หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 46-2 ชัยชนะ (3)
ตอนที่ 46-2 ชัยชนะ (3)
ตอนทุกคนออกจากแท่นบวงสรวง เฉียวเวยเหลือบมองไปทางอัฒจันทร์ทางใต้ เมื่อครู่เกิดเรื่องใหญ่เพียงนี้ ทางฝั่งนั้นคล้ายไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย เงียบจนน่าประหลาด แต่พอนางได้เห็นอัฒจันทร์ที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน ก็เข้าใจทันทีว่าความเงียบสงัดที่ราวกับสิ้นลมไปแล้วนั้นเกิดจากเหตุใด
คนพวกนั้นทั้งๆ ที่เมื่อครู่ยังอยู่บนอัฒจันทร์แท้ๆ! เหตุใดเพียงพริบตาก็หายกันไปไม่เหลือแล้วเล่า!
“มีทางลับ” ฟู่เสวี่ยเยียนบอก
“อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้า เวลานี้มาอยู่ข้างกายข้าเดี๋ยวนี้!”
“เฉียวซื่อ! ความอดทนของข้าไม่ใช่ว่าจะมีให้เจ้าตลอดเวลาหรอกนะ! ทางที่ดีเวลานี้เจ้ารีบมาอยู่กับข้า! มิเช่นนั้น…”
“ข้าอยากจะเตือนเจ้า อย่าได้ดื้อดึงไปจะดีกว่า พวกเจ้าจะต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ รีบมาอยู่กับข้าเสียดีกว่า บางทีอาจจะรักษาชีวิตเจ้าไว้ได้!”
ยิ่นอ๋องเคยเตือนนางไม่เพียงแค่หนึ่งครั้ง หรือว่า…เขารู้แต่แรกแล้วว่าจักรพรรดิอสูรจะคลุ้มคลั่ง?
แล้วเขาล่วงรู้ได้อย่างไร!
เฉียวเวยไม่มีเวลามาขุดคุ้ยเรื่องนี้ เพราะราชันอสูรที่อยู่ข้างหลังใกล้จะต้านไว้ไม่ไหวแล้ว ราชันอสูรกับจักรพรรดิอสูรห่างชั้นกันไม่เพียงแค่หนึ่งขั้น จักรพรรดิอสูรยามมีสติ แค่นิ้วเดียวก็สามารถบดขยี้เขาได้แล้ว เวลานี้ยิ่งคลุ้มคลั่ง พลังการต่อสู้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เฉียวเวยกำลังหันกลับไป
อวิ๋นจูรีบบอกว่า “อย่าหันไป!”
เฉียวเวยจึงหมุนคอกลับมาแต่โดยดี
คณะของพวกเขาพุ่งเข้าไปในลัทธิศักดิ์สิทธิ์ โ
ประตูใหญ่ของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ปิดสนิทอยู่ อวิ๋นจูพยายามตั้งสติ เดินกำลังภายในออกมาให้เพียงพอ แล้วใช้ธนูจันทร์โลหิตยิงออกไป!
ประตูใหญ่ถูกแรงอัดกระแทกจนพังลง!
สือชีอุ้มอวิ๋นจู ไห่สือซานแบกเยี่ยนเฟยเจวี๋ย คนอื่นๆ วิ่งกันเข้าไปในลัทธิศักดิ์สิทธิ์กันเร็วที่สุดเท่าที่ร่างกายจะอำนวย
“….ไปทางลัด!” อวิ๋นจูชี้ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ทุกคนมองตามมือนางไป รีบวิ่งไปที่เกาะอิ๋นหู ทางลัดเส้นนี้ลดระยะไปได้มาก ประหยัดเวลาจากเดินทางไกลไปได้ถึงหนึ่งเค่อเต็มๆ
แต่กระนั้นต่อให้ลดระยะทางลงก็ดูจะไม่มีประโยชน์เท่าไร เพราะตอนที่พวกเขาเร่งรุดไปถึงปากทางเกาะอิ๋นหูนั้น เรือทั้งหมดไม่เพียงแค่ถูกคนของลัทธิศักดิ์สิทธิ์พายออกไปหมดแล้ว แต่ยังถูกคนของลัทธิศักดิ์สิทธิ์เผาทิ้งทั้งหมดอีกด้วย
เรือลำสุดท้ายคือเรือมีหลังคา เย่ว์หวานั่งอยู่บนรถเข็นที่ทั้งฉูดฉาดและประณีตสวยงาม บนใบหน้ามีรอยยิ้มที่สะใจเจืออยู่
ข้างกายนางคือยิ่นอ๋องที่อยู่ในชุดผ้าไหมสีดำหมึก
มือสองข้างของยิ่นอ๋องไพล่อยู่ด้านหลัง มองมายังพวกเขาที่น่าเวทนาด้วยสายตาเยือกเย็น
เฉียวซื่อ ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว เตือนแล้วเตือนเล่าแต่เจ้าเองที่ไม่ฟัง เวลานี้จะมาโทษข้าไม่ได้หรอกนะ
เย่ว์หวาคลี่ยิ้มด้วยความสบายใจ “เจ้าสำนักน้อย เพลิงลูกนั้นข้าทำได้ดีหรือไม่”
เขาเอาคบไฟเผาทำลายเรือผุๆ ลำสุดท้ายที่เหลืออยู่ใต้ต้นไม้
หมัดของยิ่นอ๋องกำแน่น “…ดี ดีมากๆ”
“ฮ่าๆๆๆ…” เย่ว์หวาหัวเราะอย่าบ้าคลั่งออกมา
เหยาจี วันนี้ในที่สุดข้าก็ล้างแค้นให้เจ้าได้แล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นราชันอสูรที่หักหลังเจ้า หรืออวิ๋นจูที่สังหารเจ้า แล้วยังคนตระกูลจีที่เจ้าเกลียดเข้าไปถึงกระดูก ทั้งหมดจะตายด้วยน้ำมือของจักรพรรดิอสูร!
“โฮก…”
ทางด้านแท่นบวงสรวง มีเสียงคำรามด้วยความโศกเศร้าใจแทบขาดของราชันอสูรลอยมา
เฉียวเวยพลันหน้าถอดสี “แย่แล้ว! ราชันอสูรเกิดเรื่องแล้ว…”
นางเพิ่งเอ่ยจบก็เห็นเงาคนที่มีไอสีดำคุกรุ่นลอยลงมาจากท้องฟ้าราวกับอสุราจากนรกมาลงยืนด้านหลังพวกเขา
สองมือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด มีเลือดสดๆ หยดติ๋งๆ ลงมาจากมือ
สองตาของเขาแดงก่ำ ริมฝีปากดำคล้ำ หัวคิ้วมีรอยบัวสีเพลิงขึ้นไปวง และกำลังค่อยๆ แผ่ไอสีดำออกมา
อวิ๋นจูกระโดดลงพื้น บังทุกคนเอาไว้ด้านหลัง นางง้างธนูจันทร์โลหิตเล็งตรงไปที่จักรพรรดิอสูร “รีบกระโดดลงไป!”
ตูม!
ไห่สือซานมัดเยี่ยนเฟยเจวี๋ยไว้ที่หลัง แล้วกระโดดลงทะเลสาบที่น้ำเย็นยะเยือกเสียดกระดูก ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
สือชีว่ายน้ำไม่เป็น
ฟู่เสวี่ยเยียนแบกเขาไว้ที่หลัง
ส่วนเฉียวเวยแบกบิดาของตนไว้
เฉียวเจิงเดิมทีก็พอว่ายน้ำเป็น แต่เวลานี้น้ำในทะเลสาบที่เย็นเสียกระดูก ด้วยร่างกายของเขาไม่เท่าไรก็คงตัวแข็งจนขยับตัวว่ายน้ำไม่ได้
บนฝั่ง จักรพรรดิอสูรปัดธนูจันทร์โลหิตของอวิ๋นจูกระเด็นไป เขาบีบคออวิ๋นจูไว้แล้วยกตัวนางขึ้นมา
ลมหายใจของนางถูกปิดกั้น สีหน้าบวมแดงขึ้นเรื่อยๆ
นางใช้มือทั้งคว้าทั้งทุบ แต่กลับไม่เกิดประโยชน์เลยสักนิด
พละกำลังของนางเริ่มถดถอยอย่างรุนแรง ตันเถียนก็เริ่มถูกทำลาย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป น่ากลัวว่านางคงได้สิ้นใจตายเป็นแน่…
เฉียวเวยหันกลับไป “ท่านยาย!”
จักรพรรดิอสูรสายตาดุดัน ผลักฝ่ามือข้างหนึ่งไปทางเฉียวเวย
เฉียวเวยรู้สึกเพียงแรงอันมหาศาลที่มัดร่างของนางเอาไว้ ดึงลากนางขึ้นมาจากทะเลสาบอันเย็นยะเยือก
นางรีบโยนเฉียวเจิงกลับลงไปทันที!
เฉียวเจิงหล่นตูมลงน้ำไป
ฟู่เสวี่ยเยียนว่ายน้ำเข้าไปหาเฉียวเจิง
เฉียวเวยก็ไม่ได้โชคดีเพียงนั้น นางก็ถูกจักรพรรดิอสูรคว้าคอไว้แล้วยกขึ้นสูงเช่นกัน จนไม่อาจหายใจได้
นางควักกริชออกมาด้วยความทุลักทุเล เตรียมจะแทงใส่จักรพรรดิอสูร แต่พอถูกกำลังภายในของจักรพรรดิอสูรเข้าไป แขนขาของนางก็พลันชาดิก
มือของจักรพรรดิอสูรที่บีบคออวิ๋นจูกับเฉียวเวยอยู่เพิ่มแรกขึ้นทีละนิด
อวิ๋นจูเป็นลมสลบไปก่อน
เฉียวเวยก็ใกล้จะทานทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน เจ้าตัวน้อยในท้องของนางก็เริ่มจะขาดอากาศแล้ว…
เฉียวเจิงร้องไห้คร่ำครวญแทบขาดใจ พยายามว่ายเข้าหาฝั่งสุดกำลัง แต่กลับถูกฟู่เสวี่ยเยียนกับไห่สือซานจับตัวไว้แน่น
สติของเฉียวเวยค่อยๆ พร่าเลือน
ในขณะที่สติห้วงสุดท้ายของนางใกล้จะดับหายไปเต็มทีนั้น ตรงขอบฟ้าห่างไปไม่ไกลก็มีหอกยาวส่งประกายสีดำพุ่งทะยานเข้ามา!