หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 58-1 เจ้าเด็กอ้วนมาแล้ว (3)
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 58-1 เจ้าเด็กอ้วนมาแล้ว (3)
ตอนที่ 58-1 เจ้าเด็กอ้วนมาแล้ว (3)
กลับมาเอ่ยถึงปรมาจารย์เวทคนใหม่ที่ไปยังห้องครัวของเกาะอิ๋นหูเพื่อบอกให้คนทำอาหารมาให้โหราจารย์น้อย เพราะเวลาค่อนข้างกระชั้น เขาเป็นกังวลว่าโหราจารย์นั้นอยู่ที่นั่นนานเกินไป จะเจอเจ้าสำนักตอนคลุ้มคลั่งแล้วเดี๋ยวจะถูกลูกหลงเอาได้
ที่เขาทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงความเป็นความตายของโหราจารย์น้อย แต่เพราะเป็นห่วงว่าหากโหราจารย์น้อยเกิดเป็นอะไรไป จะไม่มีใครช่วยรักษาให้เจ้าสำนัก
ดังนั้นโหราจารย์น้อยจะเป็นอะไรไปไม่ได้!
เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็ให้ห้องครัวทำเพียงบะหมี่เนื้อง่ายๆ ชามหนึ่งกับต้มไข่พะโล้สองฟอง
เขาทำอะไรรวดเร็วมากแล้ว แต่กระนั้นตอนเขาหิ้วกล่องอาหารกลับไปยังคุกใต้ดิน กลับต้องตกใจที่พบว่าโหราจารย์น้อยหายตัวไปแล้ว!
มีชั่วขณะหนึ่งที่เขาคิดว่าโหราจารย์น้อยถูกเจ้าสำนักที่คลุ้มคลั่งกลืนกินเข้าไปทั้งเป็นแล้ว!
เพราะถึงอย่างไรภายในคุกใต้ดินก็มีกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรง กวาดตามองดูก็ช่างคล้ายจุดเกิดเหตุที่เกิดการฆาตกรรมกันเกิดขึ้น!
แต่เขาก็รีบตั้งสติอย่างรวดเร็ว จึงพบว่าไม่เพียงโหราจารย์น้อยที่หายตัวไป ตัวเจ้าสำนักเองก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ใดด้วย!
ไม่เพียงเท่านั้น กระทั่งโซ่มังกรเหล็กก็ยังขาดออกอีก!
ต้องรู้ก่อนว่าโซ่ตรวนประเภทนี้ได้ชื่อว่าโซ่มังกรเหล็กนอกจากเพราะตัวมันสามารถควบคุมราชันอสูรกับจักรพรรดิอสูรได้แล้ว ความแข็งแรงของมันก็ไม่ใช่อะไรที่โซ่เหล็กธรรมดาทั่วไปสามารถเทียบเคียงได้ แต่ดูจากรอยขาดบนโซ่มังกรเหล็กนี้แล้ว คล้ายว่าถูกคนดึงให้ขาดออกเฉยๆ
คนที่สามารถดึงโซ่มังกรเหล็กให้ขาดได้ ต้องเป็นยอดฝีมือที่บ้าระห่ำเพียงใดหนอ
เขาผู้นั้นพุ่งเป้ามาที่เจ้าสำนัก!
แต่กลับจับตัวโหราจารย์น้อยไปด้วยกัน!
ปรมาจารย์เวทคนใหม่จับโซ่มังกรเหล็กที่ขาดออกแล้วนึกมั่นใจว่าตนรู้ถึงความจริงแล้ว เขารีบวิ่งออกไปจากคุกใต้ดิน เคาะระฆังอันใหญ่บนเกาะอิ๋นหู “แย่แล้ว! มีคนแทรกซึมเข้ามาในลัทธิศักดิ์สิทธิ์! คนผู้นั้นจับตัวเจ้าสำนักกับโหราจารย์น้อยไปแล้ว!”
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น คนทั้งลัทธิศักดิ์สิทธิ์ก็ออกปฏิบัติการทันที
อวิ๋นจูที่เพิ่งแทรกซึมเข้าไปถึงสระโอสถ “!”
เฮ่อหลันชิงที่เพิ่งแอบขโมยเรือลำเล็กมา “!”
จักรพรรดิอสูรที่เตรียมจะปีนกำแพง “!”
รู้ตัวกันเร็วเพียงนี้เชียวหรือ!
อวิ๋นจูลอบปีนออกจากสระโอสถ
เฮ่อหลันชิงกลับไปยังกระท่อมไม้หลังเล็ก
จักรพรรดิอสูรปีนลงจากกำแพง
ในขณะที่ตำหนักศักดิ์สิทธิ์กำลังจัดการภารกิจกันอยู่นั้น ยิ่นอ๋องที่ไม่ได้หลับตานอนเลยทั้งคืนก็ได้ยินเสียงระฆังที่ดังมาจากเกาะอิ๋นหูเช่นกัน เขาวางสมุดบัญชีในมือลง ถามเย่ว์หวาที่อยู่ข้างกายว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
เย่ว์หวาสีหน้าดูหนักใจ “มีนักฆ่าบุกรุกเข้ามาในลัทธิศักดิ์สิทธิ์”
ยิ่นอ๋องเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “มีนักฆ่าบุกรุกเข้ามาจำเป็นต้องเอิกเกริกเพียงนี้เชียวหรือ”
เย่ว์หวาหันมองยิ่นอ๋องด้วยสายตาประหลาด คล้ายกำลังต่อว่าที่อีกฝ่ายใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “เสียงระฆังดังมาจากเกาะอิ๋นหู นั่นหมายความว่านักฆ่าไปที่เกาะอิ๋นหูแล้ว ซึ่งเจ้าสำนักเวลานี้อยู่ที่เกาะอิ๋นหู”
เรื่องนี้ลูกศิษย์คนอื่นไม่รู้ แต่ลูกศิษย์คนสนิทชั้นสูงอย่างพวกเขาจะไม่รู้เชียวหรือ
หากไม่ใช่เพราะเกิดเรื่องกับเจ้าสำนัก ผู้ใดจะกล้าเคาะระฆังที่เกาะอิ๋นหูเช่นนี้
ตั้งแต่ระฆังนั้นสร้างขึ้นมา เคยเคาะทั้งหมดเพียงสองครั้ง ครั้งหนึ่งคือในคืนนี้ อีกครั้งหนึ่งคือตอนที่จักรพรรดิอสูรไล่สังหารหมู่ในลัทธิศักดิ์สิทธิ์ หากไม่อยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานจริงๆ คงไม่มีใครไปแตะต้องระฆังอันนั้น
เย่ว์หยาสีหน้าจริงจัง “เจ้าสำนักน้อย พวกเรารีบไปดูที่เกาะกันเถิด!”
ยิ่นอ๋องหลุบสายตาลง
เย่ว์หวานิ่งมองอีกฝ่าย “เจ้าสำนักน้อยลังเลอันใดอยู่ หรือกำลังคิดว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าสำนัก ตัวเจ้าจะได้สืบทอดตำแหน่งเร็วขึ้นอย่างนั้นหรือ อย่าลืมเสีย หากไม่ได้เจ้าสำนักคอยยันเอาไว้ ลัทธิศักดิ์สิทธิ์คงถูกอวิ๋นจูช่วงชิงกลับไปส่งต่อให้จีหมิงซิวแล้ว”
เย่ว์หวารู้เสมอว่าต้องทิ่มแทงจุดอ่อนของคนเช่นไร
จะแพ้ให้จีหมิงซิวไม่ได้ก็คือจุดอ่อนที่สุดของยิ่นอ๋อง
ยิ่นอ๋องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน “ข้าก็ขอเตือนเจ้าไว้ก่อน อย่าคิดจะเหิมเกริมต่อหน้าข้าให้มากนัก เวลานี้เจ้าเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ หากข้าพอใจ เจ้าก็จะยังเป็นท่านประมุขต่อไป แต่หากข้าไม่พอใจก็สามารถปลดเจ้าทิ้งได้ทุกเมื่อ!”
เย่ว์หวาถึงกับมุมปากกระตุก
สุดท้ายของท้ายสุด ยิ่นอ๋องที่เป็นเจ้าสำนักน้อยอย่างไรก็ต้องไปที่เกาะอิ๋นหู
บนเกาะอิ๋นหูเตรียมการรักษาการณ์อย่างแน่นหนารอไว้แล้ว ลูกศิษย์หญิงทุกคนล้วนถืออาวุธพุ่งตัวเข้ามา แล้วเริ่มปูพรมค้นหาไปทั่วเกาะ
ยิ่นอ๋องอยากรู้สถานการณ์โดยละเอียดจากแม่เฒ่า แต่แม่เฒ่าออกไปต้มยา กระทั่งโหราจารย์ก็ยังไม่ได้พบหน้า ไหนเลยจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ส่วนปรมาจารย์เวทคนใหม่ เขาไปเอาอาหารที่ห้องครัว ก็ไม่ได้เห็นเช่นกันว่านักฆ่ามีรูปพรรณสันฐานเช่นไร แต่เขามั่นใจได้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่บนเกาะอิ๋นหู
เพราะเรือทุกลำของเกาะอิ๋นหูถูกนับจำนวนไว้แล้ว มั่นใจได้ว่าไม่มีเรือลำใหม่เข้ามา และไม่มีเรือลำใดออกไป ยิ่งไปกว่านั้นน้ำในทะเลสาบยังคงสะอาดใส ไม่มีร่องรอยว่าใครว่ายน้ำออกไป
ทุกคนกระจายกันออกปฏิบัติการค้นหาอวิ๋นซู่กับ “โหราจารย์น้อย” ต่อไป
ส่วนวั่งซูที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลยเวลานี้กำลังนั่งเรียบร้อยอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็ก พลิกอ่าน “ตำราแพทย์” ของท่านแม่นางต่อไป
“เฮ่อ ข้าไม่มีพริก” นางถอนหายใจ
ไม่ควรเป็นห่วงเรื่อง “ตัดหัวปลา” มากกว่าหรือ…
วั่งซูพลิกไปอีกหน้าหนึ่งถึงได้รู้ว่านางไม่ขาดอันนี้ก็ขาดอันนั้น “ช่างเถิด ใช้สูตรยาสูตรแรกก็แล้วกัน”
นางพูดจบก็หยิบฝากระทะขึ้นมาปิดดังโครม กักตัวอวิ๋นซู่ที่เส้นเลือดในสมองแตกจนจมูกบิดปากเบี้ยวเอาไว้ข้างใน
หลังจากนั้นวั่งซูก็เริ่มรอคอยอย่างมีความอดทน
ในขณะที่นางรอจนใกล้จะหลับไปเต็มทีนั้น ตาก็เห็นว่ามีเงาสีขาวแวบผ่านมา สายตานางพลันเป็นประกาย “เสี่ยวไป๋?”
แสงสีขาวนั้นแวบหายไปนอกห้องครัว
วั่งซูหิ้วหีบสมบัติแล้วก้าวเท้าอ้วนป้อมของตนวิ่งไล้ตามไป
นางเพิ่งวิ่งออกไป ปรมาจารย์เวทคนใหม่ก็เข้ามาตามหา
ปรมาจารย์เวทคนใหม่พอจะมีความฉลาดอยู่บ้าง คนอื่นคิดว่านักฆ่าจับตัวอวิ๋นซู่กับวั่งซูออกจากคุกใต้ดินไปแล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ไม่ใช่คุกใต้ดินธรรมดาทั่วไป คุกแห่งนี้ใหญ่จนน่าอัศจรรย์ จะบอกว่าเป็นวังใต้ดินขนาดย่อมก็ไม่เกินไปนัก
ดังนั้นจึงเป็นไปได้มากที่นักฆ่าจะซ่อนตัวอยู่ใต้สายตาเขา
ปรมาจารย์เวทไล่ค้นหาไปตามทางคนเดียว สวรรค์เมตตาต่อคนที่มีความตั้งใจ ในที่สุดเขาก็พบร่องรอยบางอย่าง
คราแรกเขาได้กลิ่นฉุนของสุรา หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงกระแทกของบางอย่างดังแว่วมา ฝีเท้าเขาพลันชะงัก ชักกริชที่ใช้ป้องกันตัวออกมาแล้วเดินเข้าไปที่ห้องครัวช้าๆ
ภายในห้องครัวมีร่องรอยของการรื้อค้นชัดเจน ตรงกระทะใบใหญ่คล้ายมีบางอย่างถูกปิดอยู่
ปรมาจารย์เวทกระชับกริชในมือแน่น ค่อยๆ สืบเท้าเข้าไปตรงหน้ากระทะ ระหว่างที่เดินก็คอยสังเกตความเคลื่อนไหวด้านในกระทะอย่างละเอียดไปด้วย
เขาได้ยินเสียงหอบหายใจเบาๆ
เขามั่นใจว่าข้างในมีคนซ่อนอยู่!
เขาส่งเสียงหึเย็นๆ คิดว่าซ่อนอยู่ในกระทะแล้วจะหนีพ้นหรือ
อ่อนหัด!