หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 47 ท่านแม่เฉียวมาแล้ว (1)
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 47 ท่านแม่เฉียวมาแล้ว (1)
ตอนที่ 47 ท่านแม่เฉียวมาแล้ว (1)
กำลังภายในของจักรพรรดิอสูรแข็งแกร่งราวกับมีอยู่จริง ประหนึ่งปราการชั้นหนาๆ ที่ห่อคลุมตัวจักรพรรดิอสูรเอาไว้อย่างหนาแน่น
อย่าว่าแต่อาวุธเลย กระทั่งราชันอสูรก็ยังไม่อาจบุกทะลุกำลังภายในของเขาไปได้
แต่กระนั้นหอกยาวด้ามนี้กลับมาพร้อมกับขุมพลังอันไม่อาจจินตนาการ พุ่งมาด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์แหวกทะลุปราการกำลังภายในชั้นแล้วชั้นเล่าก่อนจะได้ยินเสียงพลั่กเป็นเสียงทะลุหัวไหล่ของจักรพรรดิอสูร
คมมีดที่พุ่งเข้ามาในร่างกาย ทำให้จักรพรรดิอสูรตัวโงนเงนเล็กน้อย
ชั่วขณะที่ตัวโงนเงนไปนั้น มือเขาพลันสั่น อวิ๋นจูกับเฉียวเวยตัวร่วงลงกับพื้น
ในที่สุดเฉียวเวยก็หายใจได้อีกครั้ง นางสูดหายใจเอาไปเฮือกใหญ่
แต่นางยังไม่ทันหายใจเฮือกนั้นเสร็จ จักรพรรดิอสูรก็ดึงหอกตรงหัวไหล่ออกมาเงื้อขึ้นสูงจะพุ่งเข้าใส่เฉียวเวย
เฉียวเวยในเวลานั้นหลบเลี่ยงไม่พ้นแล้ว แรงกายทั้งหมดที่มีคล้ายถูกดึงออกไปจนหมด ได้แต่ตาค้างมองบุรุษที่ธาตุไฟเข้าแทรกเข้าสู่ทางมาร คล้ายยมบาลที่เดินเข้ามาเพื่อหมายจะเอาชีวิต
จักรพรรดิอสูรมองหน้าเฉียวเวย แล้วจู่ๆ ตัวก็นิ่งค้างไป ไม่รู้ว่ากำลังตกใจอะไร
เฉียวเวยคิดว่าเขาจำตนเองได้แล้ว รีบเอ่ยเรียกเขา แต่วินาทีต่อมาหอกยาวที่เงื้ออยู่อย่างดุดันนั้นก็จะแทงเข้าใส่เฉียวเวยอีกครั้ง!
เฉียวเวยตกใจจนหลับตาปี๋!
หอกยาวแทงมาทางหน้าอกของเฉียวเวย กระทั่งอาภรณ์ก็ถูกแทงทะลุเข้ามาแล้ว แต่กระนั้นในขณะที่มันกำลังจะทะลุมาถึงตัวเฉียวเวยนั้น กำลังภายในมหาศาลก็เคลื่อนมาทางเฉียวเวยราวกับคลื่นมหาสมุทร เข้ามาห่อคลุมตัวเฉียวเวยเอาไว้
เฉียวเวยได้อากาศหายใจอีกครั้ง นางเบิกตาโตด้วยความหวาดผวา มองจักรพรรดิอสูรตรงหน้าที่ยังคงจับหอกยาวด้ามนั้นอยู่ แต่กลับคล้ายจะดันให้แทงเข้ามาลึกขึ้นไม่ได้
สายลมโหมกระหน่ำ พัดผ่านต้นไม้แห้งเหี่ยวที่อยู่รอบๆ หิมะตามพื้นหมุนเกรียวขึ้นมาราวกับลมพายุ
กระทั่งท้องฟ้าก็ดูจะเปลี่ยนไปด้วย เมฆดำเคลื่อนตัวลอยละลิ่วเข้ามาบดบังแสงอาทิตย์ ในอากาศพลันมีไอสังหารอันแรงกล้าพวยพุ่งเข้ามา
ตึง!
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!…
เฉียวเวยรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน แต่นั่นกลับไม่ใช่เสียงเกือกม้า แต่เป็นหอกยาวนับร้อยที่พุ่งปักลงบนพื้นน้ำแข็ง
เสียงที่ดังเป็นจังหวะคล้ายกับพาเอาพลังจากยุคโบราณมาด้วย ทำให้ทั้งลัทธิศักดิ์สิทธิ์ตัวสั่นกันไปหมด! โ
ระลอกน้ำในทะเลสาบอิ๋นหูเริ่มม้วนตัวสูง เรือเพิ่งโคลงเคลงได้ไม่เท่าไร ศิษย์ที่พยุงตัวไว้ไม่ดีก็หล่นลงไปในน้ำที่เย็นยะเยือกไปถึงกระดูก!
คลื่นลูกมหึมาที่ซัดมา ตัวเรือก็โคลงเคลงจนเกือบจะพลิกคว่ำ รถเข็นของเย่ว์หวาล้มพลั่กลงกับพื้น ตัวเขาเองก็ล้มลงกับพื้นไม่เป็นท่าเช่นกัน ตัวเขากลิ้งออกไปอย่างไม่อาจควบคุมจนไปชนเข้ากับกาบเรือ ตัวเขาครึ่งหนึ่งตกลงไปในน้ำ!
“ช่วยด้วย…”
เขาร้องเสียงหลง!
ยิ่นอ๋องมือไวตาไว้คว้าเขาไว้ได้ทัน ในขณะที่กำลังจะดึงเขาขึ้นมานั้น ก็ดันมีคลื่นลูกใหญ่อีกลูกซัดเข้ามา ตัวของยิ่นอ๋องถลาไปข้างหน้า ไม่เพียงแต่จะจับกาบเรือไว้ไม่ได้ แต่ยังพาให้ตัวเขาตกลงไปในน้ำด้วย
“อ๊าก…”
พอตกลงไปในน้ำที่เย็นไปถึงกระดูก เย่ว์หวาร้องโหยหวนราวกับใจแทบขาด
คณะของเฉียวเวยแตกต่างกับพวกคนที่อยู่เกือบกลางทะเลสาบโดยสิ้นเชิง ทางฝั่งพวกนางสงบนิ่งกระทั่งอุณหภูมิน้ำยังคล้ายสูงขึ้นหลายองศา
พวกเขาอึ้งมองพวกลัทธิศักดิ์สิทธิ์ ที่เรือจะพลิกคว่ำก็พลิกคว่ำ ตกน้ำก็ตกน้ำ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
จนกระทั่งระลอกน้ำข้างหน้าถูกขุมพลังแหวกออก เรือนร่างที่เพรียวบาง สวมใส่เสื้อคลุมข้างนอกสีดำข้างในสีแดงเคลื่อนตัวตามลมกับคลื่นเข้ามา ทุกคนถึงได้เบิกตาโตด้วยความตกใจ
เจ้าของร่างนั้นแทบจะแวบผ่านหน้าพวกเขาไปด้วยความเร็วที่ไม่อาจจินตนาการ เฉียวเจิงถูกนางดึงขึ้นจากน้ำ แล้ววางตัวลงบนพื้นหิมะอย่างนุ่มนวล
ตัวของนางก็เคลื่อนมาหยุดลงข้างๆ
จังหวะที่ลงพื้นนั้น นางหันหลังให้ทุกคน พลิกมือกระแทกใส่ ทุกคนจึงถูกกระแทกตัวขึ้นจากทะเลสาบ แต่ละคนคล้ายเม็ดถั่วที่ตกลงบนพื้นหิมะ
นางทำทุกอย่างรวดเดียวเสร็จก็ไม่มีรั้งรอเลยสักนิด พุ่งเข้าใส่จักรพรรดิอสูรด้วยสายตาดุดันทันที
นางพุ่งทะลุเข้าไปในปราการไร้รูปที่จักรพรรดิอสูรใช้กำลังภายในสร้างขึ้น คว้าคอจักรพรรดิอสูรไว้ด้วยมือข้างเดียวแล้วจับตัวเขากระแทกเข้ากับหินผาที่อยู่ห่างไปหลายสิบเมตร
หินผาร่วงกราวลงกับพื้น หอกในมือจักรพรรดิอสูรก็กระแทกจนตกลงมา
คณะลัทธิศักดิ์สิทธิ์หันมามองทางนี้กันโดยพร้อมเพรียง จึงเห็นว่าท่ามกลางหิมะขาว อาภรณ์ของสตรีนางหนึ่งปลิวไสว ดำอย่างที่สุด แดงอย่างที่สุด ล้ำลึกและมีสีสัน กวาดตามองไปคล้ายว่านางต่างหากคือปีศาจที่เดินขึ้นมาจากขุมนรก
จักรพรรดิอสูรโกรธจัด เขาส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนไปทั่วฟ้า ยกมือจะสะบัดตบเข้าใส่เฮ่อหลั่นชิง!
เฮ่อหลันชิงพลันเคลื่นตัวทะยานขึ้นกลางอากาศ สองมือเดินกำลังภายในมารอไว้เต็มที่ ก่อนจะพุ่งเข้าใส่จักรพรรดิอสูรอย่างดุดัน!
จักรพรรดิอสูรถูกกระแทกจนตัวเข้าไปอยู่ในซากปรักหักพัง!
แต่เพียงไม่นาน จักรพรรดิอสูรแหวกทะลุเศษซากกลับออกมา เฮ่อหลันชิงไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พักสักนิด ซัดพลังจากฝ่ามือเข้าใส่ลูกแล้วลูกเล่า
ผู้ใดกันที่บอกว่าหากมีราชันอสูรก็สามารถบดขยี้เฮ่อหลันชิงได้แล้ว พวกเขาประเมินความสามารถของสายเลือดประมุขเฮ่อหลันกันต่ำไปแล้ว
นี่หากเป็นราชันอสูร คงถูกนางซัดตายไปแล้ว โชคดีที่เขาเป็นจักรพรรดิอสูร แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น จักรพรรดิอสูรก็ถูกการโจมตีที่รวดเร็วจนน่าอัศจรรย์กับกำลังภายในที่ดูจะมากล้นไม่มีหมดสิ้นของเฮ่อหลันชิงเล่นงานจนแทบไม่มีโอกาสให้สวนกลับ
จักรพรรดิอสูรถูกเล่นงานจนหนังปริเนื้อกระจาย เลือดสดๆ เปรอะเปื้อนอาภรณ์ แต่ก็เป็นเพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น กำลังภายในของเขายังคงมีมากเพียงพอ เขาต้านการโจมตีของเฮ่อหลันชิงเอาไว้อย่างเต็มกำลัง มือขวาเดินกำลังภายในมหาศาลมารอไว้ แล้วซัดเข้าใส่เฮ่อหลันชิงอย่างดุดัน
เฮ่อหลันชิงเคลื่อนกายอย่างรวดเร็ว ขยับหลบฝ่ามืออีกฝ่ายไปได้
ทั้งสองต่างฝ่ายต่างออกอาวุธหนักกันแล้ว ลมปราณจมสู่จุดตันเถียน กำลังภายในที่เคลื่อนมารวมกันที่มือมากขึ้นเรื่อยๆ
“หยุดสู้กันได้แล้ว!”
อวิ๋นจูที่ไม่รู้ฟื้นคืนสติตั้งแต่เมื่อไร อยู่ๆ ก็พุ่งไปอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสอง มองจักรพรรดิอสูรที่สติไม่กระจ่างชัดด้วยความเสียใจ
“ท่านแม่!”
เฉียวเวยก็วิ่งเข้ามาเช่นกัน นางเข้ามาขวางหน้าเฮ่อหลันชิงไว้ เพ่งมองมารดาขณะเอ่ยว่า “จักรพรรดิอสูรเป็นท่านตาทวดของหมิงซิว เขาธาตุไฟเข้าแทรกจนเข้าสู่ทางมาร เขาถูกคนทำร้าย!”
เฮ่อหลันชิงส่งเสียงหึเย็นๆ
อวิ๋นจูค่อยๆ เดินเข้าไปหาจักรพรรดิอสูร
จักรพรรดิอสูรมองตรงคออวิ๋นจูที่มีรอยเลือดแห้งๆ นัยน์ตาฉายแววลังเลขึ้นมาชั่วขณะ
อวิ๋นจูก้าวทีล้าวเข้าไปหาเขา “เจ้าฆ่าสิ เจ้าฆ่าข้าเลยสิ”
ฝ่ามือที่รวบรวมกำลังภายในเอาไว้ของจักรพรรดิอสูรสั่นระริก
ในตอนที่อวิ๋นจูอยู่ห่างจากเขาแค่เพียงครึ่งก้าวนั้น จู่ๆ เขาก็ก้าวถอยหลังด้วยความหวาดผวา มองอวิ๋นจูด้วยความหวาดผวา มองอยู่อย่างนั้นพักหนึ่ง แล้วมองมือที่เต็มไปด้วยเลือดของตนก่อนจะรีบวิ่งหนีไป
อวิ๋นจูจับหน้าอกไว้ ดึงตัวขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
เฉียวเวยจะเข้าไปประคองนางแต่กลับถูกมารดาของตนห้ามเอาไว้
เฉียวเวยรู้ว่ามารดานางยังคงไม่พอใจจักรพรรดิอสูรกับอวิ๋นจูอยู่ จึงไม่ดื้อดึงกับมารดาของตน หมุนตัวไปกอดแขนมารดาตนไว้พร้อมยิ้มร่า “ท่านแม่!”
เฮ่อหลันชิงคล้ายส่งเสียงเหอะออกมาทีหนึ่ง “ยังรู้จักเรียกแม่อีกหรือ”
“รู้สิๆ!” บุตรีเฉียวพยักหน้าราวกับสับกระเทียม ว่าง่ายยิ่งนัก!
เฮ่อหลันชิงปรายตามองบุตรสาว ถอดเสื้อคลุมออกแล้วเอามาคลุมในบนตัวที่เปียกปอนของบุตรสาว
ความชุลมุนวุ่นวายอันน่าตกใจจนขวัญผวานี้ในที่สุดก็จบลงเสียที ทุกคนพากันโล่งอก ใจที่เต้นไม่เป็นส่ำก็กลับมาเป็นปกติได้เสียที
เฉียวเจิงเดินสะอื้นเข้ามาหาภรรยาของตน ซุกศีรษะเข้ากับอกภรรยาแล้วร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า
เฮ่อหลันชิงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นในพริบตา นางเอ่ยปลอบสามีเสียงเบาว่า “ไม่ต้องเป็นทุกข์ไป ข้าก็มานี่แล้วมิใช่หรือ…”
เฉียวเจิงกอดเฮ่อหลันชิงไว้แน่น น้ำตายิ่งทะลักออกมาหนักกว่าเดิม
คณะของพวกเขานอกจากอวิ๋นจูที่บาดเจ็บภายในกับเยี่ยนเฟยเจวี๋ยที่บาดเจ็บภายนอกแล้ว คนอื่นๆ มีแผลจากความเย็นจัดบ้างเล็กน้อย ซึ่งทั้งหมดนับว่าปลอดภัยดี แต่ไม่เท่าไรทุกคนก็นึกถึงราชันอสูรขึ้นมาได้ เมื่อครู่ดูเหมือนจะได้ยินเสียงเขาร้อง ไม่รู้ว่าเขาถูกจักรพรรดิอสูรทำอะไรหรือไม่
สือชีใช้วิชาตัวเบา อุ้มตัวราชันอสูรที่เจ็บหนักเข้ามา
ราชันอสูรบาดเจ็บหนักมาก ทั่วตัวแทบไม่มีตรงใดที่หมดจดเรียบร้อย
เมื่อครู่หากไม่ได้เขาช่วงถ่วงเวลาจักรพรรดิอสูรไว้ น่ากลัวว่าพวกเขาคงต้านจนเฮ่อหลันชิงมาถึงไม่ได้ เพียงแต่เขาทุ่มเทมากเกินไปจนบาดเจ็บถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าจะรักษาให้กลับมาหายดีได้หรือไม่
“เขาจำเป็นต้องได้ยาพิษ” เฉียวเจิงบอก
ซ้ำยังต้องไม่ใช่ยาพิษธรรมดาๆ อีกด้วย เฉียวเจิงคิดในใจ
เฮ่อหลันชิงหรี่ตาลง สายตาหยุดมองเรือมีหลังคาหลายลำที่ยังไม่ทันจมลงไป มุมปากที่แดงก่ำยกขึ้นเป็นองศาสบายๆ
นางทะยานตัวขึ้นไป เคลื่อนตัวรวดเร็วราวกับสายฟ้า ลอดหลังคาผ่านตัวเรือเข้าไปด้านใน
ทั้งหมดนั้นไม่มีหยุดนิ่งเลยสักนิด คล้ายนกสีดำตัวน้อยที่บินผ่านเข้าไปในเรือ
แต่กระนั้นกว่าศิษย์ของลัทธิศักดิ์สิทธิ์จะรู้ตัว ก็เห็นเพียงนารีอสูรที่นอนตายตาไม่หลับจมกองเลือดอยู่แล้ว
จุดตันเถียนของรานีอสูรถูกควักออกไปทั้งอย่างนั้น ยาพิษถูกควักออกมา
ไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างไร!
เมื่อครู่ภาพตรงหน้าพวกเขาแค่ดำมืดไปชั่วขณะ รานีอสูรก็ถูกคนสังหารใต้สายตาพวกเขาไปแล้ว!
หากไม่ใช่เพราะบนเรือมีกลิ่นหอมอ่อนๆ หลงเหลืออยู่ เป็นข้อพิสูจน์ว่าเคยมีสตรีนางหนึ่งมาจริงๆ น่ากลัวว่าพวกเขาคงเข้าใจไปว่าตนเจอผีกลางวันแสกๆ ให้เสียแล้ว!
ราชันอสูรที่เก่งกาจที่สุดของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ ถูกคนควักเอาจุดตันเถียนออกไปในถิ่นฐานของลัทธิศักดิ์สิทธิ์!
“หยามเกียรติกันเกินไปแล้ว!”
เย่ว์หวาที่เพิ่งถูกคนช่วยขึ้นมาจากน้ำ พอเห็นภาพนั้นก็เดือดดาลจนกระอักเลือด
แต่หากคิดว่าเฮ่อหลันชิงจะหยามเกียรติกันเพียงเท่านี้ นั่นก็คงใสซื่อเกินไป
เฮ่อหลันชิงเอายาพิษมอบให้สามีของตน หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมือ อมยิ้มมองยิ่นอ๋องที่อยู่บนเรือแล้วยกมือขึ้นดีดนิ้ว
องครักษ์เกราะทมิฬสามนายพุ่งทะยานเข้ามา พวกเขาอุ้มแม่ชีน้อยเอาไว้คนละคน
ชั่วขณะที่ได้เห็นแม่ชีน้อยสามนางนั้น สีหน้ายิ่นอ๋องก็พลันถอดสี!