หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 56-2 เจ้าเด็กอ้วนมาแล้ว (1)
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 56-2 เจ้าเด็กอ้วนมาแล้ว (1)
ตอนที่ 56-2 เจ้าเด็กอ้วนมาแล้ว (1)
แม่เฒ่าหลับตาลง สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยด้วยความจนใจว่า “บุตรของจีหมิงซิวก็เป็นสายเลือดของโหราจารย์เช่นกัน พวกเจ้าไปเชิญตัวเขามา บางที…เจ้าสำนักอาจพอมีทางรอด”
แน่นอนว่าต่อให้เป็นบุตรของจีหมิงซิวก็ไม่ใช่ว่าจะเชิญมาได้ง่ายเพียงนั้น เมื่อมีเฮ่อหลันชิงคอยนั่งเป็นพระประธานอยู่ที่นั่น ไม่ว่าวัวปีศาจงูเทพตัวใดก็ยากจะเข้าใกล้ฟางชุ่ยหยวนได้
แต่วันนี้ ดูเหมือนสวรรค์จะอยู่ข้างลัทธิศักดิ์สิทธิ์
หลังจากอวิ๋นจูเดาได้ว่าจักรพรรดิอสูรถูกเอาตัวไปซ่อนไว้แถวๆ บ่อโอสถในลัทธิศักดิ์สิทธิ์ นางก็รีบแยกกับเฮ่อหลันชิงเป็นสองทาง แล้วมา “จับตัวคน” ที่ลัทธิศักดิ์สิทธิ์ทันที
เฮ่อหลันชิงไม่อยู่ที่ฟางชุ่ยหยวน อวิ๋นจูก็ไม่อยู่ ราชันอสูรกับจีหมิงซิวกำลังปลีกวิเวกจึงย่อมไม่ต้องเอ่ยถึง ตอนยอดฝีมือของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ปีนกำแพงเข้าไปในเรือนของพวกเฉียวเวยแล้ว ยังรู้สึกไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำ
นี่พวกเขาเข้ามาแล้วจริงๆ หรือ
เข้ามาแล้วจริงๆ หรือ
ยอดฝีมือสองคนหันมองหน้ากัน แล้วต่างฝ่ายต่างยกมือลูบคอตนเอง ศีรษะยังอยู่บนบ่า
ยอดฝีมือที่มั่นใจแล้วว่าตนยังมีชีวิตอยู่เริ่มค้นหาไปในฟางชุ่ยหยวนด้วยความระมัดระวัง
อันที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องระมัดระวังเพียงนี้ วันนี้ไม่เพียงเฮ่อหลันชิงกับอวิ๋นจูที่ออกไปข้างนอก แต่กระทั่งอาต๋าเอ่อร์ ฟู่เสวี่ยเยียน ใต้เท้าเจ้าสำนักรวมถึงเจ้าสัตว์ทั้งสี่ก็ทยอยออกไปตามหาจักรพรรดิอสูรด้วยเช่นกัน ภายในเรือนที่กว้างขวางจึงเหลือเพียงเฉียวเวย แม่ทัพน้อยมู่กับเฉียวเจิง ส่วนศิษย์พี่หญิงรองย้ายออกไปอยู่กับสวินหลันแล้ว
แม่ทัพน้อยมู่ยังรักษาตัวอยู่ จึงนอนหลับไปนานแล้ว
เฉียวเจิงทำยาเม็ดอยู่ในห้องบดยา จึงไม่ได้ยินเสียงข้างนอกสักนิด
เฉียวเวยที่กำลังตั้งครรภ์เอาเสี่ยวมู่เหยียนเข้านอน ตนก็กำลังนอนหลับสนิท จิ่งอวิ๋นนอนอยู่ตรงกลาง วั่งซู่ตัวครึ่งหนึ่งไหลออกมานอกเตียง กำลังส่งเสียงกรนเบาๆ เป็นระยะๆ
จะโทษพวกเขาที่ลดทอนความระแวดระวังลงก็ไม่ได้ เป็นเพราะอวิ๋นซู่เตรียมจะดูดกลืนเอาเม็ดยาพิษจากตัวจักรพรรดิอสูรแล้ว ไหนเลยจะมีแก่ใจมาเล่นงานพวกนางอีก
อวิ๋นซู่ไม่ได้มีความคิดนั้นจริงๆ
เพียงแต่อวิ๋นซู่ก็ไม่คิดว่าตนจะเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้
“พวกเขาอยู่ที่ห้องหลักกันหมด คอยมองหาประตูวงพระจันทร์ แล้วไปยังห้องที่สองทางตะวันออก”
นั่นเป็นคำกล่าวของยิ่นอ๋อง
ยอดฝีมือสองคนนี้ตามหาห้องหลักเจออย่างรวดเร็ว
ยอดฝีมือทั้งสองหยิบเอากระบอกไม้ไผ่อันเล็กออกมาจากอกเสื้อตนเอง ด้านในใส่ควันสลบไว้อยู่ เขากำลังจะเสียบกระบอกไม้ไผ่อันเล็กเข้าไปที่ซอกประตู แต่แค่ผลักเบาๆ ประตูก็ถูกผลักเปิด
ยอดฝีมือสองคนตกใจกันใหญ่ ยังคิดว่าตนถูกพบเข้าเสียแล้ว แต่กลายเป็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ลงกลอนประตูเอาไว้ด้วยซ้ำ
เช่นนี้แล้วคนเหล่านี้เป็นใครกัน
นอนหลับก็ยังไม่ลงกลอนหรือ
ช่างใจกล้าเสียเหลือเกิน!
ไม่ลงกลอนก็ไม่ลงกลอนแล้วกัน ถึงอย่างไรก็ช่วยทุ่นแรงไปมาก! ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
ยอดฝีมือก. เขย่ากระบอกไม้ไผ่เล่น หันปากกระบอกด้านหนึ่งใส่ในปาก ในขณะที่กำลังจะเป่าเอาควันสลบออกมานั้น จู่ๆ เจ้าเด็กอ้วนบนเตียงก็พลิกตัวแล้วล้มตึงลงกับพื้นไม้แข็งๆ!
ยอดฝีมือก. ตกใจจนสูดปากซี๊ด!
เสร็จกัน ควันสลบถูกสูดเข้าไปเสียแล้ว
ยอดฝีมือก. จึงสลบไป
ยอดฝีมือข.“…”
วั่งซูสะลึมสะลือลุกขึ้นมาเอง เพิ่งปีนขึ้นไปไม่เท่าไรก็ปีนกลับลงมาอีก
ปวดเบา
นางเดินตาหรี่ไปยังห้องสุขาของตน
ยอดฝีมือข. กวาดตามองสำรวจวั่งซูทีหนึ่ง วั่งซูผมยาวสยาย ใส่ชุดนอนสีขาวขนปุกปุย เมื่อได้เห็นเช่นนั้นก็มั่นใจว่าเป็นแม่นางน้อยเป็นแน่
“ช่างเป็นเด็กน้อยที่งดงามจริงๆ หน้าตาราวกับแม่หญิงน้อยทีเดียว หากเจ้าได้เห็นนาง จะต้องดูออกแน่นอน”
นี่ก็เป็นคำกล่าวของยิ่นอ๋อง
ยอดฝีมือข. สายตาพลันเปลี่ยนไป ไม่เคยเห็นเด็กคนไหนที่หน้าตาเหมือนแม่หญิงตัวน้อยเช่นนี้มาก่อน งดงามจนไม่อาจเอื้อนเอ่ยจริงๆ เป็นนางนี่แหละ!
ยอดฝีมือข. กระโดดลงไปอยู่ตรงหน้าวั่งซู
วั่งซูถูกลมเย็นๆ หอบหนึ่งพัดเข้าหน้าจนหนาวสั่น นางทำเสียงบรื๋อพลางเบิกตาวาวใสของตน
ยอดฝีมือข. ยังคิดจะถามให้มั่นใจอีกครั้ง “เจ้าคือโหราจารย์ใช่หรือไม่”
วั่งซูส่งเสียงหือด้วยความงุนงง มองอีกฝ่ายด้วยสายตาฉงนพลางเอ่ยอย่างสะลืมสะลือว่า “ท่านพ่อข้าเป็นโหราจารย์ ท่านอาข้าก็เป็นโหราจารย์ ใช่แล้ว อย่างนั้นข้าก็คือโหราจารย์น้อยน่ะสิ”
เด็กโกหกไม่เป็น เมื่อนางบอกใช่ก็คงต้องใช่แน่ๆ
ยอดฝีมือข. พลันใจฟูฟ่อง!
“เจ้าหาข้ามีธุระอะไรหรือ” วั่งซูขยี้ตาพลางเอ่ยถาม
ยอดฝีมือข. ตาเป็นประกาย เอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดีว่า “ข้าอยากให้เจ้าไปช่วยใครคนหนึ่ง โหราจารย์น้อย เจ้าช่วยข้าได้หรือไม่”
วั่งซูตอบโดยไม่ต้องคิดทันที “ย่อมได้สิ!”
นางเป็นแม่นางน้อยผู้มีน้ำใจอยู่แล้ว!
ที่แท้เด็กคนนี้ก็หลอกง่ายเพียงนี้เองหรือ! ยอดฝีมือข.ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดตัวลอย “เช่นนั้นพวกเราไปกันตอนนี้เลยเถิด ไว้เจ้ารักษาเขาจนหายแล้ว ข้าจะพาเจ้ากลับมาส่ง”
ประโยคนี้หากเปลี่ยนเป็นจิ่งอวิ๋น จิ่งอวิ๋นไม่มีทางเชื่อแน่นอน แต่กับวั่งซูไม่มีอะไรที่นางไม่เชื่อ
ยิ่งไปกว่านั้น ท่านตากับท่านแม่ก็ออกไปตรวจโรคบ่อยๆ มิใช่หรือ!
นางเป็นหมอเทวดาตัวน้อย นางก็ออกไปตรวจโรคได้เหมือนกันสิ!
นางรักษาหายตั้งหลายคนแล้ว นางเป็นหมอที่มีประสบการณ์!
หมอเทวดาน้อยวั่งซูออกไปตรวจโรคเป็นครั้งแรก ย่อมต้องตรวจอย่างเคร่งครัด
วั่งซูบอกว่า “เจ้ารอเดี๋ยวก่อน ข้าจะไปเอากล่องยาของข้ามา!”โ
วั่งซูกลับไปที่ห้อง หยิบเอาหีบสมบัติใต้เตียงของตนออกมา ในหีบสมบัติไม่ได้มีเพียงไข่มุกสะกดวิญญาณ ตะปูสะกดวิญญาณ แต่ยังมีตำรา (รายการ) การแพทย์ (อาหาร) ที่เฉียวเวยเขียนมั่วขึ้นมาด้วยตนเองอยู่ด้วยนะ!
“โหราจารย์น้อย” จึงถูกพาตัวไปยังลัทธิศักดิ์สิทธิ์ด้วยประการฉะนี้
ในเวลานั้น อวิ๋นจูกับเฮ่อหลันชิงก็แทรกซึมเข้าไปในลัทธิศักดิ์สิทธิ์จากคนละทาง แน่นอนว่าพวกนางยังไม่รู้ว่ายอดดวงใจของตนถูกพาตัวไปแล้ว พวกนางแบ่งหน้าที่กัน คนหนึ่งตามหาจักรพรรดิอสูร อีกคนหนึ่งตามหาอวิ๋นซู่
อวิ๋นซู่ถูกย้ายตัวไปที่เกาะอิ๋นหูแล้ว ที่นั่นยังมีค่ายกลเหลืออยู่ ถึงแม้จะถูกทำลายไปแล้วกว่าครึ่ง แต่ร่างของฮองเฮาตัวร้ายยังอยู่ที่นั่น ถึงอย่างไรก็ยังพอข่มไอปีศาจจากอาการธาตุไฟเข้าแทรกไว้ได้
ยิ่นอ๋องใช้เหตุผลว่าต้องอยู่ควบคุมสถานการณ์ในภาพใหญ่ จึงรั้งอยู่ที่ตำหนักศักดิ์สิทธิ์ เย่ว์หวาคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ จึงมีเพียงแม่เฒ่ากับปรมาจารย์เวทคอยดูอาการอวิ๋นซู่ที่ดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ในคุกใต้ดินที่เคยใช้กักขังจักรพรรดิอสูรมาก่อน
นี่เป็นสถานที่ที่ใช้กักขังตัวจักรพรรดิอสูรมานับสิบปี ต่อให้อวิ๋นซู่หลับฝันก็คงคาดไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่งที่ตนถูกจับขังไว้ที่นี่เช่นกัน
อวิ๋นซู่ดูดกลืนยาพิษจากตัวราชันอสูรไปเม็ดหนึ่ง ขีดจำกัดของเขาทะลุรานีอสูรไปแล้ว และอยู่ห่างจากจักรพรรดิอสูรแค่เพียงก้าวเดียว การที่เขาเกิดธาตุไฟเข้าแทรกขึ้นมาจึงน่ากลัวอย่างยิ่ง
ค่ายกลที่เสียหายไปของที่นี่ ข่มไอพิษในตัวเขาไว้ได้ไม่นานเท่าไรแล้ว
ปรมาจารย์เวทคนใหม่ถึงกับปาดเหงื่อ หันไปถามแม่เฒ่าว่า “ผู้พิทักษ์เหลียน โหราจารย์จะ… รักษาเจ้าสำนักได้จริงๆ หรือ”
แม่เฒ่าหยุดมองอวิ๋นซู่ที่เจ็บปวดรวดร้าวจนเริ่มครองสติไม่ค่อยอยู่ “หากข้าบอกเจ้าว่า โหราจารย์รักษาได้กระทั่งจักรพรรดิอสูรที่ธาตุไฟเข้าแทรกเล่า เจ้าจะเชื่อข้าหรือไม่”
ปรมาจารย์เวทคนใหม่เบิกตาโต
“เจ้าสำนักเพิ่งธาตุไฟเข้าแทรก อาการยังไม่นับว่าย่ำแย่ ในเวลานี้จะช่วยเขายังทัน แต่พิษชนิดนี้อย่างไรก็รุนแรง จะรักษาจุดตันเถียนไว้ได้หรือไม่ คงต้องดูที่ความสามารถของโหราจารย์แล้ว” แม่เฒ่าเอ่ยจบก็ถือไม้เท้าหมุนตัวไป “เจ้าคอยดูเจ้าสำนักอยู่ที่นี่ ข้าจะไปต้มยามาสักหน่อย”
อันที่จริงต้มยามาก็ไม่ช่วยอะไรนัก แต่สถานการณ์ในเวลานี้ทำได้เพียงรักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็นเท่านั้น
หลังจากแม่เฒ่าเดินไปแล้ว ภายในคุกที่กว้างใหญ่ก็เหลือเพียงปรมาจารย์เวทคนใหม่เพียงคนเดียว
เขามองอวิ๋นซู่ที่พร้อมจะคลุ้มคลั่งได้ทุกเมื่อด้วยความหวั่นใจ ในขณะที่เขาใกล้จะทานทนไม่ไหวแล้วนั้น “โหราจารย์น้อย” ก็ถูกพาตัวเข้ามา