หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน - ตอนที่ 60-1 อวิ๋นซู่สิ้นสภาพ
- Home
- หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก นิยายอัพทุกวันเข้ามาดูก่อน
- ตอนที่ 60-1 อวิ๋นซู่สิ้นสภาพ
ตอนที่ 60-1 อวิ๋นซู่สิ้นสภาพ
“ไม่ต้องเรียกแล้ว เขาไปแล้ว”
เฮ่อหลันชิงเดินอย่างไม่เร่งร้อนออกมาจากความมืด แล้วหยุดยืนข้างหลังอวิ๋นจู
อวิ๋นจูไม่อยากให้คนเห็นสภาพที่ย่ำแย่ของตน จึงยกมือเช็ดน้ำตา สูดหายใจเข้าลึกๆ หันกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ทางฝั่งเจ้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“อวิ๋นซู่ไม่อยู่ที่เกาะอิ๋นหู” เฮ่อหลันชิงบอก
อวิ๋นจูดูตกใจเล็กน้อย “เจ้าไปที่เกาะมาหรือ เช่นนั้นเสียงระฆังเมื่อสักครู่คือ…”
เฮ่อหลันชิงเอ่ยช้าๆ ว่า “ตอนระฆังดังข้าอยู่บนเกาะ พอเคาะเสร็จข้าถึงได้ดำน้ำมาที่นี่”
ระหว่างทางก็จัดการปลากินคนไปหลายตัว
“เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดี” อวิ๋นจูเอ่ย
เฮ่อหลันชิงหรี่ตาลงอย่างมีนัยยะ
อวิ๋นจูเหลือบตาขึ้นมาเห็นสายตามีนัยยะลึกซึ้งของนาง จึงถามว่า “เจ้ามองข้าทำไม”
เฮ่อหลันชิงยิ้มเหมือนไม่มีอะไร “ข้ากำลังดูว่าเจ้าใช่ใครปลอมตัวมาหรือไม่”
อวิ๋นจูถลึงตาดุใส่อีกฝ่าย “ข้าว่าเจ้าอยากโดนด่าเสียมากกว่า”
เฮ่อหลันชิงเลิกคิ้ว ส่งเสียงจึ๊ทีหนึ่ง “จริงแท้แน่นอน”
อวิ๋นจูไม่ต่อปากต่อคำกับนางอีก ก้มหน้าลงมองห่อผ้าในมือที่มีแค่ดอกบัวหิมะอยู่จำนวนหนึ่งแต่กลับหนักอึ้งราวกับหินผา
เฮ่อหลันชิงไม่ต้องดู แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าคืออะไร ถึงอย่างไรในใต้หล้าก็มีบัวหิมะอยู่มากมายเพียงนั้น แต่ดอกบัวหิมะที่ทำให้ยอดฝีมือแห่งยุทธภพดั้นด้นตามหากันได้ก็มีเพียงดอกบัวหิมะลัทธิศักดิ์สิทธิ์ในตำนานเท่านั้น
“จักรพรรดิอสูรให้มาหรือ” เฮ่อหลันชิงถาม
อวิ๋นจูไม่ได้ตอบ
เช่นนี้ในสายตาของเฮ่อหลันชิงย่อมเป็นการยอมรับอย่างไม่ต้องสงสัย
เฮ่อหลันชิงไม่รู้ว่าจักรพรรดิอสูรไปเด็ดดอกบัวหิมะลัทธิศักดิ์สิทธิ์มาเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร เพราะถึงอย่างไรนักรบมรณะก็กลัวน้ำ นางคงไม่เชื่อว่าจักรพรรดิอสูรใช้วิชาตัวเบากระโดดบนผิวน้ำไปเด็ดมา โ
บัวหิมะลัทธิศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นของชั้นดี สามารถลดทอนโอกาสที่ธาตุไฟจะเข้าแทรกได้ มันมีสรรพคุณที่สามารถรักษาอาการธาตุไฟเข้าแทรกได้อย่างตรงจุด หากจักรพรรดิอสูรกินมันเข้าไป ถึงแม้จะไม่อาจรักษาได้ แต่กลับสามารถลดทอนอาการเจ็บปวดของชีพจรกับจุดตันเถียนได้เป็นอย่างดี
แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาเก็บดอกบัวหิมะทั้งหมดไว้ให้อวิ๋นจู
นี่แสดงให้เห็นว่าเขาในเวลานี้ยังไม่สูญเสียสติสัมปชัญญะไปทั้งหมด
เขาตั้งใจหลบหน้าอวิ๋นจู
เฮ่อหลันชิงหันไปมองอวิ๋นจู ก่อนจะเอ่ยอย่างน้อยครั้งที่จะไม่ค่อนแคะอีกฝ่าย “เอาล่ะ ในเมื่อเขาตั้งใจหลบหน้าเจ้า ก็คงไม่รั้งอยู่ที่ลัทธิศักดิ์สิทธิ์เพื่อรอให้เจ้าจับตัว กลับไปก่อนเถิด”
อวิ๋นจูตอบอืมคำหนึ่ง แล้วเดินไปทางประตูใหญ่ลัทธิศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเฮ่อหลันชิง เดินไปได้ไม่ทันกี่ก้าว จู่ๆ อวิ๋นจูก็เอ่ยขึ้นว่า “ใช่สิ เจ้าขึ้นมาที่เกาะหลังได้ยินเสียงระฆัง เช่นนั้นเหตุใดเมื่อครู่พวกเขาต้องเคาะระฆังด้วย นอกจากเจ้ากับข้าแล้วยังมีผู้ใดลักลอบเข้ามาในลัทธิศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างนั้นหรือ”
เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร
นอกจากคนในเมืองเหนือยอดเมฆกับกลุ่มพวกเขาแล้ว แทบไม่มีคนรู้ถึงการมีอยู่ของลัทธิศักดิ์สิทธิ์ ส่วนชาวบ้านในเมืองเหนือยอดเมฆก็ไม่มีทางลักลอบเข้ามาในลัทธิศักดิ์สิทธิ์ได้
เฮ่อหลันชิงผายมือ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามผู้ใด”
“คงไม่ใช่จักรพรรดิอสูรกระมัง แต่เขาก็ว่ายน้ำไม่เป็นนี่…” อวิ๋นจูขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า “ช่างเถิด ไปกันดีกว่า”
ลัทธิศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสถานะกวดขันแล้ว ลูกศิษย์ที่ลาดตระเวนเพิ่มขึ้นไม่เพียงแค่สามเท่า เพียงแต่เรื่องนี้สำหรับลูกพี่ทั้งสองคนกลับเป็นของประดับเท่านั้น
ทั้งสองมุ่งหน้าต่อไปได้อย่างสบายๆ ตอนเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ อยู่ๆ สองหูของเฮ่อหลันชิงก็พลันขยับ คว้าตัวอวิ๋นจูไปอยู่ด้านหลังตน!
ตึง!
เปลือกต้นไม้แตกเป็นโพรงเล็กๆ
เด็กน้อยตัวอ้วนกลมกลิ้งออกมาจากโพรงต้นไม้
“โอ้ย!”
เด็กอ้วนกลิ้งไปกลิ้งมาก็ไปชนเข้ากับขาของเฮ่อหลันชิง
ตอนเฮ่อหลันชิงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว ยังคิดว่าเป็นลูกศิษย์ที่หลบซ่อนอยู่ในต้นไม้เสียอีก กำลังภายในอะไรก็เดินรอไว้หมดแล้ว ขาดแค่เพียงไม่ได้ฟาดฝ่ามือออกไปเท่านั้น พอเห็นเป็นเด็กอ้วนที่กลิ้งออกมา จึงชะงักค้างไปทันที
เฮ่อหลันชิงเอ่ยด้วยความตกใจ “วั่งซู?” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
วั่งซูนวดศีรษะที่มึนตึ้บ เงยหน้ามามองด้วยความอึ้งงัน “เอ๋? ท่านยาย?”
นางวิ่งไล่ตามเสี่ยวไป๋ออกมา วิ่งไปวิ่งมาก็วิ่งเข้าไปในทางเดินที่แคบแสนแคบ วิ่งไปวิ่งมาอีกก็ชนเข้ากับประตู
เฮ่อหลันชิงจับตัวเด็กอ้วนยกขึ้นมา มองนางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” แล้วจึงหันไปมองโพรงต้นไม้ ไม่มีใครตามออกมาสักคน
วั่งซูเหน็ดเหนื่อยมากว่าครึ่งคืน เวลานี้จึงเริ่มง่วงเต็มที นางอ้าปากหาวน้อยๆ แล้วเอ่ยเสียงอ่อนว่า “ข้ามาตรวจโรคให้ท่านลุงน่ะสิ”
เฮ่อหลันชิงมองหีบสมบัติในมือวั่งซู คิดในใจว่าเชื่อเจ้าก็แปลกล่ะ แปดส่วนน่าจะถูกพวกสารเลวลัทธิศักดิ์สิทธิ์นั่นจับตัวมาเป็นแน่
แต่จะว่าไป พวกลัทธิศักดิ์สิทธิ์ก็ช่างใจเสาะเสียเหลือเกิน ทั้งๆ ที่จับตัวจักรพรรดิอสูรและคิดจะดูดกลืนเม็ดพิษในการจักรพรรดิอสูรไปแล้ว แต่ก็ยังเตรียมแผนสำรองจับตัวเด็กน้อยของบ้านพวกนางมาอีก
ทำไมกัน? กลัวจะแพ้หรือ?
เฮ่อหลันชิงเข้าใจลัทธิศักดิ์สิทธิ์ผิดไปแล้วจริงๆ เขาไม่ใช่คนใจเสาะ เขาคิดจะเชิญ “โหราจารย์” น้อยมาด้วยความจริงใจ เพื่อช่วยรักษาอวิ๋นซู่ ถึงแม้จะยิ่งรักษายิ่งเจ็บหนักก็เถิด…
“กลับไปเถิด” อวิ๋นจูที่เงียบมาตลอดเอ่ยปากขึ้น “พวกเราออกมากันหมด ในบ้านไม่เหลือใครแล้ว พวกจิ่งอวิ๋นยังไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
เฮ่อหลันชิงพยักหน้า ความปลอดภัยของสามีกับบุตรสาวและหลานๆ สำคัญที่สุด ส่วนไอ้พวกลัทธิศักดิ์สิทธิ์นี่ เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองวันก็จะถึงวันประลองแล้ว ไว้ถึงตอนนั้นค่อยดูก็แล้วกันว่าอวิ๋นซู่จะแพ้ท่าไหน!
ทั้งสองพาตัววั่งซูออกไป
วั่งซูง่วงงุนแทนลืมตาไม่ไหว พอมาอยู่ในอ้อมอกที่ทั้งอ่อนนุ่มและหอมหวนของเฮ่อหลันชิง ไม่เท่าไรก็ผล็อยหลับไป
จวบจนกระทั่งออกจากลัทธิศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เฮ่อหลันชิงกับอวิ๋นจูก็ยังไม่รู้ว่าผู้ใดที่ลักลอบเข้ามาในลัทธิศักดิ์สิทธิ์ และยิ่งไม่รู้ว่าศัตรูคู่แค้นของพวกนางอย่างอวิ๋นซู่ถูกกองทัพพันธมิตรหลายฝ่ายนำโดยเจ้าเด็กอ้วน กระทำย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว