หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 45-2 ชัยชนะ (2)
ตอนที่ 45-2 ชัยชนะ (2)
ธนูจันทร์โลหิตของอวิ๋นจูเหมาะกับการโจมตีระยะไกล ยิ่นอ๋องไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ง้างธนูเลยตั้งแต่ต้น เขาเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไปตรงหน้านางแล้วใช้กระบวนท่ารุกไล่นางอย่างดุดัน
กระบวนท่าของอวิ๋นจูก็ไม่แย่ หลังจากผ่านไปหลายสิบกระบวนท่า ยิ่นอ๋องก็ไมได้ถือไพ่เหนือกว่าสักเท่าไร
เฉียวเวยเห็นอวิ๋นจูดูเหมือนจะไม่มีปราณี จึงลอบเบาใจลง มองแต่สองคนนี้สู้กันแล้วดูไม่ออกว่าใครจะชนะ แต่ไม่ว่าจะตัดสินจากกระบวนท่าหรือกำลังภายใน อวิ๋นจูก็ดูมีแววที่จะเอาชนะยิ่นอ๋องได้
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ในตอนที่ยิ่นอ๋องโจมตีเข้าใส่อีกครั้งนั้น อวิ๋นจูช่วงชิงความเป็นฝ่ายรุกได้ ซัดฝ่ามือเข้าใส่หัวไหล่ของยิ่นอ๋องจนเขากระเด็นไปติดขอบแท่นบวงสรวง
ยิ่นอ๋องกระแทกเข้ากับรั้วของแท่นบวงสรวง ขาดแค่ก้าวเดียวก็ล้มอีกฝ่ายลงได้แล้ว เขาคว้าเสารั้วไว้ได้ทัน ใช้ช่วยพยุงตัวให้กลับมาตั้งตรงได้ ก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีใส่อวิ๋นจูอีกครั้ง
ในตอนนั้นทั้งสองอยู่ไกลกันมากกว่าเดิม
อวิ๋นจูมีโอกาสเพียงพอที่จะง้างคันธนู มือขวาของอวิ๋นจูกระชับธนูไว้แน่น มือซ้ายง้างเชือกออก แล้วปล่อยธนูพ่งตรงไปทางยิ่นอ๋องที่กำลังทะยานเข้ามา
นี่เป็นธนูจันทร์โลหิตดอกแรก ซึ่งมีพลังโจมตีอันแรงกล้าแฝงอยู่ อย่าว่าแต่ยิ่นอ๋องเลย ต่อให้เป็นราชันอสูรก็ไม่แน่ว่าจะต้านทานการโจมตีครั้งนี้ของอวิ๋นจูได้
ชั่วขณะที่อวิ๋นจูยิงธนูใส่ยิ่นอ๋องนั้น สีหน้าเขาพลันเปลี่ยน ท่าทางจะเบี่ยงหลบ แต่กลับโดนพลังของอวิ๋นจูตรึงให้ตัวเขาอยู่กับที่ กำลังภายในอันมหาศาลคล้ายต้นไม้ที่ใช้กระแทกประตูเมือง พุ่งเข้ากระแทกใส่เขาอย่างดุดัน
เขาถูกกระแทกจนกระอักเลือดกลางอากาศ ตัวคล้ายว่าวที่เชือกขาด ลอยละลิ่วไปทางด้นานอกแท่นบวงสรวง
ขอเพียงออกนอกเขตบวงสรวงและตัวตกลงสู่พื้น ก็จะถือว่าแพ้ในยกนี้
ยิ่นอ๋องกลับเหมือนว่าจะไม่เพียงพ่ายแพ้ในการประลองครั้งนี้ แต่ยังเอาชีวิตของตนมาฝากไว้กับการประลองครั้งนี้ด้วย เพราะที่น่าบังเอิญก็คือ ในขณะที่เขากำลังร่วงออกนอกแท่นบวงสรวงนั้น ศิษย์ชั้นนอกสองคนเข็นรถที่เต็มไปด้วยอาวุธเข้ามาทางเดินเล็กๆ พอดี บนรถเข็นมีแต่ดาบคมกริบกับเหล็กปลายแหลม หากยิ่นอ๋องตกลงไป คงได้ถูกทิ่มจนตัวกลายเป็นเม่น
“เจ้าสำนักน้อย…” เย่ว์หวาร้องเรียกเสียงหลง!
เวลาจะว่าช้าก็ช้าจะว่าเร็วก็เร็ว อวิ๋นจูแตะปลายเท้า พุ่งทะยานไปคว้าตัวยิ่นอ๋องไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์
อวิ๋นจูคว้าแขนยิ่นอ๋องได้กลางอากาศและกำลังจะดึงเขากลับไป
ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นในจังหวะนี้
เห็นเพียงยิ่นอ๋องที่เดิมทีไม่ได้สติ อยู่ๆ ก็เบิกตาดุดันขึ้น พลิกมือคว้าหัวไหล่อวิ๋นจูแล้วสะบัดตัวอวิ๋นจูตกลงพื้น!
ส่วนตัวเขากลับใช้แรงผลักนี้ทะยานกลับไปยังแท่นบวงสรวงได้อย่างปลอดภัย
การประลองยกนี้ลัทธิศักดิ์สิทธิ์ชนะแล้ว
สถานการณ์ที่พลิกผันไม่เป็นผลดีอย่างยิ่งต่อคณะของอวิ๋นจู ตามแผนเดิมนั้น ราชันอสูร อวิ๋นจู จักรพรรดิอสูรจะต้องกุมชัยชนะของวันมาให้ได้ ชนะสามวันจากห้าวัน พวกเขาก็ถือว่าชนะแล้ว แต่เวลานี้ อวิ๋นจูกับราชันอสูรกลับมาเสียไปในวันเดียวกัน
พวกเขากับลัทธิศักดิ์สิทธิ์ชนะกันคนละวัน หลังจากนี้จำเป็นต้องชนะอีกสองวันถึงจะช่วงชิงลัทธิศักดิ์สิทธิ์มาได้ จักรพรรดิอสูรมั่นใจว่าสามารถกุมชัยชนะมาได้วันหนึ่ง แต่อีกวันที่เหลือเล่า ผู้ใดจะมาประจำการ
ถอยอีกหมื่นก้าวกลับมาเอ่ย หากจักรพรรดิอสูรเองก็…
ไม่ๆๆ ความคิดนี้ไม่มีอยู่จริง ถึงอย่างไรจักรพรรดิอสูรก็ยิ่งใหญ่เกรียงไกรเพียงนั้น เขาไม่มีทางปราชัยแน่
…
ระหว่างทางลงเขา อวิ๋นจูไม่พูดอะไรเลย
เดิมทีนางก็มีนิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว อยู่ด้วยกันมานานเพียงนี้ กระทั่งรอยยิ้มก็ยังไม่เคยมีให้เห็น เมื่อครู่เกิดเรื่องใหญ่เช่นนั้นขึ้น สีหน้านางเลยยิ่งดูย่ำแย่หนักเข้าไปใหญ่
หากเทียบกับการประลองแพ้แล้ว สิ่งที่สะเทือนใจนางมากกว่าคงเป็นการกระทำของยิ่นอ๋องกระมัง 艾琳小說
หลังจากบิดากับสามีของนาง ก็มีบุรุษอีกคนที่มีสายใยใกล้ชิดกับนางที่สุดในชีวิตหยิบยื่นคือว่า “ทรยศ” มาให้กับนาง
หัวใจของนาง… คิดแล้วคงด้านชาไปทั้งดวง
ระหว่างทางกลับ จักรพรรดิอสูรเข้าไปอยู่ในรถม้าของอวิ๋นจู
อวิ๋นจูไม่ได้สนใจเขา เพียงหันมองทิวทัศน์หิมะนอกหน้าต่าง หน้าตาเหม่อลอย
จักรพรรดิอสูรเขยิบเข้าไปหาอวิ๋นจูอย่างกล้าๆ กลัวๆ พอเห็นอวิ๋นจูไม่ขยับตัวก็เขยิบเข้าไปใกล้อีก ใกล้อีก ใกล้อีกนิด จนในที่สุดตัวก็ชิดติดกับอวิ๋นจู
เขาดึงมืออวิ๋นจูมาจับ แล้ววางถั่วคั่วน้ำตาลเม็ดโตและกลมที่สุดลงบนฝ่ามือของนาง
…
ม่านยามราตรีปกคลุมรอบด้าน คณะของพวกเขากลับไปถึงจวนอ๋อง
ฟู่เสวี่ยเยียนได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากเฉียวเวย นางคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ อวิ๋นจูกับราชันอสูรที่รับประกันว่าต้องเอาชนะได้แน่ๆ ถึงขั้นพ่ายแพ้ไปในทั้งหมดในวันนี้ นี่ช่างเป็น…สิ่งที่เกิดความคาดหมายเหลือเกิน
เฉียวเวยเอาสองมือเท้าคาง “ก่อนหน้านี้คิดว่าราชันอสูรเก็บได้หนึ่งวัน ท่านยายเก็บได้หนึ่งวัน จักรพรรดิอสูรเก็บได้หนึ่งวัน หากเป็นเช่นนั้นพวกเราก็จะชนะได้แล้ว แต่เวลานี้ ยิ่นอ๋องกับท่านยายไม่อาจใช้ได้อีกแล้ว”
ฟู่เสวี่ยเยียนนิ่งไป “เจ้าอย่าเพิ่งท้อใจ ข้ากลับรู้สึกว่า… ถึงแม้สถานการณ์ทางเราจะดูไม่ดี แต่กลับไม่แน่ว่าจะไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา”
เฉียวเวยยืดตัวตรง “หมายความเช่นไร”
ฟู่เสวี่ยเยียนเอ่ยอย่างใช้ความคิด “พวกเราต่างฝ่ายต่างชนะกันคนละวัน หลังจากนี้ผู้ใดคิดจะชนะจะต้องชนะให้ได้อีกสองวัน หากอวิ๋นซู่ฉลาดก็จะไม่เลือกที่จะประลองกับจักรพรรดิอสูร เพราะหากได้เจอกัน จักรพรรดิอสูรจะต้องกุมชัยชนะของวันนั้นไปแน่ ด้วยความสามารถของเขา เขาก็สามารถกุมชัยชนะอีกวันหนึ่งได้เช่นกัน”
เฉียวเวยตาพลันเป็นประกาย “ข้าเข้าใจแล้ว เพราะยิ่นอ๋องกับท่านยายไม่อาจใช้ได้แล้ว ทางฝั่งพวกเรานอกจากจักรพรรด์อสูรแล้วก็ไม่มียอดฝีมือที่เก่งกาจกว่านี้ส่งออกไปได้อีก ดังนั้นอวิ๋นซู่จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปะทะกับจักรพรรดิอสูร”
“ปะทะ?” ฟู่เสวี่ยเยียนไม่ค่อยเข้าใจ
เฉียวเวยคลี่ยิ้ม “ก็คือแข็งปะทะแข็งอย่างไร!”
ฟู่เสวี่ยเยียนพยักหน้า “ถูกต้อง ดังนั้นข้าถึงได้บอกว่าสถานการณ์อาจไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าข้างเราเสียทีเดียว จักรพรรดิอสูรกับอวิ๋นซู่ต่างคนต่างกุมชัยชนะได้หนึ่งวัน วันสุดท้ายที่เหลือก็ต้องดูว่าคนข้างล่างอย่างพวกเรานี้จะไปแย่งชิงมาอย่างไรแล้ว พวกเราไม่มีราชันอสูรกับท่านยายแล้ว พวกเขาก็ใช่ว่าจะมีผู้ใดที่เก่งกาจกว่านี้ คนเก่งที่สุดของพวกเขาก็ใช้ไปหมดแล้วเช่นกัน”
เฉียวเวยหรี่ตาลง “ก็จริง โจรเฒ่าเย่ว์หวานั่นก็พิกลพิการไปแล้ว ท่านยายเหลียนอายุมากแล้ว เหล่านักเวทก็ไม่น่าเกรงกลัวเพียงนั้น ส่วนนักรบมรณะน่ะ ขอเพียงไม่ใช่ราชันอสูรก็สามารถใช้กู่เล่นงานได้ทั้งสิ้น ที่ตึงมือที่สุด…ก็น่าจะเป็นกงซุนฉางหลี”
ฟู่เสวี่ยเยียนบอกว่า “เขาคนนั้นให้ข้าจัดการเอง”
เฉียวเวยอึ้งไป “เจ้ารับมือเขาได้หรือ มั่นใจหรือ อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายเพียงนั้น เขาออมมือให้ไม่ได้นะ”
ฟู่เสวี่ยเยียนพยักหน้า “ข้าเข้าใจ ไม่ต้องให้เขาออมมือ ขอเพียงให้มั่นใจว่าจักรพรรดิอสูรกุมชัยชนะของวันมาได้ ข้าก็มีวิธีรับมือกงซุนฉางหลี”
ความคิดที่ว่าจักรพรรดิอสูรกับอวิ๋นซู่จะได้รับชัยชนะกันคนละวัน ดูจะเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายคิดตรงกัน
วันที่สามอวิ๋นซู่ยังคงไม่ออกมาปรากฏตัว
อวิ๋นซู่มาปรากฏตัว จักรพรรดิอสูรยังเอาชนะได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวันที่ไม่มีปรากฏตัวเลย โ
ไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่าวันนี้ต้องได้ชัยชนะมาแน่แล้ว แต่ที่ทำให้ทุกคนขาแว่นหักก็คือ ในขณะที่จักรพรรดิอสูรจะลุกจากอัฒจรรย์ลงไปบดขยี้จั๊กจั่นตัวน้อยเหล่านั้น ชายชราอย่างเขา…คลุ้มมคลั่งเสียแล้ว