหรือ ข้ากังวลว่าวันใดเขาคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกจะทำร้ายพวกเจ้าต่างหาก”
เฉียวเวยถามอย่างงุนงง “ไม่ใช่ว่าเขาหายดีแล้วหรือ”
อวิ๋นจูส่ายหน้า “ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก หากเขาหายดีได้ ก็คงไม่ถูกสะกดอยู่ที่เกาะอิ๋นหูมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
อาการธาตุไฟเข้าแทรกขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้วเรื่องเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่มีวรยุทธ์สูงส่งแข็งแกร่งเท่านั้น ในหมู่คนที่ธาตุไฟเข้าแทรก ยิ่งกำลังภายในต่ำเท่าไรก็ยิ่งหายดีได้ง่ายเท่านั้น แต่ยิ่งกำลังภายในสูงส่งก็ยิ่งหายดีไม่ง่ายตาม ก่อนหน้านี้จีหมิงซิวก็เคยธาตุไฟเข้าแทรกหนหนึ่ง เขาไม่รู้ตัวว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นไปสามวันเต็มๆ ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
ยอดฝีมือระดับจักรพรรดิอสูรคนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแล้ว
เขาเป็นระเบิดตั้งเวลาลูกหนึ่ง ถึงยามปกติจะเห็นว่าเขาอยู่อย่างสงบอย่างยิ่ง แต่หากเขาคลุ้มคลั่งขึ้นมา เขาก็น่ากลัวเหลือคณา
เฉียวเวยกับฟู่เสวี่ยเยียนมองตากัน เฉียวเวยเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าเช่นนั้น…ต้องส่งเขาจากไปจริงหรือ”
อวิ๋นจูบอกว่า “ข้าหวังดีกับพวกเจ้า รีบส่งเขากลับเกาะอิ๋นหูไปเร็ววันเถิด”
ราชันอสูรสีหน้าเบิกบานใจ โฮ่ง!
เฉียวเวยตัดใจไม่ลงเล็กน้อย นางไม่ยอมรับหรอกว่านางชอบท่านตาทวดผู้มีท่าทางเหมือนเทพเซียนคนนี้มากเหมือนกัน! โ
เฉียวเวยเอ่ยเสียงเบา “แต่อวิ๋นซู่จะเลิกเก็บตัวแล้วไม่ใช่หรือ หากเขามาจัดการพวกเรา…หนก่อนก็ได้จักรพรรดิอสูร เขาถึงลงมือไม่สำเร็จ”
อวิ๋นจูถอนหายใจ “จักรพรรดิอสูรจัดการยากกว่าอวิ๋นซู่เสียอีก เจ้าเชื่อข้า ข้าไม่ทำร้ายพวกเจ้าหรอก” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
พูดถึงขนาดนี้แล้ว เฉียวเวยก็ไม่สะดวกจะดื้อดึงต่อไป แน่นอนว่านางได้แต่ตอบตกลงเท่านั้น แต่จะให้ ‘เชิญ’ จักรพรรดิอสูรออกไปจริงๆ นางก็ไม่มีความกล้าจะทำเช่นนั้น
เรื่องนี้ยังต้องให้อวิ๋นจูออกหน้าเอง
อวิ๋นจูไปที่ห้องของจักรพรรดิอสูร จักรพรรดิอสูรกำลังอ่านหนังสืออยู่ หนนี้ไม่ถือกลับหัวแล้ว เพียงแต่เขาไม่รู้ไปเอา ‘ตำราวังวสันต์[1]เจ็ดสิบสองท่า’ ฉบับบรรยายด้วยตัวอักษรเล่มหนึ่งมาจากที่ใด พอเห็นเขาทำหน้ามัวเมาไปกับเนื้อหา อวิ๋นจูก็หน้าเขียว!
อวิ๋นจูเก็บข้าวของของเขาอย่างไม่พูดพร่ำคำใดทั้งสิ้น “ท่านตามข้ามา”
จักรพรรดิอสูรตามไปอย่างเชื่อฟัง
อวิ๋นจูพาเขาเดินไปถึงประตูใหญ่ของจวนอ๋อง แล้วชี้รถม้าที่เตรียมไว้ล่วงหน้า “ขึ้นรถ”
จักรพรรดิอสูรไม่ขยับ
อวิ๋นจูโยนห่อสัมภาระเข้าไปในอ้อมแขนของเขา “กลับไปที่ๆ ท่านเคยอยู่เสีย”
จักรพรรดิอสูรกอดห่อสัมภาระมองอวิ๋นจูอย่างน่าสงสารยิ่ง
อวิ๋นจูบีบนิ้วมือ ไม่ยอมหันไปมองเขา นางหมุนตัวเดินกลับเข้าไปด้านในจวน
จักรพรรดิอสูรคว้ามือของอวิ๋นจูไว้ จากนั้นส่งถั่วเคลือบน้ำตาลที่เขาแอบขโมยมาให้ทั้งหมด
ราวกับจะบอกว่า ต่อไปเขาจะไม่กินถั่วเคลือบน้ำตาลอีกแล้ว
ขนมที่เจ้าตุ้ยนุ้ยยกให้ เขาก็หยิบออกมาส่งให้ด้วย
ขนมก็จะไม่กินแล้ว
ลูกแก้วที่จิ่งอวิ๋นยัดมาให้ก็เอาออกมาให้เหมือนกัน
ลูกแก้วก็จะไม่ดีดแล้ว
แพขนตาของอวิ๋นจูสั่นไหว นางผลักมือที่ยื่นข้าวของส่งมาให้ของเขาออกไปแล้วก้าวเท้าเข้าไปในจวนอ๋อง
จักรพรรดิอสูรถูกทิ้งไว้ที่นั่นอย่างเดียวดาย
หิมะห่าใหญ่พร่างพรมลงมา
จักรพรรดิอสูรมองแผ่นหลังของอวิ๋นจูที่เดินไกลออกไปทุกที ประตูบานใหญ่ค่อยๆ ปิดลงเบื้องหน้า เสียงสะอื้นอันเศร้าโศกดังขึ้น
[1]ตำราวังวสันต์ เป็นตำราที่สอนเรื่องการร่วมอภิรมย์ระหว่างชายหญิง